...อยากเขียนอะไรก็เขียนไปเถอะ
เขียนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง...
จันทร์ ธันวา
สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีไรเตอร์ทุกคน วันนี้กลับมาเจอกับพี่หญิงในคอลัมน์ ‘พบปะพูดคุย’ กันอีกแล้ว สำหรับนักเขียนที่จะมาให้สัมภาษณ์ในวันนี้ก็คือเจ้าของนามปากกา จันทร์ ธันวา ผู้เขียน ‘เสน่ห์แม่หญิง’ นิยายรักสุดโรแมนติกที่อ่านที่ไรเป็นต้องหิวทุกที (อ..เอ๊ะ หิว!? ทำไมเป็นหิวได้ล่ะ มันต้องแบบฟิน สนุก น่าติดตามสิ!) ใช่แล้วค่ะ เรื่องนี้พี่หญิงอ่านที่ไรบอกเลยว่าหิวมากๆ (ถ้าอ่านตอนกลางดึกจะทรมานกับความหิวสุดๆ เลย) ก็แหมมม คุณจันทร์ ธันวา เธอเขียนบรรยายฉากทำอาหารของนางเอกได้เห็นภาพกันสุดๆ ทำเอาอยากรู้เลยว่าใช้เวลาหาขอมูลนานไหม เพราะข้อมูลอาหารในเรื่องบอกเลยว่า แน่นมากกกก ซึ่งเอาเป็นว่าเราอย่ารอช้ากันอยู่เลยค่ะ ไปหาคำตอบพร้อมในบทสัมภาษณ์นี้กันเลย
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลยช่วยทักทาย แนะนำตัวให้ชาวเด็กดีรู้จักกันหน่อยค่ะ
จันทร์ ธันวา : สวัสดีค่ะ จันทร์ ธันวานะคะ จบปริญญาตรี และโทบริหารธุรกิจ ทำงานฝ่ายการตลาดบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เกิดและโตที่จังหวัดขอนแก่นค่ะ เมื่อหลายปีก่อนอยากทำงานเกี่ยวกับหนังสือ ก็เลยมาสมัครงานสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นมีความฝันว่าอยากเป็นบรรณาธิการเพราะอยากอ่านหนังสือเยอะๆ ยากเหมือนกันค่ะที่จะทำให้คนยอมรับ เพราะจบมาคนละด้านเลย แต่ก็มีโอกาสได้ทำแทบจะครบทุกกระบวนการ ตั้งแต่เลือกต้นฉบับ คุยกับนักเขียน หาคนวาดภาพ ดูแลการจัดเล่ม ฯลฯ แอบขายดีด้วยนะคะสำหรับสำนักพิมพ์เล็กๆ ตอนนั้น แต่ก็ทำอยู่เล่มเดียว เพราะลองแล้วรู้สึกไม่ใช่แนว กระบวนการทำยากเกินไปสำหรับเรา ก็เลยออกมาทำงานตามที่จบมาค่ะ
“จันทร์ ธันวา” นามปากกานี้ท่านได้แต่ใดมา มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าเอ่ย
จันทร์ ธันวา : นามปากกาได้มาแบบไม่ซับซ้อนอะไรเลยค่ะ เป็นวันและเดือนเกิดจริงๆ ซึ่งจะไม่ตรงกับที่แจ้งเกิดนะคะ เป็นความลับที่แม่แอบซ่อนไว้ (จริงๆ คือแจ้งเกิดช้า) ตอนที่ตั้งคิดอยู่นานเลยว่าจะเอายังไงดี ยิ่งคิดยิ่งเสียเวลา ตอนนั้นก็ไฟแรงมากอยากแต่งนิยายลงเว็บเด็กดีเร็วๆ ไปเห็นเว็บไหนไม่รู้เกี่ยวกับการตั้งนามปากกา เค้าว่าใช้วันเกิดก็ได้ เลยลองเอามาเรียงกันดูมันก็ใช้ได้นะ แล้วนามปากกานี้ก็ยังไม่มีคนใช้ ก็เลยใช้เรื่อยมาค่ะ คงไม่คิดเปลี่ยนด้วยเพราะแม่ชอบ แม่บอกว่าชื่อดี ทั้งที่คนรอบข้างบอกว่าเชยมาก แต่มันจำง่ายใช่รึเปล่าล่ะคะ (แหมม พี่หญิงแอบเห็นด้วยนะคะ ว่าจำง่ายจริงๆ)
ช่วยเล่าถึงผลงานเรื่อง “เสน่ห์แม่หญิง” กันหน่อย เรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไรกัน
จันทร์ ธันวา : เรื่องเสน่ห์แม่หญิงจริงๆ เป็นเรื่องที่ 2 ที่เขียนนะคะ คือเริ่มเขียนนิยายประมาณเดือน พฤษภาคม 2559 ปีที่แล้วนี่เองค่ะ พอดีเรื่องที่เขียนเรื่องแรกมันมีจุดที่ไม่สมเหตุสมผลนิดหน่อยจนผู้อ่านทักมาค่ะ เราเองเพิ่งเคยเขียนเลยแอบหวั่นใจเล็กน้อย ทำให้หยุดไปชั่วคราวจากที่เคยลงทุกวันเพื่อประคองสติ คราวนี้ช่วงที่หยุดมีนิยายจีนย้อนยุคที่เราซื้อมาดองไว้เยอะมากเลยได้เวลาอ่าน พออ่านจบก็เลยเกิดเสน่ห์แม่หญิงขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนเลยค่ะ กะว่าเปิดเรื่องเอาไว้เล่นๆ ไม่รีบเขียนเพราะเรื่องแรกยังไม่จบ ไม่น่าเชื่อว่าแค่เปิดเรื่องคนตามเยอะมาก จนต้องมาแต่งเสน่ห์แม่หญิงเป็นเรื่องหลักเรื่องเดียว หยุดเรื่องแรกไว้ก่อนแล้วค่อยตามมาเขียนจนจบทีหลังค่ะ
เรื่องอื่นเขาย้อนอดีตกัน ทำไมนางเอกเรื่องนี้ถึงข้ามมายังอนาคตกันล่ะคะ ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร
จันทร์ ธันวา : ได้จากการที่อ่านนิยายย้อนยุคตามที่เล่ามาค่ะ คราวนี้ที่อ่านแทบทุกเรื่องไม่ว่าจะจีน หรือไทยตัวเอกมักจะเอาความสามารถ และวิวัฒนาการในยุคปัจจุบันเข้าไปด้วย เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม (หัวเราะ) เลยอยากให้คนในอดีตมาผงาดที่ยุคปัจจุบันบ้าง ก็เลยพาแม่บัวออกมาจากวังค่ะ
“แม่บัว” นางเอกของเรื่อง แอบไปส่องดูเห็นว่าเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากเลย ตอนสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครนี้ยากไหม
จันทร์ ธันวา : ยากค่ะ เพราะตอนเขียนเราตั้งโจทย์เอาไว้ว่าทุกคนที่อ่านต้องรักแม่บัวให้สมกับชื่อเรื่อง เสน่ห์แม่หญิง นอกจากความสามารถในเรื่องการประกอบอาหาร คาวหวาน และงานฝีมือแล้ว นิสัยก็สำคัญค่ะ จะต้องเป็นคนเรียบร้อยมากเพราะถูกถวายตัวมาฝึกงานฝีมือในวังตั้งแต่ยังเด็ก ต้องไม่อ่อนแอแบบผู้หญิงยุคเก่า มีความดื้อดึงแบบเก็บเงียบ เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวเมื่อถึงคราวจำเป็น ซึ่งจริงๆ แม่บัวก็ทำได้ไม่ยากค่ะ เพราะความริษยา การแก่งแย่งชิงดีในวังก็เห็นมาหมดแล้ว เหมือนรู้เขารู้เราแต่พูดอะไรไม่ได้ ต้องคอยหลบหลีกกับสารพัดกลโกง ซึ่งในความเข็มแข็งของบัวเองที่มีได้ ก็เพราะมีคนคอยช่วยเหลือตอนที่อยู่ในยุคอดีต แต่จะเป็นใครต้องลองหาอ่านดูนะคะ
เห็นว่าข้อมูลในเรื่อง (โดยเฉพาะเรื่องอาหาร) จัดเต็มมากเลย ไม่ทราบว่าใช้เวลาหาข้อมูล วางพล็อตเรื่องนานไหมเอ่ย
จันทร์ ธันวา : วางพล็อตไม่นานค่ะ เพราะเราวางเอาไว้หลวมๆ ในหัวแล้ว อย่างที่เล่าให้ฟังคือปัจจุบันทันด่วนมากๆ ไม่คิดว่าจะมีคนตามเร็วขนาดนี้ ส่วนที่ยากคือการหาข้อมูล เพราะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ตรงกับยุคสมัยที่บัวจากมา คือช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นประมาณรัชกาลที่ 2 ซึ่งเป็นยุคทองของอาหาร ตัวบัวเองเป็นผู้ช่วยกำกับเครื่องใหญ่ในโรงวิเสทต้น มีพระเครื่องต้นเป็นเจ้าฟ้าบุญรอด
ผู้เขียนก็ได้อิงตำราอาหารของผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ (เปลี่ยน บุนนาค) ผู้เรียบเรียงตำราแม่ครัวหัวป่าก์ ซึ่งเป็นตำราอาหารเล่มแรกของประเทศไทยที่น่าจะใกล้เคียงสูตรเดิมมากที่สุด ส่วนอาหารที่เลือกก็จะอิงจาก กาพย์เห่เรือชมอาหารเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ของ “พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” พระมหากษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 พวกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ก็มาจากหนังสืออีกหลายเล่มค่ะ เรียกว่าเรื่องข้อมูลทำเอาไม่ได้หลับไม่ได้นอนทีเดียว เพราะเรื่องเสน่ห์แม่หญิงจะอัพเกือบทุกวัน
เล่าถึงความประทับใจในการเขียนนิยายเรื่องนี้กันหน่อยค่ะ
จันทร์ ธันวา : ความประทับใจของนิยายเรื่องนี้นอกจากจะเป็นเล่มแรกที่ได้ตีพิมพ์แล้ว ส่วนใหญ่เราจะประทับใจผู้อ่านค่ะ ทุกคนรักแม่บัว กับคุณภพมาก ลุ้นกันตลอดทั้งเรื่องจนกระตุ้นให้ผู้เขียนมีแรงเขียนและสามารถเขียนจบได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน ทั้งช่วยดู ช่วยพิสูจน์อักษร ทักท้วงบางจุดที่เราหลงลืมไป คืออ่านคอมเมนท์ทีไร ได้แรงกระตุ้นที่ดีกลับมาทุกครั้งเลยค่ะ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนมากนะคะ
ถ้าให้เปรียบนิยายเรื่องนี้กับธรรมชาติบนโลก คิดว่านิยายเรื่องนี้คืออะไร
จันทร์ ธันวา : คงจะเปรียบเสน่ห์แม่หญิงเหมือนธารน้ำเย็นๆ ที่ปลายน้ำตกค่ะ เพราะจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผาดโผนมากในสถานการณ์ที่ต้องพบเจอเหมือนน้ำตกที่ตกแรง แต่แม่บัวกลับทำให้เรารู้สึกเย็นและอบอุ่นในเวลาเดียวกันที่ธารน้ำค่ะ
อุปสรรคหนักสุดที่เคยเจอระหว่างการแต่งนิยายคืออะไร แล้วเรามีวิธีแก้ปัญหานั้นอย่างไรบ้างคะ
จันทร์ ธันวา : คงเป็นเรื่องของเวลาค่ะ เพราะเราก็ทำงานไปด้วยซึ่งผู้เขียนทำงาน 6 วัน มีวันหยุดแค่วันเดียว ก็ต้องจัดสรรเวลากันให้ดีหน่อยค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเขียนหลังเลิกงาน อัพตอนดึกๆ ช่วงที่ทำงานก็จะคิดเนื้อเรื่องคราวๆ เอาไว้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป พอถึงเวลาเขียนก็รวดเดียวเลยค่ะ ใช้เวลา 3 ชม. ก็จะได้ประมาณ 5 หน้า A4 ส่วนวันหยุดก็พักผ่อนหาข้อมูลรอไว้ กำหนดว่าต้องจบใน 2 เดือน เหนื่อยหน่อยหลังจากจบค่อยพัก จนเป็นเสน่ห์แม่หญิงที่ได้เห็นกันค่ะ
ได้ข่าวว่าเรื่องนี้เป็นนิยายเล่มแรกที่ได้ตีพิมพ์ใช่หรือเปล่าเอ่ย ความรู้สึกแรกที่ทราบว่านิยายของเราได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้างคะ
จันทร์ ธันวา : เป็นนิยายเรื่องแรกที่ได้ตีพิมพ์ค่ะ ดีใจมากที่มีโอกาส และโอกาสมาเร็วกว่าที่คิดไว้มาก เพราะตอนเริ่มเขียนนิยายไม่คิดว่าจะเขียนได้ คิดแต่ว่าตัวเองเป็นนักอ่าน เพราะอ่านเยอะจริงๆ อ่านมาตั้งแต่เด็ก จนอายุล่วงเลยวัยฝันของวัยรุ่นมามากถึงได้ลงมือเขียน คิดแค่ว่าเผื่ออายุมากขึ้นจะได้มีอะไรทำ เรื่องแรกที่เขียนก็ยังมีคนอ่านไม่มากค่ะ คิดเอาไว้ว่าคงใช้เวลาสัก 10 ปีกว่าจะมีโอกาสได้ตีพิมพ์ เพราะคนอื่นก็ใช้เวลากันนาน แล้วเราเองก็เริ่มต้นช้ามาก นักเขียนไม่ใช่จะเป็นก็เป็นกันได้ง่ายๆ มันมีองค์ประกอบเยอะ โดยเฉพาะต้องสู้กับตัวเอง
แต่พอเปิดเรื่องเสน่ห์แม่หญิงมาเป็นจังหวะที่คนอ่านเยอะ ก็มีสำนักพิมพ์ติดต่อเข้ามาซึ่ง อรุณ ติดต่อเป็นที่แรก และเราชอบผลงานของสำนักพิมพ์ด้วยค่ะ น่าจะเหมาะกับเรื่องเสน่ห์แม่หญิงจึงมอบให้สำนักพิมพ์อรุณทำ เลยเลื่อนเวลาเร็วขึ้นกว่าที่เราคิดเอาไว้ จาก 10 ปี เหลือไม่กี่เดือน ซึ่งผู้เขียนคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เขียนได้เร็ว น่าจะเป็นเพราะเราสะสมวัตถุดิบในหัวไว้เยอะจากการอ่านด้วยค่ะ มันเหมือนเรามีแผนที่ที่ดี ไม่ต้องมาหาเทคนิคหรืออะไรมาก เพราะฉะนั้นส่วนตัวเลยคิดว่าการอ่านสำคัญมาก
คำคมประจำตัวในการเขียนของ จันทร์ ธันวา คือ...
จันทร์ ธันวา : อยากเขียนอะไรก็เขียนไปเถอะ เขียนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง
อยากบอกอะไรกับนักอ่านที่ติดตามนิยายของเรา
จันทร์ ธันวา : อยากขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆ เลยค่ะ คุณคือกำลังใจ และแรงกระตุ้นที่ดีที่สุด คุณทำให้มีเสน่ห์แม่หญิงในวันนี้ค่ะ ขอบคุณจริงๆ
ต้องบอกลากันแล้ว มาฝากผลงาน และกล่าวลาชาวเด็กดีกันหน่อย
จันทร์ ธันวา : ก่อนอื่นอยากขอบคุณเว็บไซต์เด็กดีมากๆ เลยค่ะ ที่มีพื้นที่ให้แสดงความสามารถจนมีวันนี้ได้ และอยากฝากนิยายเรื่อง เสน่ห์แม่หญิง นะคะ เพราะนอกจากความอิ่มเอม และความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่จะได้รับ ในนิยายคุณยังสามารถเรียนรู้ได้ว่า ทำไมผู้หญิงอย่างแม่บัวถึงทำให้ผู้อ่านที่เคยอ่านมาก่อนรักได้ทุกคน เมื่ออิ่มเอมจากแม่บัวแล้ว สามารถแวะอ่านภาคต่อในเรื่อง ม่านบังเงา ได้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ส่วนนักเขียนเด็กดีที่กำลังท้อแท้ เหนื่อยกับสิ่งที่ทำ อยากบอกว่าอย่าเพิ่งท้อค่ะ คุณไม่รู้หรอกว่าโอกาสจะมาถึงเมื่อไหร่ สู้ต่อไปนะคะ วันนึงต้องเป็นของเรา
อ่านม่านบังเงาได้ที่นี่ คลิก
จบกันไปแล้วนะคะ กับอีกหนึ่งบทสัมภาษณ์ดีดีจากนักเขียนเด็กดีของเรา พี่หญิงต้องขอขอบคุณนักเขียนเจ้าของนามปากกาจันทร์ ธันวา อีกครั้งที่สละเวลามาพูดคุยกับชาวเด็กดีกันในวันนี้
ส่วนครั้งหน้าจะเป็นนักเขียนคนไหน นามปากกาอะไร อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้พี่หญิงขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ ^^
พี่หญิง



0 ความคิดเห็น