เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่เด็กหญิงกะทิได้ถือกำเนิดขึ้นมาสร้างความสุข เสียงหัวเราะและคราบน้ำตาแก่นักอ่านผ่านหนังสือเรื่อง ความสุขของกะทิ จนวันนี้ความสุขของกะทิ เดินทางมาถึงก้าวที่ 100 ในการพิมพ์ซ้ำ ด้วยจำนวนครั้งที่หลักร้อย ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นบ่อยในวงการหนังสือบ้านเรา ถือเป็นความพิเศษอย่างยิ่งที่ไม่ควรปล่อยผ่าน  ผู้แต่งอย่างคุณงามพรรณ เวชชาชีวะ และแพรวสำนักพิมพ์ จึงจัดทำและขอมอบของขวัญชิ้นพิเศษนี้เพื่อตอบแทนความรู้สึกดีๆ ที่นักอ่านมอบให้กะทิ เด็กหญิงผมม้า ตากลมคนนี้  เป็นหนังสือตอนใหม่ของกะทิ ในชื่อว่า ความสุขของกะทิ ตอน เธอคือของขวัญ 

ภายในเล่มแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน คือ เธอคือของขวัญ – ภาคพิเศษอันเป็นส่วนเพิ่มที่เข้ามาเติมเต็มความสุขของกะทิให้งดงามยิ่งขึ้น ช่องว่างที่เว้นไว้ถูกใส่รายละเอียดอันละมุนละไมลงไป อบอุ่นงดงาม เป็นตอนพิเศษที่คุณงามพรรณตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อให้โลกของกะทิสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ส่วนที่สอง คือ จักรวาลความสุขของกะทิ – คลี่คลายและตอกย้ำรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกะทิ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดตัวครและฉากสถานที่ต่างๆ รวมอาหารสุดอร่อยของยาย ของใช้ในบ้านของกะทิ และบทสัมภาษณ์พิเศษระหว่างกะทิและแม่ผู้ให้กำเนิดอย่างคุณงามพรรณ  พวกเขาจะคุยอะไรกันล่ะเนี่ย!?...แต่รับรองว่าอ่านจบแล้วคุณจะต้องยิ้มตามอย่างแน่นอน

แต่ก่อนจะไปอ่านฉบับเต็มๆ  เราขออุ่นเครื่องด้วยบทความพิเศษมอบให้กับแฟนคลับของกะทิ  "5 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับน้องกะทิ’’ อาจจะดูไม่อึ้ง ไม่ทึ่งเท่าไหร่ แต่จะต้องแปลกใจและอยากย้อนกลับไปอ่านความสุขของกะทิอีกครั้งเลยล่ะ  

ปกหนังสือความสุขของกะทิ 3 เล่ม

1.ท้าให้นับคำว่า ‘’กะทิ’’

ในเนื้อเรื่องจากหนังสือ ความสุขของกะทิทั้ง 3 เล่ม ปรากฎคำว่า ”กะทิ” ทั้งหมด “2,201” ครั้ง 

เล่มที่ 1 ความสุขของกะทิ 406 ครั้ง 

เล่มที่ 2 ความสุขของกะทิ ตอนตามหาพระจันทร์ 1,067 ครั้ง 

เล่มที่ 3 ความสุขของกะทิ ตอนโลกใบใหม่ 728 ครั้ง

เพื่อนๆ เจอคำว่า ‘กะทิ’ ที่หนังสือหน้าไหนกันบ้าง  ^^

รูปภาพบ้านริมคลอง

2.บ้านริมคลองที่ผู้แต่งไม่เคยอยู่

         “อ้อมแขนของตาและยายอบอุ่นและให้ความรู้สึกปลอดภัยเหมือนที่กะทิจำได้ ที่ไหนจะสุขใจเกินไปกว่าที่บ้านย่อมไม่มี และบ้านริมคลองหลังนี้คือ ‘บ้าน’ ของกะทิโดยแท้”

ความสุขของกะทิ หน้า 112

บ้านริมคลองนั้น ถือเป็น บ้านเกิดของกะทิ  เป็นบ้านแถบชนบท ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เป็นเรือนยกใต้ถุนสูงประกอบด้วย ‘ห้องนอน’ ของตายาย กะทิ และ‘ห้องพระ’ ยายชอบเข้ามาสวดมนต์เป็นประจำห้องนี้เย็นที่สุดของบ้านเพราะอยู่ทางทิศเหนือ มีลมพัดตลอดเวลา และแดดส่องไม่ถึง แม้ยายจะเชื่อว่าเป็นเพราะอภินิหารจากหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่คุ้มครองคนในบ้านก็ตามที   ส่วนชั้นล่างจะมี ‘ห้องครัว’ ห้องประจำตำแหน่งของยาย ที่มักจะออกมาพร้อมกับอาหารอร่อยๆ อยู่เสมอ

เป็นบ้านที่อบอุ่น ร่มรื่น เรียบง่าบ  สงบสุข โดยผู้แต่งบรรยายและบอกเล่าถึงวิธีวัฒนธรรมแบบชนบทได้อย่างครบถ้วน  เหมือนกับผู้แต่งได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านริมคลองจริงๆ แต่ทว่า งามพรรณ เวชชาชีวะนั้นไม่เคยอาศัยในบ้านริมคลองเลยล่ะค่ะ  แต่ที่เขียนบรรยายออกมาได้ดูสมจริงและเห็นภาพได้ขนาดนี้ก็เพราะการหาข้อมูลยังไงล่ะคะ  ใครอยากเป็นนักเขียนเก่งๆ ล่ะก็ การหาข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญเลยนะคะ ^^

  

ปกหนังสือความสุขของกะทิเวอร์ชั่นฝรั่งเศส

3. แม้แต่ชาวฝรั่งเศสก็เสียน้ำตาให้กับกะทิมาแล้ว

ความสุขของกะทิ นวนิยายโดยงามพรรณ เวชชาชีวะ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2546 โดยสำนักพิมพ์แพรวเยาวชน ภายหลังหนังสือได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน ปี พ.ศ. 2549 แพรวสำนักพิมพ์จึงได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดพิมพ์ครั้งต่อๆ ไปเรื่อยมา ซึ่งได้รับความนิยมอ่านกันแพร่หลายไม่เพียงแต่ในภาษาไทย หากยังได้รับการแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ภาษาเยอรมัน ภาษาคาตาโลเนีย และภาษาลาว 

มีเรื่องเล่ามาจากแดนไกลว่า บ.ก.ชาวฝรั่งเศสที่ซื้อลิขสิทธ์ความสุขของกะทิไปแปล สารภาพกับคุณงามพรรณว่า เมื่ออ่านความสุขของกะทิแล้วเขาร้องไห้ตั้งแต่รถไฟออกจนถึงชานชลา เพราะเรื่องราวของครอบครัวมันกินใจเขามาก ในยุโรปไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ครอบครัวใหญ่ที่มีตายายเท่าไร  

ไม่เฉพาะที่ฝรั่งเศส แต่รวมถึงอีกหลายๆ ชาติที่กะทิไปปรากฏตัว ต่างก็ให้ความเอ็นดูและมอบความรักให้กับเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ด้วยเช่นกัน แม้จะมีคราบน้ำตา แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นจากการอ่านเรื่องนี้ก็จัดเต็มเหมือนกันนะ หากใครเคยอ่านแล้วคงจะเข้าใจดี แต่หากใครยังไม่เคยอ่านล่ะก็ ขอให้ไปหยิบมาด่วนเลยค่ะ ^^

4. คุณพ่อของผู้แต่งเป็นผู้ค้นพบโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในประเทศไทย

โรค ALS  หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis)  ที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตตัวน้อยๆ ของเด็กหญิงกะทิ 

ณภัทร แม่ของกะทิเริ่มป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตั้งแต่อายุ 33 ปี เวลานั้นกะทิพึ่งอายุเพียง 4 ขวบ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมมา หลังจากที่เธอตัดสินใจออกจากบ้านริมคลอง เธอได้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านริมทะเล โดยเพื่อนๆคอยมาเยี่ยมเยียนและผลัดกันมาดูแล

อาการของโรคนี้ ทำให้ความสามารถในการหายใจน้อยลง เธอปฏิเสธการเจาะลำคอ และเลือกใช้เครื่องไบแพพช่วยหายใจแทน โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์สั่งการด้วยเสียงช่วยอีกแรง

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ส่วนใหญ่เกิดกับคนอายุ 40 – 70 ปี ส่วนผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการตอนอายุ 20 - 40 ปี มีโอกาสอยู่ได้นานกว่า 5 ปี ณภัทรโชคร้ายที่มันเกิดขึ้นกับเธอเร็วเกินไป แต่กะทิลูกสาวคนเดียวของเธอเติบโตเป็นเด็กดี เป็นที่รักของทุกคน ซึ่งแม้เธอจะไม่อยู่แล้วก็ตาม  

เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญของเรื่องและเรียกน้ำตานักอ่านได้มากเลยทีเดียว ซึ่งโรคกล้ามเนื้อออ่อนแรงนั้น คุณงามพรรณ ผู้แต่งมาทราบทีหลังว่าคุณพ่อของตัวเอง คือ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ค้นพบว่าโรค ALS  มีในประเทศไทยก็เมื่อหลังจากแต่งนิยายเรื่องความสุขของกะทิจบแล้ว  

อ่านข้อมูลเรื่องโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงฉบับเต็มที่นี่ >>> คลิก

 

5. นักวาดวิ่งหนีนักเขียน !

ความสุขของกะทิ ฉบับลายเส้นเล่มนี้ ได้ ตั้ม – วิศุทธิ์ พรนิมิตร นักวาดคนดัง ใช้เวลากว่า 2 ปีในการวาดการ์ตูนจากนวนิยายเรื่อง ความสุขของกะทิ ขึ้นมาใหม่ตามแนวทางของคุณตั้มเอง เราจึงได้เห็นน้องกะทิในรูปแบบแปลกตาจากภาพหน้าปกนิยาย

อย่างที่บอกว่าความสุขของกะทิ ฉบับลายเส้นนี้ใช้เวลานานกว่า 2 ปีในการจัดทำ ระหว่างทางนี้จึงมีเรื่องขำขันเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากจะมาเล่าให้นักอ่านฟังว่า  ครั้งหนึ่งในระหว่างรับงานวาดภาพน้องกะทินั้น ตั้มเคยแอบมาเดินเที่ยวเล่นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และได้เจอกับผู้แต่ง คุณงามพรรณในระยะเกือบประชิด แต่แทนที่จะเข้าไปทักทาย ตั้มกลับวิ่งหนีออกมา เพราะรู้สึกผิดที่ใช้เวลามาเดินห้างฯ แทนที่จะนั่งทำงานอยู่ที่บ้านนั่นเองค่ะ  แต่ตอนนี้ความสุขของกะทิ ฉบับลายเส้นฝีมือคุณตั้มก็ได้ออกมาสู่อ้อมอกอ้อมใจของนักอ่านเรียบร้อยแล้ว  คงได้เดินเล่นอย่างสบายใจแล้วใช่ไหมล่ะคะ ^^

ข้อมูลจาก  หนังสือความสุขของกะทิ ตอน เธอคือของขวัญ, แพรวสำนักพิมพ์

 หนังสือความสุขของกะทิ ฉบับลายเส้น, แพรวสำนักพิมพ์

ข่าวดี! สำหรับชาวเด็กดี วันนี้พี่หญิงมีหนังสือความสุขของกะทิ ฉบับลายเส้น มาแจกฟรี 3 รางวัล เพียงแค่คลิกเข้าไปเล่นควิซทายใจ "คุณเป็นใครในความสุขของกะทิ" ด้านล่างนี้ พร้อมโพสต์รูปผลลัพธ์ในบทความ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลไปเลย

เล่นได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2560
และประกาศผลวันที่ 3 เมษายน 2560

ชาวเด็กดีคนไหนที่เป็นแฟนคลับของกะทิ อย่าลืมมาเล่นสนุกกันนะคะ^^

ประกาศผลผู้โชคดี

ดอ ชฎา

2cLeft-Right

arachza555

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล กรุณาส่งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ในการจัดส่ง

พร้อมระบุชื่อรางวัล มาที่อีเมล Thippawan@dek-d.com

หมดเขตรับของรางวัล ในวันที่ 10 เมษายน 2560