วิจารณ์หนังสือ The Secret Garden : หนังสือที่ทำให้รู้ว่าความสุขนั้นมีอยู่รอบตัวเราเสมอ

สวัสดีน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคนค่า คิดว่าคงมีหลายคนเคยเข้าไปในร้านหนังสือ แล้วเห็นหนังสือปกแข็งสันสีเขียว บนหน้าปกมีรูปประตูอยู่ข้างหน้า เขียนตัวหนังสือสวยงามว่า “ในสวนลับ” แต่งโดย ฟรานซิส ฮอดจ์สัน เบอร์เน็ต กันแน่เลยใช่ไหมคะ ถ้าใครยังไม่เคยอ่านหรือไม่เคยเห็น พี่ซูมขอเชียร์แรงๆ ว่า จงรีบหยิบมันไปจ่ายเงิน แล้วเอากลับไปอ่านที่บ้านโดยพลัน เรื่องนี้สนุกมาก อ่านแล้วคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน (ใครอ่านแล้วไม่สนุก ห้ามมาเก็บเงินที่พี่ซูมนะ! แป่ว) 

ด้านซ้ายเป็นปกเก่า ส่วนด้านขวาเป็นปกล่าสุด
สวยทั้งสองปกเลย

ในสวนลับ หรือชื่อเดิมว่า “ในสวนศรี” เล่าเรื่องของ "มารี เลนน็อกซ์" เด็กหญิงวัยสิบขวบ หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ผู้เกิดมาในตระกูลผู้ดีร่ำรวย บิดามียศฐาบรรดาศักดิ์ ส่วนมารดาก็เป็นสตรีโฉมงาม กิริยามารยาทโดดเด่น น่าเสียดายที่มารีไม่เคยได้รับความรักจากพ่อกับแม่ของเธอ คนเดียวที่ใกล้ชิดเธอ คือพี่เลี้ยงชาวอินเดียที่ตามใจทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อมา เกิดโรคระบาดในอินเดีย ส่งผลให้พ่อและแม่ของเด็กหญิงเสียชีวิต ทิ้งลูกสาวไว้เดียวดาย ต่อมา เมื่อทหารพบตัวเด็กหญิง ก็ส่งตัวเธอไปอยู่กับ อาร์ชิบอล คราเวน ผู้เป็นลุง เขาคือญาติสนิทคนเดียวที่เหลืออยู่ของเธอ และใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์มิสเซาธ์เวท ในชนบทประเทศอังกฤษ ณ ที่แห่งนี้เอง มารีได้ค้นพบสวนแห่งหนึ่ง สวนแห่งความลับอันมหัศจรรย์ที่เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล
 

หน้าตาของคุณหนูมารีคนขวางโลกในฉบับภาพยนตร์ปี ค.ศ. 1993

เปิดเรื่องมา ทุกคนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศหดหู่และเศร้าหมอง แต่แล้ว โทนเรื่องก็ค่อยๆ อบอุ่นขึ้น เมื่อมารีได้พบกับสวนลับ ความน่ารักของเรื่องคือ สวนลับแห่งนี้ สามารถเรียกเสียงหัวเราะของเด็กหญิงตัวน้อยกลับมาได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์หรืออะไรยิ่งใหญ่เลย เป็นความเรียบง่ายอบอุ่นของการได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เพียงแค่นี้ก็ทำให้ชีวิตของคนเราเต็มอิ่มได้แล้ว 

ภาพรวมของเรื่อง ดำเนินไปเรื่อยๆ สบายๆ อ่อนโยน ละเอียดลออ เหมาะแก่การอ่านในสวนที่มีต้นไม้ร่มรื่น (ย้ำว่าไม่ร้อน) จะเพลินมากค่ะ นอกจากนี้ ภายในความเรียบง่ายของหนังสือ ก็แฝงข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิตไว้ด้วย ซึ่งพี่ซูมก็ได้สรุปออกมาให้ทั้งหมด 3 ข้อหลัก ดังนี้ค่ะ 

อยากจะให้คนอื่นชอบเรา แล้วเราชอบตนเองหรือยัง

“พูดแต่ว่าไม่ชอบคนนั้นคนนี้ แล้วตัวเองล่ะชอบตัวเองแค่ไหน” นับว่าเป็นประโยคที่ฟังปุ๊ปอาการหัวร้อนโมโหไม่ชอบใครสักคนหายวับเลยว่าไหมคะ คุณหนูมารีคนดีของพวกเราก็เช่นเดียวกันค่ะ เธอรู้แค่เพียงว่าทุกคนไม่ชอบเธอ ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เธอและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวตลอดมา กระทั่งได้ยินประโยคนี้จากมาร์ธา โซเวอร์บี้ เด็กรับใช้ซึ่งนำคำพูดของแม่มาเตือนมารี มันส่งผลให้เด็กหญิงตระหนักได้ทันทีว่า การจะให้คนอื่นมาชอบเรา เริ่มแรกเราต้องชอบตัวเองเสียก่อน ทบทวนตัวเองว่าเรามีข้อดีอะไรในตัวอยู่บ้าง เมื่อเจอแล้ว ก็พยายามเก็บรักษาไว้ให้ดีดังเดิม ส่วนอะไรที่แย่ๆ อาทิ ทำตัวขวางโลก พูดจาไม่น่ารัก ไม่มีกาลเทศะ ไม่ถนอมน้ำใจคู่สนทนา หน้าตาบูดบึ้ง เหวี่ยงใส่ทุกคนที่เข้าหา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนใช้ เพื่อน คุณลุง หรือใครก็ตามแต่ ก็ควรเลิกทำ ดังคำสอนของศาสนาคริสต์ที่ว่า “จงรักคนอื่นเหมือนรักตนเอง” หรือถ้าแบบไทยๆ หน่อยก็ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ค่ะ

ภาพประกอบตอนทุกคนได้แก่ ดิคคอน คอลลิน มารี และ

ลุงคนสวนเบ็น เวเธอร์สตาฟฟ์ นั่งอยู่ในสวนลับกัน

จงรู้ไว้ว่าตนเองไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล

ในหนังสือ เราจะได้รู้จักตัวละครสำคัญอีกคน นั่นคือ “คอลลิน คราเวน” มหาราชาองค์น้อย (มารีตั้งฉายาให้เขาด้วยความหมั่นไส้) แห่งคฤหาสน์มิสเซาธ์เวท ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของมารี ฉากแรกที่ทั้งคู่เจอกัน พี่ซูมชอบมากค่ะ ทั้งคู่ต่างก็เป็นเด็กที่เอาแต่ใจและชอบพูดจาร้ายๆ เหมือนกัน การได้เจอมารี ทำให้คอลลินตระหนักถึงนิสัยเลวร้ายของตนเอง และได้สติคิดได้ว่า การยึดตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล มีอะไรก็เอาตัวเองเป็นใหญ่ ปากก็ว่าคนอื่นว่าใครไม่ทำตามเขาคนนั้นเห็นแก่ตัว เรียกร้องเอาแต่สิ่งที่ตนต้องการ ทว่าในความจริงคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหน ตัวคนพูดเองน่ะแหละ และทั้งหมดที่ว่า ก็ไม่ได้สร้างความสุขแห่งตนเองและใครเลย ความจริงแล้ว การรู้จักแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่คนอื่นต่างหาก จึงเป็นเรื่องที่ดีและสร้างความสุขให้กับทุกคน 

ปกในสวนลับฉบับเก่า ใช้ชื่อว่าในสวนศรี

เลิกกลัวที่จะออกจากกรอบความคิด กล้าที่จะลิขิตชีวิตตนเอง

พี่เคยได้ยินจากญาติผู้ใหญ่ใกล้ตัวว่า “ความคิดแง่ลบคือมะเร็งร้ายของชีวิต” และจากประสบการณ์ส่วนตัวพี่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง เวลาคนเรามองอะไรในแง่ร้าย โลกนี้มันกลายเป็นสีเทาไปทันทีเลยนะคะ แม้ความจริงมันจะไม่ได้แย่ขนาดเท่าที่เราเห็นก็ตาม ในสวนลับเองก็เช่นเดียวกันค่ะ ที่คฤหาสน์มิสเซาธ์เวทกลายเป็นบ้านหม่นหมองไร้ความสุข คอลลินเป็นมหาราชาร้ายกาจองค์น้อยของบ้าน อาร์ชิบอลเป็นชายหนุ่มผู้ไร้สุขออกเดินทางทิ้งทุกอย่างไป เพราะพวกเขาเลือกที่จะเชื่อความคิดแง่ลบของตนเองจากคำพูดคนอื่น หรือความสูญเสียที่ต้องเผชิญ โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นขอบอกเลยค่ะว่ามันไม่ช่วยสร้างอะไรดีๆ ให้เกิดขึ้นในชีวิตเลย ลองคิดบวกและกล้าที่จะลงมือทำแบบที่คอลลินในภายหลังที่เชื่อว่าตนเองจะไม่ตายจนกลับมาเดินได้อีกครั้ง เหมือนอย่างตอนเดินให้คนสวนเบ็น เวเธอร์สตาฟฟ์ดูแล้วล่ะก็ ความสุขมันอยู่ไม่ไกลที่ไหนหรอกค่ะ มันก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ รอบตัวนี่แหละ ลอง “ปล่อยวาง” และใช้เวลาทุกวินาทีกับคนที่รักเรา และคนที่เรารักให้คุ้มค่า พี่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลกนี้เลยล่ะค่ะ
 

ฉบับตีพิมพ์ปกภาษาอังกฤษดูหวานนุ่มละมุนจังเลย

เป็นยังไงกันบ้างคะกับข้อคิดสาระแน่นจากนิยายสนุกๆ ที่พี่นำมาฝากชาวเด็กดีผู้น่ารักกันในวันนี้ ขอเม้าท์มอยเลยค่ะว่าอ่านไปเล่มนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เล่มที่พี่อ่านเกินสองรอบ 555 แถมทุกครั้งที่อ่านก็ยังสร้างรอยยิ้มอบอุ่นหัวใจ และทำให้พี่ได้คิดทบทวนตัวเองว่า บนโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความสุขเป็นสิ่งที่เรียบง่าย หาได้จากรอบตัวของเสมอ อยู่ที่แค่ว่าเราจะมองมันไหมเท่านั้นเองค่ะ ซึ่งสำหรับพี่ความสุขเรียบง่ายที่ว่าคือการได้มานั่งเขียนบทความ ตอบคอมเม้นท์พูดคุยกับน้องๆ ที่น่ารักทุกคนในเว็บเด็กดีนี่เองค่ะ

วันนี้ขอจบบทความไปด้วยภาพจากภาพยนตร์  The Secret Garden ฉบับปี 1993 (เอฟเฟคอาจจะเก่าๆ หน่อยนะคะ อย่าแปลกใจไป) ของค่าย Hallmark ก็แล้วกันค่ะ ส่วนครั้งหน้าพี่จะมีนิยายสนุกพ่วงสาระแน่น เรื่องไหนมาฝากน้องๆ กันอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ แล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ

ด้วยรักและห่วงใย

พี่ซูม

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก 

https://www.naiin.com/product/advanced-search/ในสวนลับ/

https://www.amazon.com/Secret-Garden-Kate-Maberly/dp/B000HF6XV8

      https://www.google.co.th/search?q=the+secret+garden&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwjIheyA5PPUAhUgT48KHdYUDBwQ_AUIBigB&biw=1600&bih=721#tbm=isch&q=the+secret+garden+mary+lennox&imgrc=bPOLpHh6Iqa8iM:

พี่ซูม

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

invisible human 18 ก.ย. 60 10:48 น. 1

เคยอ่านในห้องสมุดของโรงเรียน ชอบมากๆ ของเบอร์เน็ตยังมีอีกหลายเรื่องที่ประทับใจมากๆ อย่างเจ้าหญิงน้อยกับลอร์ดน้อยฟอนเติลรอย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด