รวมมาให้แล้ว 9 คำคมเปลี่ยนโลกจากนักเขียน 'Dr.Seuss'
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน เชื่อว่าคนที่ชอบอ่านหนังสือสำหรับเด็กจะต้องเคยผ่านหูผ่านตาหนังสือเรื่อง Cat in the Hat แน่นอนเลย นี่คือผลงานของ ทีโอดอร์ ซุส ไกเซล (Theodor Seuss Geisel) เจ้าของนามปากกา Dr.Seuss เชื่อหรือไม่ว่าเขาเป็นทั้งนักเขียน นักกวี และนักวาดการ์ตูนชื่อดังชาวอเมริกา งานเขียนของเขาเป็นเอกลักษณ์มากๆ เพราะเต็มไปด้วยแง่คิด อารมณ์ขัน แถมสไตล์การวาดภาพยังโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ความโด่งดังของ Cat in the Hat นั้นเปรี้ยงปร้าง เอาอะไรมารั้งก็ไม่อยู่ เพราะไม่เพียงแต่ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจ หนังสือเรื่องนี้ (และอีกหลายๆ เรื่อง) ยังถูกนำไปใช้เป็นบทเรียนในมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ การันตีว่ามันดีมาก ดีจริงๆ เป็นหนังสือเด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี
ดังนั้นในวันนี้พี่น้ำผึ้งขออาสามาปลุกกำลังใจให้น้องๆ ด้วยการนำ 9 คำคมที่สร้างแรงบันดาลใจจาก Dr.Suess มาฝากน้องๆ กันค่ะ รับรองว่าอ่านจบพลังในการสานฝันเพื่อเป็นนักเขียนต้องเพิ่มขึ้นมากแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยจ้า
Kid, you'll move the mountains!
(เด็กๆ พวกเธอจะย้ายภูเขา!)
การย้ายภูเขาอาจจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ (แหงล่ะ) แต่เราไม่จำเป็นต้องย้ายภูเขาจริงๆ นี่คะ มันเป็นแค่คำเปรียบเปรยเท่านั้นแหละ สำหรับคำคมนี้ จริงๆ แล้วมันหมายความว่า แม้ในบางครั้งเราจะรู้สึกงานที่เรากำลังทำหรือนิยายที่เรากำลังเขียนอยู่นั้นมันดูยิ่งใหญ่มาก ไม่จบสักที แล้วเราก็อาจจะมีความคิดที่ว่าไม่สามารถทำได้แน่นอน ไม่จบชัวร์ๆ ขอให้เราลองจินตนาการดูว่าเราทำมันสำเร็จ ฉันเขียนนิยายจบแล้ว เราจะรู้สึกยังไง? มันเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างไร?
ในตอนแรกการย้ายภูเขาอาจจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ แต่ยิ่งเราคิดถึงมันมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งมีพลังและเห็นหนทางสู่ความสำเร็จ สุดท้ายแล้วเราก็จะย้ายภูเขาได้จริงๆ ค่ะ คมเนอะ
And will you succeed? Yes! You will, indeed!
(98 and 3/4 percent guaranteed)
(แล้วเธอจะสำเร็จมั้ย? ใช่ เธอจะสำเร็จแน่นอน
98 และ 3/4 เปอร์เซ็นต์การันตี)
แน่นอนว่าไม่มีใครรับประกัน100% หรอกว่าชีวิตเราจะเป็นยังไงต่อไป แต่ถ้าเราคิดบวกเหมือนกับคำคมนี้ ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วจ้า อย่าลืมว่าความสำเร็จเริ่มต้นที่ตัวเรา ที่ความคิดและความเชื่อของเรา และถ้าเมื่อไหร่ที่เราเริ่มคิดลบกับตัวเอง เมื่อนั้นพลังในการมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จของเราก็จะลดลงไป เพราะฉะนั้นจงเชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ แค่คิดว่าเราเขียนนิยายจบ เราก็จะเขียนนิยายจบแล้วค่ะ มีความเชื่อมั่นกับตัวเองเยอะๆ เข้าไว้นะ ^^
You have brains in your head.
You have feet in your shoes.
You can steer yourself any direction you choose.
(เธอมีสมองอยู่ในหัว มีเท้าอยู่ในรองเท้า
เธอสามารถเลือกทิศทางของเธอได้นะ)
พูดง่ายๆ ก็คือเราเป็นคนกำหนดชีวิตเราเอง ไม่มีใครสามารถกำหนดชีวิตเราได้นอกจากตัวของเรา และคนที่กำหนดทิศทางให้ชีวิตของเราเดินต่อไปก็คือตัวเราเองนี่แหละค่ะ สมมติเอาง่ายๆ นะ ถ้าเราเขียนนิยายแต่อัพเท่าไหร่ก็ไม่มีคนอ่านสักที เราก็เลือกเองได้ว่าจะอัพต่อไปเพื่อความฝัน หรือจะเทแค่เพราะไม่มีคนอ่าน ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเราจริงๆ ค่ะ
Only you can control your future
(มีแต่เธอเท่านั้นที่กำหนดอนาคตตัวเอง)
อันนี้มาแนวคล้ายๆ คำคมด้านบนเลยค่ะ บ่อยครั้งเวลาที่เราเจอปัญหา บางครั้งมันก็ยากที่เราจะจำได้ว่าคนเดียวที่ควบคุมชีวิตของเราคือตัวเรา เพราะเราเอาชีวิตของเราไปผูกติดกับคนอื่นหรือสิ่งอื่นมากเกินไป เช่น เวลาอัพนิยายแล้วไม่มีคนมาเมนต์ (อีกแล้ว) เราก็พาลหงุดหงิด เสียใจ และเลิกอัพนิยายไปเพียงเพราะไม่มีคนมาเมนต์
นั่นเป็นเพราะว่าเราเอาตัวเราไปผูกติดกับสิ่งที่เรียกว่าคอมเมนต์มากเกินไปจนลืมไปว่า เราเขียนนิยายเพื่อความสุขของเรา นอกจากนี้ยังมีหลายครั้งที่เรามักทำอะไรไปโดยไม่ทันคิดและลืมไปว่ามันส่งผลต่ออนาคตของเรา ดังนั้นคำคมนี้เตือนสติเราได้อย่างดีเลยว่า “คนที่คุมอนาคตของเรา คือตัวเราเอง” ต้องระวังให้มากๆ ค่ะ
Why fit in when you were born to stand out?
(ทำไมต้องเป็นที่ยอมรับ ในเมื่อเธอเกิดมาเพื่อโดดเด่น)
เอาไปเลยค่ะ 10 10 10 กับคำคมนี้! เพราะมันเป็นคำคมที่พี่ชื่นชอบมากๆ คำคมนี้สอนเราให้รู้จักรักและเคารพตัวเอง พวกเราทุกคนเกิดมาเพื่อโดดเด่นและแตกต่างในแบบของเรา เราไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างใครๆ
เหมือนกับการเขียนนิยายนั่นแหละค่ะ หลายคนที่เขียนนิยายไม่ตรงกับแนวที่กำลังเป็นเทรนด์อาจจะรู้สึกท้อใจแล้วหันไปเขียนตามกระแส จนลืมไปว่าบางทีเราก็ไม่จำเป็นจะต้องตามใคร เชื่อเถอะว่าการที่งานเขียนของเราไม่เหมือนคนอื่นน่ะดีจะตายไป เพราะใครๆ ก็จำได้ ดังนั้นขออย่าได้ท้อแม้จะเขียนนิยายที่ไม่ตรงตามกระแสค่ะ เพชรยังไงก็คือเพชรเนอะ
If you never did you should.
These things are fun, and fun is good.
(ทำไมต้องเป็นที่ยอมรับ ในเมื่อเธอเกิดมาเพื่อโดดเด่น)
เป็นเรื่องที่ดีมากกับการก้าวข้าม comfort zone ของตัวเองเพื่อทำอะไรใหม่ๆ เชื่อเถอะว่าการลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำน่ะท้าทายจะตายไป เราจะได้พบกับความสนุกที่กำลังรอเราอยู่ ยิ่งเราสนุก ยิ่งทำให้เรามีความสุข ซึ่งมันเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เราเดินทางไปสู่ความสำเร็จด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆ คนไหนไม่เคยลองเขียนนิยายแนวที่ไม่เคยเขียน อยากให้ลองค่ะ มันไม่เพียงแค่ท้าทายความสามารถในการเขียนของเรา แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย ลุยเลยจ้า
You are you. Now, isn't that pleasant?
(เธอคือเธอ ตอนนี้เธอไม่พอใจเหรอ?)
แม้คำคมข้อนี้จะไม่เกี่ยวกับวิถีนักเขียนแบบเราๆ โดยตรง แต่พี่ชื่นชอบมันมากๆ เลยค่ะ เพราะพี่สังเกตเห็นว่าสมัยนี้มีหลายคนที่ไม่พึงพอใจกับตัวเอง เช่น ไม่ชอบที่ตัวเองผิวสีแทน หรือไม่ชอบที่ตัวเองสายตาสั้น เป็นต้น ซึ่งคำคมนี้ย้ำให้เราตระหนักถึงความวิเศษของชีวิตเรา เราโชคดีมากแค่ไหนที่เราเป็นเรา เพราะเรามีแค่คนเดียวในโลกที่ไม่ซ้ำใครและไม่มีใครเหมือน แน่นอนว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกที่เราจะเป็นคนอื่น ดังนั้นควรภูมิใจในตัวเองไว้ให้มากๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่ามีอะไรในตัวที่เราไม่ชอบจริงๆ เราก็แค่ต้องพัฒนาให้มันดีขึ้นและกลับมารักตัวเองให้มากๆ ค่ะ
Just tell yourself, Duckie, you're really quite lucky!
(แค่บอกตัวเอง ดั๊กกี้ เธอน่ะโชคดีนะ!)
นี่เป็นคำคมที่มาจากหนังสือเรื่อง Did I Ever Tell You How Lucky You Are? ซึ่งเวลาที่ Dr.Suess จัดการกับปัญหาทั้งหมดยากเย็นทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ เขาจะขอบคุณตัวเองที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้และผ่านมันมาได้ เขาบอกว่ามันเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งในชีวิตของเขาเลยค่ะ
สำหรับคำคมนี้ได้บอกเราว่า ทุกครั้งที่เราเผชิญกับเหตุการณ์คับขันหรือเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ขอให้เราขอบคุณเราได้ตกอยู่ในสถาการณ์นั้น บอกกับตัวเองว่าเราโชคดีมากๆ ที่ได้เผชิญหน้ากับมัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องแย่มากแค่ไหน แต่มันก็สอนให้เราได้เรียนรู้และได้ใช้ชีวิต ทำให้เราเติบโตขึ้นอีกขั้นนั่นเอง เพราะงั้นแค่บอกตัวเองว่าเราน่ะโชคดี มันก็จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นเป็นกองเลยค่ะ
Today was good. Today was fun.
Tomorrow is another one.
(วันนี้ดี วันนี้สนุก พรุ่งนี้ก็แค่อีกวัน)
ทิ้งท้ายกันด้วยคำคมที่เตือนสติเราอีกครั้ง พี่น้ำผึ้งตีความได้ว่า Dr.Suess ต้องการบอกให้เราทำวันนี้ให้ดีที่สุดและเอนจอยไปกับมัน อยากทำอะไรทำเลย ขอแค่เราสนุกและมีความสุขก็พอแล้ว ส่วนวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงนั้น อย่าเพิ่งกังวลล่วงหน้าเพราะ “พรุ่งนี้ก็แค่อีกวัน”
พูดง่ายๆ ก็คือให้อยู่กับปัจจุบันดีที่สุดค่ะ เหมือนกับเขียนนิยายนั่นแหละ ไม่ต้องกังวลว่าอัพลงเว็บจะเป็นยังไง จะมีคนอ่านไม่ จะมีคอมเมนต์หรือเปล่า ให้เราโฟกัสที่ความสุขของเราก็พอแล้วจ้า เชื่อเถอะว่าถ้าเราสนุกไปกับมัน คนอ่านก็จะรู้สึกสนุกไปด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับคำคมที่พี่น้ำผึ้งนำมาฝากในวันนี้ หวังว่าน้องๆ คงได้แง่คิดและแรงบันดาลเต็มเปี่ยมจาก Dr.Suess นะคะ ชาร์จพลังใจแล้ว อย่าลืมเขียนนิยายด้วยนะ ถึงแม้ว่าวันนี้อาจจะยังไม่มีคนมาอ่าน แต่ถ้ามันเป็นความสุขของเรา เราก็ควรจะทำมันต่อไปเรื่อยๆ แล้วสักวันนึงสิ่งที่เราฝันไว้จะต้องเป็นจริงแน่นอนค่า พี่น้ำผึ้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ ^^
พี่น้ำผึ้ง :)

.jpg)









1 ความคิดเห็น
เหมือนหัวข้อกระทู้จะผิดนะคะ ตรงชื่อDr. เขียนสลับที่เป็น Dr.Suess