ต้องยอมรับว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่ธารน้ำใจของชาวจิตอาสาที่ทำให้เมืองไทยน่าอยู่ขึ้น แต่ยังมีธารน้ำเสียจากเหล่ามิจฉาชีพเข้ามาปะปนด้วย อย่างเช่นการสวมรอยเป็น "นักจิตอาสา" หากินกับเหยื่อที่รู้ไม่เท่าทัน และเหยื่อที่รู้ทันแต่ช่างมัน (คิดแค่ว่าทำบุญด้วยใจก็พอแล้ว ประมาณนั้น~) กลายเป็นว่าจิตอาสาตัวจริงเสียงจริงพลอยโดนระแวงจนหมดกำลังใจไปหลายราย ดังนั้นพี่จึงไปรวมเคสจิตอาสาปลอมๆ มาเล่าสู่กันฟัง น้องๆ จะได้หลีกเลี่ยงและเลิกสนับสนุนไม่ให้วงการสุดดาร์คนี้ลอยตัวอยู่ได้ ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ...

Photo Credit: Pixabay
 
1. ขายของอ้างการบริจาค

        มีคนหากินด้วยวิธีนี้เยอะมากกก และพี่เชื่อว่าน้องๆ อาจเคยเจอตามสะพานลอย, หน้าห้างฯ, สถานีรถไฟ ถึงขั้นตามเคาะกริ่งถึง “หน้าบ้าน” เลยก็มี (น่ากลัวมากค่ะ) โดยเหยื่อที่เคยเจอต่างเล่าคล้ายๆ กันว่า คนเหล่านี้จะเดิน/วิ่งมาดักหน้าเราแล้วอธิบายข้อมูลอย่างรวดเร็ว พร้อมแสดงหลักฐานความน่าสงสารให้ดู เช่น ภาพเด็กพิการ, เด็กกำพร้า, คนชรา, หมาแมวจรจัด ฯลฯ จากนั้นเขาจะชวนเราบริจาค แต่ให้เงินเฉยๆ ไม่ได้นะ ต้อง “ซื้อของ” เท่านั้น เช่น เซ็ตแก้วน้ำ ตุ๊กตา ฯลฯ ราคามีตั้งแต่หลายร้อยถึงหลายพัน ให้เลือกระดับตามความพอใจ แล้วเขาบอกว่าจะรวบรวมเงินไปส่งต่อให้ผู้เดือดร้อนเอง(เหรอ!!) ซึ่งจริงๆ แล้วอาจเข้ามูลนิธิเสี้ยวเดียวไม่ก็เก็บเข้ากระเป๋าตัวเองสบายใจนั่นแหละค่ะ

        ถ้าน้องๆ ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ อย่าเพิ่งลนลานทำอะไรไม่ถูก หรือแพ้ความกดดันจนยอมจ่ายให้จบๆ ลองโทรไปเช็กตามเบอร์ก่อน หรือลองหยอดคำถามไป มิจฉาชีพที่คิดไม่ทันมักจะตอบอ้ำๆ อึ้งๆ วกเข้าเรื่องบุญตลอด ยังไงซะ ถ้าให้ดีที่สุด พี่แนะนำให้เข้าไปบริจาคกับมูลนิธิโดยตรง รับรองถึงมือคนที่กำลังต้องการแน่นอนค่ะ
 

Photo by Ben White on Unsplash

 
2. ขอเรี่ยไรเงินตามน้ำ
 
        เวลาบางพื้นที่เกิดภัยพิบัติ หรือมีคนกลุ่มไหนกำลังเดือดร้อนต้องการเงิน จะมีองค์กรหรือมูลนิธิจำนวนมากออกมารับเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือพวกเขา เป็นโอกาสเหมาะที่มิจฉาชีพที่เป็น "ใครก็ไม่รู้" จะแฝงตัวมาขอบริจาคกับเขาด้วย อย่างเช่นเคสหญิงสาวนางหนึ่งที่ไปขโมยรูปสุนัขบาดเจ็บมาจากเพจมูลนิธิ พร้อมโพสต์แคปชั่นแสดงความเห็นใจเต็มที่ และยินดีเป็นตัวแทนรับเงินเพื่อไปรักษา ทำให้คนไม่น้อยหลงกลโอนไปให้ สุดท้ายโป๊ะแตกโดนจับได้แล้วแจ้งความ
 
        คำแนะนำเพื่อไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อ น้องๆ ต้องดูความน่าเชื่อถือของคนรับบริจาคก่อน โทรไปถามตรงนั้นเลยว่าเขาเป็นตัวแทนจากมูลนิธิจริงๆ หรือไม่ หลังจากบริจาคไปแล้วให้ติดตามผล ซึ่งโดยปกติแล้วจิตอาสาจริงๆ จะอัปเดตหลักฐาน พร้อมถ่ายภาพยืนยันว่าไปมอบให้ผู้เดือดร้อนจริงๆ เพื่อแสดงความโปร่งใส คราวนี้ก็เหลือแค่เราต้องสังเกตว่าหลักฐานนั้นมีพิรุธไหม


Photo by Kira auf der Heide on Unsplash


3. ตั้งมูลนิธิเถื่อนบังหน้า
 
        ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่ามูลนิธิที่ดีจริงๆ มีเยอะมาก แต่ก็มีมูลนิธิที่มิจฉาชีพฉวยโอกาสมั่วนิ่มเมกขึ้นมาเหมือนกัน แถมลงข้อมูลรายละเอียดไว้อย่างแนบเนียนจนคนจับไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะมีกลุ่มไหนเดินมาขอความช่วยเหลือ เราก้ต้องเช็กประวัติให้ดีก่อน และหมั่นติดตามข่าวสารเพื่อให้ทราบว่ามูลนิธิไหนติดแบลกลิสต์อยู่บ้าง อีกข้อแนะนำนึงคือให้ลองเสิร์ชชื่อในเน็ตหรือโทรไปตามเบอร์ที่เขียนไว้ เพราะเหยื่อที่เคยเจอเล่าว่า เขาเคยรู้สึกเอะใจตอนหลังจึงลองโทรไป...ปรากฏว่าเบอร์นั้นไม่มีผู้ใช้งานจริง (เงินไปไหนล่ะทีนี้!)


Photo by Štefan Štefančík on Unsplash


4. จัดค่ายแบบไม่จริงใจ
 
        การจะจัดค่ายขึ้นมาได้สักครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องวางแผนโครงการให้รัดกุม ต้องมีองค์กรที่น่าเชื่อถือมารองรับ และสามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมได้ ทว่ามันจะมีบางค่ายที่ดูไม่มืออาชีพ อธิบายงานเหมือนด้นสด แต่ละกิจกรรมก็ดูแปร่งๆ เหมือนทำให้ผ่านไปจบๆ แถมยังไม่มีองค์กรที่น่าเชื่อถือมารองรับเลย ถ้าเจอแบบนี้สงสัยได้เลยค่ะว่าค่ายเหล่านี้ถูกจัดมาบังหน้าเพื่อให้กลุ่มที่รับผิดชอบเบิกงบไปใช้ได้ โดยเงินก้อนนั้นจะถูกหยิบมาใช้กับค่ายแค่ส่วนหนึ่ง นอกนั้นเข้ากระเป๋าตัวเอง คนที่ตั้งใจทำความดี เป็นอันได้กอดเก็บประสบการณ์แย่ๆ กลับไปแทน
 
        ดังนั้นถ้าน้องๆ คนไหนกำลังสนใจค่าย แนะนำให้เลือกจากแหล่งที่เชื่อถือได้ จากนั้นสอบถามเพื่อดูเชิงว่าเขารู้จริงหรือตอบแบบขอไปที (ถ้าใครมองหาอยู่ ดูตัวอย่างเว็บไซต์จิตอาสาได้ที่นี่ค่ะ)  
 

Photo by Andrew Ly on Unsplash

 
5. ใช้ระบบเก็บเงินปลายทาง

        ถ้าใครติดตามข่าวช่วงนี้จะพบว่ามีมอเตอร์ไซค์รับจ้างพลเมืองดีจำนวนมาก บริการรับส่งประชาชนที่เดินทางไปร่วมแสดงความอาลัยในหลวง ร.9 โดยไม่คิดเงิน แต่โชคร้ายดันมีคนมามั่วนิ่มทำทีเป็นมอเตอร์ไซค์จิตอาสา แล้วเรียกเก็บค่าโดยสารเมื่อถึงปลายทาง (อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา!) แถมจำนวนเงินที่เก็บก็ดูขูดรีดมากๆ ซะด้วย ฟันกำไรหัวแบะกันเลยทีเดียว
 
        นอกจากนี้ยังมีวิธีคล้ายๆ กันคือยืนแจกของ พอเราเผลอรับก็รั้งเราไว้แล้วเรียกเก็บเงิน มีคนเจอบ่อยเหมือนกัน อย่าลืมพกสติไว้ด้วย ถ้ารับอะไรมาแบบงงๆ เดี๋ยวเงินจะหายแบบงงๆ นะคะ


 


        เป็นยังไงบ้างคะกับเทคนิคสุดฉลาดของคนที่หากินกับความใจบุญ คนกลุ่มนี้พบเห็นได้บ่อยก็จริงค่ะ แต่พี่เชื่อเลยว่าถ้าชาว Dek-D ทุกคนสังเกต ตั้งสติ และเป็นหูเป็นตามากขึ้น คนที่เป็นจิตอาสาจริงๆ จะมีกำลังใจทำงานต่อไป ส่วนประชากรจิตอาสาปลอมๆ ต้องลดจำนวนลงแน่นอนค่ะ :)
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

มัณทนา Member 27 ต.ค. 60 14:18 น. 1

เราเคยเจอกลุ่มบุคคลประเภทที่ 3 ค่ะ

ตามสะพานลอยที่เชื่อมต่อระหว่างบิ๊กซี พระราม 2 กับเซ็นทรัลพระราม 2

แม้กระทั่งภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ยังมีอีก

นอกจากนี้ยังเคยมากดกริ่งหน้าบ้าน

ถ้าใครอยากจะทำบุญบริจาคเงินให้กับมูลนิธิจริงๆ

ควรจะเดินทางไปที่สถานที่ตั้งของมูลนิธิดีกว่าค่ะ

เรากับแม่เคยไปที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและได้ทำบุญด้วย

0
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

มัณทนา Member 27 ต.ค. 60 14:18 น. 1

เราเคยเจอกลุ่มบุคคลประเภทที่ 3 ค่ะ

ตามสะพานลอยที่เชื่อมต่อระหว่างบิ๊กซี พระราม 2 กับเซ็นทรัลพระราม 2

แม้กระทั่งภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ยังมีอีก

นอกจากนี้ยังเคยมากดกริ่งหน้าบ้าน

ถ้าใครอยากจะทำบุญบริจาคเงินให้กับมูลนิธิจริงๆ

ควรจะเดินทางไปที่สถานที่ตั้งของมูลนิธิดีกว่าค่ะ

เรากับแม่เคยไปที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและได้ทำบุญด้วย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด