เชื่อว่าทุกคนต้องมีบ้างแหละ~ อะไรที่ทำไปแล้วคิดว่าต้องเจ๋งมากเท่มาก แต่พอยุคสมัยเปลี่ยน อายุมากขึ้น หรือความคิดเราโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ก็มาย้อนคิดว่าพฤติกรรมพวกนั้นมันเท่ตรงไหนเนี่ย...(มีปุ่มลบความทรงจำไหม? T^T) อย่างเช่นพฤติกรรมต่อไปนี้!
1. รวมพลเป็นแก๊งสุดเท่
ไม่แน่ว่าใครแถวนี้อาจเคยเป็นอดีตมือขวาแก๊งพยัคฆ์ทมิฬ, เป็นหัวหน้าแก๊งมังกรบิน หรือเป็นลูกน้องในแก๊งนางฟ้าจอมซนก็เป็นได้! เรียกว่าชื่อมีหลายสไตล์ตั้งแต่คิกขุอาโนเนะไปจนถึงโหดเหี้ยมอำมหิต จำได้ว่าเมื่อก่อนก็ชอบเจอเด็กมัธยมชวนมาแชร์ชื่อแก๊งเท่ๆ ของตัวเองตามเว็บบอร์ดเหมือนกัน อย่างว่าแหละ...คนไหนมีแก๊งก็จะรู้สึกตัวเองมีพรรคพวก ไปไหนไปกันได้ ระดับความเท่ความมั่นใจดูจะพุ่งสูงสุดขีด บางคนอาจมีประสบการณ์เผชิญศึกแห่งศักดิ์ศรี ไปประลองฝีปากท้าต่อยตีกับแก๊งอื่นด้วย ประมาณว่าลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้! หรือถ้าแบบสร้างสรรค์ขึ้นมาหน่อยคือรวมแก๊งสานฝันคนชอบเล่นดนตรีหรือกีฬา
พอนึกถึงแล้วบางคนอาจเขินๆ ตัวเองเมื่อก่อน แต่ก็ยอมรับว่าแก๊งคือสีสันวัยเรียนจริงๆ แถมมีหลายคนที่ยังคงสนิทกับเพื่อนร่วมแก๊งของตัวเองจนถึงตอนโตอีกด้วย
2. ประกาศตัวตนตามสถานที่สาธารณะ
'โลกออกจะกว้าง จะให้นั่งอยู่เงียบๆ คงเบื่อแย่!' พอคิดเสร็จก็จะหาวิธีประกาศศักดาให้โลกรู้ว่าเรามีตัวตนอยู่นะ เอาใกล้ตัวสุดก็ขีดเขียนโต๊ะเรียน รองลงมาพ่นกำแพง เขียนประตูห้องน้ำ เขียนเบาะรถเมล์ ฯลฯ ลงดีเทลทั้งชื่อตัวเอง ต่อด้วยห้องเรียน, ชื่อแก๊ง, ชื่อรุ่น, ชื่อสถาบัน, ชื่อหมู่บ้านตำบล/อำเภอ, เบอร์โทร บางคนมีแฟนก็ลงชื่อแฟนหรือคนที่แอบชอบ พอนึกๆ ดูทำไมเราเป็นคนเปิดเผยและทำลายทรัพย์สินของสาธารณะได้ขนาดนั้นเนี่ย T_T
3. สูบบุหรี่พร้อมแอ็กท่าบาดใจ
ภาพนักเรียนแอบครูไปสูบบุหรี่มีให้เห็นบ่อยๆ บางทียืนคนเดียว บางทีก็อยู่เป็นแก๊ง อัพเกรดขึ้นมาหน่อยก็พยายามออกแบบท่ายืน ท่าคีบบุหรี่ หรือจัดองศาหน้าให้ดูเท่ที่สุด(ในสายตาเรา) แถมร่วมแชร์สารพิษให้สังคมด้วยการพ่นควัน ทั้งหลายทั้งมวลคือคิดเองเออเองว่าเท่ ทั้งที่ไม่มีใครเห็นอย่างนั้นเลย
Photo by Amritanshu Sikdar on Unsplash
4. สถาปนาตัวเองเป็นเน็ตไอดอล + เรียกยอดฟอลทางลัด(แบบผิดๆ)
ถือเป็นเทรนด์ฮิตในยุคหลังๆ นี้เหมือนกัน กับการที่มีเด็กชายเด็กหญิงมาโพสต์รูปตัวเองหรือเต้นยั่วเรียกยอดไลก์ ที่เด็ดกว่าคือตั้งเงื่อนไขให้คอมเมนต์ แล้วเดี๋ยวเขา/เธอจะสุ่มผู้โชคดีเพื่อคอมเมนต์บอกฝันดีในช่องแชทหรือหน้าวอลล์ของตัวเอง! (งานนี้มีการตลาดเข้ามาเอี่ยวด้วยจ้า) ปรากฏว่ายอดคนติดตามก็พุ่งสูงมาก แต่พอโตขึ้นมาอีกนิดความเครียดก็สูงตามเหมือนกันค่ะ เพราะทุกคนจำได้ว่าเมื่อก่อนเราทำอะไรลงไปบ้าง ถ้าใครรู้ตัวว่าตัวเองหาหนทางดังแบบผิดๆ รีบหันหลังกลับให้ทันนะคะ
5. ตบตีโดยมีรักเป็นเดิมพัน
ฟังดูเหมือนมีแค่ละคร แต่ถ้าเห็นข่าวหรือคลิปที่ว่อนในโลกโซเชียล จะรู้เลยว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นจริง(บ่อยด้วย) บางครั้งก็เป็นเพื่อนกัน หรือรุ่นพี่รุ่นน้องตบกันก็มี เรียกว่าเป็นมหกรรมลดศักดิ์ศรีครั้งใหญ่ของเด็กใจแตก ผลที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่โดนทำโทษ แต่ทั้งเสียประวัติและภาพลักษณ์ เผลอๆ ส่งผลต่อหน้าที่การงานด้วย หลายคนที่โตมากับวีรกรรมนี้เลยนึกเสียใจทีหลังอยู่เหมือนกัน ถ้าโชคดีหน่อยก็ไม่มีใครขุดมาพูดถึงอีก
6. ขอเงินพ่อแม่ซื้อของแพงตามกระแส
สังคมอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ไวมาก ซึ่งบางครั้งก็ต้องจ่ายราคาแพง เช่น สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด, เสื้อผ้าแบรนด์เนม, เครื่องเขียนสุดฮิต ฯลฯ บางคนกลัวเพื่อนไม่ยอมรับ กลัวตกเทรนด์ เดี๋ยวไม่เท่ไม่แนวเหมือนคนอื่น เลยไปขอพ่อแม่ ถ้าไม่สำเร็จก็คอยกดดันอีก ลืมคิดไปว่าเดือนนึงท่านมีค่าใช้จ่ายอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ นี่แหละคือสิ่งที่คนวัยทำงานอยากไปเตือนเด็กๆ ว่าอย่าขอเงินท่านเยอะเกินไปเลยนะ ถ้าวันนึงได้รู้ว่าเงินหายากแค่ไหน เราต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ ค่ะ
7. โพสต์กร่างๆ - โพสต์ทุกอย่างที่คิด
เชื่อว่าต้องมีหลายคนย้อนไปอ่านโพสต์เก่าๆ แล้วเขินสิ่งที่ตัวเองโพสต์ ทั้งเรื่องดราม่า, โชว์พาว, บอกรัก, เสียดสีสังคม ฯลฯ บางคนโพสต์ถี่ๆ วันละหลายๆ รอบจนโดนเพื่อน Unfollow ไปแบบไม่รู้ตัว เอาจริงมันก็คือพื้นที่ระบายอารมณ์แหละ แต่สิ่งที่เราโพสต์จะบ่งบอกได้ว่าเราควบคุมอารมณ์ได้ดีแค่ไหน และมีนิสัยใจคอยังไงบ้าง แม้กระทั่งคนดังที่กราฟชีวิตกำลังพุ่ง ก็สามารถตกม้าตายเพราะสิ่งที่ตัวเองเคยโพสต์ไว้ได้เหมือนกัน ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยไหน ก็ต้องตั้งสติก่อนโพสต์นะคะ
8. ใช้ภาษาต่างดาว
เคยไหม? พิมพ์ภาษาไทยแบบแปลกๆ ดัดแปลงเกือบทั้งประโยคจนไม่เหลือเค้าเดิม เช่น ณ๊ค๊, คร๊า, คั๊บ, มั่ย, หวาดดีจร้า ฯลฯ วันดีคืนดีลองออกเสียงตามแล้วรู้สึกว่าเสียงมันประหลาดมาก บางคำหดสั้นกว่าที่ควรจะเป็น บางประโยคก็ยานคางจนเมื่อยปาก โชคดีที่ส่วนใหญ่พอโตขึ้น นิสัยการตั้งใจพิมพ์ผิดแบบนี้มักค่อยๆ หายไปเพราะการพิมพ์ให้ถูกต้องดูน่าเชื่อถือกว่าหลายเท่า หลังจากนั้นเมื่อมีโอกาสย้อนไปอ่านข้อความเก่าๆ ของเรา เป็นอันต้องงงว่าเราพิมพ์อะไรลงไปเนี่ย!
จะว่าไปแล้ว ประสบการณ์ดีบ้างไม่ดีบ้างอาจกลายเป็นเรื่องขำๆ ไว้เม้าท์ตอนโต หรือเป็นบทเรียนสอนเราได้เหมือนกันนะคะ สิ่งที่พี่มาแชร์เป็นแค่ตัวอย่างพอกรุบกริบ ถ้าใครเคยทำอะไรไว้ พี่ชวนมาพูดคุยกับเพื่อนๆ ชาว Dek-D ดู บางทีอาจเจอคนมีประสบการณ์ร่วมแปลกๆ เหมือนกันก็เป็นได้~
2 ความคิดเห็น
โอ๊ยยย ข้อขอพ่อแม่ซื้อของนี่คือแบบสุดๆ
นึกย้อนไปแล้วอยากเขกหัวตัวเองและด่า นังล้างผลาญญญ จะซื้ออะไรนักหนา ของไม่จำเป็นก็เก็บตังค์ซื้อเอาซิ โทรศัพท์น่ะเปลี่ยนอะไรบ่อยๆ คิดว่าพ่อแม่รวยนักหรอออ
เรื่องโพสทุกอย่างที่คิดนี่ก็อีก-_-
มันย้อนมาให้เห็นแทบทุกวันใน on this day เฟสบุ๊ค
อ่านแล้วรู้สึกเวทนา ..นี่ฉันโพสอะไรบ้าๆแบบนี้ไปได้ไง
รู้สึกเหมือนเป็นเฟสบุ๊คคนเป็นเมนส์ตลอดเวลา ด่ากราดโน่นนี่นั่นทุกอย่าง เอิ่ม..
ไม่เคยสักข้อนะ แต่เคยเบียว ผ่านมา2ปีแล้วนึกถึงตอนนั้น อายมากกกกก ใครเคยเบียวจะเข้าใจฟีลลิ่งนี้ดี โชคดีที่เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยะูดกับใคร แต่จำสิ่งที่คิดตอนนั้นได้แล้วแบบ โอ๊ยยย ชั้นคิดได้ไงเนี่ยTT