สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com รีวิวหนังสือเตรียมสอบมาก็เยอะแล้ว วันนี้มารีวิวหนังสืออ่านเล่นบ้างดีกว่า แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นหนังสือความรู้และหนังสือภาษาต่างประเทศอยู่ค่ะ เพียงแต่ความรู้ในเล่มนี้ จริงๆ จะไม่รู้ก็ไม่เป็นไรนะ

Global Review คือหมวดรีวิวสินค้า-บริการของต่างประเทศ หรือสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ 
โดยผู้เขียนมีประสบการณ์การทดลองใช้หรือเดินทางไปด้วยตนเอง

ชื่อหนังสือ: The Perfectly Useless Book of Useless Information: You'll Never Need to Know Anything That's in This Book...But Read it Anyway
ผู้เขียน: Don Voorhees
สำนักพิมพ์: Penguin Publishing Group
ปีที่พิมพ์: 2010
ราคา: 14 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 470 บาท
ลักษณะกระดาษ: กระดาษรีไซเคิลถนอมสายตาสีน้ำตาลอ่อน เนื้อหยาบ

     ใครรู้ตัวว่าชอบความรู้รอบตัวหรือคลั่งไคล้พวกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมากกว่าเนื้อหาหลักๆ ที่ต้องเรียนในหลักสูตร น่าจะชื่นชอบหนังสือเล่มนี้รวมถึงเล่มอื่นในซีรี่ส์เดียวกันด้วยค่ะ เพราะอัดแน่นด้วยข้อมูลความรู้ที่ไม่ออกข้อสอบ และไม่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แต่ก็อาจเป็นตัวจุดประเด็นเวลาคุยกับคนอื่นก็เป็นได้

     หนังสือเล่มนี้จะเรียบๆ มีแต่ตัวหนังสือ ไม่มีภาพประกอบ แต่ก็จัดหน้าให้อ่านง่ายค่ะ ข้อมูลแต่ละข้อมูลจะขึ้นย่อหน้าไม่ตรงกัน และมีระยะห่างกันเยอะ แต่ละข้อมูลยาวไม่กี่บรรทัด ทำให้อ่านง่าย ตัวภาษาที่้ใช้ก็ไม่ซับซ้อนนะคะ มีศัพท์เฉพาะทางบ้างบางที แต่ก็เอาไว้เปิดพจนานุกรมหาความหมายเองได้ค่ะ นอกจากนี้ที่จะได้ฝึกอ่านอะไรท้าทายกันก็คงเป็นลักษณะการเขียนแบบประชด และเขียนแบบปฏิเสธซ้อนปฏิเสธเพื่อจิกกัด ซึ่งเห็นได้ตั้งแต่ชื่อรองของหนังสือเลยค่ะที่ว่า You'll Never Need to Know Anything That's in This Book...But Read it Anyway (คุณจะไม่มีวันจำเป็นจะต้องรู้อะไรก็ตามในหนังสือเล่มนี้ แต่ก็อ่านมันไปเถอะ)

     เนื้อหาในหนังสือแบ่งเป็นบทใหญ่ๆ 11 บทค่ะ แต่ละบทก็มีเนื้อหาแยกย่อยก็ไปอีกเยอะมาก ส่วนมากก็คือการจัดกลุ่มข้อมูลที่เยอะแยะกระจัดกระจายให้มาอยู่เป็นหมวดหมู่หาง่ายขึ้นนั่นเอง อย่างบทแรกมีชื่อว่า Let the Games Begin ก็มีข้อมูลเกร็ดความรู้เกี่ยวกับกีฬา การแข่งขัน เกม ทีมที่เข้าแข่ง รวมถึงสถานที่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่บทสุดท้าย Back in the Day เป็นข้อมูลเกร็ดความรู้และสถิติแบบที่ไม่มีในวิชาประวัติศาสตร์ในห้องเรียน เช่น อาชีพสมัยก่อนในต่างแดนที่ไม่มีแล้วในตอนนี้ บทลงโทษในอดีต หรือตำนานที่ไม่คุ้นหูกันแล้วในตอนนี้

     ส่วนข้อมูลที่ใส่ในหนังสือนั้น ด้วยความที่เป็นหนังสือตั้งแต่ปี 2010 ก็จะทำให้ข้อมูลบางอย่าง โดยเฉพาะพวก "ที่สุด" อาจจะโดนทำลายสถิติไปบ้างแล้วค่ะ เวลาอ่านก็ใช้วิจารณญาณกันด้วยนะคะ แต่ถ้าเป็นข้อมูลว่าใครทำอะไรไปเมื่อไหร่ แบบนี้ยังโอเคค่ะ หรือจะอุดหนุนเล่มอื่นในซีรี่ส์ของผู้เขียนคนนี้ก็ได้ค่ะ เขาเขียนหนังสือคลังข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องรู้แบบเล่มนี้เยอะมากเลย

The Book of Totally Useless Information (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 1993)
Thoughts for the Throne: The Ultimate Bathroom Book of Useless Information (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 1995)
Why Does Popcorn Pop? And 201 Other Fascinating Facts about Food (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 1995)
Quickies: Fascinating Facts about the Facts of Life (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2004)
Why Do Donuts Have Holes? Fascinating Facts about What We Eat and Drink (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2004)
Disgusting Things: A Miscellany (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2008)
The Essential Book of Useless Information: The Most Unimportant Things You'll Never Need to Know (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2009)
The Indispensable Book of Useless Information: Just When You Thought It Couldn't Get Any More Useless--It Does (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2011)
The Super Book of Useless Information: The Most Powerfully Unnecessary Things You Never Need to Know (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2011)
The Incredible Book of Useless Information: Even More Pointlessly Unnecessary Knowledge (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2012)
The Extraordinary Book of Useless Information: The Most Fascinating Facts That Don't Really Matter (ปีที่พิมพ์ครั้งแรก 2013)

     แค่ชื่อหนังสือก็ทำให้ได้เห็นคำขยายเยอะแยะแล้ว ไหนจะชื่อรองที่ทำให้น่าอ่านอีก เล่มที่พี่มีซื้อตอนไปต่างประเทศมาค่ะ ตอนนั้นลดครึ่งราคาด้วยเลยซื้อมาลองอ่านค่ะ ในหัวเลยเต็มไปด้วยข้อมูลที่น่าเอาไปตอบในรายการตอบคำถามชิงเงินรางวัลเลย ส่วนที่ไทย สามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือนำเข้านะคะ ลองเสิร์ชแล้วเจออยู่หลายร้านค่ะ

     ตัวอย่างข้อมูลจากในหนังสือ

- ก่อนปี 1930 เครื่องบินพาณิชย์สมัยนั้นมีแต่พนักงานต้อนรับบนเครื่องที่เป็นผู้ชาย
- Monte dei Paschi di Siena เป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังเปิดให้บริการถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยเริ่มจากเป็นโรงรับจำนำมาก่อนในปี 1472
- กฎหมายสหรัฐอเมริกาห้ามให้ละครหรือภาพยนตร์ใช้เด็กแรกเกิดอายุต่ำกว่า 15 วันในการแสดง
- คำที่ใช้เรียกชาวโมนาโค คือคำว่า Monégasque
- ฉากจูบข้ามชาติพันธุ์ครั้งแรกทางทีวี คือฉากจูบของกัปตันเคิร์กกับอูฮูร่า ในซีรี่ส์ Star Trek ฉบับออริจินัล
- ตัวสัญลักษณ์ที่พิมพ์มั่วๆ เพื่อใช้แทนคำหยาบ เช่น @#$%!?& มีชื่อเรียกว่า grawlix

     ใครชื่นชอบข้อมูลแนวนี้ก็ลองหามาอ่านดูนะคะ เพลินดี ได้ฝึกอ่านภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยค่ะ ส่วนรอบนี้ไม่มีให้คะแนนนะคะ เพราะค่อนข้างเป็นหนังสือเบ็ดเตล็ดซะมากกว่า แล้วก็ไม่สามารถให้คะแนนโดยใช้เกณฑ์เดิมได้ครบทุกเกณฑ์ค่ะ