เราต้องเชื่อก่อนว่า “ตัวละคร” คือคนหนึ่งที่มีตัวตนจริง
แล้วคนอ่านก็จะเชื่อและรู้สึกร่วมไปด้วยได้ง่ายขึ้น
สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน ช่วงนี้อากาศก็อุ่นจนร้อนขึ้นทุกวันเลยนะคะ แต่ยังไม่พอค่ะ เพราะ อากาศก็ทำให้เราอุ่นแค่กาย แต่นักเขียนที่จะมาพบทุกคนในวันนี้จะทำให้น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคนอบอุ่นไปถึงหัวใจด้วยนิยายเรื่อง “ไออุ่นศูนย์องศา” นิยายที่บอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่ออกเดินทางตามหาความฝันไกลถึงประเทศญี่ปุ่น!

นักเขียนเจ้าของนามปากกา "ฮันนี่"
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลย ทักทาย แนะนำตัวกับชาวเด็กดีเรากันหน่อย
ฮันนี่ : สวัสดีค่ะ ฮันนี่ นะคะ ปัจจุบันเรียนจบแล้ว จากสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น สาขามัลติมีเดีย ตอนนี้เขียนนิยายอย่างเดียวค่ะ กะว่าจะนำพล็อตทั้งหลายที่มีในหัวออกมาเป็นเรื่องเป็นราวให้หมดก่อน ค่อยไปทำงาน ก็ใช้เวลาหลังเรียนจบอย่างคุ้มค่า ฮา แต่งไว้หลายเรื่องเลย ลงในเด็กดีเอาไว้ให้ลองอ่านกันแล้ว ฝากเนื้อฝากตัว ฝากนิยายเอาไว้ด้วยนะคะ
นามปากกา “ฮันนี่” นี้ได้แต่ใดมาคะ ตอนตั้งคิดนานหรือเปล่าเอ่ย
ฮันนี่ : นามปากกาเป็นชื่อที่เพื่อนเรียกมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เพราะชื่อจริงเราค่อนข้างโหล เพื่อนเลยเรียก “ฮันนี่” แทน ตอนเริ่มแต่งไม่ได้คิดว่าจะแต่งมานานขนาดนี้ เลยเลือกชื่อที่เป็นตัวเราเรียกง่าย จำง่ายเอาไว้ก่อน จึงไม่ค่อยเหมือนนามปากกาเท่าไหร่ เหมือนชื่อมากกว่า แต่เวลาคนอ่านเรียกก็รู้สึกเป็นกันเองดีค่ะ เหมือนได้คุยกับเพื่อน
แล้วมาเริ่มต้นเขียนนิยายได้อย่างไร อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เดินทางสายนี้
ฮันนี่ : นักเขียนทุกคนคงเป็นแบบเรา คือเป็นคนชอบอ่านมาตั้งแต่เด็ก ชอบขีดชอบเขียนด้วย ตอนประถมส่งเรื่องสั้นประกวดกับนิตยสารตลอด ไม่เคยได้รางวัลใหญ่เลย ได้แต่ผ้าขนหนู (รางวัลชมเชย) >< โตขึ้นหน่อยก็เขียนใส่สมุดอ่านเอง จนได้มาอ่านนิยายวาย และอยากแต่งในแบบของตัวเองบ้าง ลงในเว็บโดยไม่ได้คาดหวังอะไร แค่อยากให้คนอ่านสนุกไปกับเรา เหมือนที่เราสนุกกับมันตอนที่ลงมือเขียน
เล่าให้ฟังหน่อยสิ ตอนลงมือเขียนนิยายครั้งแรกยากไหม
ฮันนี่ : ไม่เลยค่ะ เราไม่เคยตั้งกฎเกณฑ์อะไรให้กับการเขียน อยากให้เรื่องราวเป็นยังไงก็ปล่อยไปตามที่ใจต้องการ เรื่องแรกก็แต่งแบบที่ตัวเองอยากอ่าน ง่ายๆ คือตามใจตัวเอง ฮาพอโตขึ้นหน่อย ถึงได้เริ่มปรับปรุงอะไรหลายๆ อย่าง จนถึงตอนนี้ก็ยังต้องพัฒนาอีกเยอะเลยแต่ไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องยากสนุกกับทุกเรื่องที่ลงมือแต่งเลย^^
เรื่องแรกที่เขียนคืออะไร จำได้ไหมคะ เม้าให้ฟังหน่อยๆ
ฮันนี่ : ย้อนไปเรื่องแรกที่แต่งจริงๆ ก็จำไม่ได้แล้ว T_T เอาเป็นวายเรื่องแรกที่แต่งแล้วกัน เรื่อง “ผมชอบพี่จีบพี่ได้ไหมครับ” มาจากที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีนายเอกที่จีบพระเอกก่อน เราต้องการอ่านมากจนต้องแต่งเองซะเลย เป็นเรื่องของเด็กปีหนึ่งชื่อสีน้ำ ไปจีบรุ่นพี่ที่ชื่อไอแดดด้วยสารพัดวิธีจนคนพี่ต้องตกหลุมรัก เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้ตัวว่าการเขียนนิยายลงเว็บทำให้มีความสุขขนาดไหน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักอ่าน ได้กำลังใจที่ไม่คิดว่าจะได้รับ จนหยุดเขียนไม่ได้มาจนทุกวันนี้ค่ะ
มาพูดถึงนิยายเรื่อง “ไออุ่นศูนย์องศา” กันบ้าง เรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไรคะ
ฮันนี่ : ที่จริงแต่งเรื่องเกี่ยวกับฤดูฝนมาก่อน ตั้งใจจะแต่งให้ครบสามฤดูของไทย จึงคิดว่าเอ๊ะ หน้าหนาวจะแต่งแบบไหนดีนะ อยากให้เป็นความหนาวที่อบอุ่น แต่เมืองไทยก็ไม่ได้หนาวมากด้วย ลองมองดูต่างประเทศที่มีหน้าหนาว มาลงเอยที่ญี่ปุ่นค่ะ
เรื่องนี้ “ชะคราม” นายเอกหนีพี่ชายไปเที่ยวญี่ปุ่นจนทำให้เจอกับพระเอกใช่ไหม ทำไมเราถึงเลือกให้ทั้งคู่เจอกันที่ประเทศนี้ล่ะ
ฮันนี่ : ส่วนตัวชอบประเทศญี่ปุ่นมากอยู่แล้วค่ะ มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ญี่ปุ่นหลายครั้ง รู้สึกว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ และมีชีวิต มีรายละเอียดมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหงา คนญี่ปุ่นจะใช้ชีวิตค่อนข้างรวดเร็ว และเป็นส่วนตัว กินข้าวตามร้านอาหารคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว จึงคิดตัวละคร “พี่ปุ่น” ซึ่งเป็นพระเอกขึ้นมา การไปอยู่ต่างประเทศคนเดียวจะทำให้ในใจหนาวขนาดไหน จากนั้นส่ง “ชะคราม” นายเอกจะเข้ามาป่วนทำให้หน้าหนาวนี้กลายเป็นหน้าหนาวที่ไม่เหงา และพี่ปุ่นเองก็แบ่งความอบอุ่นให้นายเอกของเราด้วย อยากให้คนอ่านได้ไปเที่ยวกับหนุ่มๆ ผ่านทางตัวอักษรและเรื่องราวของคนสองคนค่ะ
แอบได้ข่าวมาว่า อ่านเรื่องนี้แล้ว อบอุ่น ละมุนหัวใจมากกกกก จริงไหมคะ
ฮันนี่ : ตามชื่อเรื่องเลย ถึงอุณหภูมิจะศูนย์องศา แต่เรื่องนี้จะทำให้คนอ่านอบอุ่นในใจได้อย่างแน่นอนพระเอกของเราถึงจะดูนิ่งๆ แต่คอยดูแลเอาใจใส่ น้องชะครามอย่างดี พาไปเที่ยว ไปกินของอร่อยในโอซาก้า ลองอ่านดูนะคะ แล้วจะรู้ว่าหน้าหนาวที่อบอุ่นมีอยู่จริง ^///^
เม้าหน่อยๆ มีฉากไหนในนิยายที่เราเขียนแล้วรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษบ้างหรือไหม
ฮันนี่ : ส่วนที่ชอบมากที่สุด เป็นตอนที่พี่ปุ่นพาชะครามไปวัด ที่ญี่ปุ่นมีสถานที่และกิจกรรมมากมายที่บอกว่าจะทำให้คนสมหวัง เช่น ลอดผ่านเสา ยกกระบอง หรือดื่มน้ำจากน้ำตก ทำให้ชะครามคิดว่า ถ้าทำให้ตัวเองผอมก็ลอดผ่านเสาได้ หรือฝึกจนแข็งแรงก็ยกกระบองขึ้นได้ ไม่เห็นจะทำให้สมหวังได้จริง พี่ปุ่นเลยตอบว่า
“สิ่งที่จะทำให้ความปรารถนาเป็นจริง ไม่ได้สำเร็จแค่เพราะมีความหวัง
แต่ต้องมีความพยายาม นายว่าจริงไหม?”
คนไทยมีความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กราบไหว้ ขอพรกันมากมาย คนญี่ปุ่นเองก็คงเหมือนกัน แต่เราสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในสถานที่ขอพรพวกนี้ อยากให้คนอ่านได้รู้สึกกับส่วนนี้ว่า คนเราจะมีความหวังมากมาย หรือยากแค่ไหนก็ได้ ขอแค่เราพยายาม สักวันมันจะเป็นจริงค่ะ
แชร์เคล็ดลับหน่อยสิ เวลาที่เริ่มต้นเขียนนิยาย ระหว่าง “การวางพล็อตเรื่อง” กับ “สร้างตัวละคร” เราทำอย่างไหนก่อนกันคะ เพราะอะไร
ฮันนี่ : อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละเรื่องด้วย แต่ส่วนใหญ่เริ่มจากสร้างตัวละครก่อน เพราะเราให้ความสำคัญกับการมีชีวิตของพวกเขา สมมติว่า เราสร้าง “ชะคราม” ขึ้นมาให้เป็นเด็กกินเก่ง อุปนิสัยของน้องจะมีผลต่อพล็อตเรื่องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฉากบอกรัก ฉากที่เสียใจ หรือโกรธ ที่จะแทรกการกิน ความหิว หรือให้น้องนึกถึงอาหารไปด้วย ตัวละครแต่ละตัวเขาก็จะแก้ปัญหาและแสดงออกต่างกัน ทำให้เส้นเรื่องต้องดำเนินไปตามตัวละคร และช่วยให้พวกเขาดูมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ คือเราต้องเชื่อก่อนว่า “ชะคราม” คือเด็กคนหนึ่งที่มีตัวตนจริง คนอ่านก็จะเชื่อและรู้สึกร่วมไปด้วยได้ง่ายขึ้นค่ะ
ถ้าให้เปรียบนิยายเรื่องนี้กับอะไรสักอย่างบนโลก “ไออุ่นศูนย์องศา” คือ….
ฮันนี่ : คือ โอเด้งร้อนๆ ในอากาศหนาวจัด ทำให้อบอุ่น และให้รสสัมผัสที่ไม่จัดจ้านแต่กลมกล่อม เป็นนิยายที่ไม่ได้มีดราม่าหนักหน่วง หรือมีบทตื่นเต้นเร้าใจ แต่ความเรียบง่ายของชะครามกับพี่ปุ่นจะทำให้หลงรักและอยากกลับมาอ่านอีกอย่างแน่นอน^^
ขอเหตุผล 3 ข้อ อะไรที่ทำให้นักอ่านตกหลุมรักนิยายเรื่องนี้ อย่างถอนตัวไม่ขึ้น!
ฮันนี่ : 1. บรรยากาศของญี่ปุ่น โดยเฉพาะโอซาก้า แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เขียนโดยได้สัมผัสมาจริง พยายามถ่ายทอดทุกตัวอักษรทำให้คนอ่านรู้สึกเหมือนได้ท่องเที่ยวไปกับหนุ่มๆ ด้วย
2. อาหาร! ไออุ่นศูนย์องศา เป็นนิยายที่เต็มไปด้วยอาหารและขนมญี่ปุ่น ที่แค่อ่านก็อาจจะได้กลิ่นลอยออกมา ชวนให้หิว และจินตนาการได้ไม่ยาก
3. การพยายามไล่ตามความฝันของชะคราม และความพยายามก้าวผ่านความลำบากจะทำให้ทุกคนที่กำลังสู้เพื่อความฝันในตอนนี้มีกำลังและสู้ไปพร้อมๆ กันค่ะ
คติประจำใจในการเขียนนิยายของ “ฮันนี่” คือ...
ฮันนี่ : เขียนในสิ่งที่รู้สึก และรู้สึกกับสิ่งที่เขียน ถ้าเราไม่เศร้าตอนเขียน ไม่รู้สึกกับสิ่งที่กำลังถ่ายทอด ก็ไม่มีทางที่จะเข้าถึงใจคนอ่านได้ค่ะ อีกอย่างที่สำคัญก็คือ อย่าละทิ้งความเป็นตัวเราและอย่าทิ้งคนอ่าน ไม่ว่าจะมีคนอ่านเหลือน้อยแค่ไหน ก็จะพยายามเขียนต่อให้จบค่ะ
อยากบอกอะไรกับนักอ่านที่คอยติดตามผลงานของเรา
ฮันนี่ : ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ไม่ว่าเราจะเขียนช้า เขียนเร็ว เขียนผิด ก็ช่วยกันตักเตือน อินกับเรื่องราวเวลาที่เศร้า หรือโกรธเวลาที่พระเอกหรือนายเอกทำตัวแย่ คุณมีความสุขที่ได้อ่าน เราก็มีความสุขมากๆ ที่ได้เขียน จะเขียนอยู่ตรงนี้ไม่หนีไปไหนแน่นอน อยู่ด้วยกันอย่างนี้นานๆ นะคะ
ฝากอะไรถึงชาวเด็กดีที่อยากเป็นนักเขียนกันสักนิด
ฮันนี่ : สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น มันอาจยากที่ใครสักคนจะมาเห็นนิยายของเราจากหลายร้อยหลายพันเรื่อง แต่ขอให้ยึดความตั้งใจแรกของเราเอาไว้ มีความสุขกับมัน เพราะอย่างน้อยก็มีเราคนหนึ่งที่พอใจ ไม่ต้องพยายามแต่งเพื่อเอาใจใคร เพราะนั่นหมายความว่าแม้แต่ตัวเราเองก็ไม่มีความสุข ไม่สนุกกับมัน สร้างตัวละครขึ้นมา ก็รักเขาให้มากๆ อย่าเปลี่ยนแปลงเขาเพราะคนอื่นบอกเลยนะคะ อดทน และเขียนไปจนจบ สุดท้ายเราจะภูมิใจกับตัวเอง ว่าเราทำสำเร็จแล้วนะ! ^^
มาถึงข้อสุดท้ายกันแล้ว ก่อนจากลากันไป มาบอกลาชาวเด็กดี และฝากผลงานกันหน่อย
ฮันนี่ : ให้ชะครามกับพี่ปุ่นพาไปท่องเที่ยวในโอซาก้านะคะ รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักหนุ่มๆ และประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน มามีฤดูหนาวที่อบอุ่นด้วยกันค่ะและสัญญาว่าจะมีนิยาย ออกมาให้ติดตามเรื่อยๆ เลย
สุดท้ายฝากนิยายในเซ็ตสามฤดูของเรา ใต้ร่มวันฝนซา – ฤดูฝน ไออุ่นศูนย์องศา- ฤดูหนาว และฤดูร้อนในช้อนหวานเย็น – ฤดูร้อน เรื่องใหม่ล่าสุด ขอบคุณทุกคนที่ชอบนิยายของเรา และขอบคุณทีมงานเด็กดีที่ให้โอกาสได้มาพูดคุยกันวันนี้ด้วยนะคะ
******************************************
“เขียนในสิ่งที่รู้สึก และรู้สึกกับสิ่งที่เขียน ถ้าเราไม่เศร้าตอนเขียน ไม่รู้สึกกับสิ่งที่กำลังถ่ายทอด ก็ไม่มีทางที่จะเข้าถึงใจคนอ่านได้” เป็นคำพูดของฮันนี่ที่พี่หญิงเห็นด้วยสุดๆ เลยค่ะ เพราะถ้าแม้แต่เราที่เป็นคนเขียนยังไม่อินไปกับเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาเลย แล้วนักอ่านจะสนุกไปกับนิยายของเราได้ยังไง จริงไหม?
สุดท้ายนี้ พี่หญิงขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ครั้งหน้า วันนี้สวัสดีค่ะ
พี่หญิง




2 ความคิดเห็น
เป็นแฟนนิยายของพี่ฮันนี่ค่ะ ชอบแนวการเขียนของพี่มากค่ะ เป็นแนวฟีลกู๊ดที่อ่านแล้วละมุนหัวใจมากเลย แต่เรื่องที่เศร้าพี่ฮันนี่ก็แต่งเก่งนะ เราชอบมากเลย ไปตามอ่านเรื่องแรกๆของพี่เค้ามาด้วย ขอบคุณพี่ฮนนี่เหมือนกันที่ทำให้เราได้มีนิยายดีๆอ่าน แถมพี่ฮันนี่ยังเป็นนักเขียนที่สอดแทรกข้อคิดของนิยายแต่ละเรื่องด้วย อ่านแล้วได้มุมมองใหม่ๆเสมอเลยค่ะ ทำให้เราได้คิดตามไปด้วยเหมือนกัน ขอให้พี่ฮันนี่ต่งนิยายให้เราได้อ่านกันเยอะๆนะคะ จะเป็น FC พี่ฮันนี่เสมอน้าาาาา ให้กำลังใจและมีนักอ่านคนนี้รอนิยายของพี่เสมอนะคะ
ปล.เราเคยมีความคิดที่จะเขียนนิยายด้วยแหละ >//< แต่ไม่รอด555++ มาสายอ่านแหลกอย่างเดียวง่ายกว่าเยอะ555+++
ดีใจที่ชอบเช่นกันค่ะ รักกกกกก
อ่านตั้งแต่อยู่มัธยมปลายจนตอนนี้จะจบมหาลัยอยู่แล้วค่ะ รู้จักพี่ฮันนี่จากอีกเว็บนึง สีน้ำกับพี่ไอแดด ฟองดูว์ชูครีมนี่เป็นสองเรื่องที่ย้อนกลับไปอ่านบ่อยที่สุดเลยค่ะ ทุกครั้งที่อ่านนิยายของพี่เขามันรู้สึกอินมากๆ เป็นภาษาที่ซึมเข้ามาในความคิดเราได้ตลอด เป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้เสมอ
โห รู้จักกันมาเนิ่นนาน ขอบคุณมากๆ นะคะ เขินเลย