Big Story ที่จะหาคำตอบกับเรื่องนี้
- จากเมียน้อยในละคร สู่เมียน้อยในชีวิตจริง
- เปิดผลวิจัยชื่อดัง เก็บข้อมูลเมียน้อย 6 คน
- เพราะอะไร ? ทั้ง 6 ถึงจึงตัดสินใจเป็นเมียน้อย
- ไม่ใช่ความรัก แต่เพราะอยากเอาชนะจริงเหรอ ?
- แนะวัยรุ่นที่ดูละครเมีย 2018 สอนอะไรให้คิดบ้าง ?
- สิ่งที่กันยา ต่างจากอรุณาอย่างสิ้นเชิง
- จากเมียน้อยในละคร สู่เมียน้อยในชีวิตจริง
- เปิดผลวิจัยชื่อดัง เก็บข้อมูลเมียน้อย 6 คน
- เพราะอะไร ? ทั้ง 6 ถึงจึงตัดสินใจเป็นเมียน้อย
- ไม่ใช่ความรัก แต่เพราะอยากเอาชนะจริงเหรอ ?
- แนะวัยรุ่นที่ดูละครเมีย 2018 สอนอะไรให้คิดบ้าง ?
- สิ่งที่กันยา ต่างจากอรุณาอย่างสิ้นเชิง
กำลังเป็นที่พูดถึงสำหรับละครเมีย 2018 ที่กำลังออกอากาศทางช่อง ONE ช่อง 31 ซึ่งบทละครเป็นเรื่องราวของครอบครัวพ่อแม่ลูก ที่เกิดปัญหาเมียน้อย จนทำให้ครอบครัวแตกแยก นำมาซึ่งความทุกข์ทรมานของทุกฝ่าย นำแสดงโดย ป้อง ณวัฒน์, บี น้ำทิพย์ และมารี เบิร์นเนอร์ จากเมียน้อยในละคร วันนี้ Big Story จะพามาฟังมุมมองเมียน้อยในชีวิตจริงกันบ้าง ผ่านงานวิจัยชื่อดัง ที่ลงทุนไปเก็บข้อมูลจากผู้หญิงที่อยู่ในสถานะ "เมียน้อย" ถึง 6 คน พร้อมกันนี้จากกระแสละครเรื่องดังกล่าว เราจะไปคุยกับ นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนเรื่องการรับชมของละครเรื่องนี้ของวัยรุ่นด้วยครับ
เก็บข้อมูล ผญ.ที่เป็นเมียน้อยไม่ต่ำกว่า 3 ปี 6 คน
งานวิจัยที่กล่าวถึงนี้มีชื่อว่า "เมียน้อย : กระบวนการตัดสินใจและการปรับตัว" เป็นวิทยานิพนธ์ของ นางสาวสุภาวดี มนัสปิยะเลิศ นักศึกษาปริญญาโท คณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2548 โดยได้ไปเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้หญิงที่อยู่ในสถานะ "เมียน้อย" ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทั้งหมด 6 คน เพื่อศึกษาแนวคิดการตัดสินใจ การปรับตัว และการดำเนินชีวิตประจำวันของเมียน้อย
ในบทที่ 4 ของงานวิจัยได้การสรุปเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงทั้ง 6 คนตัดสินใจไปเป็นเมียน้อยคนอื่น มีตั้งแต่พื้นฐานครอบครัว ปัญหาสุขภาพ ความผูกพันทางอารมณ์ ไปจนถึงลบคำสบประมาท หรือการอยากเอาชนะเมียหลวง
เคส 1 จากปัญหาครอบครัว สู่การตัดสินใจ
"ฝน" หนึ่งในเมียน้อยของงานวิจัยเรื่องนี้ บอกว่าเหตุผลหลักมาจากสภาพครอบครัวของเธอที่แตกแยก พ่อแม่ทะเลาะกันอยู่ประจำ เพราะพ่อมีเมียหลายคน เธอไม่เคยมีความสุขเลย และเธอรู้สึกว่าเมียน้อยของพ่อ คือต้นตอความลำบากทั้งหมด จนกระทั่งโตขึ้นได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาพยายามเข้าหา และพยายามเข้าใจในปัญหาที่ฝนได้เจอ พร้อมให้กำลังใจตลอด ทำให้ฝนรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ไม่คิดเกินเลย เพราะรู้ว่าผู้ชายมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่ปัญหาระหว่างพ่อแม่และเมียน้อย ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ และเธอรู้สึกเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาคงสถานะเมียน้อยกับผู้ชายคนดังกล่าว
เคส 2 อยากเอาชนะ ลบคำสบประมาท
"ผัวXไม่เอาใครจริงหรอก แค่เล่นๆ" นี่เป็นประโยคสำคัญที่ทำให้ "ทิพย์" เข้าสู่การเป็นเมียน้อย เธอเล่าว่า เธอเป็นเมียน้อยของสามีเพื่อน ระหว่างที่เพื่อนติดคุกนานเกือบ 10 ปี หลังจากพ้นโทษเพื่อนคนนั้นได้รู้ความจริง และมาพูดกับเธอว่า.. "สามีคบใครไม่นานหรอก ไม่เอาใครจริง เดี๋ยวก็เลิก" พอเพื่อนพูดแบบนั้นจึงทำให้เธออยากเอาชนะ ให้เมียเขารู้เธอไม่ใช่เป็นของเล่นใคร และในที่สุดผู้ชายก็มาอยู่กับเธอแบบประจำ และเธอก็มีความรักให้ผู้ชายคนนี้แล้ว จึงตัดสินใจสู่สถานะเมียน้อย
อ่านวิจัยฉบับเต็มๆ คลิก http://digi.library.tu.ac.th/thesis/so/0105/
ดูละครเมีย 2018 อย่างวัยรุ่น!
ดร.วิไลภรณ์ จิรวัฒนเศรษฐ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้แนะนำการรับชมของละครเรื่องนี้ของวัยรุ่นไว้อย่างน่าสนใจว่า.. ละครเมีย 2018 ละครที่นำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างจากหลายๆ เรื่อง เพราะละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวชีวิตหลังแต่งงาน ในขณะที่ละครหลายๆ เรื่องมักเป็นเรื่องราวที่นำเสนอความรัก การแย่งชิง เพื่อให้พระเอกนางเอกสมหวังและจบลงด้วยฉากแต่งงาน
แต่ถ้าเราเปรียบเทียบชีวิตจริงๆ ของคนเรา เรื่องราวหลังแต่งงาน คือ อีกเรื่องราวที่เราไม่รู้ว่ามันจะออกหัวหรือก้อย ดังนั้น สิ่งที่ผู้ชมโดยเฉพาะวัยรุ่นจะได้เรียนรู้จากละครเรื่องนี้คือ คำว่า Happy Ending ของละครเป็นเพียงมายาคติ เพราะชีวิตจริงคุณจะเห็นได้จากเรื่องราวของละครเรื่องนี้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น คุณไม่สามารถเดาได้เลยว่า เมื่อจบฉากแต่งงานอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อชีวิตต้องเจอกับปัญหาแล้วคุณจะก้าวข้ามมันด้วยสติได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เชื่อว่าถ้าเราชมและคิดตาม เราจะได้แนวคิดการดำเนินชีวิตดีๆ จากละครเรื่องนี้ อรุณาเองก็สติแตกเมื่อรู้ว่าสามีมีคนอื่นและเจ็บมากเพราะเป็นน้องสาวของตัวเอง แต่โชคดีของอรุณาที่มีเพื่อนที่ดี มีผู้ชายที่ดีที่เข้ามาในจังหวะที่ลงตัว และมีแม่ที่สอนและเตือนสติอย่างแนบเนียนผ่านลูกชุบและเกี๊ยวน้ำ
ทุกคนพลาดได้ แต่สำคัญพลาดแล้วแก้อย่างไร?
ในทฤษฎีด้านนิเทศศาสตร์ จะมีทฤษฎีชื่อว่า Media Cultivation Theory คือ ทฤษฎีการอบรมบ่มเพาะจากสื่อ นั่นหมายถึง การที่เรารับสารจากสื่อต่างๆ ซ้ำๆ บ่อยๆ มันเปรียบเสมือนการปลูกฝังแนวคิด ทัศนคติ รูปแบบการดำเนินชีวิต ดังนั้นเมื่อดูละครเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่ามันจัดอยู่ในกลุ่มละครน้ำดีที่ปลูกฝังแนวคิดดีๆ แม้ว่าหลักของการทำละครต้องมีสีสัน ต้องเรื่องราวที่เกินจริงบ้าง แต่เชื่อว่าคนดูละครเรื่องนี้จะได้รับนั่นก็คือ...
ชีวิตครอบครัวไม่ได้สวยงามเสมอไป ฉะนั้นในความเป็นวัยรุ่นที่มีประสบการณ์น้อย เราอาจจะตัดสินใจทำอะไรที่ผิดพลาดได้ง่าย แต่หากเราดูละครด้วยความตั้งใจ ใส่ใจในข้อคิดที่ซ่อนอยู่ในละครจะรู้ว่าทุกคนสามารถก้าวพลาดได้ แต่พลาดแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร เช่น ธาดากับอรุณาที่มองเห็นปัญหาของลูกที่เกิดจากปัญหาของพ่อแม่ จนทั้งสองคนต้องตั้งสติ และกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเพื่อลูก ฉะนั้นในชีวิตของเรามีอะไรบ้างที่เราพลาดเพราะคำว่าขาดสติ ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกับเรื่องราวของตัวละครเพื่อปรับเปลี่ยนสิ่งแย่ๆ ให้ดีขึ้น เพราะชีวิตมันยิ่งกว่าละคร คุณไม่สามารถเขียนบทให้มันจบได้อย่างที่ต้องการ แต่คุณมีหน้าที่ที่ต้องตั้งสติเพื่อแก้ปัญหา แม้อรุณาจะมีคนที่คอยให้กำลังใจมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วเราจะลุกขึ้นยืนได้หรือไม่ก็อยู่ที่ตัวเราเป็นหลัก
ผู้หญิงเป็นเพศที่พร้อมเสียสละ ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัว และความก้าวหน้า ทั้งหมดนี้เพื่อความสุขของครอบครัว แต่ผู้หญิงยุคใหม่ ต้องมีก๊อก 2 เมื่อชีวิตเกิดปัญหา อ่อนน้อม อ่อนหวานได้ แต่อย่าได้อ่อนแอ
คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่ความสวยงาม หุ่นหน้าตา หรือแค่ภาพลักษณ์ภายนอกอย่างที่หลายๆ คนให้ความสำคัญ แม้ในช่วงเปลี่ยนแปลงชีวิตของอรุณา เธอจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว หน้าผมใหม่หมด แต่ในความเป็นจริงของสาระในละคร ความสำเร็จของอรุณาจนได้เป็นท็อปเซลล์ เป็นพิธีกร มีหนังสือของตัวเอง ก็เกิดจากความสามารถและการใช้ชีวิตอย่างมีสติ และลุกขึ้นสู้อีกครั้งอย่างตั้งใจและไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง นั่นต่างหากคือคุณค่าและความงามที่แท้จริงของผู้หญิงยุคใหม่
สิ่งที่กันยา ต่างจากอรุณา อย่างสิ้นเชิง!
หากเราเปรียบเทียบอรุณากับกันยา เราก็จะเห็นภาพความจริงที่ละครสอนเราโดยที่ไม่ได้ป่าวประกาศดังๆ เพราะกันยา คือภาพของผู้หญิงที่สวย ทันสมัย จบนอก แต่ขาดสติ ชีวิตของเธอจึงสวนทางกับอรุณาโดยสิ้นเชิง เพราะความงามคือภาพมายา แต่ความสามารถและจิตใจที่สวยงามคือภาพจริงที่มีคุณค่า เหมือนกับคำเปรียบเทียบของคุณแม่ของอรุณา ลูกชุบคือขนมที่สวยงามจากรูปลักษณ์และสีสันภายนอก แต่อร่อยเพราะรสชาติภายใน
ดังนั้น ชีวิตคนเราจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ สวยแล้วก็ต้องเก่งและมีค่าในตัวเอง อย่าประมาทกับการใช้ชีวิต เช่นชีวิตของธาดา เพียงอารมณ์ชั่ววูบไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยาก็ทำให้ครอบครัวที่อบอุ่นพังทลายได้เพียงชั่วข้ามคืน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามในชีวิตจริงของคนเรา การใช้ชีวิตอย่างมีสติและซื่อสัตย์คือสิ่งที่เราควรยึดมั่น



4 ความคิดเห็น
ภูมิใจมากเหรอคะที่ได้เป็นเมียน้อยกินน้ำใต้ศอกและมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น
เคยอ่านกระทู้พันทิปอันนึง
เมียน้อยติดต่อลูกเมียหลวงมาหลังจากสามีเสีย อ้างว่าสามีฝากฝังให้เมียหลวงดูแลเมียน้อยกับลูกของเมียน้อยที่ยังเรียนประถมอยู่ มีเอาจดหมายให้ดูด้วย บอกว่าสามีเขียนฝากฝังมาจริงๆ มาบอกให้ลูกเมียหลวงทำตามคำสั่งเสียของพ่อตัวเองด้วย
อ่านแล้วขึ้นมาก คงจะสิ้นไร้ไม้ตอกสุดๆแล้ว ไม่มีใครให้เกาะ เลยกล้าบากหน้ามาหาครอบครัวที่ตัวเองเคยทำลายเขาซะป่นปี้ให้เขาเลี้ยงดู หน้าไม่อายจริงๆ กรรมตามทันแล้วยังไม่รู้สำนึกอีก
https://pantip.com/topic/34780114
คงกระทู้นี้
ถุ้าถามว่าเคยอ่านไหม เปล่า เจอด้วยแรงเผือกล้วนๆ