Spoil :
- ยาฝังคุมกำเนิด ไม่ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- คุมได้ระยะยาวนานถึง 3-5 ปี (ขึ้นอยู่กับชนิดของยาฝัง)
- อายุไม่เกิน 20 ปี ฝังยาคุมกำเนิดได้ฟรี ตามสิทธิการคุมกำเนิดของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมอนามัย
____________________________
น้องๆ หลายๆ คนอาจจะรู้จักวิธีคุมกำเนิดเพียงแค่ไม่กี่อย่าง เช่น ยากิน หรือถุงยางอนามัย เป็นต้น แต่แน่นอนว่ามันมีวิธีอีกมากมายในการคุมกำเนิด เรามารู้จักยาคุมกำเนิดอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ยาฝังคุมกำเนิด’ ดีกว่า
ยาฝังคุมกำเนิดมีฮอร์โมน Progesterone (Levonogestrel) ที่ช่วยให้คุมกำเนิดได้เกิดจากสองกลไก คือ
1. ทำให้มูกในบริเวณช่องคลอดเหนียวข้นมากขึ้น ทำให้การเดินทางของเหล่าลูกหลานของน้องๆผู้ชายเดินทางมายากขึ้น ทำให้โอกาสของการตั้งขั้นลดลง
2. ทำให้ผนังภายในมดลูกบางลง ยากต่อการฝังตัวเองไข่ที่ผสมกับอสุจิ ทำให้ไม่ตั้งท้องนั่นเอง
โดยข้อดีสำหรับเด็กวัยรุ่นที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งท้อง มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ กลัวการใช้ยาคุมกำเนิด เขินอายที่จะกินยาคุมกำเนิดหรือไม่กล้าใช้ถุงยางอนามัย คือ
1. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมอนามัย ได้เพิ่มสิทธิในการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ฟรี ในคนที่อายุน้อยกว่า 20 ปีทุกคน เพื่อลดอัตราการคลอดบุตรของหญิงวัยรุ่นอายุ ต่ำกว่า 20 ปี โดยเคยมีสถิติไปสูงถึง 50 % ในวัยรุ่นกลุ่มอายุเดียวกัน
2. คุมได้ระยะยาวนานถึง 3-5 ปี (ขึ้นอยู่กับชนิดของยาฝัง) โดยไม่ต้องคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นอีก เพราะฮอร์โมนอยู่ใต้ผิวหนังได้ถูกปล่อยเข้ามาสู่ในร่างกายได้ในระยะยาว
3. สะดวกและไม่ต้องกลัวลืม เพราะแน่นอนว่าน้องๆ ในวัยเรียนมีปัญหาอื่นๆ ที่น่ากลัวกว่าการกลัวการตั้งครรภ์ คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้บางครั้งเรื่องทุกเรื่องเข้ามาปนกันไปหมดจนไม่รู้เรื่องแล้ว ทำให้การทานยาคุมกำเนิดนั้น compliance ไม่ดีครับ การฝังทำให้อยู่ได้ยาวโดยลืมไปเลยว่าเคยมียาคุมฝังที่ต้นแขนเลยทีเดียว
แต่ระวังนะครับ การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ไม่ลดอัตราการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์นะครับ ดังนั้น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยนี่ปลอดภัยที่สุดแล้ว
โดยยาฝังนั้นจะเป็นหลอดของฮอร์โมนขนาดเล็กประมาณ 3 เซนติเมตร ฝังอยู่ใต้ท้องแขนระหว่างชั้นกล้ามเนื้อ ใช้เวลาฝังไม่ถึง 5 นาที ฉีดยาชาแป๊บเดียวเท่านั้น อยู่รอดปลอดภัย
แถมอัตราความสำเร็จก็อยู่สูงสุดในพีระมิดเลยทีเดียว โดยใน 10,000 คน ท้องเพียง 5 คนเท่านั้น (0.05%)
น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะครับสำหรับการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ดังนั้นลุยโลดครับอย่าอาย แต่ว่าไม่ใช่น้องคนไหนไปฝังยาแล้ว ก็หมกมุ่นกับทำการบ้านกับแฟนกันจนไม่ลืมหูลืมตานะครับ อย่าลืมทำการบ้านที่อาจารย์สั่งด้วยล่ะ เดี๋ยวเกรดไม่สวย อิอิ
4 ความคิดเห็น
ถ้าผู้ปกรองไม่เห็นด้วย แต่ตัวเราอยากไปทำเอง ทางโรงพยาบาลจะให้ทำมั้ยคะ
ลองไปถามที่โรงพยาบาลเลยจ้า ไม่ต้องอาย
ขอบคุณ