รีวิว 'ค่ายเพาเวอร์กรีน' ค่ายวิทย์สิ่งแวดล้อมสุดคูล ที่ปั้นคนรุ่นใหม่ให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากว่า 13 ปี

     สวัสดีค่ะชาว Dek-D ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบทั้งชีวิต เชื่อว่าเราต่างถูกสอนมาให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันตั้งแต่ก่อนอ่านออกเขียนได้เลยด้วยซ้ำ ทว่าแปลกตรงที่ทุกคนก็ได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับธรรมชาติอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน ตั้งแต่เศษขยะชิ้นเล็กๆ ลอยตามแม่น้ำมา ไปจนถึงการกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปจนส่งผลให้ระบบนิเวศขาดความสมดุล แล้วก่อเกิดเป็นภัยพิบัติที่คร่าชีวิตผู้คนอย่างโคลนถล่มหรือน้ำป่า
      
     
     เพียงแค่อ่านข้อความไม่กี่บรรทัดนี้ ใครๆ ก็คงทราบดีใช่ไหมคะว่าเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความไม่รู้จักพอของ ‘มนุษย์’ สิ่งมีชีวิตผู้ไม่มีแรงกายมากมาย แต่กลับเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายธรรมชาติได้ด้วยสมองและสองมือนี่แหละ… ว่าแต่ถ้าเรามีอิทธิพลกับโลกขนาดนี้ ลองพลิกบทบาทมาเป็นผู้อนุรักษ์ที่รู้จักบริหารจัดการใช้ประโยชน์สิ่งแวดล้อมได้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนก็คงไม่ใช่เรื่องยากเกินกำลังเช่นกัน ดังนั้นถ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนา ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้อย่างตรงจุด ว่าแล้วก็มาปักหมุดกันที่ “ค่ายเพาเวอร์กรีน  ครั้งที่ 13” กันเลยค่า!!!
      
      
ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามก็บอกยี่ห้อแล้วว่าใครมาค่ายนี้ก็ต้องได้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างจัดเต็มไปแน่นอน แต่พี่ส้มขอเคลมเพิ่มเติมเรื่องประสบการณ์สุดมันส์กันอีกสักหน่อย เพราะผู้ใหญ่ใจดีจากบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขาได้ผนึกกำลังกันจัดวางรูปแบบกิจกรรมค่ายฯ ในปีนี้ภายใต้ธีม “การบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพกับการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์” ที่เรียกได้ว่าท้าทายความสามารถน้องค่าย ม.4-5 สายวิทย์ ทั้ง 70 คน ผู้ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศ ให้ได้มาร่วมกันเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนด้วยการลงมือปฏิบัติในพื้นที่จริง แล้วนำไอเดียที่ได้ไปครีเอตโครงงานสุดเจ๋งประกวดกันต่ออีกด้วยนะจ๊ะ
      
คุณอุเทน ภุมรินทร์ นักสื่อสารธรรมชาติ
ผู้ให้ความรู้ด้านหลักการวาดภาพเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Illustration) และการบันทึกธรรมชาติ (Nature drawing)
             
ชงมาเข้มขนาดนี้ก็โชว์ให้เห็นเลยว่าไม่ใช่แค่ราคาคุยแน่นอน! เพราะเมื่อวันที่ 18 - 25 ตุลาคมที่ผ่านมา บรรดาชาวค่ายเพาเวอร์กรีนก็ได้ยึดพื้นที่คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์เป็นฐานทัพหลักในการทำกิจกรรม และเรียนรู้ทฤษฎีเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชนพร้อมการอนุรักษ์อย่างถูกวิธีแบบติวเข้ม แต่ต่อให้เป็นการบรรยายแบบนี้ก็ไม่มีง่วงเหงาหรอกนะคะ เพราะผู้จัดค่ายฯ เขารู้ใจน้องๆ เลยจัดวิทยากรตบท้ายสำหรับเวิร์กชอปเอาใจวัยรุ่นไว้ด้วย เช่น กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อชุมชน, เวิร์กชอปถ่ายภาพความหลากหลายของชีวภาพของพืชและสัตว์ในเชิงวิทยาศาสตร์, การวาดภาพเชิงวิทยาศาสตร์และการบันทึกธรรมชาติ และการเพิ่มมูลค่าให้ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสร้างสรรค์จ้า     
      
     
     
นี่ว่าอยู่แต่ในสถานที่ก็มีอะไรทำเยอะแยะแล้วนะคะ แต่สำหรับค่ายสุดคูลที่ปลุกปั้นคนรุ่นใหม่ให้กลายเป็นแกนนำและเครือข่ายเยาวชนด้านสิ่งแวดล้อมมาได้ถึง 13 รุ่นแล้วล่ะก็... พวกเขาก็ไปให้สุดด้วยการพาน้องๆ ออกนอกสถานที่ไปสัมผัสบรรยากาศของชุมชนต้นแบบทั้งที่จังหวัดนครปฐมและกาญจนบุรีกันซะเลย อยากเห็นแล้วล่ะสิว่าชาวค่ายฯ เขาไปลุยอะไรกันมาบ้าง ตามมา ตามมาาาา!!! 
       
      
     
เริ่มที่นครปฐม ภายในแอเรียใกล้ๆ มหาวิทยาลัย น้องค่ายฯ ก็ได้เข้าไปเยี่ยมชมเรียนรู้และทำความเข้าใจวิถีชีวิตของชาวสวนผู้รวมกลุ่มจัดตั้ง “โรงเรียนชาวสวนคลองจินดา” พร้อมทั้งศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้ทรัพยากรทางชีวภาพในเชิงพาณิชย์ผ่านแนวคิด “สามพรานโมเดล” ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน แถมยังได้ช็อป ชิม ชิลไปกับตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่าง 'ตลาดสุขใจ' อีกด้วยค่ะ 
      
       
       
ว่าแต่จะมาตากอากาศสบายๆ ก็คงไม่ใช่ค่ายสิน้าา พอล้อรถหยุดจอดที่ตำบลลุ่มสุ่ม จังหวัดกาญจนบุรี งานนี้เด็กๆ ก็เลยได้สลับบทบาทมาเป็นลูกบ้านของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คุณลุงทิวา สุดประเสริฐ ที่สอนให้แต่ละคนนำเศษไม้ไผ่มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เก๋ๆ ด้วยฝีมือตัวเองดูบ้างจ้า ซึ่งก็เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบฉบับของคนที่หากินกับผืนป่า ที่จะต้องใช้ไม้ทุกต้นแบบไม่เสียเปล่า และจัดกิจกรรมฟื้นฟูป่าเป็นประจำอีกด้วย ได้เห็นภาพแล้วชื่นใจจังเนอะ :)
 
 
      
 
   
หลังจากน้องๆ ออกไปกระตุกต่อมครีเอทีฟให้เต้นตุบตับ ก็ถึงเวลาที่แต่ละกลุ่มต้องมารับโจทย์ให้ไปคิดโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมมาประกวดกันแล้วค่ะ งานนี้ไม่ได้แข่งกันแบบไก่กา เพราะว่าต้องนำความรู้ที่ได้ตลอดกิจกรรมทั้งหมดมาตกผลึกเป็นโครงงานฯ ที่สร้างสรรค์ ใช้งานได้จริง พร้อมนำเสนอแก่สาธารณชนและคณะกรรมการค่ายฯ ด้วยนะ เอาแล้ว! ไหนๆ โครงงานฯ ไหนเด็ดบ้าง พี่ส้มขออนุญาตไปสำรวจสักครู่นะคะ 
    
     
ต้องบอกเลยว่าโครงงานฯ ของแต่ละกลุ่มนี่เก่งกล้าเกินวัยและน่าสนใจมากๆ ค่ะ เช่น “ผล-ละ-มุก” โครงงานที่มีแนวคิดในการสกัดสารเพคตินจากเปลือกผลไม้ที่เหลือทิ้ง เช่น กล้วย แตงโม มาผลิตเป็นเม็ดไข่มุกในเครื่องดื่มที่ให้พลังงานน้อยกว่าไข่มุกทั่วไปกว่า 21 เท่า และ “Green Clean” โครงงานที่ได้หยิบความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นของสมาชิกในกลุ่มมารวมกัน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ด้วยการจัดธีมเทรนด์ของกินและของใช้เพื่อสุขภาพจากทรัพยากรท้องถิ่นในชุมชน เช่น ต้นเทพทาโร เห็ดถอบ ปลาสลิด สับปะรดค่ะ (แค่ได้ยินชื่อวัตถุดิบแต่ละอย่างของน้องๆ พี่ส้มก็อยากกินขึ้นมาเลยล่ะ เพราะหวังจะสุขภาพดีกับเขาบ้าง ^^) ฯลฯ
     
          
แม้จะมีหลายโครงงานฯ ที่เด็ดดวงพวงมาลัยจนทำกรรมการหนักใจ แต่ในที่สุดก็มีกลุ่มที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 พร้อมทุนการศึกษามูลค่า 10,000 บาทไป ได้แก่โครงงาน “Tanin Banana Peel” ที่มาพร้อมกับแนวคิดในการสกัดสารแทนนินจากเปลือกกล้วยออกมาในรูปแบบผง ที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ในอนาคต เช่น การบำบัดน้ำเสีย อุตสาหกรรมฟอกย้อม ป้องกันศัตรูพื้น และผลิตยารักษาโรค ซึ่งเป็นการลดขยะจากเปลือกกล้วยได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วยค่ะ
      
      
     
     
ได้เจอแชมป์ทั้งที ต้องมีการชวนคุยเกี่ยวกับค่ายฯ และรางวัลที่ได้สักหน่อยค่ะ! และนี่ก็คือ ‘น้องมด - วรรณ์วิสา ผู้ช่วย’ นักเรียนชั้น ม.4 จากโรงเรียนเคียนซาพิทยาคม อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัวแทนของทีมชนะเลิศ... 
     
‘น้องมด - วรรณ์วิสา ผู้ช่วย’
         
น้องมดกล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจมาค่ายนี้มากค่ะ เพราะจากประสบการณ์ที่เคยเรียนในห้องหรือทัศนศึกษา นี่ก็ถือเป็นวิธีเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบใหม่โดยมีวิทยากรมาให้ความรู้ด้านศิลปะควบคู่ไปด้วย ทำให้หนูได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพจริงๆ แต่ก็ไม่ได้เนิร์ดนะ มันสนุกที่เราได้ลงมือทำ ได้เห็นว่านี่คือสิ่งที่เอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากเรื่องความรู้ ค่ายนี้ก็ยังทำให้ได้เจอเพื่อนๆ จากทั่วประเทศที่ชอบวิทยาศาสตร์เหมือนกัน ได้มิตรภาพจากพี่ๆ เพื่อนๆ ด้วย ในปีต่อๆ ไปก็อยากให้สมัครเข้ามากันเยอะๆ ค่ะ”
        
       
     รีวิวทัวร์ทั้งค่ายฯ แถมยังได้ฟังประสบการณ์ตรงของชาว “ค่ายเพาเวอร์กรีน” กันไปแบบเต็มอิ่มแล้ว ใครที่สนใจจะร่วมกิจกรรมที่ได้ความรู้เข้มๆ ความสนุกเต็มๆ และมีสิทธิ์ได้ทุนการศึกษา ก็สามารถติดตามข่าวสารการรับสมัครของค่ายเพาเวอร์กรีนแคมป์ในครั้งต่อไปที่ www.powergreencamp.com และ www.facebook.com/powergreencamp ได้เลยนะคะ ไปเถอะ คุ้มเวอร์!!!
พี่ส้ม
พี่ส้ม - Columnist คนทำคอนเทนต์ออนไลน์ ที่เชื่อว่าใครก็เป็นเด็กดีได้ในสไตล์ของตัวเอง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด