ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา “ชานมไข่มุก” มาแรงจนสะเทือนไปทั้งวงการเครื่องดื่ม ทำให้เครื่องดื่มหลายประเภทมียอดการบริโภคลดลง ซึ่งจริงๆ แล้วชานมไข่มุกมีมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่ปี 1980 เป็นเครื่องดื่มประจำชาติของคนไต้หวันเลย โด่งดังมาในเอเชีย และตอนนี้ขยายไปถึงฝั่งอเมริกาเหนือ และยุโรป เรียบร้อยแล้วจ้า

ธุรกิจร้านชานมไข่มุกในประเทศไทยเติบโตเร็วมาก มากจนน่าตกใจ คือถ้าไปเดินในสยามต้องเจอร้านชานมไข่มุกทุกๆ 10-20 เมตร มีหลากหลายแบรนด์ทั้งของคนไทย หรือนำเข้าจากต่างประเทศ ถ้าจะชิมให้ครบทุกร้านคงต้องใช้เวลาเป็นเดือน! พูดแล้วก็อยากกินอีกแล้ว ก็ชานมไข่มุกทั้งหวาน ทั้งหอม มีเม็ดไข่มุกมาเคี้ยวหนึบๆ เป็นใครก็ต้องหลงรัก

 

ส่วนประกอบของชานมไข่มุก แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนน้ำชานม ที่มีน้ำชา ครีมเทียม นม/นมข้นจืด ครีมเทียม เป็นส่วนผสมที่แต่ละร้านจะมีสูตรไม่เหมือนกัน อีกส่วนคือไข่มุกที่ทำมาจากมันสำปะหลัง ที่กำลังฮิตตอนนี้คือไข่มุกแบบ Brown Sugar หรือน้ำตาลทรายแดง ทำให้ตัวไข่มุกทั้งหนึบทั้งหวาน บวกกับตัวน้ำชานมที่หอมหวานมัน ทำให้ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ต้องกินแทบทุกวัน

ดูจากส่วนประกอบแล้วเห็นเลยว่ามี
แป้ง น้ำตาล นม ครีมเทียม ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน แต่ละแก้วเทียบได้ข้าวประมาณ 3-4 ทัพพี หรือก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งเลยค่ะ ล่าสุดทาง นิตยสารฉลาดซื้อ ได้สำรวจชานมไข่มุกกว่า 25 ยี่ห้อ เปรียบเทียบว่าแต่ละยี่ห้อมีปริมาณเท่าไหร่ เทียบเป็นพลังงงานกี่แคลอรี่ เทียบน้ำตาลให้เห็นเลยว่าแต่ละแก้วมีปริมาณน้ำตาลกี่ช้อนชา จาก 25 ยี่ห้อพบว่ามีกว่า 23 ยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลเกินกว่าที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน (6 ช้อนชา) ถ้ากินทุกวันเสี่ยงเป็นเบาหวานมากเลย แงงงงง T_T

ประเด็นคือ... คนส่วนใหญ่ "ติด" ชานมไข่มุกมากเลย ต้องกินทุกวัน อย่างน้อยวันละแก้ว รู้สึกว่าถ้าไม่กินแล้วร่างกายจะขาดพลังงาน เหตุผลจริงๆ ที่เราติดชานมเพราะว่า ร่างกายของเราสามารถดูดซึมน้ำตาล แป้ง ไขมัน ได้ทันที ทำให้เมื่อกินไปแล้วรู้สึกสดชื่น ยิ่งกินบ่อยๆ จะทำให้สมองจดจำรสชาติเหล่านี้และรับรู้ว่าเราจะต้องมีการบริโภคทุกวัน เพราะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ถ้าวันไหนไม่ได้กินก็จะรู้สึกหงุดหงิด จะสัมผัสได้เลยว่าวันนี้ร่างกายเราขาดน้ำตาล (ซึ่งจริงๆ ก็กินน้ำตาลเกินมาทุกวันอยู่แล้ว) แล้วสุดท้ายก็จบลงที่ เดินไปซื้อมาแก้วหนึ่งละกัน 555+

 

การบริโภคชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เสี่ยงเป็นหลายโรคเลยค่ะ เช่น โรคเบาหวาน, โรคอ้วน, โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด เนื่องจากได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินไป หรือรับปริมาณไขมันที่มากเกิน เมื่อไขมันเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์จะไปสะสมตามบริเวณอวัยวะต่างๆ ทำให้ร่างกายมีภาวะความเสี่ยงในการเกิดโรคขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว

สุดท้ายนี้ถ้าใครติดชานมไข่มุกมากๆ ก็ต้องลองลดปริมาณลงนะคะ อาจจะลดปริมาณข้าวต่อมื้อ หรือลดปริมาณขนม เพื่อเอามาทดแทนกับชานมไข่มุกก็ได้ หรือลองปรับลดอย่างอื่น เช่น ลดปริมาณน้ำตาล, ลดประมาณไข่มุก หรือให้โควตาตัวเองสัปดาห์ละไม่เกิน 2 แก้ว พอ ให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว และจะได้มีเวลากินชานมไข่มุกไปนานๆ

 
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข้อมูลนิตยสารฉลาดซื้อ
FB นิตยสารฉลาดซื้อ
สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
www.posttoday.com
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

ปากกาว่างๆ หัวสมองก็ว่างตาม Member 27 ก.ค. 62 08:36 น. 1

กำลังเสพติด งือออออ น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องหยุดยั้งไปเลยจ้า

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด