Review นิยายน่าอ่าน : ข้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้แล้ว ผู้อื่นเอาไปที! : 4 ยุทธการสละบัลลังก์เพื่อไปพักร้อน ฉบับฮ่องเต้ทรราช!

Review นิยายน่าอ่าน : ข้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้แล้ว ผู้อื่นเอาไปที!
4 ยุทธการสละบัลลังก์เพื่อไปพักร้อน ฉบับฮ่องเต้ทรราช!


“ฮ่องเต้” ตำแหน่งที่ไม่ว่าเปิดไปอ่านนิยายจีนโบราณเรื่องไหน ก็มักเป็นตำแหน่งที่ผู้คนแย่งชิงกันเสมอ ช่างแตกต่างจาก “อวี้เฟิง” ฮ่องเต้จากนิยายเรื่อง “ข้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้แล้ว ผู้อื่นเอาไปที!” ที่นอกจากไม่อยากเป็นฮ่องเต้แล้ว เจ้าตัวยังพยายามสละราชบัลลังก์ให้รัชทายาทที่มีอายุเพียง 5 ขวบ! ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางสำเร็จ เหล่าขุนนาง และฮองเฮาต่างออกตัวคัดค้านความคิดนี้อย่างเต็มที่ แต่มีหรือฮ่องเต้ของเราจะยอม ยังคงงัดแผนเด็ดมาผลักภาระให้พ้นตัว แต่แผนการที่ว่านี้ จะมีอะไรบ้าง ต้องลองมาติดตามใน 4 ยุทธการสละบัลลังก์เพื่อไปพักร้อน ฉบับทรราชไร้ใจ ที่พี่หญิงได้หยิบมาฝากทุกคนกันด้านล่างนี้เลยจ้า

ข้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้แล้ว ผู้อื่นเอาไปที!

ผู้แต่ง : SnaiLife

หมวด  : อดีต ปัจจุบัน อนาคต


คำโปรย

หลังล่วงรู้จุดจบของตัวเองว่าอย่างไรก็ต้องถูกลูกชายคนแรกไม่ก็คนสุดท้ายฆ่าตาย ‘ฮ่องเต้เฉียนเซียวสุยหลง’ จึงได้ตัดสินใจออกราชโองการเกษียณตัวเองจากอาชีพฮ่องเต้อย่างสงบก่อนที่จะถูกผู้อื่นรุมสังหาร
“รัชทายาท เจ้ามานี่”
"พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ”
“พ่อจะยกตำแหน่งฮ่องเต้ให้เจ้าเป็นของขวัญวันเกิดนะ เตรียมรับราชโองการได้”
“ฝ่าบาท! องค์รัชทายาทเพิ่งอายุห้าขวบพ่ะย่ะค่ะ!!”
ก็ถ้าเขาสามารถกบฏข้าได้ตั้งแต่อายุสิบสี่สิบห้า เขาก็ต้องนั่งบัลลังก์ได้ตั้งแต่อายุห้าขวบนี่แหละ ไม่ได้ก็ต้องได้!  แต่ถ้าพวกเจ้าจะให้ข้าอยู่ต่อก็จงจำไว้ว่าในรัชสมัยของข้ามีกฎอยู่ข้อเดียวเท่านั้นคือข้าต้องการความสงบ ฉะนั้นสภาขุนนางห้ามสาดโคลนกัน วังหลังห้ามตีกัน องค์ชายห้ามแย่งบัลลังก์กัน ใครบังอาจฝ่าฝืน... จงมานั่งบัลลังก์แทนข้าซะ!
และเรื่องราวของฮ่องเต้ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อสละราชบัลลังก์ก็ได้เปิดม่านขึ้นเช่นนี้เอง...
 

อวี้เฟิง ฮ่องเต้ผู้ต้องการสละราชบัลลังก์!

ก่อนจะไปพบกับยุทธการสละบัลลังก์ที่ว่านี้ พี่หญิงก็ขอแนะนำให้น้องๆ รู้จักกับนิยายเรื่องนี้กันคร่าวๆ ก่อนเลยค่ะ “ข้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้แล้ว ผู้อื่นเอาไปที!” เป็นเรื่องราวของ “อวี้เฟิง” หรือ “ฮ่องเต้เฉียบเซียวสุยหลง” อดีตองค์ชายรองในรัชสมัยก่อนที่วางแผนฆ่า "อวี้จิน" รัชทายาท ผู้เป็นพี่ชายสายเลือดเดียวกันเพื่อแย่งชิงอำนาจในการสืบทอดราชบัลลังก์ และเขาก็ทำได้สำเร็จ “อวี้เฟิง” ขึ้นเป็นฮ่องเต้ หลงระเริงในอำนาจ ใช้ความโหดเหี้ยมในการปกครองผู้คน ราชสำนักเต็มไปด้วยความไม่สงบ จนกระทั่งในที่สุด กรรมก็ตามสนอง อวี้เฟิง ถูกรัชทายาทผู้เป็นบุตรชายสังหาร เพื่อแก้แค้นให้กัน “อวี้จิน” บิดาที่แท้จริงของตัวเอง…

แต่ใครเลยจะรู้ว่าความตายไม่ใช่จุดจบของเขา หลังจากตาย… พญายมราชใช้พลังส่งให้อวี้เฟิงย้อนเวลากลับมาใช้ชีวิตเป็นฮ่องเต้ แล้วถูกฆ่าตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่อวี้เฟิงไม่สามารถแก้ไขชะตาที่ว่านี้ได้เลย จนกระทั่งการย้อนเวลาครั้งล่าสุด อวี้เฟิงก็เกิดไอเดียสุดบรรเจิดขึ้น คิดว่าในเมื่อเป็นฮ่องเต้แล้วต้องตาย งั้นก็ขอ “ลาออก” จากการเป็นฮ่องเต้ แล้วไปใช้ชีวิตหลังเกษียนโดยการท่องยุทธภพแทนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เรื่องราวของฮ่องเต้ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อสละราชบัลลังก์จึงเริ่มต้นขึ้น!


 

 4 ยุทธการสละบัลลังก์เพื่อไปพักร้อน ฉบับทรราชไร้ใจ
 

ยุทธการที่ 1 หาตัวตายตัวแทน

เมื่อคิดจะสละราชบัลลังก์ก็จำเป็นต้องหาคนมารับช่วงบริหารแผ่นดินต่อ และตัวเลือกของ “อวี้เฟิง” หรือ “ฮ่องเต้เฉียนเซียวสุยหลง” นั้น ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลยค่ะ แต่เป็น “จิ้งเกอ” รัชทายาทตัวน้อย วัย 5 ขวบที่ในอนาคตจะเป็นผู้วางแผนชิงบัลลังก์จากอวี้เฟิงนั่งเอง ด้วยคิดว่าไหนๆ ลูกคนนี้ก็จะเป็นผู้วางแผนชิงบัลลังก์ในอนาคต อวี้เฟิง เลยตัดสินใจช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากดังกล่าวซะ อุทิศตนเป็นผู้สนับสนุนเบอร์หนึ่ง ให้รัชทายาทได้ครองบัลลังก์ตั้งแต่เนิ่นๆ (จะได้ไม่ต้องก่อกบฏ ลดความเสี่ยงที่จะถูกฆ่าตายไปอีกหนึ่ง) แต่น่าเสียดายที่ความตั้งใจครั้งนี้ของอวี้เฟิงถูกเหล่าขุนนาง และฮองเฮาคัดค้านอย่างหนัก ด้วยเหตุผลที่ว่า… รัชทายาทเพิ่งจะอายุ 5 ขวบเท่านั้นเอง!

แหม… อวี้เฟิ่งก็คิดไปได้นะ จะให้เด็กเล็กๆ ขึ้นบริหารแผ่นดินใครจะไปยอม อดทนบริหารแผ่นดินไปก่อน รอให้ลูกโตอีกนิดแล้วค่อยสละราชบัลลังก์แล้วไปพักร้อนก็ยังทันนะ คุณพ่อ ฮ่า

ยุทธการที่ 2 หาตัวช่วย เตรียมการล่วงหน้าให้บัลลังก์มั่นคง

เมื่อไม่สามารถสละบัลลังก์ได้ในทันทีอย่างที่ตั้งใจ อวี้เฟิงก็ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ หันมาบ่มเพาะรัชทายาทให้พร้อมกับการขึ้นครองราชย์แทน ไม่ว่าจะเป็นให้ลองนั่งว่าราชการแทนตอน 10 ขวบ! เป็นตัวแทนในพระราชพิธีสำคัญ ตลอดจนเข้ารับศึกษาจาก "เหวยจวิน" ยอดกุนซือคนสำคัญที่ช่วยให้อวี้เฟิงแย่งชิงบัลลังก์มังกรได้สำเร็จ! 

แต่แอบเม้าเลยว่ากว่าที่อวี้เฟิงจะเป็นเชิญกุนซือคนนี้มาสอนรัชทายาทได้นี่ไม่ง่ายเลย เพราะหลังจากสิ้นสุดสงครามชิงบัลลังก์ได้ไม่นาน อวี้เฟิงดันเผลอไม่มีเรื่องผิดใจกับท่านกุนซือเข้า ท่านกุนซือก็เลยเกิดอาการงอนหนัก ประกาศตัวละทางโลก มุ่งหน้าสู่ทางธรรม เร้นตัวสู่อารามบนเขาลึกลับ ทำให้อวี้เฟิงต้องออกตามหา และงอนง้อเสียนานกว่าจะตามตัวกลับมาได้ ฮ่า 

ตัวอย่างเนื้อหาบางตอน


 

ยุทธการที่ 3 เกลี้ยกล่อมเหล่าขุนนาง 

หลังจากวางแผนสนับสนุน ส่งเสริมความสามารถให้ตัวตายตัวแทนเรียบร้อย ทีนี้ก็ถึงคราวขจัดขวากหนามที่ขัดขวางไม่ให้อวี้เฟิงสละบัลลังก์ได้สำเร็จ ซึ่งด่านแรกที่อวี้เฟิงต้องลงมือจัดการก่อนเลยก็คือเหล่าขุนนางผู้ภักดีที่เริ่มแคลงใจถึงสายเลือดอันแท้จริงของรัชทายาท พวกเขาตั้งข้อสงสัยว่า “จิ้งเกอ” ไม่ใช่ลูกชายที่แท้จริงของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แต่เป็นสายเลือดของรัชทายาทองค์เก่า ผู้เป็นพี่ชายในสายเลือดที่อวี้เฟิงวางแผนฆ่ากับมือ! งานนี้อวี้เฟิงจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง เขาใช้วิธีไหนสร้างความเชื่อมั่นให้กับเหล่าขุนนาง เพื่อที่จะได้มีชีวิตหลังเกษียนอย่างที่ตั้งใจต้องไปติดตามกันเลยค่ะ แต่ขอสปอยล์เลยว่ายุทธวิธีที่อวี้เฟิงหยิบมาใช้นั้นแสนจะไม่ธรรมดา นอกจากเขาจะใช้ความตีมึนไม่สนใจข้อสงสัยดังกล่าวแล้ว อวี้เฟิงยังแสดงความโปรดปรานเข้าข้างลูกชายได้น่ารักน่าหยิกสุดๆ จนอ่านแล้วต้องแอบอมยิ้มตามเลยค่ะ  

ยุทธการที่ 4 วางแผนชีวิตหลังเกษียน

เมื่อหาตัวตายตัวแทนรับตำแหน่งฮ่องเต้ได้สำเร็จ พร้อมเตรียมมอบอำนาจต่อแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราววางแผนชีวิตหลังเกษียน อวี้เฟิงเตรียมแพ็กของใส่กระเป๋าเดินทางเต็มที่ คิดวาดฝันอยากใช้ชีวิตหลังจากลงจากบัลลังก์ไปกับการท่องเที่ยวในยุทธภพ ใช้ชีวิตอิสรเสรี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอำนาจการเมืองใดๆ อีก แต่น่าเสียดายยังไม่ทันที่อวี้เฟิงจะคิดวางแผนการใช้ชีวิตอะไรที่มากไปกว่านั้น  แพลนชีวิตหลังเกษียนที่วางเอาไว้ก็เริ่มมีแววต้องสะดุดลง เมื่ออยู่ๆ พญายมราชก็ขึ้นมาจากนรกแล้วชี้นำให้อวี้เฟิงสงสัยถึงสาเหตุอันแท้จริงที่ทำให้เขาต้องวนเวียน ย้อนเวลากลับมาใช้ชีวิตเป็นฮ่องเต้ทุกครั้งที่ถูกฆ่าตาย อะไรคือความหมายอันแท้จริงของปริศนาที่ท่านยมได้ทิ้งท้ายเอาไว้ อวี้เฟิงต้องทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นวังวนการตายแล้วเกิดใหม่ซ้ำๆ ในช่วงเวลาเดิมแบบนี้ได้ ต้องไปร่วมหาคำตอบกันค่ะ

ตัวอย่างเนื้อหาบางตอน


 

นิยายจีนโบราณที่ไม่เน้นความรัก แต่มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร นี่คือคำนิยามของนิยายเรื่องนี้ค่ะ เพราะอวี้เฟิงเคยได้รับบทเรียนจากการตายในชาติก่อนๆ ว่าการวางแผนร้าย ฆ่ากันตายเพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำให้เขาหลุดพ้นจากชะตากรรมที่ต้องตายซ้ำๆ แบบเดิมได้ พอได้ย้อนเวลากลับมาเริ่มต้นใหม่คราวนี้ อวี้เฟิงเลยได้เรียนรู้ที่จะกลับตัวกลับใจ ลองเป็นความคิดใหม่ จากที่เคยหลงใหลในอำนาจ ก็เปลี่ยนความคิด เริ่มเรียนรู้ที่จะให้ความรักและความจริงใจกับคนรอบข้าง และให้ความสำคัญกับคำว่า “ครอบครัว” มากยิ่งขึ้น คิดใช้ความจริงใจและความรักระหว่าง “พ่อ-ลูก” ป้องกันไม่ให้เกิดการก่อกบฏชิงอำนาจเหมือนหลายๆ ชาติที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งครั้งนี้อวี้เฟิงจะมาสามารถหนีพ้นจากชะตากรรมที่ต้องตายอย่างทุกข์ทรมานได้หรือไม่ ต้องไปลุ้นกันในเรื่องเลยค่ะ

พี่หญิง


พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด