ความหมายของดอกไม้สุดซึ้งตามเดือนเกิด

          แท่แด แท่แด๊ ในที่สุดก็ผ่านพ้นเดือนมกราคมอันยาวนานมาได้ พี่มิลก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเดือนมกราคมก็มีแค่ 31 วันเหมือนเดือนอื่นๆ แต่ทำไมน้อออออ มันจึงดูนานเป็นพิเศษกันนะ แต่ผ่านพ้นไปแล้วก็มาพบกับเดือนกุมภาเดือนแห่งความรัก (ทำตาวิ้งวิบวับ) เริ่มต้นเดือนใครมีคู่ก็เริ่มหาของเซอร์ไพรส์คนรัก ใครโสดก็เศร้าไป แต่ถ้าแอบชอบใครสักคนอยู่ นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการเปิดเผยความรู้สึกก็ได้นะ! 
 

          แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดีย ไม่รู้จะให้อะไรดีหรือถ้าให้ดอกไม้ก็ไม่รู้ว่าจะให้ดอกอะไรดี ให้ดอกนี้ไปก็เคยให้แล้ว ให้ไปก็ซ้ำจำเจ ลองมาให้ดอกไม้ตามเดือนเกิดดูไหม เมื่อผู้รับรู้ว่าดอกไม้ที่ให้ไปนั้นมีความหมายลึกซึ้ง เชื่อว่าจะต้องฟินเป็นพิเศษเพราะแสดงถึงความใส่ใจของผู้ให้ ยังงี้ก็จะสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับเลยล่ะ เขินตัวบิดเลยไม่รู้ด้วยนะ  
 

          เริ่มต้นปีเดือนมกราคมในขั้วโลกเหนือที่หนาวเย็น ดอกคาร์เนชั่นเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่เบ่งบานในเดือนนั้น สื่อถึงความรัก ความมีเสน่ห์แพรวพราว ความชื่นชอบ การรักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ใครได้รับคือน่าอิจฉามาก โดยแต่ละสีก็จะมีความหมายโดดเด่นกันออกไปนะ เช่น สีแดงหมายถึงเรารักเราหลง สีชมพูออกแนวหวาน ฉันคิดถึงคุณตลอดเวลา สีขาวก็สื่อได้ว่าคนที่ได้รับดอกนั้นไม้มีค่ากับเขามากแค่ไหน ส่วนสีเหลืองแสดงถึงความเหยียดหยาม (อย่าเผลอซื้อดอกไม้สีเหลืองไปให้ใครเชียวล่ะ!)
 

   รู้ไหมว่า : ดอกคาร์เนชั่นก็เป็นสัญลักษณ์แทนความรักของแม่ในวันแม่ของชาวอเมริกัน มีตำนานเชื่อว่าดอกคาร์เนชั่นดอกแรกบานขึ้นมาจากความเสียใจที่น้ำตาของพระแม่มารีหยดลงบนพื้นดินเมื่อเห็นพระเยซูถูกตรึงแขน
 

          เข้าสู่เดือนแห่งความรัก แต่สีดอกไม้ประจำเดือนนี้กลับเป็นสีม่วงของดอกไอริส สื่อถึงความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความบริสุทธิ์ เป็นดอกไม้ที่นิยมเป็นอย่างมากในยุควิคตอเรีย 
 

   รู้ไหมว่า : ชื่อของดอกไอริสมาจากชื่อเทพีไอริสแห่งตำนานกรีก หรือที่เขาเรียกกันว่าเทพีแห่งสายรุ้ง นอกจากนี้คนในประเทศอียิปต์เองก็มีความเชื่อว่ากลีบทั้งสามของดอกไอริสแสดงถึงความศรัทธา ปัญญา และความกล้าหาญ
 

..................................................
 

          เมื่อเริ่มเดือนมีนาคม หลังจากผ่านฤดูหนาวเย็นจนเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ดอกแดฟโฟดิลจะเบ่งบาน ดอกแดฟโฟดิลสื่อถึงมิตรภาพ ความสุข ใครได้รับดอกนี้จะโชคดีไปทั้งปีเลยล่ะ
 

   รู้ไหมว่า : ดอกแดฟโฟดิลมีอีกชื่อนึงว่าดอกนาร์ซิสซัส เป็นชื่อของชายหนุ่มรูปงามในตำนานกรีกที่หลงตัวเองและชอบพูดจาเหยียดหยามคนอื่น จึงถูกสาปให้หลงรักตัวเองจนไม่เป็นอันหลับอันนอน สุดท้ายจึงใช้กริซแทงที่หัวใจตัวเองจนตาย เมื่อเทพแอฟโฟไดเห็นจึงสงสาร เลยเนรมิตดอกไม้เกิดขึ้นตรงที่นาร์ซิสซัสตายกลายเป็นดอกนาร์ซิสซัสหรือดอกแดฟโฟดิลในปัจจุบัน
 

     ดอกกุหลาบสีแดง สื่อถึงความหมายตรงตัวเลยว่ารัก ความรักที่มั่นคงและจริงจัง ถ้าโสดอยู่แล้วได้รับแปลว่ามีคนกำลังแอบชอบ แอบปลื้มเราอยู่นะ  

     ดอกกุหลาบสีชมพู ความหมายก็หวานแหววตามสีของดอกกุหลาบเลยฮะ สื่อถึงความรักที่กำลังพองโต โรแมนติก นุ่มนวล อ่อนหวาน

    ดอกกุหลาบสีขาว สื่อถึงความรักที่แสนบริสุทธิ์ รักโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่มีเจตนาร้าย เสมือนว่านี่คือรักแท้

    ดอกกุหลาบสีฟ้าหรือน้ำเงิน ดอกไม้สีนี้ก็เริ่มฮิตเอามากๆ แต่ความหมายก็อาจจะเศร้าๆ ปนโรแมนติก สื่อถึงความรักที่เป็นไปไม่ได้ การรักข้างเดียว การรอคอยในความรักและมั่นคงกับมันเสมอ ยังมีหวังกับความรักนี้อยู่นะ

    ดอกกุหลาบสีเหลือง สื่อถึงความรักในรูปแบบที่จริงใจ มิตรภาพที่ดี แสดงถึงความห่วงใย ยินดี ดอกไม้สีนี้จึงนิยมให้กับมิตรภาพ เพื่อน ครอบครัว

    ดอกกุหลาบสีส้ม สื่อถึงความอบอุ่น คนที่เราอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ มีความสุข มีพลังบวก

    ดอกกุหลาบสีม่วง สื่อถึงความมีเสน่ห์ สง่างาม นิยมใช้ในงานแสดงความยินดี และยังสื่อถึงอำนาจ ความสำเร็จของการงานและชีวิตได้อีกด้วย

    ดอกกุหลาบสีดำ ใครๆ ก็อาจจะคิดว่ากุหลาบสีดำนี่ความหมายเศร้าแน่เลย บอกเลยว่าคิดผิดนะ เพราะความมันลึกซึ้งมากทีเดียวเลยล่ะ สื่อถึงความรักที่มั่นคงตลอดกาล ความรักที่นิรันดร์ ไม่มีใครมาแทนที่เราได้
 

   รู้ไหมว่า : ในตำนานกรีกเล่าไว้ว่า เมื่อเทพธิดาวีนัส เทพแห่งความงามและความรักร้องไห้เมื่อคนรักของเธอถูกหมูป่าฆ่า น้ำตาของเธอหยดลงปะทะกับเลือดบนพื้นจนกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง
 

 ..................................................
 

          ดอกเดลฟินเนียมเป็นดอกไม้ที่มีความคล้ายกับโลมา บางคนจึงเรียกดอกนี้ว่าดอกไม้ทรงปลาโลมา ซึ่งสื่อถึงโอกาส ความกระตือรือร้น ความเบิกบานใจ
 

   รู้ไหมว่า : ด้วยความที่ดอกเดฟฟินเนียมคล้ายกับจมูกของของโลมา จึงเป็นที่มาของชื่อดอกไม้ที่มาจากคำว่า delphis ในภาษากรีกที่แปลว่าโลมานั่นเอง
 

..................................................
 

 ภาพจาก www.pixabay.com

          ดอกแกลดิโอลัส แทนความหมายของการเป็นที่ถูกจดจำ สื่อถึงความแข็งแรง มีคุณธรรม แสดงถึงความจริงใจมั่นคงที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ
 

   รู้ไหมว่า : ตามตำนานพื้นเมืองรักแสนเศร้ากรีก มีชายพี่น้องสองคนต่อสู้เพื่อแย่งชิงสาวคนเดียวกันจนเกิดโศกนาฎกรรม คมดาบที่อาบด้วยเลือดปักลงบนพื้นดินจนเกิดเป็นดอกแกลดิโอลัสสีแดงสด และแต้มสีขาวตรงกลางดอกไม้ แทนน้ำตาของหญิงสาวในตำนาน
 

..................................................
 

  ภาพจาก www.pixabay.com

          ดอกแอสเตอร์เป็นดอกไม้ในตำนานของกรีก เป็นสัญลักษณ์ของความฉลาด สง่างาม แสดงถึงความรัก ความศรัทธา เมื่อได้ให้ดอกแอสเตอร์กับใครไปแล้วแปลว่าเรารักและพึงพอใจกับคนนี้เข้าแล้วล่ะ
 

   รู้ไหมว่า : ตำนานเคยเล่าว่า เทพเจ้าแอสเตรเอียหรือเทพเจ้าแห่งความไร้เดียงสา เธอเสียใจเมื่อเห็นว่าดวงดาวบนโลกมนุษย์นั้นหายไป น้ำตาเธอไหลจึงไหลร่วงลงพื้นดินกลายเป็นดอกแอสเตอร์ มีสีม่วงคราม รูปร่างคล้ายดาว
 

..................................................
 

 ภาพจาก www.pixabay.com

          เมื่อถึงช่วงเปลี่ยนฤดูใบไม้ร่วง ด้วยสีสันของดอกดาวเรืองนี้จะนำพาความสดใสกลับมา แสดงให้เห็นถึงความอบอุ่น การปกป้องคนที่เรารัก
 

   รู้ไหมว่า : ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ประจำตัวพระแม่มารีจึงมีชื่อเรียกสากลว่า “Marygold” เชื่อว่าดอกดาวเรืองถูกนำมาปลูกครั้งแรกในประเทศไทยโดยชาวฝรั่งเศสในสมัยกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
 

..................................................
 

  ภาพจาก www.pixabay.com

          เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยมมากๆ รองลงมาจากดอกกุหลาบเลยทีเดียว เป็นดอกไม้ประจำเดือนพฤศจิกายนที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่ร่าเริง สดใส ใครได้รับจะนำมาซึ่งความสุข เสียงหัวเราะ
 

   รู้ไหมว่า : ดอกเบญจมาศเคยมีตำนานที่เล่ากันมาของชาวญี่ปุ่น มีหญิงสาวที่ชื่อ “คิกุโนะ” สามีของเธอล้มป่วยเธอจึงไปอธิษฐานกับศาลเจ้า จนเธอฝันว่ามีคนแก่มาบอกให้หาดอกไม้ที่มีกลีบเยอะๆ ยิ่งเยอะเท่าไหร่สามีของเธอก็จะอายุยืนยาวเท่านั้น แต่เธอไม่สามารถหาดอกไม้ที่กลีบมากเท่าที่เธอต้องการได้เลย เธอจึงนำดอกไม้มากรีดกลีบเองจนมีกลีบเยอะนับไม่ถ้วน จนกลายเป็นดอกไม้ที่เธอทำขึ้นจึงถูกเรียกว่า ดอกคิกุโนะ หรือ ดอกเบญจมาศ นั่นเอง
 

   ภาพจาก www.pixabay.com

          ดอกพอย์เซตเทียหรือต้นคริสต์มาส จริงๆ แล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ฮะ (ส่วนต้นคริสต์มาสที่คนไทยชินตาอันนั้นคือต้นสน ไม่งงเนอะ) มักจะออกดอกสวยที่สุดในปลายเดือนธันวาคม ซึ่งตรงกับเทศกาลคริสต์มาสพอดี สื่อถึงการเฉลิมฉลอง ความสำเร็จ การอวยพรและการให้กำลังใจกับผู้ที่ได้รับอย่างลึกซึ้ง
 

   รู้ไหมว่า : มีตำนานเล่าว่า ในค่ำคืนอันหนาวเหน็บผู้คนต่างนำดอกไม้ไปถวายพระเยซูเพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติ แต่มีเด็กหญิงที่ยากจนคนนึงไม่สามารถหาดอกไม้สวยๆ ได้ เธอจึงเด็ดดอกหญ้าข้างทางมาแทน ด้วยความรักของพระเยซูจึงเปลี่ยนดอกหญ้านั้นกลายเป็นดอกไม้สีแดงสดที่สวยงาม