น้องๆ หลายคนน่าจะรู้จัก หรือเคยใช้ โทนเนอร์ กันมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ เรารู้กันว่าโทนเนอร์นั้นเป็นขั้นตอนในการเตรียมผิวเพื่อให้ผิวพร้อมที่จะรับสารบำรุงต่างๆ ได้มากขึ้น ช่วยให้ครีมซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น ปรับค่า pH ของผิว นอกจากนี้แล้ว โทนเนอร์อาจจะให้ผลลัพธ์เพิ่มมาจากสารบำรุงที่แบรนด์ใส่มาด้วย เช่น ให้ความชุ่มชื้น กระชับผิว และยังช่วยให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
          ดังนั้น โทนเนอร์ที่เราเห็นกันในตอนนี้ เลยกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาสิวของหลายๆ คนอีกด้วยค่ะ พี่โอ๊ตได้รวบรวมทั้งวิธีการเลือก และวิธีการใช้ ที่เหมาะกับสาวๆ ที่เป็นสิวโดยเฉพาะมาให้ รับรองว่าอ่านจบแล้วจะเลือกซื้อและใช้โทนเนอร์แบบได้ประสิทธิภาพเต็มที่แน่นอน
 
เป็นสิวต้องใช้โทนเนอร์แบบไหน
 
           อันดับแรกก่อนจะเริ่มใช้ ต้องซื้อให้ถูกก่อนค่ะ เพราะถ้าเลือกผิด แทนที่ใช้แล้วหน้าจะใส อาจจะกลายเป็นระคายเคืองแทนได้ อย่าลืมว่าโทนเนอร์ก็คือสกินแคร์ จะดีจะร้ายก็มีผลกับผิวของเราโดยตรงเลยล่ะ
 
  • ไม่ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพราะผิวเป็นสิวส่วนใหญ่จะตีคู่มากับผิวที่แพ้และระคายเคืองง่าย
     
  • นอกจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์แล้ว โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำกุหลาบ หรือสารสกัดจากผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ ก็อาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้เช่นกันค่ะ
  • เพราะโทนเนอร์คือสกินแคร์ตัวแรกที่เราใช้หลังล้างหน้า แนะนำว่าควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนกับผิว ไม่จำเป็นต้องโฟกัสว่ามีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิวได้มั้ย ให้ขั้นตอนโทนเนอร์เป็นขั้นตอนการ “เตรียม” จริงๆ ส่วนเรื่องรักษาสิวให้เป็นหน้าที่ของยารักษาสิว หรือสกินแคร์อื่นๆ ที่จะทาหลังจากนั้นค่ะ
  • คนที่เป็นสิว และผิวมันมากๆ อาจจะเลือกสูตรที่มีส่วนผสมของ Zinc/Witch Hazel/Salicylic เพื่อช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสมดุลน้ำมันบนผิวได้ แต่ถ้าผิวเริ่มแห้งจากการยาทาสิว แนะนำว่าอย่าเพิ่งใช้ค่ะ
     
 
ใช้โทนเนอร์ให้ปัง ไม่พังอย่างที่ผ่านมา
          น้องๆ หลายคนอาจจะยังสับสนว่า ตกลงแล้วโทนเนอร์ใช้ก่อนหรือหลังล้างหน้ากันแน่ ตอบกันตรงนี้นะคะว่า “ใช้หลังล้างหน้า” เข้าใจว่าหลายคนอาจจะงงเพราะมันดันไปคล้ายกับ Cleansing Water ที่เอาไว้เช็ดหน้าก่อนล้างหน้า เพราะว่าเป็นน้ำใสๆ เหมือนกัน แต่ทำหน้าที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ ดังนั้นเรามาเข้าใจตรงกันก่อนว่า โทนเนอร์คือสกินแคร์ที่เราใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้า และสามารถใช้ได้หลายวิธีตามความถนัดค่ะ
 

วิธีที่ 1 : เทใส่สำลีแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า แนะนำให้ใช้กับสำลีที่ทำมาเพื่อโทนเนอร์โดยเฉพาะ สำลีชนิดนี้จะค่อนข้างบาง แต่เหนียว กระจายผลิตภัณฑ์ และอุ้มน้ำได้ดีค่ะ การใช้สำลีแบบนี้ทำให้ไม่เปลืองโทนเนอร์ ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ และเช็ดได้ทั่วใบหน้าโดยไม่ต้องเทเพิ่ม
วิธีที่ 2 : ตบเบาๆ ลงบนผิวโดยตรง วิธีนี้ก็ทำให้ไม่ต้องเสียผลิตภัณฑ์บางส่วนไปกับสำลีที่ใช้ค่ะ แต่อาจจะใช่ลำบากหน่อย ถ้าเนื้อผลิตภัณฑ์นั้นค่อนข้างเหลว ต้องระวังหกลงพื้นแทนค่ะ
วิธีที่ 3 : ใส่ขวดสเปรย์แล้วพ่นให้ทั่วใบหน้า ส่วนตัวแล้วพี่โอ๊ตชอบวิธีนี้ที่สุดค่ะ อย่างที่บอกว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ค่อนข้างเหลวจนใกล้เคียงกับหน้า การใช้สเปรย์ก็เป็นทางออกที่ทำให้เราใช้โทนเนอร์ได้ทุกหยด 555 แต่แนะนำว่าให้ลงมุนกับขวดสเปรย์หน่อยนะคะ เลือกหัวที่กระจายน้ำได้ดี ไม่งั้นฉีดออกมามันจะกลายเป็นหยดๆ แบบกลุ่มก้อน ทำให้โทนเนอร์ไม่กระจายทั่วผิวค่ะ
 

สรุปข้อดีของการใช้โทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิว
  • ช่วยเตรียมผิวให้ครีมบำรุงซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เป็นสิวได้ยากขึ้น
  • ช่วยให้การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวทำงานได้ดีมากขึ้น
  • ช่วยปรับสมดุลย์น้ำมันบนผิว ทำให้ผิวไม่มันจนเกินไป ทำให้ลดการอุดตันได้มากขึ้น
     

          ก็เรียกว่าเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยให้อาการอักเสบของสิวลดลง และยังช่วยลดการเกิดสิวได้อีกด้วยค่ะ แต่อย่าลืมเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะกับผิวของตัวเองด้วย อันนี้สำคัญมากๆ เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับการระคายเคืองภายหลังค่ะ
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น