นิยายแนะนำประจำสัปดาห์
โอบอุ้มเจ้าดวงใจ 

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน สำหรับนิยายที่พี่หญิงมาแนะนำในวันนี้ ขอบอกเลยว่าใครที่ไม่ใ่ช่สายดราม่าต้องทำใจ งานนี้อาจมีเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวของ “ธัญญ์นลิน” หญิงบ้าวัยหกสิบที่ตายอนาถบนถนน ก่อนจะได้โอกาสกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ตอนอายุ 29 ปี ช่วงเวลาที่เธอยังไม่หย่าขาดกับสามี และลูกๆ ยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยใสซื่อไม่มีพิษภัย ช่วงเวลาที่ “ธัญญ์นลิน” ยังสามารถแก้ไขเรื่องราวทั้งหมด ไม่ให้ครอบครัวของเธอต้องเดินเข้าสู่ความพินาศย่อยยับเหมือนกันกับชีวิตในชาติที่แล้ว

ซึ่งหากถามว่าทำไมชีวิตของ “ธัญญ์นลิน” ในชาติที่ผ่านมาถึงเต็มไปด้วยความล้มเหลว อันนี้ต้องบอกเลยค่ะ เป็นเพราะเธอทำตัวเองล้วนๆ ธัญญ์นลิน เป็นหญิงสาวที่ไม่ยอมมูฟออนออกจากความผิดพลาดในชีวิต และเธอมักมีคำว่า “ไม่กล้า” แปะหน้าผากไว้อยู่เสมอ เอาแต่ฝังใจว่าตนไม่ได้แต่งงานกับสามีเพราะความรักจึงมักเว้นระยะห่างกับอีกฝ่าย จนกลายเป็นความเย็นชาห่างเหิน และสำคัญที่สุดคือเธอละเลยลูกของตนเอง ทำให้ทุกอย่างเดินเข้าไปสู่ความล้มเหลวมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ก็นะ คนเรามักจะรู้ตัวเมื่อตอนที่ทุกอย่างสายเกินไป ช่วงนาทีสุดท้ายของชีวิตในที่สุด “ธัญญ์นลิน” ก็ได้ทบทวนเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตของตัวเอง และได้ค้นพบว่าตลอดชีวิตเธอได้ทำผิดพลาดมามากมายเหลือเกิน หากมีโอกาสอีกครั้งเธอก็อยากจะชดเชยให้พวกเขาหมดทั้งชีวิตทั้งหัวใจที่มี และเธอก็ได้โอกาสนั้น ได้ย้อนกลับมาตอนอายุ 29 ปีอีกครั้งค่ะ

คำโปรย

เธอคือหญิงแก่ที่เป็นบ้าอยู่ข้างถนน สามีหย่าร้าง ลูกชายคนโตฆ่าคนตาย
ลูกชายคนเล็กติดการพนัน
เมื่อเธอได้รับโอกาสให้กลับไปแก้ไขอีกครั้ง ในชาตินี้เธอสัญญาว่าจะถนอมรักเอาไว้ให้ดี
ไม่ให้ใครต้องพบกับจุดจบเหมือนที่ผ่านมา

ความผิดพลาดที่ 1
มองข้ามความรู้สึกของลูก

สิ่งที่เป็นปมในจิตใจของ “ธัญญ์นลิน” ที่สุดก่อนตายก็คือเรื่องของลูกค่ะ เธอไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมลูกชายทั้งคู่ของตัวเองถึงได้เติบโตมาผิดเพี้ยนไปได้ คนโตติดคุกด้วยข้อหาฆ่าคนตาย ส่วนคนเล็กก็ติดการพนันก่อหนี้มากมายจนไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้ ต้องหนีเจ้าหนี้หัวซุกหัวซุน ทั้งๆ ที่ลูกชายก็ได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี 

จนกระทั่งได้มาเกิดใหม่และคิดทบทวน “ธัญญ์นลิน” ก็พบว่าสาเหตุที่ลูกๆ เติบโตขึ้นกลายเป็นคนมีปัญหาในสังคม นั้นเกิดขึ้นเพราะตัวเธอเอง

สำหรับลูกคนแรก “ซอ” เกิดมาท่านกลางความไม่พร้อมของทุกฝ่าย เป็นเหมือนโซ่ที่ผูกมัดให้ “ฐิติกร” ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงต้องรับผิดชอบแต่งงานกับ “ธัญญ์นลิน” ทั้งๆ ที่ไม่มีความรักให้กัน

“ซอ” จึงถูกเลี้ยงดูขึ้นมาอย่างเฉยชา เขาไม่เคยได้สัมผัสความรักของพ่อแม่ที่เอาแต่เย็นชาใส่กัน ย่าก็ไม่ยอมรับ เขาแทบจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่ตัวเองถูกกอดด้วยความรัก มันคือตอนไหนกัน!

แตกต่างจาก “ซอล” น้องชายผู้เป็นที่รักของทุกคน เขาคือหลานชายคนโปรดของคุณย่าที่ไม่ว่าจะอยากได้อะไร เขาก็ได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามต้องการ ไม่เคยถูกว่ากล่าวเลยสักครั้ง “ซอล” จึงเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กเอาแต่ใจ ทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง 

เมื่อได้โอกาสย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง “ธัญญ์นลิน” จึงตั้งใจจะมอบความรักให้ลูกชายอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งพยายามคลี่คลายปมในใจของลูกชายไม่ให้ทั้งคู่เดินเข้าสู่เส้นทางแห่งความล้มเหลวเหมือนในชาติที่ผ่านมา 

ความผิดพลาดที่ 2
ไม่ move on ออกจากความผิดพลาดในชีวิต

อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตของ “ธัญญ์นลิน” เต็มไปด้วยความผิดพลาดก็คือความไม่กล้าค่ะ ทั้งไม่กล้าสู้เพื่อชีวิตตัวเอง ไม่กล้าเปิดใจพูดกับสามีเวลาที่มีปัญหา เอาแต่คิดเจียมตน คิดวนเวียนว่าการแต่งงานของตนเอง ติดอยู่กับความผิดพลาดในอดีตไม่ไปไหนกลายเป็นการสร้างระยะห่างที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างสามีภรรยา บรรยากาศรอบกายมีแต่ความเย็นชา ไม่เข้าใจกัน จนในที่สุดชีวิตคู่ก็จบลงด้วยการหย่าร้าง 

เมื่อมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง “ธัญญ์นลิน” จึงตั้งใจจะละทิ้งความกลัว ความไม่กล้า และมูฟออนออกมาจากเรื่องราวในอดีต ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเธอครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก้าวไปทางไหนต้องไปตามลุ้นกันค่ะ

ความผิดพลาดที่ 3
ปัญหาระหว่างลูกสะใภ้แม่สามี

เพราะการแต่งงานของ “ธัญญ์นลิน” และ “ฐิติกร” ไม่ได้เป็นการแต่งงานที่ได้รับการยอมรับมาตั้งแต่ทีแรก “ธัญญ์นลิน” จึงเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกแม่สามีต่อต้านอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเหน็บแนม การมองข้าม รวมไปถึงไม่ยอมรับลูกชายคนโตของเธอ และการแย่งเอาตัวลูกชายคนเล็กไปเลี้ยงดูคนเดียว โดยที่ไม่ให้ผู้เป็นแม่อย่างเธอมีสิทธิ์โต้แย้งเลยสักนิด และมันก็จบลงด้วยการที่ลูกชายของเธอต้องเติบโตขึ้นภายใต้บรรยากาศของความแตกแยก ขัดแย้ง เกิดเป็นปมในจิตใจและกลายเป็นเด็กมีปัญหาในที่สุด

การเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้ “ธัญญ์นลิน” จึงต้องการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ไม่ยอมอยู่ในอำนาจของแม่สามีอีกต่อไป ชิงสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกกลับมา แล้วเริ่มต้นปรับความสัมพันธ์ในครอบครัวใหม่อีกครั้ง ซึ่งพี่หญิงขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะ ว่าผลลัพธ์ออกมาดีมากๆ แต่ “ธัญญ์นลิน” จะใช้วิธีการไหน ขอเก็บเป็นความลับไว้ก่อนใครอยากรู้ต้องไปตามอ่านเลยค่ะ
 

*********************
 

สำหรับ “โอบอุ้มเจ้าดวงใจ” พี่หญิงมองว่าเป็นนิยายที่สอนให้เรารู้จักมูฟออนออกจากความผิดพลาด มีความกล้าในการใช้ชีวิต และให้ความสำคัญกับทุกสิ่งรอบตัวนะคะ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก แล้วที่สำคัญเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความผูกพันในครอบครัวออกมาได้ดีมากๆ จนให้พี่หญิงอ่านแล้วอินจนแอบร้องไห้เลยค่ะ ฮือ

สำหรับใครที่กำลังมองหานิยายรักดราม่าที่ได้เล่าถึงเรื่องราวความรักในครอบครัวออกมาได้ดีมากๆ อ่าน หรือชอบนิยายที่เต็มไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กน้อยแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลยค่ะ 

พี่หญิง