เนตรภัคตรานักเขียนที่เคยถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธ
มากกว่าสิบครั้ง!
“อยากเห็นนิยายตัวเองเป็นละคร” เชื่อว่าเป็นความฝันสำหรับนักเขียนนิยายหลายๆ คนที่ครั้งหนึ่งอยากเห็นตัวละครนิยายของเราในเวอร์ชั่นคนแสดง และ “เนตรภัคตรา” นักเขียนที่พี่หญิงพามาแนะนำให้ทุกคนรู้จักในวันนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
แม้เริ่มแรก “เนตรภัคตรา” จะเริ่มต้นเขียนนิยายเพราะต้องการแก้เครียด และคลายความคิดถึงบ้านจากการไปเรียนต่อในต่างประเทศ แต่เมื่อเธอได้ลงมือเขียนนิยายจริงๆ ก็ความรู้สึกหลุมรัก หลงไหลการเขียนมาขึ้นเรื่อยๆ จนวาดฝันว่าในวันหนึ่งเรื่องราวที่เธอถ่ายทอดออกจะถูกสร้างเป็นละครในสักวันหนึ่ง
และผลงานล่าสุด มัดหัวใจยัยซุปตาร์ You are my Makeup Artist ก็ทำให้ความฝันของเธอใกล้ความจริงเข้าไปอีกขั้น เมื่อนิยายเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากผู้จัดละครและในที่สุดก็ได้เซ็นสัญญาลิขสิทธิ์สร้างเป็นละครแบบพล็อต
วันนี้พี่หญิงก็เลยไม่พลาดชวน “เนตรภัคตรา” มาแชร์ประสบการณ์ดีๆ ให้ทุกคนได้ทราบกันกว่าเนตรภัคตราจะทำตามความฝันได้สำเร็จเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง แล้วที่สำคัญการเซ็นสัญญาแบบพล็อตที่กำลังถืออยู่ตอนนี้นั้นแตกต่างหรือเหมือนกับการเซ็นสัญญานิยายเป็นละครแบบปกติอย่างไร มาติดตามกันค่ะ

สวัสดีค่ะ แตงเป็นนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า เนตรภัคตรา นะคะ ตอนนี้แตงกำลังทำงานสายวิชาการอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งถ้าใครได้เคยอ่านผลงานเรื่องที่ผ่านๆ มาของแตงก็อาจจะเริ่มพอเดากันได้แล้วค่ะว่าเป็นที่ไหน ^_^
นามปากกา เนตรภัคตรา มาจากคำง่ายๆ ว่า พักตา แต่แผลงคำให้ฟังดูเพราะขึ้นโดยเติมคำว่าเนตรที่แปลว่า ตา แล้วก็เปลี่ยน พักตา ให้เป็น ภัคตรา ค่ะ
เริ่มต้นเส้นทางนักเขียน ปีนี้ย่างเข้าปีที่ 7 แล้วค่ะ แตงเคยเขียนเรื่องอุ่นรักในกองบินด้วยโครงเรื่องแบบเดียวกับเล่มที่ตีพิมพ์โดยที่ตอนนั้นยังไม่มีชื่อเรื่องด้วยซ้ำ เขียนใส่กระดาษเพราะรู้สึกเครียดกับการสอบวิชาเคมีช่วงที่เรียนปริญญาตรี
ตอนนั้นทำแก้เครียด เขียนไม่กี่ตอน ไม่ได้เอาไปเผยแพร่ที่ไหนแล้วก็หยุดไปนานหลายปีมากค่ะ จนมาเริ่มเขียนอีกรอบก็เพราะรู้สึกท้อแท้กับเรื่องเรียน ช่วงนั้นกำลังเรียนต่อปริญญาเอกอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำแล็ปแล้วผลไม่ค่อยดี เขียนรายงานผลการวิจัยก็โดนอาจารย์ที่ปรึกษาสั่งให้แก้หลายรอบมาก ทั้งรู้สึกเหงาและเศร้าแบบสุดๆ นานๆ ทีจะได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่ไทยสักครั้ง ตอนนั้นคิดถึงพ่อแม่ ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ มากค่ะ เวลาเราเขียนนิยายเหมือนเราได้ลืมเรื่องที่เรารู้สึกทุกข์ ได้เขียนถึงสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดที่เราเคยอยู่ ในกองบินที่เราโตขึ้นมา ในสถานที่ที่คล้ายกับมหาวิทยาลัยที่เราเคยเรียน สนามกีฬาที่เคยได้เล่นกับเพื่อนๆ ตอนสมัยเด็กแบบมีความสุข มันช่วยด้านสภาพจิตใจเราได้เยอะมากเลยค่ะ แถมยังมีนักอ่าน นักเขียนที่ได้คุยกันที่หน้านิยาย ได้คุยกันในบอร์ดเด็กดี ได้เจอคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กับเรามากขึ้น เหมือนเป็นโลกใบใหม่ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นค่ะ

แล้วก็เพราะแตงเป็นคอละครมาตั้งแต่เด็ก พอเขียนจบแล้วก็อยากให้งานที่เราเห็นเป็นภาพในหัวได้ออกมาเป็นละคร อยากให้คนอื่นได้เห็นเรื่องราวสนุกสนานแบบที่เราเห็น ก็เลยตั้งธงในใจว่าวันหนึ่งอยากให้งานของตัวเองได้เป็นละครค่ะ
การเริ่มเขียนครั้งแรกสำหรับแตง มันยากตรงที่เราดูละครมาเยอะ แต่อ่านนิยายมาไม่มากนัก ทำให้คลังศัพท์เราน้อย แตงเลยถนัดเขียนเล่าบทสนทนาตัวละคร แต่เราไม่ถนัดบรรยายในส่วนของฉาก ภาษากาย สีหน้าท่าทางและรูปร่างหน้าตาของตัวละคร ทำให้ตัวเรื่องถูกแบกไว้ด้วยไดอะล็อกของตัวละครเป็นหลักค่ะ
และที่แตงเลือกเขียนนิยายรัก เพราะเป็นคนชอบนิยายสายโรแมนติกคอเมดี้มากค่ะ เรารู้สึกว่างานสายนี้น่ารัก อ่านแล้วรู้สึกดี เราก็คิดว่าคนอ่านอ่านแล้วคงมีความสุขเหมือนเรา เพราะไม่ว่าจะเจออะไรมา หนักหนาทั้งเรื่องเรียนเรื่องงาน แต่พอมาอ่านนิยายสายนี้ นักอ่านคงยิ้มได้ รู้สึกอบอุ่นหัวใจ และได้ซาบซึ้งไปกับความรักของตัวละครในเรื่องค่ะ

เล่าถึงผลงานเรื่องล่าสุด มัดหัวใจยัยซุปตาร์
เราเริ่มเขียนนิยายเรื่องนี้จากความรู้สึกว่าบางทีเนื้อในของคนเราก็ไม่ได้ตรงกับปกนอกเสมอไปค่ะ บางคนรู้จักแรกๆ ก็เป็นแบบหนึ่ง แต่ถ้าได้รู้จักสนิทสนมกันมากขึ้น บางทีถ้าเราเปิดใจเขาเปิดใจ ได้มีโอกาสที่จะเรียนรู้กัน เราก็จะได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของเค้ามากขึ้นค่ะ และส่วนตัวก็รู้สึกว่าความรักมันเป็นอะไรที่ลึกซึ้ง มันเป็นความรู้สึกข้างใน บางทีเวลาที่เรารักใคร รูปลักษณ์ภายนอกมันก็เป็นแค่เปลือก เราไม่ได้สนใจว่าเค้าเป็นเพศอะไร ชอบอะไร แต่เรารักเค้าชอบเค้าที่เค้าคือคนคนนั้น ด้วยอะไรทุกอย่างที่มารวมกันเป็นตัวเค้า และเราก็ไม่ควรไปตัดสินใครจากปกค่ะ รวมถึงสิ่งที่คนเราควรจะมีให้กันและกันให้มากขึ้นก็คือการพยายามเอาใจเค้ามาใส่ใจเราค่ะ สิ่งเหล่านี้มันอาจจะทำให้เราเข้าใจผู้คนรอบตัวเรามากขึ้นค่ะ
ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกให้พระเอกทำอาชีพ Makeup Artist เป็นเพราะแตงปลื้มช่างแต่งหน้าท่านนึงมากค่ะ เรารู้สึกว่ามุมมองชีวิตเค้าน่ารักมาก เค้าเป็นคนเก่งที่สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นตัวอย่างที่ดี ขยันทำงานตั้งแต่ยังเด็ก สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนได้เป็นช่างแต่งหน้ามือทองที่หลายคนคงนึกถึงถ้าพูดถึงอาชีพนี้ แล้วเวลาที่มีช่างแต่งหน้ามาช่วยแต่งหน้าให้ แตงมองเห็นความสุข ความรู้สึกภาคภูมิใจในผลงาน มันส่องประกายออกมาทางดวงตาของพี่ช่างแต่งหน้า จนเรารู้สึกได้เลยค่ะว่าพวกเค้ามีความสุขเวลาทำงานและรักอาชีพของพวกเค้ามาก อีกอย่างแตงก็แทบไม่ค่อยได้เห็นพระเอกที่มีอาชีพนี้เท่าไหร่ในนิยายไทยค่ะ แตงเลยอยากได้พระเอกที่มีอาชีพซึ่งแหวกแนวจากนิยายส่วนใหญ่ที่ได้เจอค่ะ
เสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้นอกจากความตลกและความกวนแบบฮาๆ จากจังหวะที่ค่อนข้างออกแนวซิทคอมในเรื่องนี้แล้ว ตัวกั๊ตจังหรือรัฐกร พระเอกของเรื่องก็คือจุดเด่นอันโดดเด้งเลยค่ะ
กั๊ตเป็นพระเอกที่นอกจากจะเป็นช่างแต่งหน้าที่มีบุคลิกตุ้งติ้ง มือไม้กรีดกราย รวมถึงมีใบหน้าสวยหวานตามที่ได้บรรยายเอาไว้ในนิยายแล้ว กั๊ตก็ยังเป็นตัวเอกที่มีความตั้งใจในการพัฒนาตัวเองเป็นอย่างมากด้วยค่ะ
ชีวิตของกั๊ตเป็นชีวิตที่เรียกได้ว่าเริ่มจากติดลบ พ่อทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ แม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่กั๊ตยังเด็ก กั๊ตถูกเพื่อนใจร้ายกลั่นแกล้งบูลลี่สารพัด แต่กั๊ตไม่เคยหยุดรักดีเลย กั๊ตเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณมาก กั๊ตใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อทำให้ตัวเองเก่งขึ้น พัฒนาฝีมือเพื่อให้ตัวเองมีวิชาความรู้และพยายามทำทุกอย่างเพื่อดูแลคนที่ตัวเองรัก ถึงกั๊ตจะเป็นผู้ชายที่ถูกหลายคนตัดสินไปแล้วด้วยมาดที่ดูไม่สมชายแต่ด้วยสิ่งที่เขาพยายามทำให้คุณวา ผู้หญิงที่เขารักหมดใจ คุณจะแอบตกหลุมรักกั๊ตอย่างไม่รู้ตัวแน่นอนค่ะ
มัดหัวใจยัยซุปตาร์ กำลังจะถูกสร้างเป็นละคร?
ใช่ค่ะ มัดหัวใจยัยซุปตาร์ กำลังจะได้เป็นละคร คืออย่างที่บอกว่าแตงตั้งใจมาตั้งแต่ต้นว่าอยากให้งานได้เป็นละคร พอเขียนเรื่อง กลรักสลับใจ ในเด็กดีจบ แตงก็พยายามหาทางติดต่อเพื่อจะขอส่งเรื่องย่อให้ผู้จัดละครที่เป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งค่ะ พี่ที่รับสายที่แตงโทรไปเมื่อหลายปีก่อนก็ถามประมาณว่างานยังไม่ได้ตีพิมพ์ใช่ไหม ควรจะเอาไปส่งสำนักพิมพ์ให้ได้ตีพิมพ์ก่อนนะ เราก็เลยพยายามพัฒนาการเขียนเพื่อให้งานผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ให้ได้ค่ะ ซึ่งหลังจากที่ถูกปฏิเสธรัวๆ ตลอดสามปีรวมแล้วเป็นสิบกว่าครั้ง จนเรื่องอุ่นรักในกองบินซึ่งเขียนจบเป็นเรื่องที่ 4 ผ่านการพิจารณาและได้ตีพิมพ์เรื่องต่อๆ มา

หลังจากนั้นพอเรื่องเรียนเราสำเร็จ เราก็เริ่มโทรไปที่บริษัทนั้นอีกครั้งเพื่อขอส่งเรื่องย่อนิยายที่ถูกตีพิมพ์และเราคิดว่าเหมาะกับการทำละครไปให้ แต่ทางนั้นก็เงียบไป เราก็เลยทราบว่าเขาน่าจะยังไม่สนใจค่ะ ต้นปีนี้เราขอส่งเรื่องย่อนิยายที่เคยผ่านเข้ารอบ 30 เรื่องสุดท้ายกับโครงการของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งกับสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งหนึ่งเข้าไปให้ พร้อมแนบเรื่องย่อเรื่อง มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ซึ่งเราคิดว่าพล็อตมันสนุกมากแต่เรายังไม่มีเวลาเขียนให้จบไปด้วย แค่สัปดาห์กว่าๆ ผู้จัดละครที่เราปลื้มท่านนั้นก็โทรกลับมาหาเราด้วยตัวเองเลยค่ะ เขาก็ถามว่าเรื่องนี้แต่งจบรึยัง เราก็บอกยังค่ะ เขาก็ถามว่าจะเขียนให้จบได้เมื่อไหร่ เราก็บอกไปตามตรงว่าจะพยายามแต่งให้เร็วที่สุดค่ะ
แต่ระหว่างแต่งเราก็มีลักษณะการเขียนที่ประหลาดค่ะ เราเขียนส่วนต้น ส่วนท้ายแล้วมาเขียนท่อนกลางเรื่องทีหลัง ทางผู้จัดเองที่ได้เห็นเนื้องานก็มีคำแนะนำเกี่ยวกับบางจุดมาให้เราด้วยค่ะ ซึ่งก็ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับคำแนะนำอันมีประโยชน์ที่มอบให้มาค่ะ
และหลังจากเขียนจบนิยายเรื่องนี้ก็ได้เซ็นสัญญาแบบพล็อตค่ะ ซึ่งการเซ็นสัญญาแบบนี้จะมีข้อแตกต่างจากการซื้อลิขสิทธ์นิยายเล่มตรงที่การส่งแบบพล็อตจะมีแค่ตัวเรื่องย่อตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ เวลาเซ็นในสัญญาจะแนบแค่ตัวพล็อตค่ะ และค่าตอบแทนสองแบบนี้จะไม่เท่ากัน

เนื่องจาก มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ยังไม่ได้ตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม ด้วยความที่งานประจำยุ่งสุดขีด แตงเลยเคยดองเรื่องนี้ข้ามปีจนสงสารนักอ่านที่รอมากค่ะ ช่วงที่เขียนเรื่องนี้จบเป็นช่วงหยุดอยู่บ้านเพราะวิกฤตโควิทพอดี สำนักพิมพ์ที่ติดต่อไปก็มีคิวตีพิมพ์ค้างอยู่ ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าผลการพิจารณาจะออกเมื่อไหร่ แตงก็เลยตัดสินใจเอาต้นฉบับมาขายออนไลน์เอง นักอ่านจะได้ไม่ต้องรอนานกว่านี้ค่ะ
ในการสร้างเป็นเวอร์ชันละคร แตงไม่ได้มีโอกาสคุยกับทางคนเขียนบทละครเลยค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นละครก็อาจจะมีจุดที่แตกต่างกันบ้างค่ะ เพราะลำดับการเล่าเรื่องอาจจะไม่ได้เรียงตามวิธีการเล่าในนิยายค่ะ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็น่าจะสนุกไปอีกแบบนะคะ

อยากให้นักอ่านมีอารมณ์ร่วม
ต้องให้ความสำคัญกับซีนอารมณ์
น่าจะเป็นการบรรยายซีนอารมณ์ให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนจนรู้สึกตามได้ค่ะ จริงๆ ตัวเองก็ยังพยายามพัฒนาในจุดนี้อยู่นะคะ คิดว่าถ้าคนเขียนสามารถทำให้คนอ่านรู้สึกดีใจ เสียใจ เจ็บปวดตามตัวละครได้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้คนอ่านเข้าใจหัวอกพวกเค้าได้ลึกซึ้งขึ้นค่ะ
สำหรับปัญหาการเขียนนิยายที่เจอบ่อยๆ คือแตงไม่ค่อยมีเวลาเขียนค่ะ เพราะแค่งานประจำก็เหนื่อยมากแล้ว วิธีแก้ปัญหาก็คือดองนิยายค่ะ ฮา เค้าขอโทษคนอ่านด้วยนะคะ คือเอาจริงๆ ส่วนตัวก็จะเขียนช่วงปิดเทอมค่ะ ก็ทำให้มีผลงานออกมาไม่บ่อยนัก แต่ก็อยากบอกว่ารักคนอ่านมากเหมือนเดิมนะคะ ก็ขออภัยด้วยที่เขียนงานค่อนข้างช้าค่ะ

เนตรภัคตรากับความเปลี่ยนแปลง
ในฐานะนักเขียน
ได้ลองเขียนแนวอื่นดูบ้างค่ะ เช่น แนวดราม่า แต่หลักๆ คิดว่าการฝึกฝนที่ผ่านมาก็ทำให้สามารถบรรยายภาษากายของตัวละครได้มากขึ้น สำนวนก็น่าจะดีขึ้นจากช่วงแรกระดับหนึ่งค่ะ แต่ก็ยังไม่ใช่สำนวนที่สละสลวยงดงามมากนัก จึงยังต้องพยายามพัฒนาทักษะการเขียนต่อไปค่ะ
อุปสรรคสำคัญที่ต้องก้าวผ่านหากอยากเป็น “นักเขียนที่ดี”
ต้องเอาชนะใจตัวเองเวลาที่ท้อค่ะ บางท่านอาจจะรู้สึกว่าทำไมเราเขียนนิยายที่มีสารข้างในที่ดีมากเลย แต่ได้รับฟีดแบ็กเท่านี้เอง เศร้าจัง เราก็เคยรู้สึกแบบนั้นค่ะ อาจจะเป็นเพราะเรายังทำได้ไม่สุด ต้องพัฒนาวิธีการสื่อสารผ่านงานเขียนให้ดีขึ้น ก็ต้องพยายามให้มากขึ้นค่ะ บางทีก็เหมือนทำอาหารค่ะ หน้าตาข้างนอกอาจจะยังดูไม่สวยงามดึงดูดนัก คนเลยยังไม่ซื้อ ทั้งที่รสชาติข้างในอร่อย หรือบางทีเค้าลองชิมแล้วเจอรสขม เราอาจจะต้องเคลือบข้างนอกด้วยน้ำตาลและสีสันอันสวยงามสักนิด เพื่อให้รสชาติถูกปากนักอ่านมากขึ้น แล้วคนอ่านก็จะได้รับแก่นสารข้างใน เหมือนกับคนกินที่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าแค่รสชาติอร่อยที่สัมผัสได้ด้วยปลายลิ้น แต่อาหารจานนั้นอาจกลายเป็นจานที่เค้าประทับใจแบบตราตรึง มันอาจจะต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ แรงสมองเยอะมากค่ะ กว่าที่จะได้ผลงานคุณภาพออกมาสักเรื่อง กว่าจะได้เป็นนิยายที่เข้าตานักอ่านกลุ่มใหญ่ ถ้าวันหนึ่งผลงานของเราไปถึงกลุ่มคนอ่านที่ชื่นชอบงานแนวนั้นชิ้นนั้นเข้า เมื่อนักอ่านได้มาสัมผัส พวกเขาคงรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเราค่ะ

การเขียนนิยายออนไลน์ในปัจจุบัน
คือโอกาสที่เปิดกว้างให้กับทุกคน
ข้อดีของการเขียนนิยายออนไลน์คือตลาดเปิดกว้างขึ้นมากค่ะ มีนักเขียนหน้าใหม่มากขึ้น เป็นโอกาสที่ดีและเปิดกว้างให้กับทุกคนมากขึ้น นักอ่านมีนิยายให้เลือกอ่านมากขึ้น ทำให้ไม่ใช่ระบบแบบคอขวดที่มีแค่ส่วนน้อยที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ถ้านิยายไม่ผ่านระบบบรรณาธิการหรือการพิสูจน์อักษร ก็อาจจะมีบางงานที่มีจุดบกพร่องซึ่งไม่ได้รับการแนะนำท้วงติงให้ปรับแก้ค่ะ
และในฐานะนักเขียน คอมเมนต์สำคัญมากค่ะ เป็นแรงใจ เป็นความสุข เป็นกำลังใจ เป็นส่วนที่ทำให้นักเขียนได้รู้ว่านักอ่านรู้สึกยังไง คอมเมนต์เป็นฟีดแบ็กที่ทำให้รู้สึกชื่นใจ หัวใจพองฟูและเป็นของขวัญในชีวิตสำหรับนักเขียนอย่างแตงจริงๆ ค่ะ
ถ้าเจอคอมเมนต์แง่ลบจะมีวิธีการรับมือยังไง?
ส่วนใหญ่จะดีใจนะคะไม่ว่าจะได้คอมเมนต์แง่บวกหรือลบ คือแตงไม่ได้รู้สึกว่าคอมเมนต์ติในแง่ลบ คือเรื่องแย่ค่ะ ส่วนตัวก็ขอน้อมรับมาไว้ใช้ในการปรับปรุงแก้ไขผลงานค่ะ ต่อให้ใช้กับเรื่องนี้ไม่ทัน เราก็เก็บคอมเมนต์ติไว้ใช้พัฒนาผลงานเรื่องต่อๆ ไปได้ค่ะ
เนตรภัคตราถึงชาวเด็กดี….
สำหรับน้องๆ ที่กำลังเริ่มต้นเขียนนิยายขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จสมดังความฝันที่ตั้งใจกันนะคะ ขอให้ทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตนเองในทุกๆ ด้านให้ดีเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองกับผู้ปกครอง เพราะเอาจริงๆ ตอนแรกที่บ้านแตงก็ไม่สนับสนุนนะคะ แต่พอพวกท่านได้เห็นถึงความตั้งใจและเราสามารถเรียนจบได้ พวกท่านก็ยอมรับในที่สุดค่ะ ถ้าน้องๆ ตั้งใจ ไม่หยุดพยายาม ไม่หยุดก้าวเดินแม้ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนามต่างๆ วันหนึ่งความพยายามที่ทุ่มเทลงไปย่อมส่งผลที่ดีงามกลับมาสู่น้องๆ แน่นอนค่ะ
ส่วนแฟนๆ ที่คอยติดตามผลงานขอบคุณมากๆ ค่ะ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงถึงจะมากพอกับความรู้สึกอันดีต่อใจที่นักอ่านทุกๆ ท่านมอบให้ค่ะ ขอบคุณที่ช่วยรักษาจิตใจในวันที่แตงท้อ ในวันที่รู้สึกดิ่ง รู้สึกเศร้า เสียงจากนักอ่านเป็นเหมือนหยาดฝนชโลมใจจริงๆ ค่ะ กำลังใจจากแฟนๆ ทำให้วันที่หัวใจเหนื่อยล้า รู้สึกมืดมิด มันดูสว่างสไวขึ้นมาค่ะ มันรู้สึกอุ่นๆ ที่หัวใจจริงๆ ค่ะ
ก่อนจากลากันไป นานๆ ทีจะมีพระเอกที่แหวกแนวแบบกั๊ตจังโผล่มาสักคน ก็ขอฝากให้ทุกคนไปลองอ่าน มัดหัวใจยัยซุปตาร์ กันดูนะคะ รับรองว่าคุณจะได้รับทั้งความซาบซึ้งและความอบอุ่นที่ละมุนต่อใจ และถ้าคิดว่าใครเหมาะกับบทกั๊ตจังและคุณวาก็แวะมาบอกกันได้นะคะ แตงจะดีใจมากๆ ถ้านักอ่านแวะมาทักทายกันค่า ก็ขอให้ชาวเด็กดีมีสุขภาพทั้งกายและใจที่แข็งแรงดีงามกันทุกคนนะคะ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทั้งชาวเด็กดีและเว็บไซต์เด็กดีมากๆ อีกรอบค่ะ เพราะถ้าไม่มีนักอ่านที่น่ารักและเว็บไซต์ดีๆ ที่เป็นสื่อกลางให้แตงได้พบปะพูดคุยกับนักอ่าน ก็คงไม่มีเนตรภัคตราในวันนี้ค่ะ ขอบคุณมากๆ จากหัวใจเลยค่ะ
----------------
จากการเขียนนิยายแก้เครียด ไม่กี่ตอน ใครเลยจะคิดว่ามันจะทำให้ “เนตรภัคตรา” ตกหลุมรักการเขียนมายาวนานถึงเจ็ดปี มีผลงานออกมาให้เราได้ติดตามไม่ต่ำกว่าสิบเรื่อง และในวันนี้เธอก็เข้าใกล้ความฝันเข้าไปอีกขั้นด้วยการส่งนิยายเรื่อง มัดหัวใจยัยซุปตาร์ เซ็นสัญญาสร้างเป็นละครได้สำเร็จ และทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีความมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ของ “เนตรภัคตรา” ก็อย่างที่เธอได้เล่าให้ฟังไปด้านบนว่ากว่าที่นิยายจะผ่านการพิจารณาจากผู้จัดละครและสำนักพิมพ์ เธอพยายามส่งนิยายเข้าพิจารณามายาวนานกว่าสามปี และถูกปฎิเสธมาไม่น้อยกว่าสิบครั้ง!
สำหรับใครที่ตอนนี้กำลังรู้สึกท้อแท้ หรือกำลังเสียใจกับการถูกนักอ่านปฎิเสธอยู่ พี่หญิงก็อยากให้ทุกคนลองมองประสบการณ์ของ “เนตรภัคตรา” เป็นกำลังนะคะ อย่างที่เธอได้ฝากถึงนักเขียนเด็กดีทุกคนไว้ว่า….กว่าที่จะได้ผลงานคุณภาพออกมาสักเรื่อง และเข้าตานักอ่านกลุ่มใหญ่ มันอาจจะต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ แรงสมองเยอะมาก ถ้าวันหนึ่งผลงานของเราไปถึงกลุ่มคนอ่านที่ชื่นชอบ เมื่อนักอ่านจะรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเราค่ะ และการลงนิยายออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงทางที่เปิดกว้างให้ทุกคนเข้ามาหาโอกาสและพัฒนาฝีมือของตัวเองค่ะ
อ่านแล้วใครอยากเริ่มลงมือเขียนนิยายและเปิดขายบ้าง ก็มาศึกษาการขายได้ง่ายๆ ตามลิงก์นี้เลย: bit.ly/writer-howto
กิจกรรมพิเศษชิงรางวัล!!
บทสัมภาษณ์จบ แต่เรายังไม่จบค่ะ
มาร่วมกิจกรรมพิเศษจากเนตรภัคตรากับเราก่อน
พิเศษ! สำหรับแฟนนิยายของเนตรภัคตรา และนักอ่านทุกคน
เพียงแค่ร่วมตอบคำถาม โดยคอมเม้นต์ด้านล่างนี้เลย...
" ท่านชอบนิยายเรื่องใด / ตัวละครตัวไหนของเนตรภัคตรา
เพราะเหตุผลอะไร"
ลุ้นรับรางวัลพิเศษ คูปองเด็กดี ราคา 200 coin จำนวน 3 รางวัล
เพื่อซื้อนิยายเรื่อง "กลรักสลับใจ" ของเนตรภัคตราไปโหลดอ่านกันฟินๆ ได้เลยจ้า
ระยะเวลากิจกรรม
วันเริ่มกิจกรรม
ตั้งแต่วันนี้ถึงวันอาทิตย์ที่ 30/08/20563
ประกาศรายชื่อ
วันจันทร์ที่ 31/08/20 เวลา 17.00 น.
ประกาศรายชื่อผู้โชคดีจ้า
Shadow_J
leewenyi
มายด์เกศช์
เจ้าของรายชื่อตามนี้ สามารถทักมายื่นยันตัวตนเพื่อของรับรางวัลได้ที่
อีเมล thippawan@dek-d.com ภายในวันจันทร์ที่ 7/08/2563
หากไม่ทักมายืนยันตัวตนภายในวันเวลาที่กำหนดพี่หญิงจะถือว่าสละสิทธิ์นะคะ
อ่านผลงานของ “เนตรภัคตรา”
พี่หญิง

9 ความคิดเห็น
เย้ ในที่สุดก็สัมภาษณ์คุณเนตรภัคตรา ปกติไม่ได้อ่านแนวนิยายรักเลย เพราะเคยมีประสบการณ์กับการอ่านนิยายรัก แต่เรื่องมัดหัวใจยัยซุปตาร์ ทำให้มุมมองเปลี่ยนไป เรื่องนี้สนุกดีครับ ดูเป็นปัจจุบัน อ่านง่ายด้วย
ถ้าถามว่าชอบตัวละครตัวไหนมากที่สุด คงเป็นกัตจัง เพราะเรื่องมัดหัวใจยัยซุปตาร์ คือเรื่องแรกที่กลับมาอ่านนิยายรัก แล้วมันก็สนุกมากเลย ทำให้มุมมองของนิยายรักเปลี่ยนไปจากอดีต
และมาเป็นกำลังใจให้กับคุณเนตรภัคตราครับ (แฟนคลับ 555)
ด้านทีมงานรู้สึกดีมากๆ ที่มีกิจกรรมมาร่วมสนุกกับนักอ่านใน Dek-D และดีใจเข้าไปอีกที่กิจกรรมแรกเป็นของคุณเนตรภัคตรา เพราะถ้าเป็นท่านอื่นอาจจะยังไม่ได้อ่านมากเท่าไร แต่ของคุณเนตรภัคตราอ่านจนจบและชอบมากครับ
ป.ล. อยากให้มีเมนูของบทสัมภาษณ์หรือบทความของทีมงานแยกออกไปให้อ่านได้ง่ายๆ หรือ หาอ่านได้ง่ายกว่านี้ด้วยครับ จะทำให้บทความถูกอ่านมากยิ่งขึ้น เป็นกำลังใจให้กับทีมงานครับ
เราเคยอ่านงานของคุณเนตรภัคตราหลายเรื่อง ถ้าชอบล่าสุดก็ต้องเรื่อง "มัดหัวใจยัยซุปตาร์" ค่ะ เนื้อเรื่องสนุก ฮาและสอดแทรกแง่คิดต่างๆ เราชอบพระเอก "กั๊ต" มากเลยค่ะ คือน้อยมากที่จะเจอพระเอกมาดน่ารักมีจริตแบบนี้ แต่เราก็ชอบนะคะเพราะพระเอกดีมาก > < เราคิดว่านางเอกโชคดีที่ได้กั๊ตเป็นคู่ครอง อิจฉาค่ะ ยิ่งเราไม่ถนัดแต่งหน้าเท่าไหร่ได้พระเอกมาช่วยเมคอัพแต่งสวยคงดีใจสุดๆ ค่ะ เหมือนมีช่างแต่งหน้าประจำตัว
ชอบเรื่อง พนันหัวใจใต้ปีกรัก เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้อ่านนามปากกาเนตรภัครตราเลยค่ะ และเป็นนิยายแนวฟีลกู๊ดอ่านแล้วฟินไปกับความรักของพี่มิกซ์กับน้องไม้มีบทฮาและซึ้งในความรักของครอบครัวพี่มิกซ์อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ
ถ้าถามว่าชอบใครคงหนีไม่พ้นพี่มิกซ์ค่ะ ชอบความรักมั่นคงของพี่มิกซ์ และพี่มิกซ์ก็ยังขยันแกล้ง ขยันหยอด ขยันอ่อยน้องไม้มาก มีความรักและเอาใจใส่ ความห่วงใยของพี่มิกซ์ที่มีต่อน้องไม้ พี่มิกซ์ชัดเจนต่อความรู้สึกตัวเองดี
ส่วนตัวชอบ ติณณ์ เพราะคุณเนตรภัคตราบอกว่าว่ามิกซ์เป็นพระเอกเท่ ๆ เลยตามมาอ่าน แต่พอมาอ่านจริง ๆ แล้วรู้สึกรัก พี่มิกซ์ คนนี้มากเพราะมีครบทุกมุม มีความรักที่มั่นคงดูแลเอาใจใส่ มีความห่วงใย มีความชัดเจนต่อความรู้สึกของตัวเอง รักก็คือรัก มีความหยอดนิด อ่อยหน่อย น้องไม้ เป็นประจำ (ซึ่งเราอ่านแล้วเขินหนักมากเลยค่ะ>///<) สุดท้ายรักนิยายเรื่องนี้ รักผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ขอบคุณ คุณเนตรภัคตรา ที่แต่งนิยายดี ๆ เรื่องนี้ให้พวกเราได้อ่าน.อ้อ! เกือบลืมเจ้าแมวเหมียวจอมกวนไปเลย-เจ้าตัวนี้ก็ป่วนใช่ย่อยแต่ก็น่ารัก^^
ชอบเรื่องมัดหัวใจยัยซุปตาร์มากค่ะเพราอ่านแล้วมีความดีก็ไม่รู้เหตุผลนะคะแต่รู้ว่าชอบ555ที่ชอบสุดคงเป็นพระเอกแน่นอน❤️รัฐกร ชอบในมุมมองแนวคิดของเค้าอะค่ะชอบความขยัน อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ
เราดีใจมากที่นักแต่งมืออาชีพมาให้กำลังใจเรา เราจะถือพี่เขาเป็นแบบอย่าง เขียนที่เรามีความสุขไม่ต้องไปใส่ใจยอดวิว เป็นกำลังใจให้คุณเนตรภัคตราเสมอครับ
ขอเลือก "กั๊ตจัง" จากเรื่อง มัดหัวใจยัยซุปตาร์ You are my Makeup Artist แล้วนะคะ คาแรกเตอร์ตตัวละครแปลกดี หายากมากที่จะเจอพระเอกที่มีบุคลิกตุ้งติ้ง มือไม้กรีดกราย ในนิยายค่ะ อ่านแล้วสะดุดตาตั้งแต่แรกเลยค่ะ
ตัวละครที่ชอบที่สุดของคุณเนตรภัคตราคือภูููภูููมิิิจากเรื่องเล่ห์ลับสลับใจค่ะ เป็นตัวละครที่จุดประเด็นของเรื่องเลยถ้าไม่มีเขาคงไม่มีเจ้พัตตี้ของน้องพิม ความเกลียมัวเนี่ยที่หนึ่ง ส่วนการแสดงก็ไม่เป็นสองรองใคร เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์มาก ปากบอกไม่เล่นแต่พอได้แสดงเอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่แล้วนาทีนี้
อ่านของคุณเนตรภัคตรามาหลายเรื่องแล้วค่ะ แต่ยังยืนยันว่าชอบ กั๊ตจัง จากเรื่องมัดหัวใจยัยซุปตาร์ที่สุด รู้สึกว่าตัวละครนี้มีชีวิต เหมือนเขาโลดแล่นออกมาจากหน้าหนังสือแล้วก็เดินอยู่ตามถนนสวนๆ กันกับเรานี่เอง
เขาเป็นคนที่มีทุกมุม ไม่ว่าจะเข้มแข็ง ให้นางเอกมาหลบหลังเขา หรืออ่อนแอจนนางเอกต้องปกป้อง มีมุมมาดแมน และมีมุมตุ้งติ้ง ด้วยอาชีพหรือด้วยลักษณะนิสัยก็ตาม แต่มันสมจริงมาก ในชีิวิตจริงมีคนแบบนี้อยู่เยอะ
และทั้งหมดที่อ่านมาคือรู้สึกว่ากั๊ตจังรักนางเอกมาก รักมากจนแบบ ถ้าวาหลุดจากคนนี้ไป แล้ววาจะไม่ได้เจอคนที่รักวาแบบนี้อีกแล้วนะนอกจากกั๊ต แต่ในความรักมากๆ ของเขา มันก็มีความเห็นแก่ตัวปนอยู่ด้วยกับการที่ทำให้นางเอกท้อง เสียโอกาสในวงการไปมากมายเพียงเพราะกั๊ตอยากรั้งผู้หญิงคนนี้ไว้ข้างกาย มีทั้งดีและเลวปะปนกัน ตัวละครนี้เหมือนมีชีวิตจริงๆ เพราะคนเราก็เทาๆ เหมือนกันหมด ไม่มีใครดีไปซะทุกอย่าง
แต่สำหรับเราถ้าเราเป็นวา เสียโอกาสในอาชีพไปหลายอย่างคงไม่เป็นไร เพราะมันสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ระดับวาสิตา ซุปเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้าแล้ว ถ้ามันแลกมากับสามีและพ่อของลูกดีๆหนึ่งคน เงินทองและชื่อเสียงก็เอามาทดแทนบ่ได้เด้ออ
รักกั๊ตที่สุด <3