“เป้าหมายการเป็นนักเขียนเหรอ เราไม่เคยตั้งเป้าหมายเลย...
เราคิดแค่ว่า ฉันอยากเขียน ฉันลงนิยาย แล้วพวกคุณก็อ่าน แค่นั้น”
คำพูดที่ว่า “ฉันอยากเขียน” เป็นคำพูดที่นักเขียนชาวเด็กดีหลายคนใช้เล่าประสบการณ์การเป็นนักเขียนมาแล้วมากมาย เช่นเดียวกับ “ม่านฟ้า” นักเขียนนิยายแฟนตาซีเรื่อง “ภรรยาอันดับ 1” ผู้รักในการอ่านนิยาย และมีความฝันอยากจะเป็นนักเขียนตั้งแต่ยังเด็ก แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลครอบครัวตั้งแต่เรียนจบชั้นมัธยมปลาย ทำให้เธอต้องเก็บความฝันนี้เอาไว้ตลอดมา
กระทั่งวันหนึ่ง ม่านฟ้าผู้เป็นทั้งคุณแม่และพนักงานบริการที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหารายได้มาแบ่งเบาภาระครอบครัว บังเอิญได้มาอ่านนิยายในแอปเด็กดีและสังเกตเห็นเพื่อนๆ น้องๆ ในวัยที่หลากหลายเริ่มเขียนนิยายกันมากขึ้น เธอจึงอดคิดถึงความฝันในวัยเด็กที่ห่างหายไปตามกาลเวลาไม่ได้ ความฝันการเป็นนักเขียน ได้ทำในสิ่งที่รัก สิ่งที่เคยเป็นความปรารถนาสูงสุดในวันที่ชีวิตมีแต่ความสดใสและแพสชันแรงกล้า ไม่ต้องคำนึงถึงภาระหน้าที่ใดๆ สิ่งที่เธอเคยได้หลงลืมไปแล้ว ตอนนี้มันกลับมาตรงหน้าอีกครั้ง และเธออยากเหลือเกินที่จะทำให้สำเร็จ แม้ว่านั่นหมายความว่าเธอจะต้องแบ่งเวลาจากการดูแลลูกชายวัยสามขวบ และใช้เวลาว่างจากการทำงานประจำ มาคิดไอเดียเพื่อเขียนนิยายก็ตาม แต่เธอก็อยากจะลองเขียนนิยายของตัวเองดูสักครั้ง อย่างน้อยๆ มันก็ไม่มีอะไรเสียหาย แค่สมัครเปิดไอดีง่ายๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ถ้าอยากเลิกเขียนเมื่อไหร่ ก็หยุดได้ทันที
แต่... ม่านฟ้าก็ไม่ได้หยุดเขียนอีกเลย
เพราะหลังจากเขียนนิยายลงเว็บเด็กดีในเดือนกุมภาพันธ์ เพียง 10 กว่าตอน นิยายเรื่องแรกของเธอก็ไต่อันดับขึ้นท็อป 10 ของหมวดนิยายแฟนตาซีอย่างรวดเร็ว และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ประจวบกับครอบครัวของเธอประสบปัญหาทางด้านการเงินจากสถานการณ์ไวรัสโควิดที่กระทบคนทั้งโลก ม่านฟ้าที่เห็นนักเขียนคนอื่นๆ เปิดขายนิยายบนเว็บเด็กดีและมีรายได้สม่ำเสมอ จึงได้ตัดสินใจลองเปิดขายนิยายเรื่อง “ภรรยาอันดับ 1” ในเดือนมีนาคม โดยหวังว่าการขายนิยายออนไลน์จะเป็นช่องทางหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ จากวันแรกที่เธอตัดสินใจกลับไปตามหาความฝันวัยเด็กด้วยการลงนิยายในเว็บจนนิยายติดท็อปอันดับต้นๆ ของหมวดนิยายที่มีคนอ่านมากที่สุด นำไปสู่การส่งแพ็กเกจนิยายขายออนไลน์เป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว ทั้งหมดนี้กินเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น!!
ใช่แล้วค่ะ ฟังไม่ผิด เส้นทางการเป็นนักเขียนของม่านฟ้าเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ในวันนี้อดีตคุณแม่ที่เคยคิดว่าตัวเองได้ละทิ้งความฝันไปแล้ว ผู้หญิงที่กำลังเผชิญปัญหาวิกฤติวัยกลางคนคนนั้น ได้กลายเป็นนักเขียนขายดีติดอันดับนามปากกา “ม่านฟ้า” ที่สามารถหารายได้จากนิยายเรื่องแรกของตัวเองไปแล้ว
และ ในบทความนี้ม่านฟ้าขอมาร่วมแชร์ประสบการณ์เส้นทางนักเขียนที่เธอภาคภูมิใจ เพื่อจะส่งสารถึงใครก็ตามที่ยังลังเลหรือไม่แน่ใจว่าควรจะ “เริ่มลงมือเขียนนิยาย” หรือไม่ ว่า "ผลลัพธ์ที่ได้จากการเขียนนั้นคุ้มค่ากับความพยายามแน่นอนค่ะ" ไม่ว่าจะคุณจะเป็นใคร อยู่ในวัยไหน ลำบากหรือสบาย ทำงานประจำหรือกำลังเรียน หรือมีสถานะอะไร ขอเพียงมีความกล้ามากพอที่จะเดินตามฝัน และทำในสิ่งที่อยากทำด้วยใจที่เข้มแข็งและด้วยความตั้งใจอย่างแท้จริง เราเชื่อว่าย่อมมีสิ่งดีๆ กลับคืนมาเสมอ เหมือนเช่นที่ม่านฟ้ากำลังได้รับมันอยู่ ณ ตอนนี้
. . . . . .
หากจะพูดถึงนักเขียนเจ้าของนามปากกา “ม่านฟ้า” ต้องขอย้อนกลับไปเล่าถึงนิยายเรื่องแรกที่เธอเขียนกันก่อนเลยค่ะ เพราะเราจะไม่มีทางรู้จักนักเขียนสาวคนนี้เลย หากเธอไม่ได้สร้างสรรค์นิยายแนวครอบครัวเรื่อง “ภรรยาอันดับ 1” ขึ้นมา จนส่งผลให้นิยายเรื่องนี้ติดท็อปหมวดนิยายแฟนตาซีนานติดกันหลายสัปดาห์ จากอันดับ 17 ของหมวดนิยายแฟนตาซีก้าวขึ้นสู่อันดับ 10 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่เธอลงนิยายได้เพียงแค่ 10 กว่าตอนเท่านั้น
จากผลตอบรับที่ดีเกินคาดตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มเขียนนิยาย ทำให้ม่านฟ้าไม่คิดมาก่อนเลยว่า นักเขียนโนเนมที่ไม่มีชื่อเสียงมาก่อน และยังเริ่มต้นจากศูนย์ จะได้รับการต้อนรับจากนักอ่านชาวเด็กดีเป็นอย่างดี
“เราเริ่มเขียนนิยายตอนเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ นิยายเรื่อง “ภรรยาอันดับ 1” เป็นเรื่องแรกที่เราเขียน และไม่เคยคาดหวังว่าเราจะได้ผลตอบรับกลับมายอดเยี่ยมเลย เราไม่เคยคาดหวัง แค่คิดว่าเราได้ทำในสิ่งที่เรารักก็น่าจะโอเค เราคิดแค่นี้จริงๆ ตอนที่ลง”
“ผลตอบรับเป็นยังไงเหรอ พูดไม่ออกเลย เราลงนิยายไปสิบกว่าตอน ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า นิยายของนักเขียนโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก จะติดท็อป 20 ของหมวดแฟนตาซี มันเป็นอะไรที่แบบ ว้าว ดีใจมากจริงๆ เราอยากจะบอกว่าขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่สนับสนุนเราจริงๆ เราไม่คิดว่าผลตอบรับที่ได้กลับมา มันจะดีจนต้องร้องว้าว นักเขียนโนเนม ไม่มีชื่อเสียง เริ่มจากศูนย์ ได้รับการต้อนรับแบบนี้ ตื่นเต้นมากที่สุด ทั้งนักอ่านยอดวิวและคอมเมนต์ส่วนใหญ่เป็นแนวโน้มที่ดี เรามีความสุขที่ได้ทำ”
ผลตอบรับที่ดีเกินคาดทำให้เธอคิดถึงความฝันในวัยเด็กขึ้นมาทันที ตอนที่เธอยังเด็ก เธอชอบอ่านนิยายมาก จนทำให้เธอมีความฝันอยากจะเขียนนิยายของเธอขึ้นมาบ้าง แต่พอโตขึ้นเธอก็เห็นว่าความฝันกับความเป็นจริงนั้นต่างกันมาก เธอยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล และสมัยนั้นการเป็นนักเขียนไม่ได้เป็นกันง่ายๆ เหมือนทุกวันนี้
ม่านฟ้าเล่าให้เราฟังว่า กว่าที่เธอจะมาเขียนนิยายได้อย่างตอนนี้ เธอทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กมาก่อน แต่ก่อนหน้านั้นหลังจากที่เธอเรียนจบชั้นมัธยมปลาย และไม่ได้เรียนต่อ เธอก็เริ่มทำงานหาเงินเพื่อมาเลี้ยงครอบครัวทันที ทำให้ความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นนักเขียนค่อยๆ จางหายไป พอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกความเป็นจริงมากกว่า และเข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการผ่านการอ่านนิยายเท่านั้น
“การเขียนนิยายมันเหมือนเป็นความฝันสมัยเด็กด้วย เมื่อก่อนสมัยเด็ก เราอ่านนิยายของนักเขียนดังๆ แล้วเราคิดว่าเขาเก่งจังเลย เราก็อยากทำเหมือนเขาบ้าง แต่พอโตขึ้นมาแล้ว ความฝันกับความเป็นจริงมันก็ต่างกันใช่ไหม แต่ว่าเราชอบอ่าน เรารักในการอ่านนิยาย รักในการเขียน แล้วเราเห็นน้องๆ ที่เขาเริ่มเขียน เราก็คิดว่าเราน่าจะทำได้ เราถึงเริ่มมาเขียนนิยาย”
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ม่านฟ้าอยากลองเขียนนิยายของตัวเองดูบ้าง มาจากการที่เธอชอบเข้าไปอ่านกระทู้นักเขียนเด็กดีเป็นประจำ ทำให้เธอมีความคิดอยากเขียนตลอดเวลา รวมถึงที่ผ่านมา เธอเองก็เป็นนักอ่านสายเปย์มาโดยตลอด ทำให้เธอเห็นว่านิยายหลายเรื่องเกิดจากฝีมือของนักเขียนมือใหม่หลายคน เธอจึงตัดสินใจเริ่มเขียนนิยายเรื่อง “ภรรยาอันดับ 1” ขึ้นมา
“นิยายเรื่องภรรยาอันดับ 1 เป็นเรื่องแรกที่เราเขียนในเด็กดีเลยค่ะ เราอยากจะเขียนให้เป็นแนวของครอบครัว สื่ออารมณ์ให้รู้ว่าฉันก็ทำเพื่อเธอนะ แต่สองคนนี้อาจจะไม่ได้เปิดอกเปิดใจกัน ผลสุดท้ายก็คือการเข้าใจผิด มันมีหลายแง่มุมในครอบครัวที่แสดงออกมา”
“ตอนนั้น เราคิดว่าแฟนตาซีมันเขียนง่ายกว่านิยายแนวอื่นๆ เราไม่ต้องหาข้อมูลเจาะลึกให้มาก ซึ่งนิยายแฟนตาซีในนิยามของเราคือ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ เหนือธรรมชาติ เราเลยคิดว่านิยายแฟนตาซีน่าจะหมาะกับเรา เหมาะกับนักเขียนหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเหมือนเรา”
แล้วการคาดเดาของม่านฟ้าก็เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ผลตอบรับที่ดีเกินคาดทำให้เธอรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากๆ เพราะนี่คือความฝันในวัยเด็กที่เธอเพิ่งเริ่มลงมือทำในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
แต่แล้วโลกความเป็นจริงก็ดึงเธอกลับออกมาจากโลกจินตนาการ ม่านฟ้าเล่าว่าช่วงนั้นครอบครัวของเธอเกิดปัญหาด้านการเงินขึ้นมาพอดี ตอนนั้นสิ่งเดียวที่นึกออกก็คือนิยายของเธอบนเว็บเด็กดี เธอบอกว่าในฐานะที่เป็นนักอ่านสายเปย์มาก่อน เธอรู้ว่าจะต้องมีนักอ่านที่ยินดีสนับสนุนนิยายของเธออยู่แน่นอน นี่จึงเป็นก้าวแรกที่ทำให้เธอตัดสินใจขายนิยายออนไลน์เป็นอาชีพเสริม
“ถ้าพูดแล้วมันดราม่านะ มันมีอยู่ช่วงที่สามีของเราทำงานในบริษัท แล้วบริษัทเขาประสบปัญหา ไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานเลยสามเดือน ซึ่งเราก็พบปัญหาว่าขาดสภาพคล่อง แล้ว เราเห็นน้องๆ เพื่อนๆ นักเขียนลงขายนิยายในเด็กดี เราคิดว่าตัวเราก็เขียนนิยายอยู่นะ เราน่าจะลงขายได้แบบเพื่อนเขาบ้าง ถ้าขายได้มันอาจจะเป็นอาชีพเสริมอย่างนึงของเราก็ได้ เราถึงตัดสินใจลงขายค่ะ”
“ส่วนตัว เราไม่เคยตีค่าว่านิยายของเราต่ำกว่าคนอื่นนะ เราคิดแค่ว่าคนอื่นทำได้ เราก็ทำได้ เรามั่นใจว่าเราทำดีที่สุด ถึงคนอื่นจะบอกว่ามันไม่ดี แต่เราก็มั่นใจว่าเราทำดีที่สุดแล้ว”
เมื่อเริ่มมาก้าวหนึ่งแล้วก้าวต่อไปก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ม่านฟ้าบอกว่าหลังตัดสินใจเปิดขายนิยายไปได้เพียงห้าวัน เธอก็ได้รับการสนับสนุนจากนักอ่านเป็นจำนวนมาก ทำให้มุมมองของเธอที่มีต่อการขายนิยายออนไลน์ค่อยๆ เปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งเธอบอกว่าการขายนิยายบนเว็บเด็กดี ทำให้เธอได้รับกำลังใจดีๆ จากนักอ่าน มากกว่าจะรู้สึกว่ากำลังขายนิยายอยู่
“หลังจากเปิดขายแล้วได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ นักอ่านล้นหลามมาก บอกเลยว่าปลื้มมาก (น้ำตาซึม) เราไม่เคยคาดหวัง แต่ว่าเราเปิดขายแค่ห้าวันแรก ยอดขายของเราพุ่งไปห้าพันกว่าบาท ขอบคุณนักอ่านทุกท่านจริงๆ ที่ให้การตอบรับนักเขียนมือใหม่อย่างเรา”
“การเปิดขายแพ็กเกจของเรามันเหมือนกับการเปิดให้นักอ่านทุกท่านช่วยสนับสนุนมากกว่า ช่วยสนับสนุนเรา ให้กำลังใจเรามากกว่า มันไม่เหมือนการขายร้อยเปอร์เซ็นต์ มันหมือนการขอกำลังใจสนับสนุนมากกว่า นักอ่านคนไหนที่เขาอยากสนับสนุนเรา เขาก็ซื้อแล้วก็โหลดไว้ เก็บไว้อ่านในภายหลังได้ค่ะ”
ม่านฟ้ายังเล่าต่ออีกว่า การเขียนนิยายสามารถเป็นอาชีพได้แน่นอน จากตอนแรกที่คิดจะนำรายได้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว แต่รายได้ที่ได้รับมาเยอะเกินกว่าจะเป็นรายได้เสริม เธอจึงตัดสินใจแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาใช้จ่ายในครอบครัว และอีกส่วนหนึ่งนำไปสนับสนุนนักเขียนคนอื่นๆ ต่อไป
“การเขียนนิยายเป็นอาชีพ ทำได้แน่นอน เราเชื่อมั่น ว่ามันทำได้แน่นอน เพราะเราดูจากผลตอบรับของเรา เราเชื่อว่าถ้าใครเอาดีด้านนี้ เขาก็คงจะโอเค”
“รายได้ที่ได้รับมาบอกเลยคือโอเคมาก บอกเลยว่าเรายได้ที่ได้จากเว็บไซต์เด็กดีคือ หลักหมื่น สองหมื่นกว่าบาทที่ถูกโอนเข้าบัญชี เราคิดว่ามันได้มากขนาดนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) พอมีรายได้จากตรงนี้ เราคิดว่ารายได้ส่วนหนึ่งก็คือเขา(นักอ่าน)สนับสนุนเรามา เราก็สนับสนุนนักเขียนท่านอื่นๆ ต่อไป ส่วนหนึ่งเราก็ไปสนับสนุนเพื่อนๆ นักเขียนที่ลงนิยายขายเหมือนกัน อีกส่วนหนึ่งก็เก็บไว้ใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ”
นอกจากนี้ ม่านฟ้ายังเล่าให้ฟังอีกว่า ตั้งแต่เริ่มทำตามความฝันในวัยเด็ก เธอไม่เคยบอกใครมาก่อนเลย กระทั่งเธอสามารถหาเงินจากการขายนิยายได้ เธอรู้สึกภูมิใจจนอยากจะนำไปเล่าให้คนอื่นๆ ฟังถึงความสำเร็จที่เธอได้รับ ซึ่งคนแรกๆ ที่เธอบอกให้รู้ก็คือสามีของเธอนั่นเองค่ะ ม่านฟ้าเล่าอย่างขบขันแต่แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจว่า...
“ตอนแรกบอกเลยว่า เราเขียนนิยายเราไม่ได้บอกใคร เราเขียนเอง ให้เพื่อนที่ทำงานมาอ่านทบทวนให้ ว่าพอใช้ได้ไหม แล้วเราก็ลงในเว็บเด็กดี เราก็ไม่ได้บอกใคร เราก็ไม่ได้บอกแฟน แต่ตอนที่เราเปิดขายไปแล้วผ่านไปห้าวัน เราก็ไปบอกเขาว่า...
“เธอๆ ฉันน่ะเขียนนิยายนะ แล้วฉันก็ลงขายในเว็บไซต์แล้วด้วย” แฟนเราบอก “มีคนซื้อนิยายของเธอด้วยเหรอ” อุ๊ย เราก็เลยบอกว่า “เธออย่ามาดูถูกฉันนะ ฉันทำได้ ฉันเก่งพอ และฉันทำได้” (หัวเราะ)”
ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ม่านฟ้าเริ่มทำตามความฝันในวัยเด็ก จนกระทั่งมีนิยายเรื่องแรกบนเว็บเด็กดี เธอบอกกับเราว่า ที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัญหาของนักเขียนมือใหม่อยู่หลายครั้ง ทั้งเรื่องเวลาการเขียนนิยาย คอมเมนต์จากนักอ่าน ตลอดจนการตัดสินใจเปิดขายนิยาย เธอรู้สึกว่าเธอเดินมาไกลมาก และหวังว่าเส้นทางการเป็นนักเขียนต่อจากนี้จะช่วยเติมเต็มความฝันของเธอให้เป็นจริงได้ตลอดไป
“เป้าหมายการเป็นนักเขียนเหรอ เราไม่เคยตั้งเป้าหมาย เราไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องได้ตีพิมพ์ เธอจะต้องได้รับผลตอบรับที่ยอดเยี่ยม ต้องติดท็อปนะ ต้องมียอดวิวเป็นล้านเป็นแสน เราไม่เคยคิดเลย เราคิดแค่ว่า ฉันอยากเขียน ฉันลงนิยาย แล้วพวกคุณก็อ่าน แค่นั้น เรามีความสุขที่ได้เขียน และเรามีความสุขที่ได้อ่านคอมเมนต์ของนักอ่านทุกคน ไม่ว่าคอมเมนต์จะดีไม่ดียังไง เราก็มีความสุขอ่ะ คนที่คอมเมนต์มาไม่ดีเราก็มองข้ามไป ส่วนคนที่คอมเมนต์ดี เราก็เก็บมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง สู้ต่อไปในฐานะนักเขียนคนหนึ่ง”
บทความนี้ใช้เวลาอ่านเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นค่ะ ใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ จะเห็นว่าเว็บไซต์ Dek-D ไม่ใช่แค่เพียงเว็บไซต์ที่ขับเคลื่อนเฉพาะวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่คนในวัยทำงานก็สามารถใช้พื้นที่บนเว็บไซต์แห่งนี้ สานต่อความฝันในวัยเด็กให้เป็นจริงขึ้นมาได้เช่นกัน
ถึงแม้ว่าในโลกความเป็นจริง คนที่ประสบความสำเร็จ จะไม่ได้มีเพียงแค่ “ความฝัน” เท่านั้น แต่นักเขียนสาวที่เราชวนมาบอกเล่าประสบการณ์กันในวันนี้ แม้ว่าเธอจะมีงานประจำที่ต้องทำ มีครอบครัวที่ต้องดูแล ทั้งยังเป็นนักเขียนโนเนมที่ไม่เคยเขียนนิยายมาก่อน แต่ในวันนี้เธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นกันแล้วว่า ความฝันในวัยเด็กไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ถ้าเราชอบอ่านนิยาย และรักในการเขียน เราสามารถทำความฝันการเป็นนักเขียนได้ง่ายๆ เพียงแค่เริ่มเขียนนิยายบนเว็บไซต์เด็กดีเท่านั้นค่ะ
นอกจากนี้ ม่านฟ้ายังได้พิสูจน์ให้เราเห็นอีกว่า การเขียนนิยายเป็นอาชีพ สามารถทำได้จริง แม้ในตอนนี้เธอจะเขียนนิยายเพียงแค่เรื่องเดียว แต่รายได้จากการสนับสนุนของนักอ่าน ก็มากพอที่จะยืนยันได้ว่า เราสามารถเขียนนิยายเพื่อหารายได้ได้จริง
หากเราเชื่อว่าความฝันในวัยเด็กไม่ใช่เรื่องไร้สาระ และเชื่อว่าไม่สายเกินไปที่จะทำความฝันให้เป็นจริง มาเริ่มเขียนนิยาย และศึกษาการขายกันได้ง่ายๆ ที่ลิงก์นี้เลยค่ะ : bit.ly/writer-howto
พี่แนนนี่เพน
อ่านผลงานของ “ม่านฟ้า”
1 ความคิดเห็น
“ฉันอยากเขียน” เป็นคำสั้นๆ ที่ทรงพลังดีครับ ชอบอ่านสำภาษณ์นักเขียนได้แรงบันดาลใจดี
เป็นกำลังใจให้ทีมงานครับ