เขียนนิยายให้จบเร็ว x10 แถมไม่ตัน
ด้วย 'Skeleton Outline' 

 

ก่อนเริ่มต้นเขียนนิยาย ทุกคนทำยังไงบ้างคะ? 

คิดได้แล้วเขียนเลย หรือวางพล็อตให้ละเอียดยิบแล้วค่อยเขียน 

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันไม่มีถูกหรือผิด เพียงแต่ในวันนี้พี่น้ำผึ้งอยากชวนทุกคนลองมาวาง "โครงเรื่อง" ก่อนเขียนนิยาย เพราะว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้การเขียนนิยายง่ายและเร็วขึ้นกว่าเดิม   แถมยังช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายของการเขียน   ไม่ว่าจะเป็นการเขียนจบบท เขียนจบเรื่อง เขียนได้เรื่อยๆ แบบไม่ตัน

วิธีวางโครงเรื่องที่นำมาฝากในวันนี้ เด็ดดวงมากๆ แม้ชื่อจะฟังดูสยอง แต่วิธีการไม่ได้สยองตาม ตรงกันข้ามกลับช่วยบรรเทาความน่าสะพรึงกลัวบางอย่างในการเขียนนิยายได้ (ขำ) มันคือวิธีการวาง "โครงร่างโครงกระดูก (skeleton outline)” ค่ะ!

 

 

การวางโครงร่างโครงกระดูก (skeleton outline) เปรียบเหมือนสารบัญของนิยาย!

เช่นเดียวกับโครงกระดูกที่เป็นโครงร่างของร่างกายมนุษย์  การวางโครงร่างโครงกระดูก (skeleton outline) ก็เปรียบเสมือนโครงสร้างของงานเขียน มันคือการแยกย่อยทุกองค์ประกอบของนิยายออกเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้เรารู้ว่านิยายของเราจะมีตัวละครอะไรบ้าง มีฉากไหน ช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องเขียนอะไร แม้ว่าเราจะยังไม่ได้คิดถึงเนื้อหาของมันจริงๆ ก็ตาม

ถ้าหากยังนึกภาพตามไม่ออก ลองนึกภาพของสารบัญหนังสือ ในสารบัญอาจจะแสดงลิสต์ของชื่อ บท หรือแม้แต่ส่วนย่อยที่สำคัญ หรือหัวข้อที่ครอบคลุมในแต่ละบท นั่นแหละ คล้ายกับโครงร่างโครงกระดูก มันคือการวางโครงร่างแบบแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนย่อยๆ
 

แล้วโครงร่างโครงกระดูกจะช่วยให้เราเขียนนิยายได้ไวขึ้นอย่างไร?

โครงร่างโครงกระดูกมีจุดประสงค์หลักที่สำคัญคือ "เพื่อช่วยให้เราเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" 

คิดว่ามันเป็น GPS สำหรับการเขียนของเราสิ หากเราไม่ได้ป้อนจุดหมายปลายทาง หรือไม่ลองดูเส้นทางที่วางแผนจะใช้คร่าวๆ เราก็อาจจะไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้เราจะไปถึงที่นั่นจริง แต่อาจใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็น

แน่นอน โครงร่างโครงกระดูกช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของสิ่งที่เรากำลังจะเขียน ก่อนที่เราจะเริ่มต้นร่างเนื้อหาของเรื่อง สิ่งนี้สามารถทำให้กระบวนการเขียนเร็วขึ้น เหมือนเราเลือกใช้เส้นทางขับรถที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น
 

• เราสามารถโยนไอเดียต่างๆ ใส่ไปในโครงร่างนี้ จากนั้นจะหยิบอันที่ใช่มาใช้ ตัดอันที่ไม่เกี่ยวออกไป ซึ่งเราสามารถรีไรต์จนกว่าจะพอใจ มันเป็นโครงร่างที่ไม่จำกัดความคิดสร้างสรรค์ และให้อิสระในการสร้างแรงบันดาลใจ
• เราจะรู้แน่ชัดว่าต้องค้นหาข้อมูลอะไร ดังนั้นเราจึงไม่ต้องเสียเวลารวบรวมข้อมูลที่ไม่จำเป็น
• โครงร่างโครงกระดูกจะแยกย่อยเรื่องราวแบบคร่าวๆ ไม่จำเป็นต้องเขียนให้เป็นเส้นตรง เราสามารถกระโดดไปมาระหว่างส่วนต่างๆ หรือจัดการส่วนที่ง่ายที่สุดก่อนเพื่อเพิ่มแรงบันดาลใจได้
   

สำหรับวิธีนี้ เราสามารถใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีเพื่อเขียนประเด็นที่เราต้องการเสนอในนิยายของเรา ผลลัพธ์ที่ได้คือเอกสารง่ายๆ ที่ช่วยให้เราติดตามการเขียนได้หลายวิธี เมื่อมีโครงร่างโครงกระดูกแล้ว เราสามารถเริ่มสร้างเนื้อหาที่เหลือได้

 

 

มาร่าง "โครงร่างโครงกระดูก" กัน

โดยพื้นฐานแล้วโครงร่างโครงกระดูกคือ "สารบัญของงานเขียน" มันไม่ใช่โครงร่างที่ละเอียดยิบหรือเป็นทางการเหมือนเวลาเขียนรายงานส่งคุณครู แต่มันก็มีหัวข้อย่อยและประโยคเต็มๆ เพราะโครงร่างโครงกระดูกก็เป็นแค่ "กระดูก" ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อ ตัวอย่างเช่น
 

Outline

I. บทนำ
 

II. พล็อต : ต้นเรื่อง
   A. รายละเอียด
   B. รายละเอียด
   C. รายละเอียด
 

III. พล็อต : กลางเรื่อง
   A. รายละเอียด
   B. รายละเอียด
   C. รายละเอียด
 

IV. พล็อต : ท้ายเรื่อง
   A. รายละเอียด
   B. รายละเอียด
   C. รายละเอียด
 

V. บทสรุป
 

ทุกคนสามารถใช้เทมเพลตนี้เพื่อสร้างโครงร่างโครงกระดูกสำหรับงานเขียนเกือบทุกชิ้นที่กำลังจะเขียน โดยเราอาจจะแทนที่ตัวยึดตำแหน่งเช่น พล็อต : ต้นเรื่อง, รายละเอียด และบทสรุป ด้วยชื่อบทหรือพล็อตย่อยๆ ของเรา ตามแต่สะดวก อย่างไรก็ตาม โครงร่างนี้จะไม่ซับซ้อนไปมากกว่านี้ 

 

แล้วจะใช้โครงร่างโครงกระดูกยังไง?

เมื่อมีโครงร่างโครงกระดูกเวอร์ชั่นสมบูรณ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องดึงโครงกระดูกออกมาใช้! หากใครไม่เคยลองใช้มาก่อน รับรองจะต้องประหลาดใจกับความยอดเยี่ยมของมันที่ช่วยให้เราเขียนนิยายแต่ละบทจบอย่างรวดเร็ว เราสามารถเริ่มต้นจากการหยิบ หัวข้อที่จะเขียน -> ใส่รายละเอียด -> ลงมือเขียนจริง เพื่อภาพที่ชัดเจน   ลองดูตัวอย่างจากนิยายเรื่อง อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ภาคราชสีห์ แม่มด กับตู้พิศวง ด้านล่างนี้ 
 

I. บทนำ 

สี่พี่น้องตระกูลพีเวนซีย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ในชนบทที่ดูน่ากลัวและลึกลับ

note: เด็กๆ ตระกูลพีเวนซีกำลังปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ที่บ้านของศาสตราจารย์ในชนบท พวกเขาถูกส่งตัวไปอยู่ที่นั่นเพราะอันตรายในช่วงสงคราม พวกเขาต้องแยกออกจากพ่อแม่ซึ่งอาจตกอยู่ในอันตรายแม้กระทั่งตอนนี้ บ้านหลังใหม่ของพวกเขามีขนาดใหญ่และดูลึกลับ ศาสตราจารย์และแม่บ้านดูน่ากลัว แต่ขณะเดียวกันก็ดูเข้มงวด
 

II. พล็อต : ต้นเรื่อง

ลูซี่ค้นพบโลกใบใหม่ที่ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า 

note: ลูซี่พบโลกใบใหม่ที่ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ครอบครัวของเธอเชื่อว่าเธอแกล้งทำเป็นเล่นเพื่อรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ ในขณะเดียวกันเอ็ดมันด์ก็ค้นพบโลกในตู้เสื้อผ้าเช่นกัน เขาได้พบกับผู้หญิงแสนสวยแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว หลังจากกินขนมของเธอ เขาก็ตกลงที่จะพาพี่น้องคนอื่นๆ มาหาเธอ

A. รายละเอียด

พี่น้องทั้งสี่ปีนเข้าไปในตู้เสื้อผ้าเพื่อค้นหาเพื่อนของลูซี่ที่ถูกคนของราชินีจับตัวไป
 

III. พล็อต : กลางเรื่อง

เด็กๆ ทั้งสี่เป็นกษัตริย์และราชินีแห่งนาร์เนียที่ชอบธรรม

note: หลังจากช่วยเหลือเอ็ดมันด์ บรรดาสัตว์พูดได้พบกับอัสลานที่โต๊ะหิน นาร์เนียตกอยู่ภายใต้การคุกคามครั้งใหญ่จากแม่มดขาวที่เรียกตัวเองว่าราชินีแห่งนาร์เนีย จะไม่มีการหลีกเลี่ยงสงคราม อัสลานอ้างว่าเด็กๆ ทั้งสี่เป็นกษัตริย์และราชินีแห่งนาร์เนียที่ชอบธรรม
 

IV. พล็อต : ท้ายเรื่อง

เอ็ดมันด์ตกเป็นคนของราชินี

note: ราชินีเรียกร้องชีวิตของเอ็ดมันด์ตามกฎเมื่อแรกเริ่มสถาปนานาร์เนีย เอ็ดมันด์ทรยศพี่ๆ ด้วยการเข้าไปอยู่ฝั่งราชินี     อัสลานจึงเข้าพบเธอเป็นการส่วนตัวโดยมีข้อตกลงส่วนตัว

A. รายละเอียด

อัสลานถูกฆ่า
 

V. บทสรุป

เด็กๆ นำทัพเผ่าพันธุ์แห่งนาร์เนียเพื่อต่อต้านกองกำลังของแม่มดขาว อัสลานกลับมาพร้อมกับสังหารแม่มดขาว ฤดูหนาวที่ไม่สิ้นสุดจึงหายไป นาร์เนียถูกปลดปล่อย
 

นาร์เนีย
(via:   ภาพยนตร์)
 

นี่คือโครงร่างโครงกระดูกที่เป็นพื้นฐานของเรื่อง แน่นอนว่าเราสามารถรวมพล็อตย่อยต่างๆ เพื่อให้น่าสนใจมากขึ้น โดยเราจะกล่าวถึงสองประเด็นเป็นตัวอย่างสั้นๆ 
 

• ซานตาคลอสให้ของขวัญวิเศษแก่เด็กสามคน
• เอ็ดมันด์ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหนีออกจากราชินีขาว 
   

แต่ละอันมีจุดเริ่มต้น จุดบีบคั้น และบทสรุปเป็นของตัวเอง เอ็ดมันด์เปลี่ยนใจทรยศราชินีขาวและลงเอยด้วยการช่วยพี่ชายของเขาด้วยการทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ในกรณีของของขวัญจากซานต้า ลูซี่ได้รับของขวัญล้ำค่าที่ในตอนแรกไม่น่าประทับใจเท่ากับดาบของปีเตอร์หรือธนูของซูซาน แต่ของขวัญของเธอกลับเป็นขวดของเหลวที่มีคุณสมบัติในการรักษาที่ทรงพลัง ในท้ายที่สุดเธอช่วยเอ็ดมันด์จากบาดแผลฉกรรจ์ และสามารถช่วยสิ่งมีชีวิตที่บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากในสนามรบด้วยของเหลวทีละหยด 

เราเลือกที่จะทำให้พล็อตย่อยเหล่านี้สิ้นสุดลง พร้อมกับบทสรุปของพล็อตหลักโดยเสริมความแข็งแกร่งให้กับมัน พล็อตย่อยทั้งสองทำให้เด็กทั้งสี่คนให้อภัย ไว้วางใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ทำให้พวกเขาเป็นครอบครัวที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม

นั่นคือตัวอย่างการวางโครงร่างโครงกระดูกแบบคร่าวๆ แน่นอนว่ามันสามารถมีหัวข้อมากกว่านี้ได้ถ้าเราต้องการ เช่น นิยายมหากาพย์แฟนตาซีอาจมีพล็อตหลายจุดก่อนถึงพล็อตกึ่งกลางเรื่อง ขึ้นอยู่กับเราว่าจะใส่อะไรเพิ่มลงไปบ้าง พอเห็นภาพรวมแล้วก็สามารถลงมือเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ออกทะเล

................

โครงร่างโครงกระดูกเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและใช้ได้อย่างรวดเร็ว มันจะช่วยให้เราเขียนนิยายได้โดยไม่ติดขัดบ่อยนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีนิสัยชอบตัน ไม่รู้จะเขียนอะไร สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการวางโครงร่างโครงกระดูกคือ มันไม่เคยปล่อยให้เราต้องนั่งจ้องหน้ากระดาษเปล่าพลางสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เรารู้ว่าเราครอบคลุมหัวข้อใดบ้าง แต่ละบทจะเขียนรายละเอียดอย่างไร เรารู้ว่าเราต้องการฉากไหน และรู้ว่าทุกอย่างต้องผูกกันอย่างไร ดังนั้นการมีโครงสร้างที่เรียบง่ายแบบนี้สามารถเพิ่มความเร็วในการเขียนนิยายของเราได้อย่างมาก ลองหยิบไปใช้ดู รับรองว่าปลายทางในการเขียนนิยายให้จบไม่ไกลเกินเอื้อม!!

 

พี่น้ำผึ้ง :)

ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash