Teen Coach EP.7 : เราเป็นคนแบบไหน? รู้จักตัวเองดีขึ้นผ่าน 'MBTI'

Spoil

  • "บุคลิกภาพ" คือตัวตนที่ค่อนข้างมั่นคง ไม่ค่อยมีความเปลี่ยนแปลง นอกจากเจอเหตุการณ์กระทบจิตใจ
  • MBTI คือแบบทดสอบวัดบุคลิกภาพที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น
  • แต่อย่ายึดติดกับ MBTI จนเกินไป เพราะแบบทดสอบที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ย่อมมีความคลาดเคลื่อน

‘INFP’ ‘ENFJ’ ‘ESTJ’

         ในช่วงที่ผ่านมา อักษรสี่ตัวแบบนี้ต้องเคยผ่านตาน้องๆ กันบ้าง บางคนอาจจะรู้ว่าคืออะไร แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ วันนี้พี่นักเก็ตมีคำอธิบายมาให้น้องๆ แล้วค่ะ!

         ก่อนอื่นเลย น้องๆ ต้องทำความเข้าใจว่า ตัวอักษรเหล่านี้เปรียบเสมือนตัวแทนในการอธิบาย บุคลิกภาพ (Personality) ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน และบุคลิกภาพนี่แหละ คือองค์ประกอบหลักที่ทำให้ทุกคนมีความคิด อารมณ์ พฤติกรรม และการแสดงออกต่อสังคมที่ไม่เหมือนกัน

ความน่าสนใจก็คือ บุคลิกภาพนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมั่นคง ไม่ค่อยมีความเปลี่ยนแปลงมากนักในอนาคต แต่ก็มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้หากเกิดเหตุการณ์สำคัญ ที่ส่งผลกระทบ (impact) บางอย่างต่อตัวเรา แต่ส่วนใหญ่ บุคลิกภาพจะเป็นลักษณะที่ค่อนข้างคงทนและยาวนานค่ะ

แต่ทั้งนี้ วัยรุ่นคือวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพมากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เรากำลังสร้างตัวตนจากอิทธิพลหลายๆ อย่าง เช่น สิ่งเเวดล้อม สังคม ความผูกพันตั้งแต่เกิด และปัจจัยอีกมากมาย ทำให้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าบุคลิกภาพเกิดจากอะไรบ้าง บางครั้งบุคลิกภาพที่มีความผิดปกติบางอย่าง (personality disorders) ก็สามารถเกิดจากอิทธิพลทางพันธุกรรมได้เช่นกัน โดยที่เราจะสามารถรับการวินัจฉัยความผิดปกติของบุคลิกภาพได้ เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไปค่ะ (American Psychiatric Association, 2018)

จริงๆ แล้วการศึกษาเรื่องบุคลิกภาพมีมานานมากโดยนักจิตวิทยาหลายยุคหลายสมัย บางมหาวิทยาลัยในต่างประเทศถึงกับมีสาขาที่ศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากบุคลิกภาพนั้นมีความสำคัญต่อบทบาทในการดำรงชีวิตของมนุษย์ และหลังจากมีคนศึกษาด้านนี้มากขึ้น จึงทำให้สามารถจัดกลุ่มบุคลิกภาพได้เป็น 16 Personalities และอีกกลุ่มที่โด่งดังไม่แพ้กันก็คือ Big 5 Personalities แต่การศึกษาเกี่ยวกับบุคลิกภาพของมนุษย์นั้นก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่มีรูปแบบที่อธิบายได้ดีที่สุด และยังมีข้อจำกัดอีกมากมาย

แล้วตัวอักษร 4 ตัวที่ฮิตๆ กัน มาจากไหนล่ะ?

 ตัวอักษรที่เราเห็นกันบ่อยๆ นี้ มาจาก แบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI หรือชื่อเต็มว่า The Myers–Briggs Type Indicator เป็นแบบวัดบุคลิกภาพที่พัฒนาในช่วงปี 1940 โดย Isabel Myers และแม่ของเธอ Katherine Briggs ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1962 โดยอ้างอิงจากทฤษฎีของ Carl Jung ที่มองว่าเราสามารถจัดกลุ่มของคนได้ เนื่องจากคนไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก เพียงแค่มีเพียงพฤติกรรม (patterns) ที่ต่างกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแบบวัดที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด

แบบวัด MBTI นี้ประกอบด้วยอักษร 8 ตัว คือ E I P S T F N J แบ่งการวัดผลออกเป็น 4 มิติ ตามนี้

มิติที่ 1 : แหล่งพลังงาน (Favorite World)

มิตินี้สำคัญที่สุด และเป็นบุคลิกภาพที่มีความคงทนที่สุด ระหว่างความชื่นชอบการออกไปพบสังคมภายนอก และความชื่นชอบในการอยู่ภายในพื้นที่ของตัวเอง สิ่งนี้คือ Extraversion (E) – Introversion (I)

มิติที่ 2 : การรับรู้ข้อมูล (Information)

ระหว่างรับข้อมูลตามหลักความเป็นจริง และรับข้อมูลโดยทำความเข้าใจแล้วตีความใหม่ เรียกว่า Sensing (S) – Intuition (N)

มิติที่ 3 : การตัดสินใจ (Decisions)

เมื่อต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง สิ่งแรกคือมองหาตรรกะและความสอดคล้อง หรือมองจากบุคคลและสภาวะแวดล้อมต่างๆ คือ Thinking (T) – Feeling (F)

มิติที่ 4 : การดำเนินชีวิต (Structure)

ระหว่างต้องการให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามความต้องการของตัวเอง และเปิดใจรับข้อมูลกับตัวเลือกใหม่ๆ เรียกว่า Judging (J) – Perceiving (P)

สำหรับใครที่สนใจทำแบบวัดบุคลิกภาพ MBTI สามารถลองทำได้ที่  https://www.16personalities.com/th

จริงๆ แล้วมีแบบวัดทางบุคลิกภาพอีกมากมาย แต่ MBTI แตกต่างจากแบบวัดอื่นตรงที่มีเป้าหมายให้เราเข้าใจลักษณะเฉพาะของตัวเองอย่างคร่าวๆ ต่างจากแบบวัดอื่นที่มีคะแนน แล้วนำไปเทียบกับประชากร (norm) หลายคนทำแบบวัดนี้หลายครั้งแล้วพบว่าได้ผลลัพธ์คล้ายเดิมหรือไม่ต่างจากเดิมมาก แต่ในบางกรณีก็ทำแล้วเปลี่ยนไปเลยหลังเจอจังหวะชีวิตที่พลิกผัน ซึ่งพี่นักเก็ตก็ไม่อยากให้น้องๆ ยึดติดกับมันจนเกินไปค่ะ ว่าเราได้บุคลิกภาพนี้ แสดงว่าเราต้องเป็นคนแบบนี้ นิสัยแบบนี้ เพราะในความจริงนี่เป็นเพียงการคาดคะเนและประเมินแนวโน้มเท่านั้น คนที่มี MBTI แบบเดียวกันสามารถมีลักษณะแตกต่างกันได้ เพราะทุกคนต่างมีความเฉพาะเจาะจงในตัวเอง เพียงแต่ในความต่างก็ยังมีความคล้ายคลึงอยู่บ้าง จึงทำให้เกิดการจัดกลุ่มขึ้นมา

ส่วนเรื่องที่ควรระมัดระวังเกี่ยวกับ MBTI นั้น พี่นักเก็ตต้องเตือนน้องๆ ก่อนว่าแบบวัดชนิดนี้ยังมีค่าทางสถิติไม่สูงมาก เรียกได้ว่าอาจเกิดความคลาดเคลื่อน (errors) จากการทำแบบทดสอบได้ และ MBTI ไม่ได้ใช้เพื่อประเมินสุขภาพจิต หรือแม้แต่วินิจฉัยความผิดปกติของบุคลิกภาพ มันแค่ถูกสร้างมาเพื่อให้เข้าใจจุดแข็งของเราเท่านั้นค่ะ

อย่าลืมว่าการทำแบบทดสอบทางจิตวิทยาต่างๆ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยแปลผล วิเคราะห์ และให้คำปรึกษา ดังนั้นการแบบทดสอบด้วยตนเองจึงอาจไม่มีความแม่นยำถูกต้องเท่าไรนัก และแบบทดสอบแต่ละชุดก็มีข้อจำกัดแตกต่างกัน อาจจะต้องเตือนตัวเองไว้ว่า อย่ายึดถือหรือเชื่อมั่นจนเกินไปค่ะ

         น้องๆ คนไหนเคยทำแบบวัด MBTI แล้วได้ผลยังไงบ้าง ลองมาแชร์กันได้นะคะ 
 

รายการอ้างอิงhttps://www.verywellmind.com/personality-psychology-study-guide-2795699https://www.psychiatry.org/patients-families/personality-disorders/what-are-personality-disordershttps://www.myersbriggs.org/my-mbti-personality-type/mbti-basics/https://www.verywellmind.com/the-myers-briggs-type-indicator-2795583
โค้ชพี่นักเก็ต

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด