Spoil
- "คลั่งรัก" คืออาการยิ่งกว่าตกหลุมรัก จะตกอยู่ในภวังค์ ใจฟู คิดถึงแต่เขา คลั่งไคล้เขา
- ในทางจิตวิทยาเรียกว่า Limerence พบว่าสมองของคนคลั่งรักจะทำงานคล้ายผู้ป่วย OCD
- ปัจจุบันยังไม่ถือเป็นอาการป่วย แต่ควรระวังตัวเองไม่ให้สุดโต่งหรือหมกมุ่นเกินไป จนกลายเป็น unhealthy relationship
คิดถึงจนใจเจ็บ
ทำไมตอบไลน์ช้าจัง ถามไปตั้ง 2 นาทีแล้ว!
เธอน่ารักจัง ขนาดรูจมูกเธอยังน่ารักเลยยย
พี่นักเก็ตว่าในช่วงที่ผ่านมา น้องๆ หลายคนต้องเคยได้ยินคำว่า “คลั่งรัก” ที่เราเอาไว้แซวเพื่อนบ้าง หรือเพื่อนแซวเราบ้าง ในความอินเลิฟแบบเวอร์ๆ เกินเบอร์ หายใจเข้า หายใจออก ก็คิดถึงแต่เขา อาการหนักยิ่งกว่าตกหลุมรัก (crush) จนเข้าข่าย คลั่งไคล้ คลั่งรักไปแล้ว แต่รู้ไหมว่าอาการนี้ไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรย หรือคำที่เอาไว้แซวกันธรรมดานะ เพราะในทางจิตวิทยามันมีอยู่จริงๆ
วันนี้พี่นักเก็ตจะพาน้องๆ ไปรู้จักคำว่า คลั่งรัก ให้ดีขึ้นค่ะ
อย่างที่พี่นักเก็ตบอกไป ว่าคำว่า คลั่งรัก นั้นมีคำนิยามในทางจิตวิทยาอยู่จริงๆ นะ อาการนี้ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Limerence พบเป็นครั้งแรกในหนังสือชื่อ Love and Limerence: The Experience of Being in Love เขียนโดย Dorothy Tennoy นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน อ้างอิงจากประสบการณ์ของเธอเอง และคนอื่นๆ ที่กำลังมีความรักอีก 500 คน
อาการคลั่งรัก เป็นระดับความรักที่มากกว่าตกหลุมรัก คนที่มีอาการนี้จะรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์ ใจฟู ย้ำคิดย้ำทำ ยึดติดกับบุคคลหนึ่ง สุขเพราะเขา ทุกข์เพราะเขา มีพฤติกรรมในเชิงหมกมุ่น (obsessive) จนหลายครั้งไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และสามารถส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบอีกว่า เวลาคลั่งรักคนเราจะมีรูปแบบการทำงานของสมองแตกต่างจากปกติ อยู่ในรูปแบบที่คล้ายกับผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive-compulsive disorder หรือ OCD) จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกหมกมุ่น และอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปมา
8 สัญญาณเตือนว่าคุณเข้าข่าย “คลั่งรัก” แล้ว!
- นึกถึงตลอดเวลา หรือจากการที่เห็นสิ่งรอบตัว
- มีความสุขล้น (euphoria) มากเกินไปเมื่อได้รับการแลกเปลี่ยน หรือการตอบแทน
- จัดตารางหรือเคลียร์ทุกสิ่งเพื่อให้ได้พบเจอเขา
- เขินอาย สั่น วิตกกังวล หรือสับสนมากเกินกว่าปกติ
- จินตนาการถึงลักษณะของเขาทั้งในด้านดี และด้านไม่ดี
- มีความคิดต่อเขาในเชิงรุกล้ำ และควบคุมไม่ได้
- กลัวการถูกปฏิเสธ กลัวความผิดหวัง หรือมีความคิดฆ่าตัวตายเมื่อถูกปฏิเสธ
- มีอาการทางกาย เช่น ใจสั่น ร่างกายสั่ง ตระหนก อ่อนแรง เมื่ออยู่ใกล้เขา
ตัวอย่างทั้งหมดที่พี่นักเก็ตว่ามา หลายคนอาจรู้สึกว่า “เฮ้ย! นี่มันเราเลย!” สำหรับใครที่คิดแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เพราะใครๆ ก็สามารถมีอาการคลั่งรักได้ เพียงแต่ต้องควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่หมกมุ่นจนเกินไป (obsessed) นั่นเอง
ปัจจุบัน อาการคลั่งรัก ยังเป็นที่ถกเถียงกันในทางจิตวิทยา ว่าจริงๆ แล้วจัดอยู่ในอาการป่วยหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด และยังมีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่อยๆ ทั้งนี้น้องๆ ยังสามารถใช้คำว่า คลั่งรัก ได้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะในทางน่ารักๆ หรือในทางตักเตือนเพื่อนๆ ก็ตาม เพราะจริงๆ แล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำ ว่าความคลั่งรักของน้องๆ นั้นส่งผลกระทบต่อตัวเราหรือบุคคลอื่นมากแค่ไหน อย่าลืมดึงสติตัวเองไว้แล้ววิเคราะห์ว่าแบบไหนเหมาะสม หรือเมื่อไหร่ที่เริ่มมากเกินไป เพราะยังไงความรักที่สุดโต่งหรือหมกมุ่นจนเกินไป ก็จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ให้กลายเป็น unhealthy relationship ได้ค่ะ
รายการอ้างอิงhttps://www.anxiety.org/limerence-and-relatonship-based-ocd-symptoms-and-treatmentsLimerence and the Biochemical Roots of Love Addictionhttps://livingwithlimerence.com/is-limerence-a-mental-illness/https://livingwithlimerence.com/what-is-limerence/https://www.psychologytoday.com/intl/blog/the-young-and-the-restless/201109/limerence-when-is-it-more-heartbreak
1 ความคิดเห็น
เราเป็นรึเปล่าน้าา โอ๊ะลืมไปไม่มีใครรักเรา...