ในช่วงที่เราต้องใส่แมสก์หรือหน้ากากอนามัยออกจากบ้านทุกวันแบบนี้ ทำให้หลายคนเกิดปัญหาผิวขึ้นมาค่ะ นอกจากจะเป็นสิวผดบริเวณที่ใส่แมสก์แล้ว ก็จังเจอปัญหาสิวขึ้นที่คางอีกด้วย มาแต่ละครั้งก็มีทั้งเม็ดเล็กเม็ดน้อย ไปจนถึงอักเสบเป็นตุ่มใหญ่ก็มีค่ะ

เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ว่าสิวขึ้นบริเวณต่างๆ บนใบหน้า ก็เกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน อย่างสิวที่คางและบริเวณกรามก็มีที่มาค่อนข้างชัดเจน คือเกิดจากฮอร์โมนที่ผิดปกตินั่นเอง และโดยมากก็มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายค่ะ ทำให้ผิวของเราผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ จนอุดตันในรูขุมขน และเกิดเป็นสิวขึ้นมาได้นั่นเอง

เมื่อสิวที่คาง อาจจะไม่ใช่สิว?

เป็นประโยคที่ฟังดูเหมือนเพลงของ Getsunova ยังไงก็ไม่รู้ 555 แต่สิ่งนี้อาจะเกิดขึ้นได้จริงๆ ค่ะ มีโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เรียกว่า โรซาเซีย (Rosacea) อาการของโรคนี้ก็คือผิวหนังจะมีอาการแดงและเห็นเส้นเลือด รวมถึงมีตุ่มเล็กๆ ขึ้น เป็นตุ่มหนองที่มีลักษณะคล้ายกับสิว โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นแค่ไม่กี่สัปดาห์และค่อยๆ หายไปเอง แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้ค่ะ

ตุ่มที่อีกแบบหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นบริเวณคางได้แต่ไม่ใช่สิวก็คือตุ่มที่เกิดจากขนคุด ปกติจะพบในผู้ชายได้บ่อยกว่า เพราะมีการโกนหนวดอยู่เป็นประจำ แต่ก็สามารถเกิดในผู้หญิงได้เช่นกันค่ะ โดยเส้นขนจะงอกกลับเข้าไปในผิวหนัง ทำให้เกิดรอยแดงและอักเสบ หรืออาจจะพัฒนากลายไปเป็นตุ่มหนองคล้ายสิวได้เหมือนกัน

สิวที่คางรักษาไม่ยาก

ปกติแล้วสิวที่คางเองก็รักษาไม่ยากเหมือนกับสิวบริเวณอื่นๆ ค่ะ หากอาการไม่ได้รุนแรงมาก การใช้ครีมแต้มสิวปกติก็ช่วยให้สิวยุบได้แล้ว หรือให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี benzoyl peroxide หรือกรดซาลิไซลิก ก็จะช่วยให้สิวแห้งได้เร็วขึ้น อาจจะภายในสองสามวันหรือเป็นสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวค่ะ

4 เทคนิค กำจัดสิวที่คาง

  1. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และเบามือในจุดที่เป็นสิว จะได้ไม่เป็นการกระตุ้นให้สิวบริเวณนั้นอักเสบกว่าเดิมค่ะ
  2. ลองประคบด้วยผ้าสะอาดห่อน้ำแข็ง เพื่อลดรอยแดงและอาการปวด ประคบเบาๆ ไม่เกินห้านาทีนะคะ
  3. ทายาแต้มสิว เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี benzoyl peroxide หรือกรดซาลิไซลิก ก็จะช่วยให้สิวแห้งได้เร็วขึ้น อาจจะภายในสองสามวันหรือเป็นสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวค่ะ
  4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ยิ่งจับน้อย สิวยิ่งหายได้เร็วขึ้นค่ะ

ถ้าใครลองทำมาทุกวิธีแล้วสิวก็ยังไม่หาย และดูเหมือนจะอักเสบมากขึ้น พี่โอ๊ตแนะนำว่าการพบแพทย์ผิวหนังก็จะปลอดภัยมากกว่าค่ะ ให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์อาการและความรุนแรง เพื่อที่จะรักษาได้อย่างตรงจุดมากกว่า สำหรับบางคนอาจจะต้องมีการทานยาหรือทำเลเซอร์ร่วมด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญค่ะ

เคล็ดลับดูแลผิว ที่ทำให้สิวหายเร็ว

  • ล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้ง เพราะการล้างหน้าบ่อยเกินไป อาจจะทำให้สิวระคายเคืองมากขึ้น
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ทำให้ผิวแห้งตึง และงดการสครับผิว
  • อย่าบีบสิวเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้เกิดแผลเป็นแล้ว อาจจะทำให้สิวยิ่งอักเสบ และลามไปบริเวณใกล้เคียงได้
  • อย่าปล่อยให้ผิวแห้งเกินไป ถ้าผิวเกิดอาการแห้ง ขาดน้ำ จะทำให้น้ำมันบนผิวยิ่งผลิตออกมามากขึ้น จนเกิดเป็นสิวอุดตันมากกว่าเดิม ให้ใช้ครีมบำรุงที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ
  • ห้ามหลับไปทั้งที่ยังไม่ล้างหน้าเด็ดขาด เพราะเครื่่องสำอางและสิ่งสกปรกบนผิว จะยิ่งทำให้เกิดสิวมากกว่าเดิม
  • อย่าเปลี่ยนสกินแคร์บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์หรือยารักษาสิว ต่างก็ต้องการเวลาในการปรับสภาพผิว 2-3 อาทิตย์ขึ้นไปค่ะ ใครเปลี่ยนทุกอาทิตย์ต้องเลิกได้แล้วนะ ไม่งั้นผิวจะพังก่อนแน่ๆ

 

พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด