Spoil
- Trauma Cleaner คนทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม
- อาชีพเตรียมความพร้อมของศพ แต่งตัว แต่งหน้า จัดของใช้ส่วนตัว
- ผู้จัดการงานศพ คนที่ทุกอย่างเสมือนเป็นเจ้าภาพคนหนึ่ง
ถ้าพูดถึงอาชีพที่เกี่ยวกับความตาย คนไทยเราก็จะนึกถึง หมอคน หมอผี อาสากู้ภัย หรือสัปเหร่อ แต่ทั่วโลกของเรามี อาชีพที่ทำมาหากินกับความเป็นความตายของมนุษย์ มากกว่านั้น จะมีอาชีพไหนน่าทำบ้าง ไปดูกันเลย!
ผู้ทำความสะอาดที่เกิดเหตุฆาตกรรม
ถ้าใครได้ดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง Move To Heaven จะเห็นพระเอกทำงานที่บริษัท "เก็บกวาดที่เกิดเหตุ" ที่เหตุที่ว่านี้ก็คือ "เหตุการณ์การเสียชีวิต" หน้าที่ของพระเอกก็คือทำความสะอาดสถานที่ เก็บกวาดข้าวของ และนำของบางอย่างส่งต่อไปให้ญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิต อาชีพนี้ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในต่างประเทศจะมีอาชีพที่เรียกว่า Trauma Cleaner หรือ ผู้ทำความสะอาดที่เกิดเหตุฆาตกรรม
การทำความสะอาดจะแตกต่างกับการกวาดถูทั่วไป เพราะต้องมีกรรมวิธีเช็ดล้างร่องรอยการฆาตกรรม อย่าง คราบเลือด ชิ้นส่วนอวัยวะ น้ำเหลือง สารปนเปื้อน หรือความเสียหายต่างๆ โดยใช้สารเคมีและเครื่องมือสำหรับการทำความสะอาดสิ่งเหล่านี้โดยเฉพาะ นอกจากความสามารถด้านทำความสะอาดแล้ว สกิลที่คนทำอาชีพนี้ต้องมีคือความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ เพราะสภาพของสถานที่ส่วนใหญ่เรียกได้ว่าโหดๆ ทั้งนั้น
คนเตรียมศพ
ในประเทศไทยส่วนใหญ่คนที่จัดการเรื่องความสวยงาม ความสะอาดของคนตายจะเป็นหน้าที่ของอาสาสมัคร สัปเหร่อ หรือญาติพี่น้อง แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นมีอาชีพที่ทำหน้าที่นี้อย่างจริงจัง เรียกกันว่า nōkanshi หรือ yukanshi ถ้าต้องจัดงานศพแบบศาสนาพุทธ ในบางครอบครัวก็จะจ้างอาชีพนี้มาเตรียมความพร้อมของศพ มีการทำความสะอาด ใช้สำลีปิดจมูก ปิดปาก แต่งกายให้ร่างด้วยชุดสีขาว แต่งหน้า ทำผมให้สวยงาม เตรียมของใช้ส่วนตัว และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเดินทางสู่ชีวิตหลังความตาย ก่อนนำทุกอย่างไปใส่ในโลงศพเพื่อทำเดินพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ผู้จัดการงานศพ
การเสียชีวิตของคนใกล้ชิดไม่ได้มีเกิดขึ้นกันบ่อยๆ และคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เวลามีคนตายครั้งหนึ่ง ก็จะทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่รู้ต้องเริ่มที่ตรงไหน ทำยังไง ต้องติดต่อใครบ้าง เพราะแค่ให้มาตั้งสติยังเป็นเรื่องยากมากๆ เลย ที่สหรัฐอเมริกาเลยเกิดอาชีพ Bereavement Coordinator หรือ Funeral Service Manager เป็นผู้จัดการงานศพ คนที่เสมือนเป็นเจ้าภาพคนหนึ่งเลยทีเดียว
หน้าที่ของพวกเขาก็คือ บริการให้คำปรึกษา การเตรียมงานศพ ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ จัดการเรื่องเอกสาร งานสวด งานฝัง งานเผาต่างๆ ที่สำคัญต้องมีสกิลทางด้านการพูดคุยเพื่อให้ผู้สูญเสียรู้สึกดีขึ้น รวมไปถึงความรู้เรื่องงานศพในศาสนาต่างๆ และก่อนจะมาประกอบอาชีพนี้ต้องผ่านการอบรมและมีใบอนุญาตด้วยนะ
รับจ้างร้องไห้หน้าศพ
Professional mourning รับจ้างร้องไห้หน้าศพ หรือ รับจ้างไว้ทุกข์ จริงๆ ในอดีตประเทศไทยเคยมีอาชีพนี้ และปัจจุบันในบางภูมิภาคก็ยังมีอยู่ รวมไปถึงหลายๆ ประเทศ เช่น อียิปต์ จีน หรือฝั่งตะวันออก ในงานศพของคนใหญ่คนโต คนที่มีชื่อเสียง ก็ต้องการคนที่มาร่วมงานเยอะๆ เพื่อให้สมเกียรติของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ในบางพื้นที่ยังมีการร้องเพลงเพื่อไว้อาลัย หรือมีศิลปะการแสดงเพื่อสร้างบรรยากาศรื่นเริงให้งานศพนั่นเอง
Death Midwife (เดธโค้ช)
ไม่รู้จะว่าจะเรียกอาชีพนี้เป็นภาษาไทยยังไง ขอนิยามง่ายๆ ว่า คนที่เตรียมตัวให้คนป่วยเสียชีวิตอย่างสงบ ก็แล้วกัน คนที่ป่วยหนักหรือเช้าสู่วาระสุดท้ายของชีวิต ก็จะมีคนที่ทำอาชีพนี้เข้ามาเป็นเหมือนเดธโค้ช (ตรงข้ามกับไลฟ์โค้ช) เป็นผู้ดูแลและส่งไปสู่ความตาย หน้าที่หลักๆ คือการดูแลทางด้านจิตใจ ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา เตรียมความพร้อมให้สำหรับโลกนี้และโลกหลังความตาย ส่วนใหญ่จะทำงานในโรงพยาบาล ศาสนสถาน หรือที่บ้าน นอกจากละโค้ชชิ่งผู้ที่เตรียมตัวเสียชีวิตแล้ว หลายๆ ครั้งยังต้องโค้ชชิ่งคนที่ยังต้องมีชีวิตต่อไปอีกด้วย
การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ทุกคนต้องเจอ และอาชีพเหล่านี้ก็เป็นส่วนสำคัญในช่วงหนึ่งของชีวิตมนุษย์ แต่อาชีพเหล่านี้อาจจะยังไม่มีในประเทศไทย ใครสนใจก็อาจจะต้องไปทำงานในประเทศอื่นๆ น้องๆ ชาว Dek-D คนไหนมีอาชีพแปลกๆ อะไรที่น่าสนใจ เข้ามาแนะนำกันได้เลยจ้า
ข้อมูลจากtalkdeath.com/careers-death-care/learnhowtobecome.org/career-resource-center/jobs-working-with-the-dead/ntcsc.com.au/what-is-a-trauma-cleaner-and-when-should-you-call-one/dbpedia.orgstudy.com/articlesjobmonkey.com/uniquejobs4
1 ความคิดเห็น