กางเกงชั้นในชาย ใส่แบบไหนดี มีผลกับการดูแลอวัยวะเพศไหม?

กางเกงชั้นในชาย ใส่แบบไหนดี มีผลกับการดูแลอวัยวะเพศไหม?

กลับมาพบกับพี่หมอโด่งที่คอลัมน์ Sex Education by Dek-D พร้อมกับกระทู้ลงล่างอีกแล้วครับ  แต่มีประโยชน์สำหรับทุกคนแน่นอน เพราะนี่เป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวัน ที่ทุกคนอาจจะมองข้ามไปด้วยซ้ำ หรือผู้ชายอาจจะไม่แน่ใจว่าตัวเองจะต้องใช้แบบไหน หรือแม้แต่สาวๆ ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมต้องมีหลากหลายขนาดนั้น

สิ่งที่พี่หมอกำลังพูดถึงนั่นคือ กางเกงชั้นในชาย (Men Underwear) ครับ ซึ่งมีน้องๆ ถามกันเข้ามามากว่าใส่แบบไหนดี เพื่อนๆ เขาใส่แบบไหนกัน เพราะมีหลากหลายรูปแบบมากๆ จริงๆ ก็ขึ้นกับความต้องการใช้งาน เนื้อผ้า และความสะดวกสบายของแต่ละคน ถ้าจะอยากรู้จัก อยากเลือกให้ถูกตามสรีระหรือเนื้องานแล้วล่ะก็ ลองมาดูกันครับ

กางเกงชั้นในชายแบบต่างๆ 

1. กางเกงชั้นในแบบทั่วไป (Briefs)

มักเป็นกางเกงชั้นในแรกเริ่มของทุกคน ตั้งแต่เด็กๆ ไปจนตอนโต คือมีลักษณะขาสั้นกุด คุณลักษณะคือมักจะรัดแน่น เป็นตัว Y ด้านหน้า และไม่มีขายื่นออกมา

ข้อดี 

• กระชับอวัยวะเพศ เหมาะสำหรับผู้ที่มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน
• ระบายอากาศบริเวณด้านข้างขาหนีบมากกว่า ไม่อับชื้น
• ไม่มีขากางเกงในโผล่ออกมา ตอนเล่นกีฬา หรือใส่กางเกงขาสั้น

ข้อเสีย

• อาจจะไม่เหมาะหากต้องการความสะดวกสบาย เพราะกางเกงในประเภทนี้อาจจะรั้งอวัยวะเพศได้มาก
• หากอวัยวะเพศขยายขนาด อาจจะเสี่ยงต่อการเล็ดลอดออกมาได้ หากคุณพับเก็บไปด้านหน้า และเป็นน้องชายประเภทที่เบ้ซ้าย หรือขวา (หนุ่มๆ จะเข้าใจดี)
• กางเกงชั้นในประเภทนี้มักจะมีขอบเอวที่สั้น ทำให้เวลานั่งยองๆ หรือก้มหลัง อาจทำให้เห็นร่องก้นได้

กางเกงชั้นในประเภทนี้จึงมักเหมาะกับเด็ก เนื่องจากหลายๆ รุ่นหรือยี่ห้อมักมีช่องด้านหน้าสำหรับปัสสาวะได้สะดวก หรือนักกีฬาที่ต้องการความกระชับและคล่องตัวสูง เหมาะในคนที่มีรูปร่างผอม และช่วงสะโพกไม่ใหญ่นักครับ เพราะหากน้ำหนักตัวมากอาจจะยิ่งรั้งช่วงโคนขาทำให้เกิดการเสียดสี เป็นแผลได้ครับ

2.            กางเกงชั้นในแบบมีขา (Trunks)

เป็นกางเกงชั้นในที่เหมือนกางเกง หรือคล้ายๆ กางเกงว่ายน้ำแบบขาสั้น แต่กระชับ แต่อาจจะไม่รัดแน่นเหมือนกางเกงว่ายน้ำ

ข้อดี

• ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่รัดโคนขา
• ขอบเอวกางเกงชั้นในประเภทนี้สูงกว่า เพราะเป็นทรงกางเกงขาสั้น ทำให้คล่องตัวเวลานั่งยองๆ หรือก้มตัว และบางคนก็ถือว่าการโชว์ขอบกางเกงชั้นในราคาแพงเป็นแฟชั่นอีกด้วย
• สำหรับผู้ที่มีอวัยวะเพศใหญ่ และพับเก็บด้านบนไม่สะดวก หรือล้นออกเวลาอวัยวะเพศขยายขนาด ขากางเกงในประเภทนี้ก็จะช่วยเก็บทรงได้้ในระดับหนึ่ง

ข้อเสีย

• คนที่เหงื่อเยอะ อาจจะรู้สึกอับชื้น ระบายอากาศได้ไม่ดี (ขึ้นอยู่กับเนืิ้อผ้าด้วยครับ) และยิ่งหากใส่ร่วมกับกางเกงขายาวพอดีตัว เช่น กางเกงยีนทรงกระบอกหรือเดฟ อาจจะอับชื้นได้ง่าย
• ไม่เหมาะที่จะใส่ร่วมกับกางเกงขาสั้นมากๆ เพราะขากางเกงชั้นในอาจโผล่ออกมาได้

            กางเกงชั้นในประเภทนี้ มักใส่ได้กับบุคคลทุกประเภท และเหมาะกับทุกขนาดตัว ไม่ว่าจะช่วงสะโพกกว้าง ไม่รัดต้นขา กระชับอวัยวะเพศ และหากเลืิอกใช้แบบเนื้อผ้าดีๆ ก็จะยิ่งสบายตัวด้วยครับ

3.            กางเกงบ็อกเซอร์ (Boxers)

ลักษณะเป็นกางเกงขาสั้น คล้ายกับกางเกงของนักมวย เอวสูง เป็นผ้าที่ไม่ได้แนบเนื้อกระชับเหมือนแบบที่สอง แน่นอนว่าคล่องตัว โล่งสบายกว่าประเภทอื่น บางคนก็นิยมใส่ตัวเดียวด้านในกางเกงขายาวเลย บางคนก็เพิ่มความมั่นใจมากขึ้นด้วยการใส่คู่กับกางเกงชั้นในทั่วไปแบบไม่มีขา เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ความคล่องตัว แล้วแต่ชอบครับ

ข้อดี

• โล่งสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากรู้สึกอึดอัด ในวันที่พักผ่อน หรือออกนอกบ้านก็คล่องตัว
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนาดสะโพกกว้าง หรือกล้ามเนื้อเยอะ เพราะจะสบายกว่า และไม่รัดบริเวณใดมากเกินไป

ข้อเสีย

• บางคนจะรู้สึกเทอะทะกับกางเกงแบบนี้ เหมือนใส่กางเกงสองชั้น ไม่กระชับตัว
• ทำให้อวัยวะเพศไม่อยู่นิ่ง และเกิดการเสียดสีของกางเกงในกับอวัยวะเพศมากเกินไป
• กางเกงในประเภทนี้อาจจะปัสสาวะยาก ส่วนมากอาจจะต้องถอดหรือดึงลงหรือล้วงขากางเกง เพราะไม่มีช่องปัสสาวะ

ถ้าถามว่าสวมกางเกงบ็อกเซอร์แล้วยังต้องใส่กางเกงชั้นในอีกไหม ที่จริงก็ไม่มีข้อบังคับอะไรครับ ปัจจุบันคนไทยก็ชอบใส่กางเกงบ็อกเซอร์ร่วมกับกางเกงชั้นในประเภทอื่นๆ กันเยอะ ไม่ได้ผิดอะไร โดยเฉพาะช่วงที่กางเกงขาเดฟเอวต่ำฮิตขึ้นมา หลายคนก็ใส่บ็อกเซอร์เพื่อเป็นเซฟตี้อีกชั้นกันร่องก้นโผล่ ขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกเลยครับ 

แล้วจะใส่แบบไหนดี?

เนื่องจากกางเกงชั้นในมีหลายแบบอย่างที่บอกไปครับ และโดยมากแล้วกางเกงชั้นในชายจะต่างกับสาวๆ ทั้งในเรื่องของสรีระ สุขอนามัย และแฟชั่น ดังนั้น ถ้าให้เลือกตามสะดวก หนุ่มๆ เลือกให้เหมาะกับเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันได้เลยครับ เช่น ชอบใส่กางเกงยีนส์ก็จะมีทั้งคนที่ชอบโชว์ขอบบ็อกเซอร์หรือกางเกงชั้นในเป็นแฟชั่นและกันโป๊ หรือชอบใส่กางเกงผ้าบางเบาก็เลือกใส่กางเกงชั้นในแบบมีขาแต่กระชับ ใส่ออกกำลังกายประเภทวิ่งหรือเคลื่อนไหวเยอะ อาจจะต้องเป็นแบบมีขาทรงสปอตหน่อย เพื่อป้องกันการเสียดสีง่ามขา  เป็นต้น 

ในส่วนสรีระและสุขอนามัย คงต้องสังเกตอวัยวะเพศตัวเองด้วยว่าเก็บแบบไหน ปัสสาวะสะดวกไหม เป็นคนเหงื่อเยอะไหม เป็นคนเนื้อเยอะหรือรูปร่างผอมเพรียว เป็นต้น ซึ่งจะต่างจากสาวๆ ที่แฟชั่นเสื้อผ้าเขาหลากหลาย จะต้องมีชั้นในหลายๆ แบบ หลายๆ สี อันนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับหนุ่มๆ ครับ เพราะส่วนใหญ่เราใส่กันแต่กางเกง  และที่จริงก็มีผู้ชายบางคนชอบใส่กางเกงชั้นในผู้หญิงด้วยนะครับ เหตุผลคือผ้ามันนุ่ม เรียบลื่น หรืออาจจะด้วยรสนิยมทางเพศก็ตาม ไม่ได้ถือเป็นความผิดปกติครับ  เว้นแต่ไปขโมยของใครเขามาสะสมหรือดมกลิ่น

ส่วนปัญหาที่ควรระวังจะเป็นเรื่องความสะอาด ความอับชื้น การที่คับหรือรัดแน่นเกินไปทำให้อึดอัด หรือเสียดสีทำให้เกิดการถลอกเป็นแผลมากกว่า รวมถึงการซักทำความสะอาดเช่นเดียวกับเสื้อผ้าอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งส่วนนี้เป็นเรื่องของการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว แต่ไม่ได้มีผลว่าใส่รัดๆ แล้วจะเล็กลง หรือไม่ใส่แล้วจะเป็นไส้เลื่อนอะไรแบบนั้นครับ 

          สรุปแล้วการใส่กางเกงในประเภทไหนก็ขึ้นกับความพึงพอใจของผู้ใช้เป็นหลักว่า เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของเราหรือไม่ ประกอบกับสรีระร่างกาย การเก็บอวัยวะเพศของเราประกอบด้วย พอรู้แบบนี้แล้วก็ซับซ้อนเหมือนกันนะครับ ใครชอบใส่แบบไหนมาคอมเม้นต์กันได้ครับ แมนๆ คุยกัน :D