Mrrs ทนายความผู้ผันตัวเองมาเขียนนิยาย!

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน สำหรับนักเขียนที่เราพามาให้ทุกคนรู้จักในวันนี้ บอกเลยว่าเป็นอดีตทนายความที่ผันตัวมาเขียนนิยายจากพิษโควิด เจ้าของนิยายแฟนตาซีสุดปัง  Space Adventures ผจญภัยสุดขอบจักรวาล ที่นอกจากจะเขียนได้สนุกชวนลุ้น และมีเนื้อหาที่ยาวมากๆๆๆ แล้ว (ตอนนี้ก็ปาไปสี่ร้อยว่าตอนยังเขียนไม่จบ) ฉากต่อสู้ยังโดดเด่นสมจริงสุดๆ เห็นภาพชัดเจนเหมือนได้ดูหนังไซไฟแฟนตาซีปังๆ ที่ทำให้เราต้องจ้องตาไม่กระพริบเพราะกลัวว่าจะพลาดฉากเด็ด!

แต่เห็นเขียนดีแบบนี้ เชื่อไหมคะว่าแต่ละฉากแต่ละตอนกว่าจะเขียนออกมาได้ มรรษ หรือ mrrs ต้องเขียนๆ ลบๆ ไปเป็นสิบรอบ ทั้งยังต้องหาข้อมูลประกอบมากมาย เพื่อที่จะสร้างเนื้อหาออกมาได้สมเหตุสมผลที่สุดให้คุ้มค่ากับนักอ่านที่มารอติดตามผลงาน ทว่าในแต่ละขั้นตอนวิธีการระหว่างนั้น มรรษมีเคล็ดลับอะไรในการเขียนบ้าง มาติดตามกันได้ในบทสัมภาษณ์นี้เลยค่ะ

 

 

แนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมชื่อบุ๊คครับ ใช้นามปากกาว่ามรรษ ทำงานทนายความอยู่พื้นที่กรุงเทพกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือจนถึงปีที่แล้ว สถานการณ์โควิดไม่ค่อยดีเท่าไรที่บ้านก็มีคนอายุเยอะเลยปีนี้เลยพักงานทนายความมาทำงานเขียนเต็มเวลา เริ่มเขียนนิยายมาน่าจะต้นปี 58 

ตอนนี้เขียนจบมาแล้วสามเรื่องกำลังเขียนเรื่องที่สี่อยู่ครับ เรื่องแรกเป็นแนวแฟนตาซีชื่อ Begin again เริ่มใหม่อีกครั้งในโลกต่างมิติ ต่อจากนั้นเป็นแนวจีนคอเมดีเรื่องวันว่างของนางสนมกับวันก่อนฉันเก็บองค์ชายได้องค์หนึ่งที่หลังเขา ส่วนเรื่องล่าสุดกลับมาเขียนแฟนตาซีอีกครั้งเรื่อง Space Adventures ผจญภัยสุดขอบจักรวาล

 

อ่านเยอะเกินไปจึงเริ่มต้นเขียน 

เริ่มต้นที่เขียนเลยคือช่วงนั้นอ่านนิยายจนแทบไม่มีเรื่องใหม่ๆ ที่เราชอบให้อ่าน นอนไม่หลับก็เลยลุกขึ้นมาเขียนเองเสียเลย

ส่วนนามปากกา Mrrs  หรือ มรรษที่มาที่ไปสารภาพว่าเปิดพจนานุกรมสุ่มเอาครับ…

จริงๆ ตอนนั้นผมสุ่มมาสองคำ มาจากคำว่ามรรตัย เห็นแล้วมีความเกี่ยวข้องกับพลอตแฟนตาซีเรื่องแรก แล้วไล่อ่านดูช่วงนั้นก็มาสะดุดคำนี้อีกทีครับ 

เรื่องแรกเรื่อง Begin again เริ่มใหม่อีกครั้งในโลกต่างมิติ เป็นแนวตายแล้วเกิดใหม่ที่ช่วงนั้นเพิ่งจะได้รับความนิยม อันที่จริงสังคมเราก็อยู่กับการเวียนว่ายตายเกิดมาทำให้เราเคยอ่านผ่านตาเกี่ยวกับหลักศาสนามาบ้าง แรงบันดาลใจก็มาจากที่เราอ่านจนสงสัยว่าทำไมต้องเกิดใหม่ จากนั้นเราก็นึกไปถึงคำสอนของศาสนาหลายๆ ศาสนาออกมา แล้วเราก็รู้สึกถึงเรื่องราวเหตุและผลอย่างหนึ่ง เราคิดต่อไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเห็นภาพอะไรบางอย่าง คิดอยู่นานจนหลับไม่ลงก็ลุกมาเขียนเลยครับ

แต่ก่อนจะเขียนเล่มแรกนี่ผมอ่านหนังสือมายี่สิบกว่าปีแล้ว เริ่มอ่านหนังสือนิทานตั้งแต่ก่อนจะเข้าอนุบาล 1 เลยครับ แล้วก็อ่านมาเรื่อยๆ ช่วงมหาวิทยาลัยนี่แต่ละปีน่าจะอ่านเกินร้อยเล่ม ไม่นับหนังสือการ์ตูนนะครับ

และมันก็ทำให้เรามีวัตถุดิบในตัวที่จะใช้เขียนเยอะขึ้นครับ อย่างน้อยเราจะพอนึกคำสำคัญออกพอที่จะไปค้นหาเรื่องที่จะเขียนออก เราจะพบทางออกทางแก้ปัญหาที่หลากหลายขึ้นทำให้การเขียนไม่สะดุดในเรื่องไอเดียนัก คิดว่าไอเดียของผมเกิดจากการสะสมมากกว่าการนึกคิดได้เองน่ะครับ

เขียนครั้งแรก ตอนเริ่มต้นกับตอนจะจบ คือจุดที่ยากที่สุด

ตอนเริ่มต้นกับตอนจะจบครับ 55 บางครั้งเราก็จะรู้สึกว่าเราทำได้ไม่ดี ดีไม่พอ มือตกบ้างเป็นพักๆ ของผมโชคดีที่พอมีเวลาส่วนตัวอยู่บ้าง รู้สึกอุปสรรคใหญ่สุดของตัวเองก็จะเป็นช่วงเขียนถ้าไม่มีความเป็นส่วนตัวแล้วจะเขียนได้ลำบาก

Space Adventures นิยายที่เกิดขึ้นเพราะเขียนนิยายจีนไม่ออก?

สำหรับนิยายเรื่อง Space Adventures เดิมทีผมจะเขียนนิยายแนวจีนต่อครับแต่เขียนไม่ออก เลยมาซ้อมมือกับแฟนตาซี เขียนไปเขียนมาก็สี่ร้อยตอนแล้ว และตั้งใจว่า 6-700 ตอนจะจบครับ แต่เรื่องนี้ก็คล้ายๆ เรื่องแรกที่เขียน แต่เรื่องแรกแรงบันดาลใจจากคำสอนศาสนา ส่วนเรื่องนี้แรงบันดาลใจจากวิทยาศาสตร์

คำถามบางอย่างที่ยังไม่พบคำตอบมันมีช่องว่างให้จินตนาการ แนวแฟนตาซีค่อนข้างตอบโจทย์ในจุดนั้นทำให้เราเขียนคำตอบที่เราอยากเขียนได้ และผลตอบรับดีมากครับ ตอนเริ่มเขียนไม่ได้คิดเรื่องกระแสเท่าไร เรื่องนี้ตอนแรกคิดว่าเขียนเพื่อเรียกจังหวะงานตัวเองเฉยๆ ครับ เหมือนเราซ้อมกีฬาเพื่อให้ฟอร์มกลับมา หลังเขียนเรื่องก่อน (วันก่อนฉันเก็บองค์ชายได้องค์หนึ่งที่หลังเขา) พักไประยะหนึ่งเลย

เสน่ห์ของเรื่องนี้? คนเขียนเล่าเองก็รู้สึกแปลกๆ นะครับ 55 น่าจะเป็นแนวไซไฟยุคอนาคตที่แอบผสมความแฟนตาซีที่หลายคนคุ้นเคยอย่างระบบกิลด์นักผจภัยแต่ในเนื้อเรื่องจะเป็นสมาคมนักสำรวจเพื่อรับค่าตอบแทน ค้นหาทรัพยากรเพื่อยกระดับตัวเอง แล้วก็สัตว์ประหลาดนานาชนิดที่มีรูปแบบโจมตีและความสามารถพิเศษ อีกอย่างก็พยายามจะทำให้รูปแบบการต่อสู้ดูสมเหตุสมผล การเก็บกู้วัตถุก็ต้องใช้คนมาขนย้าย แล้วก็อุปสรรคขัดขวางต่างๆ 

อยากให้กระแสตอบรับดีความสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญ

ถ้าสำคัญสุดก็คงเป็นความสม่ำเสมอครับ ลงให้บ่อย ถ้าลงเป็นเวลาได้ก็จะยิ่งดี ถ้ารักษาคุณภาพของงานด้วยจะดีที่สุด เรื่องที่ผมเขียนส่วนใหญ่ก็จะลงเกือบทุกวันจนช่วงใกล้จบอาจจะช้าลงบ้างเพื่อเก็บปมกับทำให้คนอ่านเข้าใจสิ่งที่เราอยากเล่าอยากจะสื่อให้ถึงพวกเขา

 

เคล็ดลับเขียนฉากต่อสู้ให้สมจริงต้องทำตัวเป็นผู้กำกับภาพยนตร์

เขียนฉากต่อสู้ให้สมจริง? ของผมก็คงทำตัวเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ครับ นึกเป็นภาพแล้วค่อยเขียนออกมา พยายามกำกับงานให้รู้สึกได้ว่าสนุก กำกับจังหวะเวลาให้เหมาะสม ปรับจังหวะเวลาด้วยมุมมองคนอ่าน ถ้านึกภาพออกแต่งานราบเรียบหรือกำกับเวลาไม่ดีงานก็มักจะออกมาไม่ดีเท่าไร สำหรับคนที่ติดปัญหาการเขียนฉากต่อสู้อยู่ ถ้าจะให้แนะนำอย่างแรกเราก็ต้องมีของที่จะปล่อยก่อนมั้งครับ 

บางทีเราต้องสะสมประสบการณ์จากการอ่าน การดูให้มาก สนุกสนานไปกับสิ่งเหล่านั้น การที่เราเขียนไม่ได้อาจจะเพราะเราสะสมมาไม่พอจึงเกิดปัญหาที่จะไปต่อ เหมือนการจะวาดรูปให้สวย กว่าที่รูปจะออกมาสวยคนวาดก็ผ่านการฝึกสะสมมา

อย่างของผมเองนอกจากอ่านกับดูแล้วก็ยังลองทำท่าทางบางอย่างประกอบ จับตามอง แล้วก็ใช้เวลาครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมา มองหาความสมเหตุสมผลของการกระทำ เขียนออกมาไม่ดีก็แก้ใหม่ จริงๆ เป็นกระบวนการที่น่าเบื่อนะครับ แต่ถ้าเอาที่ผมลบทิ้งไปมาลง เรื่องที่กำลังเขียนน่าจะมีเพิ่มอีกสักร้อยตอน แต่เรารู้ว่างานที่เขียนออกมาไม่ดีเราก็ต้องแก้ 

บอกตามตรงว่าเคล็บลับแบบแวบเดียวทำได้เลยผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ 

อย่างพวกสัตว์ประหลาดต่างๆ ในเรื่องเราก็ต้องเปิดดูลักษณะทางชีวภาพของสัตว์บนโลกของเรารวมไปถึงตำนวนต่างๆ แล้วก็เอามารวมถึงจินตนาการของเราเอง ข้อมูลบางตัวก็เยอะเพราะมีรายละเอียดในการต่อสู้ เราต้องคอยคิดถึงกลไกการเคลื่อนไหวตามลักษณะทางกายภาพ ดูไปถึงอวัยวะสำคัญที่ใช้สัมผัสรับรู้ แต่หลายๆ อย่างเราเคยอ่านมาก่อนแล้วเลยนึกคำสำคัญในการค้นหาต่อง่ายครับ 

ไม่ว่าเมื่อไหร่ นักเขียนก็เป็นอาชีพที่ยากเสมอ

มุมมองต่ออาชีพนักเขียน ก่อนเขียนและหลังเขียนนิยาย สำหรับผมไม่เปลี่ยนนะครับ เคยคิดว่านักเขียนอาชีพคงเป็นอาชีพที่ยาก มาเขียนเองก็คิดว่ามันยากจริงๆ นั่นแหละ

คือการทำให้คนอ่านมีความสุข มีอารมณ์ร่วมกับงาน มันไม่ใช่ว่าจะเขียนอะไรออกมาก็ได้ มันมีทั้งส่วนผสมของไอเดีย จังหวะเวลาในการบอกเล่า การลำดับเหตุการณ์ให้กระจ่างแจ้งและน่าติดตามไปพร้อมกันเราต้องคิดอะไรหลายอย่างในเวลาทำงานเขียนเพื่อให้คนอ่านย่อยสลายง่ายและรับสิ่งที่เราต้องการสื่อไปให้ครบถ้วน 

แต่ถึงแม้นักเขียนจะเป็นอาชีพที่ยาก แต่ก็ทำให้ชีวิตมีความสุข

เมื่อก่อนเป็นทนาย ตอนนี้เปลี่ยนมาเขียนนิยายก็สบายขึ้นมากครับ...ในแง่การเดินทางและความกดดัน งานทนายความมีความคาดหวังของผู้จ่ายเงินค่อนข้างสูงและที่เรื่องอะไรที่มาถึงทนายความแล้วมักจะเป็นเรื่องที่มีความเครียดมากเป็นพิเศษเพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่กระทบกับชีวิต ทรัพย์สิน เสรีภาพในตัวของพวกเขาโดยตรง การได้หยุดพักสำหรับผมแล้วก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน เอาแค่เรื่องการไม่ต้องเดินทางวันละหลายๆ ชั่วโมงก็รู้สึกว่าชีวิตมีความสุขขึ้นมากแล้วครับ

ก่อนจะออกมาทำงานเขียนเต็มตัวเราเองเขียนมานานแล้วก็แน่ใจระดับหนึ่งว่างานเขียนสร้างรายได้ให้กับเราได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ กระโจนออกมาทำเต็มตัวเลย โดยเฉพาะสมัยนี้มีช่องทางปล่อยงานเขียนหลายช่องทางทั้งยังสามารถทำเล่มเองได้ด้วย ทำให้ที่มารายได้ค่อนข้างหลากหลายเหมือนกัน ส่วนจุดที่ดีที่สุดในเรื่องพวกนี้อาจจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคมลดลงมาก ในอนาคตกับเส้นทางนักเขียนนี้ก็จะทำงานหนัก เขียนออกมาให้มากๆ ในช่วงที่ยังมีแรงมีไอเดีย

หากใครที่อยากมาลองเขียนนิยายดูบ้าง ก็เริ่มต้นได้เลยครับ ถ้าไม่ชอบเราก็แค่ลบแล้วเขียนใหม่ ถ้าเราเขียนออกมาไม่ดีก็แค่เราเขียนมาไม่มากพอ อ่านมายังไม่มากพอ งานเขียนก็ไม่ได้ต่างจากงานอื่นมาก เราใช้เวลาฝึกฝนขัดเกลาตัวเองได้

สุดท้ายสำหรับนักอ่านที่คอยติดตามผลงานอยู่

กำลังเขียนอยู่นะครับ…

 เป็นประสบการณ์การเขียนนิยายที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ เห็นได้ว่ามรรษมุ่งมั่นและทุ่มเท่ให้กับการเขียนนิยายมากๆ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพสูงสุด ทำให้เรามองเห็นแพชชั่นและความตั้งใจได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ เขาไม่แคร์เลยว่าจะต้องแก้ไขเนื้อหาที่เขียนออกมาสักกี่ครั้งขอเพียงให้ผลงานที่ออกมาดีมีคุณภาพ มรรษก็พร้อมจะลงมือแก้ในทันที งานของมรรษจึงเป็นงานเขียนที่มีคุณภาพ ใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งจุดนี้เองที่พี่หญิงมองว่ามันทำให้นักอ่านไม่ลังเลใจสักนิดที่จะสนับสนุนผลงานของอีกฝ่ายอย่างเต็มที่จนทำให้นิยายเรื่อง Space Adventures กลายเป็นนิยายขายดีติดต่อกันหลายสัปดาห์! ใครที่อยากขายนิยายแล้วได้รับผลตอบรับที่ดีแบบนี้บ้าง เคล็ดลับดีๆ อยู่ในบทสัมภาษณ์แล้ว หวังว่าทุกคนจะได้แรงบันดาลใจดีๆ จากเรื่องราวคุณมรรษกันนะคะ  

           มาเริ่มลงมือเขียนนิยาย และศึกษาการขายได้ง่ายๆ ได้ที่นี่เลยค่ะ : bit.ly/writer-howto

 

ติดตามผลงานของ mrrs ได้ที่นี่ 

พี่หญิง

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น