การใช้ถุงยางสองชั้น ช่วยป้องกันสองเท่าจริงหรือไม่?

ใส่ถุงยางอนามัย สองชั้นได้ไหมครับ?

สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D กลับมาพูดคุยกันเรื่องการป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อีกแล้วครับ วันนี้เป็นเรื่องของการใช้ถุงยางอนามัยซึ่งพี่หมอก็พูดถึงไปแล้วหลายครั้ง ทั้งเรื่องของวิธีการใช้ การเลือกถุงยาง ตลอดจนปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเจอขณะใช้งาน ซึ่งเรารู้ไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ก็ไม่เสียหายครับ

และคำถามวันนี้ น้องถามาว่า "ใส่ถุงยางอนามัยสองชั้นได้ไหม?" อย่าเพิ่งตำหนิว่าน้องช่างไม่รู้อะไร เรื่องของเรื่องคือสงสัย ก็เลยถามมาเพราะอยากรู้ ส่วนจะลองใช้หรือยังนั้นไม่ได้บอกมานะครับ 

ซึ่งพี่หมอก็พูดบ่อยๆ อีกเช่นกันว่า ดีใจที่เมื่อน้องๆ สงสัยและกล้าถามด้วยความอยากรู้ เราจะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้องมั่นใจครับ เพราะงั้น อยากรู้เรื่องอะไร ถามมาเลย

รู้จักถุงยางอนามัย (Condom) เบื้องต้น

ถุงยางอนามัยจะมีอยู่ในซองประมาณ 3 ชิ้นต่อกล่อง อาจจะแล้วแต่ยี่ห้อ บางคนเลยสงสัยว่า เราต้องใช้พร้อมกันสามชิ้นเลยไหม หรือใช้ทีละชิ้น แล้วเก็บเอาไว้ใช้ในครั้งต่อไป แน่นอนว่าใช้ทีละชิ้นครับ!

ส่วนประกอบของถุงยางอนามัยนั้นมักจะเป็น Latex หรือยาง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น และใช้เทคโนโลยีแตกต่างกันไป เพื่อให้สัมผัสผิวสัมผัสที่เป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางของมนุษย์แล้วไม่เกิดอันตราย หรือการฉีกขาด (หากไม่รุนแรงจนเกินไป)

การใส่ถุงยางอนามัยนั้นที่แท้จริงแล้วควรสวมใส่เพียงชั้นเดียวเท่านั้นครับ เพราะการเสียดสีที่เกิดขึ้นจะเกิดเพียงแค่กับอวัยวะเพศชาย (Penis) กับช่องคลอดหรือทวาร ที่ควรจะมีสารหล่อลื่น (Lubricants) ด้วยครับ เพราะจะทำให้ลดแรงเสียดสี และลดแรงต้านทานเพื่อคงสภาพของตัวยางของถุงยางอนามัย (โห วันนี้มาซะฟิสิกส์เชียว)

ถุงยางอนามัย  2 ชั้น ไม่ได้ป้องกัน 2 เท่า อย่าหาทำ!

การใส่ถุงยางอนามัยซ้อนกันสองชั้น นอกจากจะไม่ได้ช่วยเพิ่มการป้องกันสองเท่าแล้ว ยังมีข้อเสียดังนี้ครับ

1. ลดระดับความรู้สึก 

เนื่องจากในผู้ชายหลายๆ คน ต้องการความรู้สึกผิวสัมผัสเสมือนไม่ได้ใส่ครับ และถุงยางอนามัยในปัจจุบันก็พยายามลดความหนา ให้บางลงไปอีก เสมือนไม่ได้ใส่ การใส่ถุงยางอนามัยซ้อนกัน ก็ทำให้คุณสมบัติตรงนี้ลดลงเช่นเดียวกัน

2.      ถุงยางอนามัยชั้นนอก มีโอกาสที่จะหลุดออก

 เพราะความไม่พอดี และแนบเนื้อไปกับอวัยวะเพศ ก็อาจจะยุ่งเข้าไปใหญ่ครับ ในอวัยวะเพศหญิงอาจจะมีรูปิดตันตรงปากมดลูก แต่หากใช้กับทวารหนักไม่ว่าจะเพศไหนแล้วนั้น อาจจะหลุดเข้าไปแล้วเอาออกมายากเลยทีเดียว

3.      อาจจะทำให้เกิดการเสียดสี จนถุงยางอนามัยแตก และฉีกขาด

เพราะพื้นผิวสัมผัสของระหว่างถุงยางอนามัยทั้งสองชิ้น ทำให้เกิดแรงเสียดทานมากกว่า และไม่แนบเนื้อ ทำให้เกิดน้ำอสุจิรั่วออกมากจากถุงยางอนามัยได้ และเกิดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ รวมถึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ

สุดท้ายนี้ น้องๆ คนไหนอยากรู้เพิ่มเติมก็คอมเมนต์ถามกันมาได้ครับ  แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า :)