Teen Coach EP.40 : กลไกการป้องกันตัวเองของคนไทย เจอเรื่องร้ายๆ ก็ทำให้กลายเป็นเรื่องตลก

Spoil

  • คนไทยเป็นคนตลก ไม่เคยเครียด สามารถหัวเราะได้กับทุกเรื่องจริงๆ เหรอ?
  • กลไกการป้องกันตัวเอง เป็นการตอบสนองทางจิตใจ เพื่อป้องกันเราจากความเครียด ความวิตกกังวล
  • การหนีความเป็นจริง การเลือกที่จะมองถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น ก็เป็นกลไกการป้องกันตัวเองอีกรูปแบบหนึ่ง

 หลายๆ คนคงเห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันมีแต่เรื่องเครียดๆ ทำให้เราหมดแรง หมดกำลังใจจะใช้ชีวิต ทั้งโรคระบาด ทั้งน้ำท่วม สถานการณ์ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้หลายๆ คนเริ่มสุขภาพจิตย่ำแย่ เครียด หมดไฟในการใช้ชีวิต เมื่อประเทศของเราเผชิญกลับสถานการณ์ดังกล่าว เราก็จะเห็นว่า หลายๆ คนต่างสรรหามุกตลก หรือกิจกรรมต่างๆเพื่อคลายเครียด

ต่างว่ากันว่า คนไทยเป็นคนตลก ไม่เคยเครียด สามารถหัวเราะได้กับทุกเรื่อง

บางคนก็บอกว่า ถ้าไม่ตลกก็คงเครียดเกินไป หรือสุขภาพจิตพังกันพอดี การหาเรื่องขำๆหรือกิจกรรมทำเพื่อคลายเครียด จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการรับมือกับความเครียดในสถานการณ์ดังกล่าว เหมือนกับเป็นการป้องกันตนเอง หลีกหนีจากความเครียด หาสิ่งที่ทำให้เราบันเทิง หรือคลายเครียดได้นั่นเอง  

Defense Mechanism หรือกลไกการป้องกันตัวเอง

วันนี้พี่ก็จะพามารู้จักกับ "กลไกการป้องกันตัวเอง" กันนะคะ มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Defense Mechanism สามารถอธิบายได้โดยทฤษฎีจิตวิเคราะห์ (Psychoanalytic) ของซิกมันด์ ฟรอยด์  (Sigmund Freud) นั่นเอง  

ฟรอยด์ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งทฤษฎีจิตวิเคราะห์ และได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก และทฤษฎีบุคลิกภาพ Id Ego และ Superego อย่างที่หลายๆ คนรู้จักกัน ในรูปภูเขาน้ำแข็งนั่นเอง ซึ่งในที่นี้ จะอธิบายถึง Ego หรืออัตตา ที่หมายถึงตัวตนบนความเป็นจริง เป็นตัวตนที่เราแสดงออกตา

ซึ่งกลไกการป้องกันตัวเอง เปรียบเสมือนรูปแบบการปกป้องตัวเราจากความเครียดที่ส่งผลต่ออัตตา หรือ Ego โดยที่ฟรอยด์เริ่มจากการศึกษาผ่านพฤติกรรมของลูกสาวของเขา แต่ก็มีนักจิตวิทยาได้ทำการเพิ่มเติมรูปแบบกลไกการป้องกันตัวเองในภายหลัง

กลไกการป้องกันตัวเอง เป็นการตอบสนองทางจิตใจในรูปแบบที่เราไม่รู้ตัว ไม่สามารถควบคุมมันได้ เพื่อป้องกันเราจากความเครียด ความวิตกกังวล หรืออารมณ์ต่างๆ ที่ไม่สามารถต้านทานได้ เพื่อรักษาสภาพจิตใจให้สมดุล รักษาความมั่นใจ และรับมือกับความวิตกกังวลได้นั่นเองค่ะ

กลไกการป้องกันตนเองมีหลายรูปแบบ

  • เก็บกด (Repression) เป็นกลไกการป้องกันที่ทำให้บุคคลนั้นเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่แสดงออก เพียงลืมๆ หรือไม่สนใจอารมณ์หรือความรู้สึกนั้นๆ ปล่อยให้มันหายไป เป็นกลไกการป้องกันตัวเองที่พบได้บ่อย และเป็นที่รู้จักมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเหล่านี้มันก็ไม่ได้หายไป มันยังส่งผลต่อการกระทำและพฤติกรรมเราในปัจจุบันและอนาคตได้
  • ปฏิเสธ (Denial)  คือการเลือกที่จะไม่ยอมรับความเป็นจริง มองว่าไม่เป็นเรื่องจริง ไม่เกิดกับเราหรอก เช่น รู้ว่าสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เราก็เลือกที่จะไม่ยอมรับมัน มองว่ามันคงไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพเราง่ายๆ
  • การกล่าวโทษผู้อื่น (Projection) คือการโยนความผิดให้ผู้อื่น หรือมองผู้อื่นในแง่ลบ ยกตัวอย่างเช่น การที่เราไม่ชอบคนคนหนึ่ง แต่จิตสำนึก (Superego) ของเราบอกว่าเขาเป็นคนดี เราก็จะหาเหตุผลอื่นมาเข้าข้างว่าว่า เพราะเขาก็ไม่ชอบเรา เราถึงไม่ชอบเขา
  • การถดถอย (Regression) การกลับไปอยู่ในสภาวะอดีตที่เคยดี เคยหอมหวาน เหมือนกับว่า จริงๆตอนนั้นก็ดีนะ ให้ความรู้สึกปลอดภัย สบายใจ เราจะพยายามทำตัวเป็นเด็ก เพื่อให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น
  • การหาเหตุผลในการเข้าข้างตนเอง (Rationalization) คือการหาคำอธิบาย หรือคำอ้างอิงมาประกอบการกระทำของตนเองเพื่อให้ตนเองไม่รู้สึกผิด เราจะมองว่า เป็นดวง เป็นโชคชะตา เช่น สอบไม่ติดคณะที่อยากเรียน เราก็จะมองว่า คณะที่เราสอบติดอีกคณะก็ดีเหมือนกันนะ
  • การยอมรับความเป็นจริง (Acceptance) เป็นการยอมรับความเป็นจริง และใช้เวลาทำความเข้าใจกับความรู้สึกของตัวเอง เข้าใจ ยอมรับ และไม่หลีกหนีความกังวลที่เกิดขึ้น

การ Make Fun เรื่องเครียด = การหนีความจริง 
เป็นกลไกการป้องกันตัวเองรูปแบบหนึ่ง

ด้านบนนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางรูปแบบของกลไกการป้องกันตนเองนะคะ แต่จริงๆ แล้วยังมีอีกหลากหลายรูปแบบที่สามารถเกิดขึ้นได้ การหนีความเป็นจริง การเลือกที่จะมองถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น ก็เป็นกลไกการป้องกันตัวเองอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เรามักจะเห็นได้บ่อย ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ แต่จริงๆ แล้ว กลไกการป้องกันตัวเองก็ไม่มีถูกไม่มีผิดหรอกนะคะ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว จิตใต้สำนึกของเรามันทำงานไปโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความกังวล ความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นกับเรา โดยที่จะต่างกันไปในแต่ละบุคคลและสถานการณ์นั้นๆ มันอาจจะไม่ได้ตายตัวเสมอไป

การยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดี และควรจะทำ แต่ไม่ได้หมายความว่าการหลีกเลี่ยงหรือมองข้ามปัญหาจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเสมอไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสภาพจิตใจของเรา หากการเลี่ยงปัญหาในบางครั้งทำให้เราสบายใจมากขึ้น และไม่ได้ส่งผลกระทบในด้านอื่นๆ มันก็จะเป็นประโยชน์กับเราด้วยเหมือนกัน

 รายการอ้างอิงhttps://www.simplypsychology.org/defense-mechanisms.html https://www.verywellmind.com/defense-mechanisms-2795960
โค้ชพี่นักเก็ต

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด