แพ้ถุงยางอนามัย! ใครไม่แพ้ไม่เข้าใจหรอก (T_T)

แพ้ถุงยางอนามัย เป็นยังไงกันนะ?

ที่ผ่านมาพี่หมอเน้นย้ำหลายครั้งว่า ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังป้องกันโรคติดต่อได้อีกด้วย โดยเฉพาะคู่รักเราไม่ใช่คู่สมรส อาจจะเป็นแฟนหรือความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เรายังมีโอกาสเปลี่ยนคนกันได้อีก เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าแต่ละคนเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง การป้องกันไว้จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด!

แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมการมีเพศสัมพันธ์แต่ละครั้งเหมือนจะเป็นปัญหาสำหรับใครหลายๆ คนมากเหลือเกิน ขนาดว่าพร้อมแล้วนะ ไหนจะทั้งบรรยากาศ สถานที่ การเตรียมตัว กระทั่งมาถึงการป้องกันก็ยังมีปัญหากันได้อีก นั่นเพราะว่าเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอครับ

อย่างเช่นเรื่องที่เราจะพูดคุยกันในวันนี้ บางคนอาจจะร้อง โอ้โห มีจริงเหรอ?  คือเรื่อง การแพ้ถุงยางอนามัย ที่แม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ พบเจอได้ง่ายๆ แต่การไม่รู้ตัวล่วงหน้าจนกระทั่งมีอาการแพ้ ก็ทำให้หลายคนแพนิคได้มากเลยล่ะครับ 

รู้จักถุงยางอนามัยก่อน

ถุงยางอนามัยส่วนใหญ่มีส่วนประกอบเป็น ลาเท็กซ์ (Latex) ซึ่งเป็นน้ำยางจากพืช หรือน้ำยางสังเคราะห์เป็นหลัก อย่างพี่หมอเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดีครับ แต่ไม่ใช่กิจกรรมที่ใช้ถุงยางอนามัยนะ เป็นการใส่ถุงมือยางแทนต่างหาก! ซึ่งก็เป็นสารประกอบชนิดเดียวกัน แล้วแต่ยี่ห้อครับ

การแพ้ Latex

กรณีการแพ้ถุงยางอนามัยนี้ Latex เป็นส่วนประกอบที่อาจจะทำให้เราเกิดอาการแพ้ได้ง่ายที่สุด ซึ่งอาการก็แล้วแต่ว่าเป็นการแพ้ขั้นรุนแรง (Anaphylaxis, Hypersensitivity type I) ซึ่งนอกจากมีผื่นขึ้นแล้ว อาจจะทำให้อวัยวะเฉพาะที่บวมขึ้น หรือความดันตกได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว การสัมผัสสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ง่ายนี้ มักจะทำให้เกิดอาการแพ้เฉพาะที่แบบช้า (Hypersensitivity type IV) หรือเกิดผิวหนังอักเสบได้ (Allergic Contact Dermatitis) เช่น มีผื่นแดงขึ้น หรือผิวหนัง ผิวลอก หรือมีผื่นนูนขึ้นมาได้เป็นต้น แต่มักจะไม่แสดงให้เห็นผลทันที เพราะบางครั้งใช้ไปหลายครั้งแล้วเพิ่งมีอาการก็เป็นไปได้ครับ

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะแพ้ถุงยางอนามัย?

นั่นสิ! ถือว่าค่อนข้างจะบอกได้ยาก เพราะเหมือนตัวยาที่บางครั้งถ้าเราไม่เคยกินเราอาจจะไม่เคยรู้ว่าแพ้ แต่หากมีอาการที่สงสัย แล้วสัมพันธ์กับการแพ้ยางแน่นอนก็ให้หยุดใช้ แล้วใช้ยาทาเฉพาะที่ลดอากาการคัน หรือถ้าให้ดีควรพบแพทย์เพื่อให้ช่วยวินิจฉัยโรค เผื่อมีอาการของโรคอื่นๆ ร่วมด้วยก็เป็นได้ครับ

แต่หากใครรู้อยู่แล้วว่ามีอาการแพ้ เช่น เคยใช้ถุงมือยาง/หรือผลิตภัณฑ์จากยางบางชนิดแล้วมีอาการแพ้  ก็สามารถป้องกันก่อนได้ ไม่ใช่เลิกใช้ถุงยางอนามัยไปเลย หรือใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ใช้ถุงยางอนามัยนะครับ แต่ให้หลีกเลี่ยงถุงยางที่ทำจากยางลาเท็กส์ แล้วไปใช้กลุ่มพวก Polyethylene อื่นๆ แทน เช่น ถุงยางอนามัยที่ทำจากพลาสติก ยางสังเคราะห์ หรือเยื่อธรรมชาติ  โดยสามารถสังเกตได้จากข้างกล่องของถุงยางครับ  

นอกจาก Latex อาจแพ้อย่างอื่นอีกนะ

บางคนอาจจะอุ่นใจแล้วว่่า ฉันไม่เคยแพ้ยางใดๆ มาก่อน มั่นใจมาก แต่รู้ไหมว่า นอกจากแพ้ยางแล้ว ยังมีสารเคมีบางประเภทที่ใส่ลงไปในน้ำหล่อลื่นของถุงยางอนามัย ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้อีกด้วย เช่น  Nonoxynol-9 ที่เป็นส่วนประกอบในการทำลายตัวอสุจิ หรือสารปรุงแต่งกลิ่นสี หรือยาชา เป็นต้น

ดังนั้น นี่จึงเป็นความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งข้อดีและผลข้างเคียงครับ แต่อย่างที่บอกไปว่า ไม่ได้พบบ่อยๆ ดังนั้นการใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์จึงยังเป็นสิ่งจำเป็น อย่าหาข้ออ้างหลีกเลี่ยงครับ

เห็นความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์แล้วก็เข้าใจน้องๆ บางคนนะครับว่าทำไมถึงไม่ค่อยอยากป้องกันเวลามีเพศสัมพันธ์กัน เพราะการซื้อถุงยางอนามัยนั้น ต้องดูทั้งขนาดที่เหมาะสม สีกลิ่นที่ชอบ และวัสดุหรือสารเคมีที่ใช้อีก แต่อย่างไรก็ตาม หากคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา ถึงความคุ้มค่าของการป้องกันไว้ก่อน ปลอดภัยไว้ก่อนเนี่ย ถือว่าคุ้มมากทีเดียวครับ เพราะอาการแพ้หรือผลข้างเคียงอื่นๆ อาจจะเป็นผลระยะสั้น แต่หากตั้งครรภ์โดยที่ไม่พร้อมขึ้นมา หรือเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีมากมายนั้น ยอมเสียเวลาลงไปร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยาใกล้บ้านอีกนิดเดียวเท่านั้นครับ

รักแท้อาจจะแพ้ถุงยาง แต่ถ้าอยากรักกันนาน ๆ ก็ไปเลือกถุงยางที่ไม่แพ้ครับ อิอิ