
Spoil
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่วนมากมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- โรคนี้พบบ่อยมากในเพศหญิง เนื่องจากทางเดินปัสสาวะและท่อปัสสาวะสั้น ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- สาเหตุสำคัญอีกอย่างคือ การอั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน และดื่มน้ำระหว่างวันน้อย
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากอะไร?
สวัสด่ีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้คอลัมน์ Sex Education by Dek-D เปิดมาด้วยเรื่อง "กระเพาะปัสสาวะอักเสบ" ซึ่งพี่หมอเชื่อว่าขึ้นหัวเรื่องนี้มา น้องๆ ผู้หญิงเกือบทุกคนจะต้องให้ความสนใจแน่ๆ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก นอกจากจะใกล้ตัวน้องๆ แล้ว ก็ยังไกล้ตัวพี่หมอเองเช่นกันครับ เพราะแทบจะเจอภาวะนี้เป็นปกติเลยในทุกๆ วันในคนไข้ โดยเฉพาะคนไข้ผู้หญิงครับ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ คืออะไร ?
สำหรับใครที่เคยเป็นครั้งแรกก็อาจจะงงๆ หน่อย ส่วนใหญ่จะมาโรงพยาบาลด้วยความวิตกกังวล และแทบจะวินิจัยโรคตัวเองมาตั้งแต่ที่บ้านแล้ว เพราะเป็นบ่อยเสมือนเป็นหวัดเลยก็ว่าได้ นั่นคืออาการของ "กระเพาะปัสสาวะอักเสบ"
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) เป็นภาวะการณ์อักเสบจากกระเพาะปัสสาวะ ส่วนมากมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial infection) ทำให้เกิดการอักเสบ (Infalmmation) และการระคายเคือง (Irritation) ของกระเพาะปัสสาวะ
.png)
อะไรทำให้ติดเชื้อขึ้นมาได้ ?
อย่างที่ที่บอกไปตอนแรกเลยครับ โรคนี้เสมือนโรคหวัด (Common cold) ของน้องผู้หญิงเลยก็ว่าได้ ยิ่งทำความรู้จักกันไว้ได้ ก็ยิ่งดี 555 เพราะเชื้อโรคนั้นมีอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณช่องคลอด (Vagina) หรือทางเดินปัสสาวะของน้องๆ (Urinary tract) นอกจากนั้น ท่อปัสสาวะ (Urethra) ของเพศหญิงยังสั้น ทำให้เกิดการส่งผ่านเชื้อจากภายนอกเข้าไปสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายนั่นเอง (Bacterial transmission)
อาการที่พบ
- อาการปัสสาวะขัด (Dysuria) อาจจะขัดตลอดการปัสสาวะเลย หรือขัดมากตอนปัสสาวะเกือบสุด
- ปวดท้องน้อยมาก (Suprapubic pain) หลังจากปัสสาวะเสร็จก็ได้ เหมือนปวดหน่วงๆ กดเจ็บที่ท้องน้อย
- บางคนมีปัสสาวะขุ่น ไม่ใสเหมือนปกติ
- ปัสสาวะเป็นเลือด (Hematuria) เลือดปนออกมาให้เห็น แดงจาง จนถึงแดงเข้มได้
แต่ไม่ต้องตกใจไปครับ ถ้าอาการโดยรวมประมาณนี้ มีสาเหตุชัดเจน เช่นบางคนนั่งทำงาน/เรียนออนไลน์/เล่นเกมทั้งวัน ลืมลุกไปปัสสาวะ หรือไม่ได้ดื่มแม้กระทั่งน้ำ ก็ทำให้การปัสสาวะเพื่อชำระล้างเชื้อโรคและของเสียน้อยลงไปอีก เกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้นครับ
ส่วนสาเหตุบ่อยๆ ที่พี่หมอเจอก็คือ เดินทางจากต่างจังหวัด นั่งบนรถ ไม่ได้ลงไปปัสสาวะ ดื่มน้ำน้อย แถมอากาศน้อยไปอีก แทนที่จะลงรถนอนบ้าน ก็ลงรถที่ร้านขายยา หรือโรงพยาบาลนั่นแหละครับ
โรคนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
แต่ถ้าหากเป็นบ่อยๆ เกินไป เช่นแทบทุกเดือน หรืออาการปัสสาวะเป็นเลือดไม่หาย มีไข้สูง (High grade fever) มากๆ ก็คงต้องไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลแน่ๆ เพื่อทำการหาโรคร่วมอื่นๆ ที่อาจจะเป็นไปได้ เช่น นิ่วในทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract stone) เป็นต้น
โรคการติดเชื้อทางเดินทางปัสสาวะ (Urinary tract in fection : UTI) ถ้าสูงขึ้นไปที่การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนบนอย่างพวกกรวยไต หรือท่อไต ก็อาจจะทำให้มีอาการไข้สูง และอันตรายมากกว่าได้ครับ แต่อาการพวกนี้มักมีอาการร่วมกันหลายๆ อย่าง นอกจากปัสสาวะขัด เช่น ไข้สูง ปวดเอวมาก เป็นต้น แต่มันจะไม่ค่อยเกิดในเด็กวัยรุ่นเท่าไหร่ มักเกิดในคุณแม่ หรือผู้สูงอายุมากกว่าครับ
สรุปคือ สาวๆ วัยรุ่นก็มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ ถ้าอั้นปัสสาวะบ่อยๆ หรือดื่มน้ำระหว่างวันน้อย โดยเฉพาะการดื่มน้ำน้อย นอกจากจะส่งผลต่อกระเพาะปัสสาวะ ยังไม่ดีต่อสุขภาพด้านอื่นๆ อีก ใครที่รู้ตัวว่าดื่มน้ำน้อย ก็ลองปรับพฤติกรรมกันหน่อยก็ดีครับ

จริงๆ โรคนี้ไม่รุนแรง และไม่น่ากังวลใจเลยครับ แต่ก็ค่อนข้างน่ารำคาญใจ เป็นเด็กผู้หญิงนี่มันไม่ง่ายเลยเนอะ ไหนจะประจำเดือน ไหนจะสุขอนามัยต่างๆ ยิ่งเป็นสาววัยรุ่นโตขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นด้วยครับ หากใครมีอาการอย่างที่พี่หมอบอกไป หรือมีอาการอื่นเป็นที่กังวลใจ อย่าเพิ่งพบหมอ Google นะครับ เดี๋ยวจะพบว่าเป็นมะเร็ง หยอกๆ พี่หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลดีกว่าครับ และที่สำคัญ เวลาไปโรงพยาบาลหรือพบแพทย์ ก็ควรปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ และรับประทานยาฆ่าเชื้อให้ครบตามกำหนดนะครับ
ดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะครับ ดื่มน้ำวันละแปดแก้ว แต่ก็อย่าลืมไปปัสสาวะออกด้วยคร้าบ... แล้วพบกับ Sex Education by Dek-D.com และพี่หมอโด่งในตอนหน้าครับ
นพ.ชนม์พิสิฐ มณฑล
0 ความคิดเห็น