Teen Coach EP.52 : Hurry Sickness อาการของคนยุค 5G ขี้หงุดหงิด รออะไรนานๆ ไม่ได้

เคยมั้ย รู้สึกว่าตัวเองทนรออะไรนานๆ ไม่ได้ มักจะหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน อยู่ไม่เป็นสุข  ยิ่งเราอยู่ในโลกที่หมุนไปอย่างเร็วไว ชีวิตเราในแต่ละวันก็เป็นไปอย่างเร่งรีบ เราจึงพยายามทำทุกอย่างให้มันรวดเร็วเสมอ

โรคทนรอไม่ได้ หรือมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Hurry Sickness เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้บ่อยในยุคปัจจุบัน ที่เราทุกคนต่างใช้ทุกวินาทีไปกับการทำอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย หรือเล่นมือถือ เรามักจะอยู่ว่างๆ โดยที่ขาดมือถือไม่ได้ ในบางครั้ง ที่เรารออินเตอร์เน็ตโหลด หรือแอปฯล่ม ทำให้เรารับรู้ถึงการต้องมานั่งรอคอย เราก็มักจะหงุดหงิดงุ่นง่านนั่นเอง

แต่ Hurry Sickness ไม่ได้ถือเป็นโรคหรืออาการเจ็บป่วยนะคะ เป็นเพียงสภาวะทางอารมณ์ที่เรารู้สึกว่า เรามีสิ่งที่ต้องทำตลอดเวลา รอไม่ได้ เร่งรีบอยู่เสมอ

วิธีสังเกตง่ายๆ เมื่อเรามีภาวะที่รอไม่ได้เกิดขึ้น

• เรามักจะทำอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมกัน เช่น เรามีอุปกรณ์ทั้ง โทรศัพท์ ไอแพด คอมพิวเตอร์ ตาเราอาจจะจ้องคอมทำอย่างนึง มือเราอาจจะจิ้มโทรศัพท์ทำอีกอย่างหนึ่งไปพร้อมๆ กัน หรือเรียกว่า Multitasking นั่นเอง หากเป็นงานที่ไม่จำเป็น เราไม่จำเป็นต้องรีบทำให้เสร็จ หรือสำคัญกับเราขนาดนั้น เราอาจจะทำทีละงาน หรือเลือกที่จะทำอย่างเดียวในเวลาหนึ่งก็ได้
• มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ อารมณ์ไม่เสถียร หงุดหงิดง่ายเมื่อสิ่งที่ต้องทำ ไม่เป็นไปดั่งใจ ไม่ว่าจะเน็ตหลุด แบตโทรศัพท์หมด จอคอมพิวเตอร์ดับ เราจะรู้สึกเซ็ง หงุดหงิดทันที

วิธีที่จะช่วยให้เราไม่อยู่ในสภาวะเหล่านี้อย่างง่ายที่สุด คือ การพยายามตั้งสติ และโฟกัสอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราค่อยๆทำทีละอย่าง ไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไป การที่เราทำหลายอย่างไปพร้อมกันบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย จะส่งผลให้เราเคยชินกับความเร่งรีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ยิ่งทำให้เราเคยชินกับการใช้ตลอดเวลา การทำทีละอย่างก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่ทำให้เราโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้มากขึ้น ไม่ถูกเบนความสนใจไปในทิศทางอื่น  เมื่อไหร่ที่เราเริ่มรู้สึกว่าตัวเองรับมือไม่ไหวแล้ว สูดอากาศ จัดลำดับความสำคัญ ออกไปพักผ่อนบ้าง หากิจกรรมที่ช่วยให้เรารีแลกซ์มากขึ้น หรือแม้แต่การทำสมาธิก็ช่วยได้นะคะ

อาการเหล่านี้ ถึงแม้จะไม่ใช่โรคและอะไรที่น่ากลัว แต่เมื่อเป็นบ่อยๆ ระยะยาว ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวเรา ทั้งทางร่างกาย จิตใจ ทางตรง และทางอ้อมได้ เช่น การมีอารมณ์หุนหันพลันแล่น เหวี่ยง วีน หงุดหงิด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ รวมไปถึงทางสุขภาพร่างกาย เช่น การนอนไม่หลับ ความเครียด ความวิตกกังวล ปวดหัว หมดแรง มีความผิดปกติกับการกินอาหาร เป็นต้น

หากเราปล่อยไว้นานๆ จนมันมีผลกระทบต่อชีวิตของเรา เราไม่สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ก็อย่าลืมไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญนะคะ อย่าปล่อยทิ้งไว้ น้องชาว Dek-D คนไหนคิดว่าตัวเองมีอาการแบบนี้บ้าง มาคอมเมนต์คุยกัน