มือใหม่ต้องรู้! รีบปรับ Mindset ให้ปัง สู่การเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ

มือใหม่ต้องรู้ รีบปรับ Mindset ให้ปัง
สู่การเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ

“ถ้าคุณเปลี่ยนทัศนคติ ชีวิตคุณก็จะเปลี่ยน” – วิลเลียม เจมส์

สวัสดีค่ะชาวนักเขียนทุกคน เคยไหม เขียนนิยายอยู่ดีๆ ไฟหมด ตัน เขียนไม่จบ หมดกำลังใจ เป็นท้อจริงๆ จะเห็นว่าการเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยาก แค่เราต้องมี Mindset (กรอบความคิด, ทัศนคติ) ที่ใช่สำหรับการเป็นนักเขียน เมื่อเรามีมายเซ็ตที่ดี เราจะไม่กลัวในการเขียนและทุ่มเทให้กับงานเขียนของเรา

แล้วมายเซ็ตที่ดีสำหรับนักเขียนเป็นยังไง?

มาค่ะ วันนี้มาดูกัน!!

มายเซ็ตในการเขียนคืออะไร?

มายเซ็ต (Mindset) คือวิธีการที่เราคิดเกี่ยวกับบางสิ่ง ดังนั้นมายเซ็ตในการเขียน (Writing Mindset) คือวิธีการที่เราคิดเกี่ยวกับการเขียน เราต้องพัฒนามายเซ็ตในการเขียนเพื่อสนับสนุนงานสร้างสรรค์ของเรา เราควรคิดบวก และใช้วิธีการคิดของเราในการทำให้การเขียนง่ายขึ้น เพราะสิ่งที่เราคิดคือสิ่งที่เราเป็น และสิ่งที่เราทำ

วิธีที่เราเข้าถึงและกำหนดกรอบปัญหาการเขียนของเรา สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นบวกหรือลบได้ การทำงานเพื่อพัฒนามายเซ็ตจะช่วยสนับสนุนกระบวนการเขียนของเรา

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความคิดประมาณว่า

พอจะเห็นภาพมากขึ้นใช่ไหม?

ด้วยมายเซ็ตของเรา สิ่งสำคัญที่ต้องจดจำไว้คือ เราควบคุม เข้าใจและจัดการวิธีที่เราคิด และแนวทางการเขียนเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนามายเซ็ตที่เอื้อต่อการเขียน

มาดูรายละเอียดเกี่ยวกับมายเซ็ตในการเขียนกันดีกว่า

นักเขียนทุกคนต้องการมายเซ็ตในการเขียน

มายเซ็ตในการเขียน (Writing Mindset) มีประโยชน์มากๆ มันทำให้เราควบคุมงานเขียนของตัวเองได้มากขึ้น เราจะกล้าตัดสินใจนั่งลงเขียนนิยายโดยไม่รอแรงบันดาลใจ เราจะมีไฟในการทำตามความฝันบนเส้นทางนักเขียน รวมทั้ง

• มันเป็นการพัฒนาวิธีคิดที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ความมีประสิทธิผล (Productivity) และความพากเพียรในงานเขียนของเรา
   
• มันทำให้เราปรับความคิดใหม่และท้าทายพฤติกรรมเชิงลบ โดยเฉพาะการคิดอัตโนมัติในแง่ลบ เช่น “ฉันเขียนนิยายไม่เก่ง ฉันเขียนนิยายไม่ได้” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คิดเชื่อมาหลายปี และมักจะทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง มายเซ็ตในการเขียนจะท้าทายสิ่งนี้ และบังคับให้เราตรวจสอบว่าสิ่งนี้มาจากไหน
   
• มันทำให้เราควบคุมทัศนคติและความเชื่อมั่นในตัวเอง เพื่อประสบความสำเร็จในการเขียน
   
• มันทำให้เราสนุกกับการเขียนมากขึ้น

เอาล่ะ ตอนนี้เรารู้แล้วว่ามายเซ็ตในการเขียนคืออะไร และเหตุใดเราจึงต้องการมัน ทีนี้มาดูวิธีการพัฒนามายเซ็ตในการเขียนกันค่ะ

พัฒนามายเซ็ตในการเขียนให้ปัง

เราสามารถดูปัจจัยพื้นฐานที่เราต้องการ เพื่อช่วยให้เราคิดเกี่ยวกับงานเขียนของเราได้สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึง

• มีขั้นตอนการเขียนที่ชัดเจน รู้ว่าเมื่อใดที่เราวางแผนจะเขียน และจัดตารางสัปดาห์ของเราให้พอดีกับการเขียน
   
• กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์สำหรับงานเขียน แทนที่จะรอให้ตัวเองรู้สึกมีไฟหรือได้รับแรงบันดาลใจ สิ่งนี้สามารถช่วยให้เราผลักดันโปรเจกต์ไปข้างหน้า ถ้าเรามีเป้าหมาย เราก็จะมีความมุ่งมั่นมากขึ้น
   
• สร้างพื้นที่เพื่อให้เราเขียนนิยายให้จบ ยกตัวอย่างเช่น บางคนหัวลื่น เขียนนิยายได้ง่ายเมื่อพวกเขานั่งโต๊ะบางตัว แต่บางคนก็หัวลื่นเมื่อนั่งเขียนนอกบ้าน เป็นต้น
   
• ให้เวลากับการเขียน บางคนบอกว่า ปฏิบัติต่องานเขียนของคุณราวกับมันคืองาน และกลับมาหามันเป็นประจำ มันอาจใช้ได้ผล แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเรา

พื้นฐานเหล่านี้ดี มันจะช่วยเราในการเขียนได้ อย่างไรก็ตาม การมีกิจวัตรประจำวันในการเขียนที่ดี และการวางแผนว่าเมื่อใดที่เราจะเขียนอาจไม่เพียงพอ เราต้องการเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก 

และนี่คือเครื่องมือดีๆ ที่นักเขียนสามารถหยิบไปใช้ได้ ฝึกฝนบ่อยๆ รับรองว่าได้ผลระยะยาว!

เครื่องมือในการเข้าถึงหัวใจของสิ่งที่เราคิด และวิธีการมองงานเขียนของเรา

#1 – พัฒนา Growth Mindset

แครอล ดเว็ค นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ด ค้นพบวิธีการที่พลังแห่งความเชื่อของเราส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในทุกด้านของชีวิตเรา รวมทั้งงานเขียนของเรา ดเว็คกล่าวว่า "คนส่วนใหญ่มักมีความคิด “คงที่ (fixed)” หรือ “เติบโต (growth)”"

คำถามก็คือ… เราได้เรียนรู้อะไรจากความล้มเหลวที่เกิดขึ้นบ้าง?

ตอบให้ได้ แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ เราจะกลายเป็นนักเขียนที่เติบโต!

#2 – เลิกมีความคิดแบบ Culture of Scarcity

ความคิดที่ขาดแคลน (Culture of Scarcity) หมายถึงการที่เราหมกมุ่นอยู่กับการขาดบางสิ่งบางอย่าง เช่น ขาดเงิน ขาดเวลา และดูเหมือนว่าเราจะไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งอื่นได้ ไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม

ถ้าเสียงในหัวบอกเราว่า “นิยายมีตั้งมากมาย คงไม่มีพื้นที่ให้เราติดท็อป เพราะไม่มีใครอยากอ่านนิยายฉันหรอก” รู้ไว้เลยว่ามันเป็นเรื่องโกหก 

มีพื้นที่มากมายสำหรับงานเขียนของเรา และโลกก็ต้องการเห็นผลงานของเรา 

#3 – พัฒนา Self-efficacy

Self-efficacy คือความเชื่อในตัวเองอย่างแรงกล้าว่า เรามีความสามารถในการประสบความสำเร็จ!!

เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่จะเขียนนิยายให้จบ แม้ว่าเราจะรู้ว่ามันยากก็ตาม แต่เราก็ยังเชื่อในความสามารถของตัวเองว่าเราจะทำมันให้สำเร็จได้ 

#4 – โอบกอดความล้มเหลว มันคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้

การเขียนไม่ได้เกี่ยวกับความสมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นสิ่งที่เมื่อไหร่ก็ตามเราลงมือเขียน มันจะกลายเป็นความคาดหวัง แต่รู้มั้ย? ร่างแรกไม่จำเป็นต้องดีที่สุด เราสามารถล้มเหลวหรือทำผิดพลาดได้ ไม่เป็นไร ผิดก็แค่แก้ เขียนไม่ดีก็แค่ลบ 

…………………

การควบคุมความคิดและวิธีคิดเกี่ยวกับการเขียน เป็นกุญแจสำคัญสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพและเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น ยิ่งเขียนมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเก่งขึ้น ยิ่งมีระเบียบวินัยมากขึ้น และเราก็จะสนุกกับเส้นทางนักเขียนมากขึ้น 

ปรับเปลี่ยนมายเซ็ต สร้างพลังงานบวกให้ตัวเอง และทำให้การเขียนเหมือนเป็นงานที่เรารักของเรา แค่นี้ก็ปังบนเส้นทางนักเขียนแบบง่ายๆ แล้ว พยายามเข้านะทุกคน!

พี่น้ำผึ้ง :)