จากกีฬาที่ชอบ สู่แนวการเขียนที่ใช่ สู้ชีวิต... จากรายได้หลักร้อย สู่รายได้หลักหมื่น! | The Chosen EP. 30 bibi

จากกีฬาที่ชอบ สู่แนวการเขียนที่ใช่ 
สู้ชีวิต... จากรายได้หลักร้อย สู่รายได้หลักหมื่น!

The Chosen EP. 30 bibi

  • น้องเบล วัย 24 ปี เจ้าของนามปากกา “bibi” คือ อดีตพนักงานออฟฟิศที่ตั้งใจลาออกจากงานมาเขียนนิยายออนไลน์หารายได้ แต่เส้นทางกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด
  • นิยายสองเรื่องแรกที่เขาตั้งใจเขียนจนจบและใช้เวลาเขียนกว่าครึ่งปี ไม่ได้ประสบความสำเร็จตามที่หวัง คนอ่านน้อย ไม่มีคอมเมนต์ให้กลับมาพัฒนาตัวเอง และแทบไม่มีรายได้
  • ในช่วงที่กำลังสิ้นหวัง เขาตัดสินใจเอากีฬาฟุตบอลที่ชื่นชอบมาลองเขียนเป็นนิยายแฟนตาซีเรื่อง “นักเตะศตวรรษ” และนิยายเรื่องนี้ได้พลิกชีวิตจากนักเขียนที่แทบไม่มีรายได้ กลายเป็นคนที่มีรายได้หลักหมื่นต่อเดือน

ไม่รู้ว่าใครเจอปัญหานี้อยู่บ้าง ตั้งใจมาเขียนนิยายออนไลน์หารายได้ ทุ่มเทศึกษาหาข้อมูลอย่างดี มั่นใจว่าเรื่องที่เขียนมาจากความชอบ ลงมือวางพล็อต และเขียนนิยายอัปลงบนเว็บทุกวัน แต่.. เขียนไปหลายสิบตอน กลับไม่มีคนอ่าน ไม่มีคอมเมนต์ให้กลับไปปรับปรุงตัวเองเลย พอเปิดขายก็มีรายได้น้อย ถ้าใครเจอปัญหาเหล่านี้อยู่ ลองมาดูเรื่องราวของนักเขียนมือใหม่คนนี้กันหน่อย เผื่อจะมีส่วนไหนที่เราพลาดและลืมนึกถึงไปบ้าง  

นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 24 ปี ที่อยากหางานอิสระทำ เลยวางแผนลาออกจากงานมาเขียนนิยายออนไลน์หารายได้ เพราะเห็นในกลุ่มนักเขียนนิยายมีคนโพสต์เกี่ยวกับการแต่งนิยายหารายได้ เขาคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ก็เลยลองลงมือเขียนดู แต่เส้นทางกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด  

น้องเบล เจ้าของนามปากกา “bibi” ผู้เขียนนิยายแฟนตาซีเรื่อง “นักเตะศตวรรษ” ให้สัมภาษณ์กับเราแบบไม่กั๊กว่า เขาตั้งใจมาเขียนนิยายหารายได้จริง ก่อนเขียนก็มีศึกษาข้อมูลมาว่าต้องเริ่มเขียนอย่างไร มีเทคนิคการเขียนอย่างไรบ้าง ทว่านิยายสองเรื่องแรกที่ได้ไอเดียมาจากซีรีส์เกาหลีที่ชอบ และใช้เวลาแต่งนานกว่าครึ่งปี กลับพังไม่เป็นท่า คนอ่านน้อยไม่พอ ยังไม่มีคอมเมนต์เอาไปพัฒนาตัวเองอีก ยิ่งรายได้ไม่ต้องพูดถึง มียอดน้อยจนไม่ถึงยอดโอนของเว็บเลยด้วยซ้ำ

น้องเบลยอมรับว่า รู้สึกท้อบ้างเหมือนกัน เพราะเขาไม่มีงานทำและไม่มีรายได้จากการเขียนนิยายเลย แต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ไปเลยทันที เขาอยากรู้ว่านักเขียนคนอื่นๆ แต่งนิยายอย่างไรให้มีคนอ่าน เลยลองเปิดนิยายในหมวดอื่นๆ ดูบ้าง จนไปเจอนิยายเรื่องหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่เขาชื่นชอบมากๆ เขาเลยตัดสินใจแต่งนิยายเรื่องที่สาม เรื่อง “นักเตะศตวรรษ” ขึ้นมา และนิยายเรื่องนี้ก็ทำให้เขาได้รับฟีดแบ็กกลับมาเป็นครั้งแรก ทั้งยอดวิว คอมเมนต์ และรายได้มาจุนเจือครอบครัวมากถึงหลักหมื่นต่อเดือน

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องราวย่อๆ ของน้องเบลที่อยากชวนทุกคนตามไปอ่านต่อในบทสัมภาษณ์นี้ ลองมาดูว่าเขาเริ่มต้นเขียนนิยายได้อย่างไร แล้วการเป็นนักเขียนมือใหม่ต้องเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง และถ้าเราอยากเขียนนิยายหารายได้บ้าง แต่ไม่ได้ปังตั้งแต่เรื่องแรก ควรทำอย่างไรต่อไป ในบทความนี้มีคำตอบ 

เริ่มต้นศึกษาหาข้อมูลแล้วลงมือเขียนเลย

น้องเบล เล่าย้อนความหลังว่า ก่อนหน้าจะมาเขียนนิยาย เขาเคยทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศมาก่อน เมื่อใกล้หมดสัญญาทำงาน เขาก็เริ่มคิดถึงงานในอนาคตที่อยากทำ และพบว่าตัวเองอยากทำงานอิสระ เลยลองมองหาอาชีพที่รองรับกับความต้องการหลังออกจากงาน และอาชีพนั้นคือ การเขียนนิยายขายออนไลน์ นั่นเอง 

เราตั้งใจจะออกมาเขียนนิยายแบบเต็มตัวเลยครับ ช่วงนั้นเราไม่อยากทำงานออฟฟิศ อยากออกมาหาความอิสระ มันก็มาจบที่นิยายครับ ในระหว่างที่เรายังอยู่ในงาน เราก็พอจะศึกษาทางของเราอยู่แล้วว่า เราจะเริ่มเขียนนิยายยังไง เราเข้าไปอยู่ในกลุ่มนักเขียนนิยายในเฟซบุ๊ก ก็มีโพสต์ให้แรงบันดาลใจ แล้วก็มีคนโพสต์เกี่ยวกับรายได้ เราเห็นแล้วเราก็มีไฟขึ้นมา ทำให้เราอยากเขียนเหมือนกัน เราก็ปูทางของเราไว้แล้วในระดับหนึ่ง” 

พอออกจากงานปุ๊ปก็ลงมือเขียนปั๊ป น้องเบล เล่าว่า นิยายเรื่องแรกที่เขียนลงในหมวดรักหวานแหวว คือเรื่อง “My idol : รักสุดใจ คุณไอดอล” ตอนเขียนนิยายเรื่องแรกเขาตั้งใจแต่งมาก มีการวางพล็อตแต่ละตอนเอาไว้ และลงมือเขียนจนจบ แต่ฟีดแบ็กทั้งยอดวิว และคอมเมนต์กลับน้อยเกินคาด อีกทั้งรายได้จากการขายนิยายก็มียอดน้อยไม่ถึงยอดโอน 

“เรื่องแรกที่เขียนเกี่ยวกับไอดอลเกาหลีครับ เพราะว่าตอนนั้นผมดูซีรีส์รื่องหนึ่งเกี่ยวกับไอดอลเคป็อป แล้วเราก็มีความชอบอยู่แล้ว ก็เลยลองจินตนาการให้มันกลายเป็นนิยายดู เรื่องแรกเราตั้งใจครับ มีการวางพล็อต มีการเขียนสตอรี่ว่าตอนนี้ต้องเป็นแบบนี้ ๆๆ ตั้งใจมากครับ”

ช่วงแรกคอมเมนต์ไม่มีเลย เราก็เลยไม่รู้ว่าเราต้องแก้ตรงไหน มันก็แย่อะครับ มีคนอ่าน แต่ก็หลักร้อยครับ  ในใจมันก็ท้อครับ แต่คิดไว้ว่ายังไงก็จะต้องขายให้ได้ เพราะเราตั้งใจจะหารายได้จากมัน ก็ลองเปิดเหรียญดู แต่มันไม่มีคนอ่านอยู่แล้ว เปิดไปก็ไม่มีคนกล้ามาซื้อของเรา รายได้ก็เลยน้อยมาก รายได้เรื่องแรกคือ ไม่ถึงร้อยครับ ถอนไม่ได้เลย”

น้องเบล ยอมรับว่ารู้สึกท้อบ้างเหมือนกัน ยิ่งเขียนเรื่องที่สองแล้วได้รับฟีดแบ็กเหมือนเดิม เขาก็เริ่มกดดันตัวเองมากขึ้น เพราะกว่าจะเขียนนิยายทั้งสองเรื่องจบก็ใช้เวลานานกว่าครึ่งปี แล้วทางบ้านก็เป็นห่วง อยากให้หางานอื่นลองทำดู เขาเลยฮึดสู้อีกครั้ง 

“เรื่องแรกกับเรื่องที่สอง ถ้านับเดือนจริงๆ ก็ใช้เวลา 5-6 เดือนกว่าจะจบ ความกดดันมันมีอยู่แล้วครับ เพราะว่า หนึ่งเลยเราไม่มีงาน แล้วก็เราไม่มีรายได้ แล้วแม่เราก็ถามตลอดว่าไปทำอย่างอื่นมั้ย ไปทำงานอื่นมั้ย ซึ่งเราเคยลองทำแล้ว ตัวเราเองไม่ชอบทางนั้น เลยตัดสินใจว่าจะลองทำต่อไปครับ”

นิยายเรื่อง My idol : รักสุดใจ คุณไอดอล ที่น้องเบลเขียนจบทั้งสองภาค
นิยายเรื่อง My idol : รักสุดใจ คุณไอดอล ที่น้องเบลเขียนจบทั้งสองภาค

หยิบเรื่องใกล้ตัวมาเขียน แต่งนิยายได้ง่ายขึ้น

หลังจากน้องเบลเขียนนิยายเรื่อง “My idol : รักสุดใจ คุณไอดอล” จนจบทั้งสองภาค เขาก็ตัดสินใจรีไรต์นิยายอีกครั้ง แต่ระหว่างที่กำลังแก้ไขนิยายเรื่องเก่าอยู่ เขาก็เกิดอาการตัน คิดไม่ออกว่าจะเขียนนิยายให้มีคนอ่านได้อย่างไร เพราะเขาเคยรีไรต์นิยายไปแล้วหนึ่งครั้ง แต่ก็ยังไม่มีคนอ่านเพิ่มขึ้นอยู่ดี 

น้องเบล เลยเปิดเว็บเด็กดี ลองดูนิยายในหมวดอื่นๆ ดูบ้าง จนไปเจอนิยายเรื่องหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับ ฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่เขาชื่นชอบมากๆ เขาเลยตัดสินใจแต่งนิยายเรื่องที่สาม เรื่อง “นักเตะศตวรรษ” ขึ้นมา 

“ตอนนั้นเรากำลังเขียน My idol : รักสุดใจ คุณไอดอล รีไรต์รอบสองอยู่ มันคิดไม่ออกว่าจะเขียนยังไงให้มีคนอ่าน ในเมื่อรีไรต์รอบแรกไปแล้วมันก็ยังไม่มีคนอ่านอยู่ดี เลยลองเปิดเว็บเด็กดีว่าช่วงนี้เขาเขียนอะไร เราไปเจอเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับฟุตบอล แล้วเราก็นึกได้ว่าเราชอบฟุตบอล เราก็เลยลองเขียนดูครับ

น้องเบล บอกว่า นิยายเรื่องนี้เขียนได้ลื่นไหลมาก แม้ว่าจะไม่ได้วางพล็อตล่วงหน้า แต่ก็มีไอเดียที่อยากเล่าเต็มไปหมด อีกทั้งตัวเขาเองก็ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล และมีทีมโปรดอยู่แล้ว เมื่อต้องมาเขียนบรรยายเลยพยายามใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย อ่านแล้วตัวเองจินตนาการได้ เชื่อว่านักอ่านเองก็น่าจะจินตนาการได้เหมือนกัน  

“เราเขียนแบบไร้ความกดดันครับ เขียนง่ายครับ เพราะว่าเรารู้จักทีมฟุตบอลของเราอยู่แล้ว แต่มันยากตรงกฎของกีฬาฟุตบอลนี่แหละครับ ระหว่างที่เขียนก็มีหาข้อมูลตลอด คำนี้ต้องใช้อะไร คำนี้ผิดมั้ย หรือว่ากฎของกีฬาฟุตบอลมันเป็นยังไง ก็เจาะลึกไปเรื่อย ๆ ครับ”

“สำหรับคนอ่านทั่วไปก็น่าจะรู้เรื่องนะครับ เพราะว่าผมใช้ภาษาที่ค่อนข้างง่าย คือเราอ่านแล้วเราจินตนาการได้ เราเข้าใจอะครับ บวกกับเราเคยผ่านการเขียนนิยายมาแล้วสองเรื่อง คำศัพท์อะไรต่าง ๆ เราก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ  จนเราเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าการเขียนนิยายเป็นยังไง

น้องเบล เล่าถึงฟีดแบ็กของนิยายเรื่อง “นักเตะศตวรรษ” ว่า ทุกอย่างดีเกินคาด โดยเฉพาะคอมเมนต์ที่สามารถนำกลับมาพัฒนาตัวเองได้ 

“ฟีดแบ็กเรื่องนี้ คือรู้สึกดีมากครับ มันดีจนตกใจ เพราะว่าสองเรื่องแรกมันแย่ครับ มันไม่มีฟีดแบ็กอะไรเลยครับ ในเชิงรายได้ก็ไม่มี ขนาดคอมเมนต์ก็น้อยครับ เราก็เลยไม่รู้จะไปปรับปรุงตรงไหน แต่ว่าฟีดแบ็กของเรื่อง นักเตะศตวรรษ มีคนอ่าน มีคนฟีดแบ็กลับมาว่าตอนนี้ดี ตอนนี้ควรแก้อะไร เราก็เลยเอาคอมเมนต์มาปรับปรุงในเนื้อเรื่องได้

นิยายเรื่อง นักเตะศตวรรษ นิยายเรื่องล่าสุดที่สร้างรายได้ ให้น้องเบล จนสามารถเอาไปช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้
นิยายเรื่อง นักเตะศตวรรษ นิยายเรื่องล่าสุดที่สร้างรายได้ ให้น้องเบล จนสามารถเอาไปช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้

“นักเตะศตวรรษ” นิยายเรื่องล่าสุดที่สร้างรายได้ 

เมื่อถามถึงรายได้ของนิยายเรื่องล่าสุดที่เขากำลังเขียนอยู่ ก็ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมาอย่างภูมิใจ พร้อมบอกเล่าที่มาของการเปิดขายนิยายในครั้งนี้ว่า เกิดจากความต้องการของนักอ่านก่อน

“เรื่องเปิดขายนิยายมันมีเรื่องราวครับ ตอนนั้นเขียนอยู่แล้วคอมมันดับ เราไม่มีคอมเขียน แล้วโทรศัพท์เราก็เขียนยาก เราไม่ถนัด เราก็เลยพิมพ์แถลงบอกนักอ่านไปว่าคอมเราเสีย อาจจะต้องรอหน่อย เพราะช่วงนั้นก็คือไม่มีรายได้ เราจะเอาตังค์ที่ไหนมาซ่อมคอม นักอ่านก็เลยบอกว่าให้ลองติดเหรียญดู เขาพร้อมที่จะสนับสนุนเรา ผมก็เลยลองติดเหรียญดูครับ”

จากที่น้องเบล เคยขายนิยายได้ยอดน้อยจนไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ นิยายเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ขายดีที่สุดของเขา และทำให้เขามีรายได้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวด้วยความภาคภูมิใจ 

“เราก็คิดว่าติดเหรียญไป ก็น่าจะประมาณหลักร้อยรึป่าว ผ่านไปสามวัน มันได้เป็นหลักพัน ซึ่งมัน โอ้โห มันเยอะมากสำหรับเราอะครับ คือเรื่องที่ 1 กับ 2 เทียบกับเรื่องที่ 3 แล้วคือใช้คำว่าคนละโลกเลยก็ได้ครับ มันต่างกันแบบฟ้ากับเหวเลยครับ รายได้จากนิยายเรื่องนี้ ก็หลักหมื่นครับ คือกระโดดมาจากเราถอนไม่ได้ จนเราถอนได้ ถอนก็เป็นหมื่น

“เราบอกที่บ้านว่าเรามีรายได้แล้วนะ บอกแม่ว่าเรามีเงินจากการเขียนนิยายแล้ว แม่ก็ดีใจ ว่าเราหาเงินได้ แล้วเราก็ช่วยแบ่งเบาภาระของเขาได้แล้ว มันเป็นความภูมิใจเล็ก ๆ ครับ ที่เราทำงาน ที่เราช่วยเหลือครอบครัวได้ โอนเงินให้แม่ ให้เขาไปใช้จ่ายในบ้านของเราแบบนี้ครับ”

ผลงานนิยายของน้องเบลในนามปากกา bibi
ผลงานนิยายของน้องเบลในนามปากกา bibi

ลองผิดลองถูกไปก่อน สั่งสมประสบการณ์เก็บไว้ 

น้องเบล บอกว่า นิยายเรื่องล่าสุดพลิกชีวิตของเขามาก จากตอนแรกที่กดดันเพราะไม่มีงานทำ และไม่มีรายได้ ทำให้เขาตั้งเป้าหมายในใจไว้ว่า ในปี 2022 นี้ หากเขาไม่สามารถหารายได้มาจุนเจือครอบครัวได้เลย เขาคิดจะหยุดพักการเขียนไว้เพียงเท่านี้ 

แต่จากที่เขาได้ลองเขียนนิยายมาจนถึงตอนนี้ ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า การเขียนนิยาย ไม่ใช่เพียงแค่เขียนให้จบ ต้องหมั่นฝึกฝนตัวเอง สั่งสมประสบการณ์ และเรียนรู้เรื่องอื่นๆ อีกมาก ซึ่งหากเขายังอยากเดินบนเส้นทางนักเขียนแห่งนี้ต่อไป เขาต้องห้ามหยุดพัฒนาตัวเองเด็ดขาด  

“สำหรับผมเป็นนักเขียนมือใหม่เพิ่งเขียนได้ปีเดียวครับ ตอนแรกเราคิดว่าก็แค่เขียนมันจะไปยากอะไร แต่พอลงมือเขียนมันมีปัจจัยหลายอย่างที่เราคิดไม่ถึงอะครับ เช่น ภาษาของเรามันแย่มาก เราก็เลยต้องพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ คือมันยากครับ หลายคนก็ไม่ได้ปังตั้งแต่เรื่องแรก เรื่องแรกมันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นมากกว่า เราไม่รู้ว่าถ้าเราเขียนลงไปแล้วเราจะมีรายได้จริงรึป่าว เราจะมีคนอ่านมั้ย จะมีคอมเมนต์รึป่าว อย่างเรื่องแรกของผมก็ไม่ได้มีคอมเมนต์ที่ทำให้เราแบบกลับมาพัฒนาตัวเองได้เลย เพราะว่าคนอ่านน้อยด้วย แล้วก็ไม่มีคอมเมนต์ที่เราเอามาปรับใช้ได้เลย เราต้องหาข้อมูลเอง อดทนกับมัน ถ้าอดทนได้ ผมว่าก็น่าจะเขียนได้ครับ

กว่านักเขียนมือใหม่วัย 24 ปีคนนี้ จะฝ่าฟันอุปสรรค พลิกรายได้จากหลักร้อยสู่หลักหมื่นได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ 

จากจุดเริ่มต้นที่อยากหางานอิสระทำ น้องเบลตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะลองเขียนนิยายหารายได้ตามรอยพี่ๆ นักเขียนคนอื่นๆ ที่ทำสำเร็จ แม้ว่าจะเตรียมตัวมาอย่างดี ศึกษาหาข้อมูล และเขียนนิยายจากแรงบันดาลใจที่ชอบอย่างซีรีส์เกาหลี แต่นิยายสองเรื่องแรกที่เขาเขียนกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า ทั้งยอดวิว คอมเมนต์ และรายได้ เขาไม่สามารถคว้าสิ่งใดมาเป็นกำลังใจเพื่อเขียนต่อได้เลย 

แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ และตั้งใจที่จะลองเดินบนเส้นทางสายนักเขียนแห่งนี้ดู เขาจึงเริ่มต้นเขียนนิยายเรื่องที่สาม จากความชอบส่วนตัวที่เขามองข้ามไป และเขาเองก็ไม่ได้คาดคิดว่านิยายเรื่องนี้ จะทำให้เขามีรายได้จนสามารถมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง

เราหวังว่าเรื่องราวของนักเขียนมือใหม่คนนี้ จะทำให้นักอยากเขียนได้เรียนรู้การแต่งนิยายในอีกแง่มุมหนึ่งว่า การศึกษาหาข้อมูลก็เป็นเรื่องสำคัญ การเขียนเรื่องใกล้ตัวที่รู้จักดีก็สำคัญ และประสบการณ์จากการเขียนนิยายก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเราอยากเขียนนิยายและมีรายได้จากช่องทางนี้ จำสิ่งที่นักเขียนคนนี้บอกเอาไว้ได้เลยว่า..

“นิยายเรื่องแรกเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” หากเราไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคบนเส้นทางนักเขียนไปเสียก่อน ความฝันบนเส้นทางแห่งนี้จะต้องเป็นจริงในวันใดวันหนึ่งได้แน่นอน…

พี่แนนนี่เพน

เริ่มเขียนนิยาย

อ่านผลงานนิยายของ bibi

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น