สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน พบปะพูดคุยในช่วงที่ผ่านมา นอกจากเราจะได้คุยกับนักเขียนมือใหม่ที่มาแต่งนิยายในช่วงโควิดกันเยอะมากๆ แล้ว เรายังมีโอกาสได้คุยกับนักเขียนมือใหม่อีกหลายคนที่ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาเขียนนิยายเต็มตัวอีกด้วย และนักเขียนสาวที่เราชวนมาพูดคุยกันในวันนี้ เธอก็เป็นนักเขียนอีกคนหนึ่งที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำมานานถึง 8 ปี เพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางนักเขียน… เส้นทางที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความฝันในวัยเด็กเมื่อนานมาแล้ว
นี่คือเรื่องราวของคุณกิ๊ก หรือ “เจ้าก้อนตำลึงทอง” นามปากกาที่นักอ่านสายจีนโบราณน่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะเธอคือเจ้าของนิยายสุดฮิตหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนิยายเรื่อง ย้อนอดีตให้ร่ำรวย , ทะลุมิตินำความโชคดีมาสู่ตระกูลหยาง หรือนิยายเรื่องล่าสุดอย่าง เกิดใหม่เป็นสาวน้อยปลูกผักปราณวิญญาณหอมๆ ก็ล้วนเป็นนิยายที่เคยขึ้นไปติดท็อปมาแล้วทุกเรื่อง
วันนี้คุณกิ๊กมาเปิดใจพร้อมเล่าเส้นทางชีวิตและเส้นทางนักเขียนที่มาบรรจบกันให้เราฟังแบบไม่กั๊ก แอบสปอยล์เลยว่า กว่าที่เธอจะตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเขียนนิยายเต็มตัว เธอก็ต้องต่อสู้ฝ่าอุปสรรคบนเส้นทางนักเขียนมาไม่น้อย ใครที่อยากเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์ มาเตรียมตัวเตรียมใจผ่านประสบการณ์ตรงของนักเขียนสาวคนนี้กันเลย!!!
จากคอลเซ็นเตอร์สู่เส้นทางนักเขียน
“สวัสดีค่ะ ชื่อกิ๊กค่ะ อายุ 32 ปี ตอนนี้ใช้อยู่ 3 นามปากกาค่ะ แต่นามปากกา เจ้าก้อนตำลึงทอง คือนามปากกาแรกของการเป็นนักเขียน และไว้สำหรับนิยายจีนโบราณแนวปลูกผักหรือสโลว์ไลฟ์ค่ะ”
“เราพึ่งเขียนนิยายจริงๆ ได้ปีกว่าๆ เท่านั้นเองค่ะ พึ่งครบรอบ 1 ปีไปเมื่อวันที่ 9/04/65 ที่ผ่านมานี้เอง ก่อนนี้เคยทำงานประจำเป็น call center ในบริษัทค่ายมือถือค่ายหนึ่งของไทยค่ะ ทำมา 8 ปีแล้ว แต่เพราะความเครียดจากการทำงานก็เลยหันมาหาอ่านนิยายคลายเครียด การอ่านนิยายช่วยเยียวยาและช่วยให้มีความสุขมากขึ้นค่ะ”
“ตอนนี้เราลาออกจากงานประจำมาเกือบปีแล้วค่ะ เราออกมาเพื่อมาเขียนนิยายอย่างเดียวเลย ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลยค่ะ กลายเป็นว่าตอนนี้เขียนนิยายเป็นอาชีพหลักไปซะแล้ว โดยส่วนตัวรู้สึกว่าการเขียนนิยายเป็นงานที่ไม่มีใครมาบังคับกะเกณฑ์เวลาของเรา อิสระมากๆ ดังนั้นจึงต้องค่อนข้างมีวินัยกับตัวเองมากพอสมควร บังคับตัวเองว่าขี้เกียจไม่ได้นะ คุณนักอ่านรออ่านอยู่เด้อ ต้องขยันมากๆ ค่ะ”
เริ่มจากนิยายแนวรักโรแมนติก
แต่มาลงตัวที่แนวจีนโบราณ
“ก่อนหน้านี้เราอ่านนิยายรักโรแมนติกมาเยอะค่ะ พยายามลองเขียนนิยายรักโรแมนติกแล้วแต่เขียนไม่ได้ ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจว่าเราชอบนิยายขนาดนี้แต่ทำไมพอเขียนแล้วถึงเขียนไม่ได้นะ ก็พักการเขียนไปเกือบๆ 2 ปีเลยค่ะ จนเริ่มมาได้รู้จักแล้วอ่านนิยายแนวจีนโบราณอ่านได้ไม่กี่เดือน แล้วจู่ๆ วันนั้นจำได้ว่ามีเวลาพักเบรกจากการทำงาน 15 นาที ก็ตัดสินใจจับมือถือขึ้นมา คิดชื่อเรื่องนิยาย คิดคำโปรยได้ทันทีเลยค่ะ พอเลิกงานกลับมาที่ห้องก็เปิดคอม เริ่มลงมือเขียนนิยายอีกครั้ง”
“เรื่องแรกที่เขียนจีนโบราณคือ ย้อนอดีตให้ร่ำรวย ค่ะ ตอนนั้นผลตอบรับคิดว่าค่อนข้างดีนะคะ อาจจะเพราะแนวเรื่องเป็นแนวที่คนนิยมอ่านอยู่ด้วยค่ะ คือตอนเขียนเราคิดแค่ เราชอบ แบบไหน แล้วถ้าเป็นคนอ่าน เราอยากอ่านแบบไหน เราก็เขียนแบบนั้นค่ะ ”
“ตอนนี้โดยส่วนตัวเราชอบแนวจีนโบราณมากๆ เลยค่ะ ตอนที่เป็นนักอ่านได้มาลองอ่านดูแล้วว้าวมากกก คือไม่เคยอ่านนิยายทะลุมิติข้ามภพที่เป็นจีนโบราณมาก่อนเลยค่ะ เพราะความประทับใจครั้งแรกเลยทำให้เราชอบไม่เสื่อมคลายเลยค่ะ และตอนนี้ก็กลายเป็นแนวที่ถนัดเขียนที่สุดค่ะ ”
เขียนทุกวัน + หาแรงบันดาลใจเสมอ
เคล็ดลับที่ใครๆ ก็ทำกัน
“เราเขียนนิยายทุกวันค่ะ เพราะถ้าเขียนทุกวันจากที่เขียนได้เพียงหน้าสองหน้ามันจะค่อยๆ พัฒนาเขียนได้เยอะเป็นสิบๆ หน้าได้อย่างไม่รู้ตัวเลยค่ะ ”
“ส่วนไอเดียหรือแรงบันดาลใจจะเกิดขึ้นมาทันทีตอนได้ฟังเพลงจีนค่ะ แต่แปลไม่ออกนะคะฟังทำนองเองหรือถ้าเพลงนั้นมีคำแปลไทยด้วยก็จะยิ่งอินหนักเข้าไปอีก และก็เพลงประกอบซีรีส์จีนต่างๆ แบบเศร้าๆ ซึ้งๆ หรือบางครั้งแค่เห็นภาพธรรมชาติหรือคู่รักภาพสวยๆ แค่นั้น พล็อตนิยายกับชื่อเรื่องก็ไหลเข้ามาในหัวเลยค่ะ ฉะนั้นเวลาที่เขียนนิยายในทุกๆ วันก็ต้องเปิดลิสต์เพลงจีนที่ชอบฟังไปด้วยตอนเขียนค่ะ จะเขียนได้ไหลลื่นเลยทีเดียว”
“อย่างนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นสาวน้อยปลูกผักปราณวิญญาณหอมๆ ก็ได้ไอเดียมาจากตอนนั่งเขียนนิยายแล้วมองต้นเชอร์รี่ไทยที่ปลูกไว้นอกบ้านค่ะ แล้วในหัวก็มีภาพดินร่วนๆ มีกลิ่นไอดินตอนฝนตกใหม่ๆ คือตอนแรกมันจะเป็นชื่อเรื่อง ‘กรุ่นไอดินกลิ่นผักปราณวิญญาณห๊อมหอม’ ค่ะ แต่หาปกที่เข้ากับชื่อเรื่องไม่ได้ มาเจอปกที่ใช้อยู่ปัจจุบันแล้วชอบเลยมีชื่อเรื่องใหม่ในหัวขึ้นมาจนกลายมาเป็นชื่อ เกิดใหม่เป็นสาวน้อยปลูกผักปราณวิญญาณหอมๆ แทนซะเลย”
“แนวเรื่องที่เขียน คิดว่ามันสืบเนื่องมาจากตอนที่เราเครียดเรื่องการทำงานประจำค่ะ เลยทำให้ตอนนั้นเลือกที่จะหาอ่านแต่นิยายเรื่อยๆ ชิลๆ น่ารัก อบอุ่น ครอบครัว ปลูกผักปลูกหญ้าขึ้นเขา หาของป่าแบบสโลว์ไลฟ์อ่านค่ะ พอมาเขียนนิยายเลยกลายเป็นว่าชอบเขียนแนวนี้ไปเลย รู้สึกอ่านแล้วมีความสุขและผ่อนคลายสบายใจดีค่ะ”
“ฟีดแบ็กนิยายเรื่องนี้ก็ดีมากๆ เลยค่ะ ได้รับการตอบรับดีมากๆ กว่าเรื่องอื่นๆ เลยค่ะ แรกๆ กดดันพอสมควรนะคะ ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว ตอนเขียนเรื่องแรกมีคุณนักอ่านแนะนำว่าเหมือนอ่านเรื่องย่อนิยายเลย เพราะไม่ได้อธิบายหรือขยายความเนื้อหาให้กว้างขึ้นเลยค่ะ ซึ่งหลังจากได้รับความคิดเห็นนั้นมามันกลายเป็นคำแนะนำที่ทำให้สามารถเห็นจุดด้อยของเราแล้วพัฒนาการเขียนขึ้นมาได้เลยค่ะ”
เริ่มขายนิยายออนไลน์
เพราะอยากทำงานที่ชอบแทนงานประจำ
“ตอนนั้นเราต้องการหารายได้เพิ่มค่ะ รายได้ที่มากพอจะทำให้สามารถลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ตอนนั้นได้ อีกอย่างเราก็รู้จักเว็บเด็กดีมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว คิดว่ามีฐานคนอ่านเยอะเลยตัดสินใจลงที่เด็กดีดูค่ะ”
“ตอนนั้นก็ลุ้นๆ ค่ะไม่กล้าคาดหวังเยอะ คิดแค่ว่าจะมีใครยอมจ่ายเหรียญมาอ่านนิยายเรามั้ยน้อ พอมีคนซื้อตอนนิยายอ่านจริงๆ คือดีใจมากค่ะ โทรไปเล่าให้แม่ฟังแทบทุกวันมันตื่นเต้นค่ะ พอมีคนซื้อตอนอ่านเราก็คิดว่า เราต้องเขียนให้ดีให้คุ้มกับการที่นักอ่านเขาซื้อตอนนิยายไป”
“ฟีดแบ็กดีมากๆ ค่ะ คนติดตามอ่านนิยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวลาอ่านคอมเมนท์ของคุณนักอ่านก็ทำให้มีแรงเขียนงานต่อขึ้นมาจริงๆ ค่ะ”
“รายได้ก็พอๆ กับเงินเดือนของงานประจำที่เคยทำเลยค่ะ บางเดือนได้เยอะกว่าที่ทำงานประจำอีกค่ะ ได้เยอะกว่ามาก รายได้ตรงนี้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน ซื้อของเข้าบ้านบ้าง ค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ ค่ะ คือตอนนี้เราย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดแล้วด้วย ค่าใช้จ่ายจึงไม่ได้เยอะมากเหมือนตอนอยู่ กทม. แล้ว”
“ช่วงที่เราเขียนนิยายแรกๆ มีแค่แม่กับน้องชายที่รู้ค่ะ ส่วนพ่อยังไม่ได้บอกเพราะกลัวว่าเขาจะกังวล เพราะตอนที่ตัดสินใจลาออกจากงานมันเป็นช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วย เลยคิดว่ารอให้มั่นใจกับรายได้นิยายก่อน แล้วค่อยบอกพ่อว่าลาออกมาเขียนนิยายค่ะ ส่วนเพื่อนๆ ที่สนิทก็รับรู้กันหมดเลยค่ะ แต่เพื่อนบางคนก็ไม่ค่อยอยากให้ทิ้งงานประจำเพราะเป็นช่วงโควิด-19 มันหางานทำยากมาก แต่เพราะเรามีการวางแผนในใจไว้ว่าจะเขียนยังไง จะใช้จ่ายเงินแบบไหนในช่วงแรกๆ และคิดว่าเราจะได้มีเวลาในการเขียนนิยายได้อย่างเต็มที่ด้วย ส่วนเพื่อนบางคนก็แบบบอกว่าเอาเลยจะได้ทำตามความฝันสักที”
ตั้งใจเขียนนิยายเป็นอาชีพหลัก
เพราะเป็นหนึ่งในความฝันวัยเด็ก
“การเขียนนิยายเป็นทั้งงานอดิเรกแล้วก็ความฝันเลยค่ะ พอเราได้มาลองทำแล้ว การเขียนนิยายเป็นอาชีพหลักได้เลยนะคะ เพราะหากขยันเขียนนิยายทุกวัน อัปนิยายบ่อยๆ ก็สามารถมีรายได้เข้ามาในทุกๆ เดือนได้ ส่วนตัวเราอยากทำเป็นอาชีพอยู่แล้วค่ะ ทุกวันนี้เวลาใครถ้าว่าออกจากงานมาแล้วทำอะไร ก็พูดได้เต็มปากเลยค่ะว่าเป็นนักเขียน”
“อีกอย่าง การเขียนนิยายทำให้เรามีความสุขมั๊กมากเลยค่ะ สุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายดีขึ้นมาก ความเครียดที่สะสมจากการทำงานประจำแบบก่อนหน้านี้ก็หายไปเลยเพราะได้มาทำงานที่รัก จนมาคิดว่าปล่อยเวลามาได้ตั้งเป็นสิบๆ ปีกว่าจะกล้าลงมือทำตามฝัน และมันดีมากๆ ที่ความฝันกลายมาเป็นอาชีพหลักที่สามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองและช่วยแบ่งเบาคนที่บ้านได้”
“เราขอบคุณคุณนักอ่านที่น่ารักทุกๆ ท่านค่ะ ที่ติดตามอยู่ด้วยกันมาโดยตลอดไม่ทิ้งกันไปไหนตั้งแต่แรก ขอบคุณความคิดเห็นและกำลังใจที่ให้มา ขอบคุณมั๊กมากที่เอ็นดูตัวละครในเรื่องด้วยนะคะ จะพยายามเขียนงานออกมาให้ดีขึ้นยิ่งๆ ขึ้นไปให้ได้เลยค่ะ”
“ส่วนคนที่อยากเป็นนักเขียน ต้องไม่กลัวที่จะเขียนและลงนิยายให้คนอื่นๆ ได้อ่านกันค่ะ ก่อนนี้เรากลัวมากเลยนะคะ กลัวเขียนไม่ดี กลัวไม่มีคนอ่าน กลัวความคิดเห็นคนอ่าน กลัวคนไม่ชอบนิยายเรา คือกลัวจนไม่กล้า แต่ถ้าเราไม่กลัวแล้วกล้าทำมันจะเป็นหนทางที่ทำให้เราพัฒนางานเขียนได้นะคะ เพราะงั้นน้องๆ หรือพี่ๆ ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนกล้าลงมือทำไปเลยค่ะ เอาให้สุดอยากเขียนก็เขียนเลยค่ะ อาชีพนักเขียนไม่จำกัดอายุหรือเพศขอเพียงแค่คุณมีจิตนาการก็สามารถถ่ายทอดมันออกมาเป็นตัวอักษรได้ค่ะ”
จากประสบการณ์ตรงของอดีตคอลเซ็นเตอร์สาวที่ผันตัวมาเขียนนิยายออนไลน์เป็นอาชีพหลัก และได้พิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวและคนรอบข้างได้เห็นกันแล้วว่า การเขียนนิยายสามารถทำเป็นอาชีพได้จริงๆ นั้น เราเชื่อว่านักอยากเขียนหลายๆ คนก็สามารถทำแบบที่นักเขียนสาวคนนี้ทำได้เช่นกัน
แต่อย่าลืมทำสิ่งที่นักเขียนคนนี้ทำกันด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านนิยาย การมองหาแรงบันดาลใจใกล้ๆ ตัว และการฝึกเขียนนิยายทุกวัน ทุกสิ่งที่เธอทำล้วนส่งผลให้เธอพัฒนาตัวเอง จนเจอแนวทางที่ใช่และถนัดที่สุดอย่างทุกวันนี้
หวังว่าเรื่องราวของนักเขียนสาวที่เราพามาแชร์เรื่องราวในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจดีๆ ให้กับนักเขียนทุกคนได้นะคะ ^^
เริ่มต้นเขียนนิยายพี่แนนนี่เพน
อ่านผลงานของ เจ้าก้อนตำลึงทอง
- เกิดใหม่เป็นสาวน้อยปลูกผักปราณวิญญาณหอมๆ
- ย้อนอดีตให้ร่ำรวย (จบแล้ว)
- ทะลุมิตินำความโชคดีมาสู่ตระกูลหยาง (จบแล้ว)
0 ความคิดเห็น