เด็กอาชีวะใจสู้ ผันตัวจากหนุ่มโรงงานมาเขียนนิยายจนสร้างบ้านได้! | The Chosen EP. 31 พุงกาง/OMITOKUNG

เด็กอาชีวะใจสู้ ผันตัวจากหนุ่มโรงงาน
มาเขียนนิยายจนสร้างบ้านได้! 

The Chosen EP. 31 พุงกาง/OMITOKUNG

 

เบื้องหน้านิยายที่แสนสนุก ล้วนมีเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวการต่อสู้ของนักเขียนเสมอ วันนี้เรามีเรื่องราวสุดพลิกผันของนักเขียนหนุ่มที่เรียนจบปุ๊ปก็เข้ากรุงเทพมาเป็นหนุ่มโรงงาน และใช้เวลาว่างอันน้อยนิด มุมานะแต่งนิยายที่ชอบไปด้วย ทำงานไปด้วย จนในที่สุดก็ผันตัวมาเป็นนักเขียนอาชีพ และใช้เงินจากการเขียนนิยายมาสร้างบ้านหลังใหม่อยู่กับครอบครัว!

เบื้องหลังที่ว่ามานี้ คือเรื่องราวของ น้องโอม วัย 22 ปี เด็กอาชีวะใจสู้ที่เข้ากรุงเทพมาเป็นหนุ่มโรงงานเพื่อหาเงินเรียนต่อ เขาตื่นนอนตีสี่เพื่อออกไปทำงานทุกวัน จนแทบไม่มีเวลาได้พัก แต่ก็ยังอาศัยช่วงเวลาว่างเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันมาอ่านนิยาย และเขียนนิยายเก็บไว้ในมือถือ 

 โดยช่วงแรกเขาใช้นามปากกา “OMITOKUNG” ไว้สำหรับเขียนนิยายแนวจีนโบราณ ได้แก่ นิยายเรื่อง “ลี่ถัง ยอดหญิงนักวาดอักขระ” และ “寧安 ข้าจะดูแลพวกเขาเอง” ต่อมาเขามีไอเดียอยากเขียนนิยายแฟนตาซีแนวอาหาร จึงได้เริ่มใช้นามปากกา “พุงกาง” มาเขียนนิยายสุดฮิตเรื่อง “แม่ครัวสาวยอดนักปรุง” ขึ้นมา ซึ่งน้องโอมก็ได้เปิดขายนิยายจากทั้งสองนามปากกานี้บนเว็บเด็กดี จนทำให้เขามีรายได้จากการเขียนนิยายมากกว่างานประจำที่ทำอยู่ 

พบปะพูดคุยวันนี้ เราเลยอยากชวนน้องโอมมาแชร์เรื่องราวเบื้องหลังก่อนจะตัดสินใจออกมาเขียนนิยายเป็นอาชีพ เพื่อแชร์ประสบการณ์การเป็นนักเขียนมือใหม่ว่าเขาผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้อย่างไร และทำไมถึงตัดสินใจออกมาเป็นนักเขียนเต็มตัว ตามมาค้นหาคำตอบในสัมภาษณ์นี้กัน

เด็กอาชีวะใจสู้ มาเป็นหนุ่มโรงงานเพื่อหาเงินเรียนต่อ 
แต่…เจออาชีพที่ใช่
__________

สวัสดีครับ ผมชื่อเล่นชื่อ โอม อายุ 22 ปี นามปากกา “พุงกาง” เขียนนิยายเรื่อง “แม่ครัวสาวยอดนักปรุง” ครับ ช่วงนี้ผมก็มีช่วยงานที่บ้านบ้าง แต่เวลาส่วนใหญ่ก็เขียนนิยายครับ 

ผมจบจากโรงเรียนอาชีวะครับ ที่จริงว่าจะมาเรียนต่อแถวๆ กรุงเทพ แต่ว่าเพราะเรื่องเงินนี่แหละครับ ก็เลยตัดสินใจว่าจะทำงานเก็บเงินก่อน แล้วค่อยกลับไปเรียนอีกที ก่อนหน้านี้ผมเคยทำงานประจำเกี่ยวกับการผลิตตู้เย็นแล้วก็เครื่องซักผ้าครับ ผมทำงานอยู่ฝ่ายผลิต รับผิดชอบงานต่างๆ หลายอย่างอยู่ครับ ก็คือ งานค่อนข้างหนัก ทำได้ปีกว่าๆ ก่อนจะลาออกมา 

ช่วงที่ยังทำงานอยู่เราเขียนนิยายไปด้วย ทำงานไปด้วย ถ้าให้พูดตรงๆ เลยก็คือ รายได้จากการเขียนนิยายก็เยอะกว่าเงินเดือนงานประจำครับ แถมยังอิสระ ทำงานอยู่บ้านสบายใจ ไม่ต้องตื่นแต่เช้าตีสี่ตีห้าเพื่อไปทำงานที่ไกลๆ ไม่ต้องอยู่ในกฎหรือในกรอบของบริษัท คือสำหรับผม อาชีพนักเขียน มันตอบโจทย์มากกว่าครับ 

ผลงานนิยายแนวจีนโบราณ ในนามปากกา “OMITOKUNG”
ผลงานนิยายแนวจีนโบราณ ในนามปากกา “OMITOKUNG”

เขียนนิยายเรื่องแรกตอนปวช. 3 
แต่มาเริ่มเขียนจริงจังตอนเป็นหนุ่มโรงงาน
__________

ผมเริ่มเขียนนิยายครั้งแรก ตอนนั้นอยู่ปวช. 3 หรือ ม.6 ครับ ก็เคยเขียนนิยายตอนสมัยเรียนครับ ตอนนั้นเขียนเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไร มาเอาจริงเอาจังกับการเขียนนิยายตอนที่มาทำงานที่กรุงเทพนี่แหละครับ 

บอกตามตรงว่าผมไม่เคยมีความฝันเป็นนักเขียนมาก่อนเลยครับ ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาเป็นนักเขียนได้ ที่ผมมาเป็นนักเขียนได้ก็เพราะเป็นนักอ่านมาก่อนครับ ผมว่าการอ่านนิยายเยอะๆ จะช่วยให้เราเขียนนิยายได้ไหลลื่น คำผิดก็จะน้อยลงด้วยครับ

นิยายเรื่องแรกของผมก็จะแบบ…อิหยังวะ เขียนไปได้ไง ผมเชื่อว่านักเขียนหลายๆ คนก็เป็นเหมือนกับผมนะ มีจุดที่มันยังขาดๆ เกินๆ ทั้งเรื่องการใช้ภาษา บทสนทนา การบรรยาย นักเขียนทุกคนน่าจะต้องเจออยู่แล้วนะ 

ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนนิยายจีนโบราณมาก่อนครับ ในนามปากกา “OMITOKUNG” ก่อนจะมาเขียนนิยายแฟนตาซีทำอาหาร  ช่วงนั้นพอออกจากงานมา ผมก็เต็มที่กับการเขียนนิยาย การอ่านนิยายมาก จนไปอ่านเจอนิยายทำอาหารเรื่องหนึ่งของเกาหลี เป็นนิยายแฟนตาซีทำอาหาร จู่ๆ ผมก็ปิ้งไอเดียได้ รู้สึกอยากเขียนนิยายแนวนี้ในนามปากกาของตัวเองบ้าง ก็เลยเกิดเป็นนิยายเรื่อง “แม่ครัวสาวยอดนักปรุง” ขึ้นมาครับ

 ถามว่ายากไหม แน่นอนครับว่ายากระดับหนึ่ง เพราะนิยายแนวจีนย้อนยุคกับนิยายแนวสมัยใหม่ซึ่งเป็นของไทยค่อนข้างต่างกัน เราต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่าง เช่น เรื่องการบรรยาย การใช้ภาษา เขียนยังไงให้นักอ่านซึมซับอารมณ์ของตัวละคร สภาพแวดล้อมในแบบของโลกยุคใหม่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ ต้องอ่านนิยายเยอะๆ อ่านนิยายพวกแนวแฟนตาซี พวกนิยายแนวสมัยใหม่ มันจะช่วยได้ 

เท่าที่เขียนอยู่ตอนนี้ ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกชอบ หรือถนัดแนวไหนมากกว่ากันนะครับ เพราะเรายังคงการเขียนในแบบของตัวเองอยู่ คอนเซ็ปต์หลักยังเหมือนเดิมกับเรื่องที่ผ่านมา คือตัวดำเนินเนื้อเรื่องเป็นตัวผู้หญิงที่จะเก่งๆ หน่อย มีพลังวิเศษ อย่างเรื่องที่เขียนอยู่ตอนนี้ก็คือ..นางเอกจะเก่งเรื่องการทำอาหาร และก็จะมีระบบผู้ช่วยเข้ามาเกี่ยว ในอนาคตก็อยากจะลองเขียนนิยายรักดูครับ น่าจะเป็นความท้าทายใหม่ ไม่รู้จะเขียนได้หรือเปล่า แต่ว่าถ้าลองหาข้อมูลเยอะๆ ศึกษาเยอะๆ ก็น่าจะพอได้อยู่ 

นิยายแนวจีนโบราณเรื่อง  ลี่ถัง ยอดหญิงนักวาดอักขระ ที่น้องโอมเขียนในช่วงที่ยังทำงานประจำอยู่
นิยายแนวจีนโบราณเรื่อง  ลี่ถัง ยอดหญิงนักวาดอักขระ ที่น้องโอมเขียนในช่วงที่ยังทำงานประจำอยู่

เส้นทางนักเขียนไม่ได้ราบรื่น 
ต้องอาศัยเวลา ความขยัน และอดทน
__________

จริงๆ เวลาเขียนนิยายน้อยมากครับ ตื่นตีสี่ตีห้าออกไปทำงาน กลับสองทุ่มทุกวัน แต่ว่าเราใช้เวลาช่วงเช้าก่อนเข้างาน แล้วก็ช่วงพักเที่ยงอีกนิดหน่อย มานั่งพิมพ์ เขียนนิยายในมือถือ วางพล็อต วางเหตุการณ์ แต่ละฉาก แต่ละตอน ที่คิดได้ในเวลาทำงาน เขียนลงในมือถือไว้ก่อนครับ แล้วค่อยกลับไปเขียนอีกทีตอนเย็น ซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน เขียนได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ขึ้นอยู่กับร่างกายของเรา 

เวลาเขียนส่วนใหญ่ก็ด้นสดครับ แต่เราอาศัยคิดฉากเหตุการณ์ในหัวไว้ล่วงหน้าก่อน ว่าจบจากตรงนี้แล้ว จะต้องดำเนินเนื้อเรื่องไปในทิศทางไหน จะต้องบรรจบกับเหตุการณ์ กับสถานการณ์อะไรต่อไป สร้างเรื่องไว้ในหัวคร่าวๆ ก่อน ส่วนรายละเอียดเนื้อเรื่องเรามาด้นสดเอาอีกที แต่ก็ต้องไม่ให้ออกนอกกรอบหรือออกทะเลจนเกินไป ไม่งั้นนิยายจะไปต่อไม่ได้

ผมเองก็ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ เริ่มแรกมันก็อาจจะยากหน่อยสำหรับนักเขียนมือใหม่ เพราะเราต้องมีจินตนาการ ต้องบรรยายฉากเหตุการณ์ ตัวละครในหัวสมองให้ออกมาในรูปแบบของตัวอักษร มันก็ยากระดับหนึ่งนะ แต่พอเราเขียนไปเรื่อยๆ ศึกษาจุดบกพร่องของตัวเองไปเรื่อยๆ มันก็เขียนง่ายขึ้นเองครับ

ตอนเขียนเรื่อง “แม่ครัวสาวยอดนักปรุง” ได้ห้าตอน สิบตอนแรก ยอดวิวมันก็จะฝืดๆ หน่อยครับ เพราะคนยังไม่ค่อยรู้จักนิยายของเรา มันมาพีคเอาช่วงนิยายถึงตอนสิบห้า ยี่สิบตอน จากนั้นยอดวิวก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ครับ ผลตอบรับดีมาก ยอดวิวจากสามหมื่น เป็นสี่หมื่นห้าหมื่น ถึงจะชะลอช่วงที่เราติดเหรียญไปบ้าง แต่ยอดวิวก็เพิ่มขึ้นทุกวัน จนตอนนี้ยอดวิวทะลุหลักแสน ส่วนคอมเมนต์นักอ่านก็เยอะอยู่ครับ นักอ่านสายเปย์มาก น่ารักมาก แล้วก็จะมีนักอ่านมาทวง ทวงว่าจะอัพตอนเมื่อไหร่

น้องโอมเขียนนิยายเรื่อง แม่ครัวสาวยอดนักปรุง ในนามปากกา “พุงกาง” หลังลาออกจากงานประจำ
น้องโอมเขียนนิยายเรื่อง แม่ครัวสาวยอดนักปรุง ในนามปากกา “พุงกาง” หลังลาออกจากงานประจำ

ขายนิยายออนไลน์ 
มีรายได้ส่งให้ครอบครัว ตลอดจนสร้างบ้านใหม่
__________

ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าจะมีรายได้จากตรงนี้ ผมเห็นนักเขียนคนอื่นเขาหารายได้จากการเขียนนิยายในเด็กดี บางคนก็ได้เยอะมาก ก็เลยลองขายดูครับ ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันว่า จะมีคนเข้ามาซื้อมั้ย คิดว่ามีคนเข้ามาซื้อนิยายของเราสักคนก็ยังดีนะ ถือว่าเราได้กำไรการเขียนนิยายบ้าง แต่พอมีคนเข้ามาซื้อนิยายของเรา ถึงจะแค่สามในสิบส่วนจากยอดวิวปกติต่อตอน เราก็รู้สึกภูมิใจแล้วครับ สิ่งที่เราทำโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน แต่มันสร้างรายได้ให้กับเรา มันดีมากเลย

ผมจำได้ว่าตอนนั้น เดือนแรกได้เงินเกือบหมื่น คือว้าวมาก จนแทบไม่อยากทำงานแล้วครับ อยากนอนอยู่บ้านแต่งนิยาย (หัวเราะ) รายได้คือเยอะอยู่ครับ อย่างน้อยๆ แต่ละเดือนก็ไม่เคยได้ต่ำกว่าเงินเดือนของงานประจำที่เคยทำอยู่ เงินส่วนหนึ่งก็ส่งไปให้พ่อกับแม่ที่บ้าน เราเก็บไว้ใช้เองด้วย ซื้อของที่อยากได้ แล้วก็ช่วงนี้กำลังสร้างบ้านใหม่ ก็ได้เงินจากตรงนี้ไปช่วยสร้างครับ

เป้าหมายของผมตอนนี้ก็คือเขียนนิยายครับ ก็ออกจากงานเพื่อมาเขียนนิยายเลย แต่จริงๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตอนนี้เราเขียนนิยายก็เพราะอยากหารายได้ มันก็เหมือนกับคำถามที่ว่า เป้าหมายของการทำงานคืออะไรนั่นแหละครับ เป้าหมายตอนนี้ก็คือ หาเงินเลี้ยงชีพครับ

น้องโอม เจ้าของนามปากกา พุงกาง และ OMITOKUNG
น้องโอม เจ้าของนามปากกา พุงกาง และ OMITOKUNG

มุ่งสู่อาชีพนักเขียน 
อาชีพที่ตอบโจทย์ชีวิตอิสระ
__________

การเป็นนักเขียนเปลี่ยนชีวิตผมมากครับ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ชีวิตประจำวัน พอเราไม่ต้องตื่นเช้าไปทำงานกลับบ้านดึกทุกวัน เราก็จะมีเวลาโฟกัสตัวเอง โฟกัสครอบครัว แล้วก็โฟกัสงานเขียนได้เยอะขึ้นครับ 

ก่อนหน้าที่ผมจะออกจากงานมาเป็นนักเขียน ตอนนั้นผมก็ต้องมั่นใจก่อนครับว่า รายได้จากการเขียนนิยาย จะสามารถเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัวได้หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าผมอยากจะออกมาก็ออกเลย แบบนั้นมันไม่มีอะไรมารับประกันว่าเราจะอยู่รอดในสายอาชีพนี้ พอออกมาแล้วเราก็ต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเอง มีวินัย นักเขียนเป็นอาชีพอิสระ จะทำตอนไหนจะพักผ่อนตอนไหนก็ได้ แต่ก็ต้องรู้จักแบ่งเวลา เราออกมาเขียนนิยายเป็นอาชีพ ไม่ใช่งานอดิเรก

สำหรับผมคิดว่า วินัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเป็นนักเขียน ถ้าเราไม่มีวินัย ไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง ไม่รู้จักแบ่งเวลา ต่อให้เป็นนักเขียนที่เก่งแค่ไหน ผมก็คิดว่าไม่มีวันประสบความสำเร็จได้ครับ

หลังจากอ่านจบแล้ว เรื่องราวของน้องโอมที่น่าสนใจและอยากให้น้องๆ นักเขียนทุกคนทำตามเลย ก็คือการแบ่งเวลามาเขียนนิยายนี่แหละค่ะ

จะเห็นว่าน้องโอม เริ่มต้นทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย พอเรียนจบปุ๊ปก็ตั้งใจมาหางานทำเพื่อหาเงินกลับไปเรียนต่อทันที  แม้ว่างานที่ทำอยู่จะค่อนข้างหนัก แต่น้องโอมก็ยังแบ่งเวลาว่างอันน้อยนิดมาเขียนนิยายจนจบไปหลายเรื่องเลย แถมนิยายที่แต่งอยู่นั้นก็ยังสามารถสร้างรายได้ให้น้องโอมได้อย่างไม่คาดคิด จนทำให้น้องโอมมองเห็นเส้นทางอาชีพเส้นใหม่ และตัดสินใจเป็นนักเขียนเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ และต่อยอดความฝันในอนาคตต่อไป  

หากใครที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียน หรืออยากเขียนนิยายของตัวเองขึ้นมาบ้าง ลองเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการแบ่งเวลาว่างมาลองเขียนนิยายของเรากันค่ะ เชื่อว่านิยายที่เราเขียนจะเป็นประสบการณ์ให้เกิดเรื่องอื่นๆ ตามมาได้แน่นอน แล้วสักวันหนึ่งเราอาจจะกลายเป็นนักเขียนอาชีพเหมือนดังนักเขียนที่เราพามาพบปะพูดคุยกันในวันนี้  ^^

เริ่มเขียนนิยาย

พี่แนนนี่เพน

อ่านผลงานในนามปากกา “พุงกาง”

อ่านผลงานในนามปากกา “OMITOKUNG”

 

 

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด