แชร์ฮาวทู! แต่งนิยายฉบับพนักงานออฟฟิศโดย “Black Goblin” ทำงาน+เขียนนิยายได้กว่า 500 ตอน!

แชร์ฮาวทู! แต่งนิยายฉบับพนักงานออฟฟิศ 
โดย “Black Goblin” 
ทำงาน+เขียนนิยายได้กว่า 500 ตอน! 

 

พบปะพูดคุยวันนี้ ชวนทุกคนมาเก็บชั่วโมงบินกับเอิร์ธ หรือ “Black Goblin” พนักงานออฟฟิศวัย 24 ปี ที่เขียนนิยายมาตั้งแต่อายุ 18 ปี จนตอนนี้ทำงานประจำแล้วก็ยังแบ่งเวลามาแต่งนิยายได้อีกหลายร้อยตอน เมื่อรวมๆ กับนิยายเรื่องแรกที่แต่งจบไปแล้ว ตอนนี้เขาก็เขียนนิยายมาได้กว่า 500 ตอนแล้ว!

นักเขียนหนุ่มคนนี้ คือ เจ้าของผลงานนิยายแฟนตาซีแนวโรงเรียนเวทมนต์เรื่อง “Legend of the Magician เปิดตำนานจอมมนตราสะท้านภพ” นั่นเอง หากใครเคยอ่านนิยายเรื่อง “King of world ราชันแห่งพิภพ” ซึ่งเป็นนิยายเรื่องแรกของเขามาก่อนแล้ว จะเห็นว่านักเขียนคนนี้เขียนนิยายมาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ปี 1 และกว่าเขาจะเข็นนิยายเรื่องแรกจนจบก็ใช้เวลานานถึง 4 ปีเลยทีเดียว นับถือในความพยายามของเขามากจริงๆ 

และยิ่งตอนนี้ เขามาเขียนนิยายเรื่องล่าสุดในช่วงที่กำลังทำงานไปด้วย ยิ่งทำให้เราอยากรู้เลยว่า เขาแบ่งเวลามาเขียนนิยายตั้งแต่สมัยเรียนยันทำงานประจำได้อย่างไร ว่าแล้วก็มาทำความรู้จักนักเขียนหนุ่มคนนี้ พร้อมขโมยเคล็ดลับดีๆ จากเขามาใช้ในงานเขียนของเรากัน! 

รูปโปรไฟล์ของนักเขียนนามปากกา “Black Goblin”
รูปโปรไฟล์ของนักเขียนนามปากกา “Black Goblin” 

เริ่มต้นง่ายๆ จาก
เขียนนิยายเป็นงานอดิเรก
__________

จุดเริ่มต้นการเขียนนิยายก็คล้ายๆ นักเขียนหลายๆ คนที่เริ่มจากเป็นคนชอบอ่านนิยายครับ แล้วค่อยมีความรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะลองเขียนดูบ้างครับ ผมเริ่มเขียนจริงๆ จังๆ ก็ช่วงอายุ 18 ปี ตอนเรียนมหาลัยปี 1 จนมาถึงปัจจุบันอายุ 24 ปี รวมๆ ช่วงเวลาที่เขียนก็ประมาณ 6 ปีได้ครับ เริ่มแรกก็เป็นงานอดิเรก แต่หลังจากแต่งไปเรื่อยๆ ก็เหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว คิดว่าคงจะทำต่อไปจนกว่าจะเขียนไม่ไหวนั่นแหละครับ

ตอนนี้ผมมีนามปากกา ‘Black Goblin’ นามปากกาเดียวครับ นามปากกานี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการอ่านนิยายนิยายแฟนตาซีครับ ที่ผมชอบเป็นพิเศษก็คือช่วงต้นๆ เรื่องที่ตัวละครเริ่มมีการพัฒนา ซึ่ง Goblin ก็เป็นตัวละครที่ผมอ่านเจอค่อนข้างบ่อยในนิยายแฟนตาซี ดูเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างกระจอก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นแรกๆ ที่ทำให้พระเอกได้เก่งขึ้น ก็เลยเลือกมาเป็นส่วนหนึ่งของนามปากกา ส่วนการที่เติม Black ไปข้างหน้าก็เพราะส่วนตัวชอบสีดำครับ

ช่วงแรกที่ผมเริ่มอ่านนิยาย หลักๆ จะอ่านอยู่ 2 แนวคือ แฟนตาซีและกำลังภายใน ครับ แต่ช่วงที่เขียนนิยายเรื่องแรก เรื่อง “King of world ราชันแห่งพิภพ” แนวต่างโลกกำลังมาแรง เราก็เลยมีความรู้สึกอยากเขียนแนวนี้เลยได้เริ่มที่แฟนตาซีครับ ส่วนเรื่องที่สอง ทีแรกก็ลังเลว่าจะลองเขียนแนวกำลังภายในดีหรือเปล่า แต่พอดีช่วงนั้นอ่านแนวนี้ไปเยอะก็เลยค่อนข้างเอียน เลยมาเขียนนิยายเรื่อง “Legend of the Magician เปิดตำนานจอมมนตราสะท้านภพ” เป็นแฟนตาซีเรื่องที่สองต่อครับ 

แต่หลังจากเขียนแฟนตาซีมาสองเรื่องแล้ว ถามว่าผมถนัดแนวนี้เลยไหมก็ไม่เชิงครับ คงจะเป็นคำว่า มีประสบการณ์มากขึ้นมากกว่า ส่วนในอนาคตจะได้เขียนแนวอื่นไหมก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันครับ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นเรามีไฟอยากจะเขียนแนวไหนมากกว่าครับ

นิยายเรื่องแรกของ  ‘Black Goblin’
นิยายเรื่องแรกของ  ‘Black Goblin’ 

เขียนนิยายไม่ยาก 
แค่เผื่อเวลาไว้แก้ปัญหาสักหน่อย
__________

การเขียนนิยายช่วงแรกๆ สำหรับผมไม่ใช่เรื่องยากครับ เพราะเราจะค่อนข้างมีไฟ จินตนาการล้นหัวไปหมด แต่ผลตอบรับช่วงแรกๆ ก็ค่อนข้างเงียบมากเช่นกันครับ จนมีความคิดว่าอยากหยุดเขียนไปเหมือนกัน แต่หลังจากผ่านไปสัก 2-3 เดือน จู่ๆ ยอดนักอ่านก็พุ่งขึ้นสูง ไม่รู้ว่ามาจากไหนกัน ก็เลยได้เขียนมาเรื่อยๆ ครับ

ตอนที่เขียนนิยายเรื่อง ‘Legend of the Magician เปิดตำนานจอมมนตราสะท้านภพ’  ก็คือเราอยากจะลองเขียนแนวเวทมนต์มานานแล้วครับ แล้วช่วงระยะหลังผมค่อนข้างติดนิยายแปล แล้วแนวเรื่องการย้อนเวลา เกิดใหม่พวกนี้ก็ค่อนข้างเป็นเทรนด์ด้วย เลยอยากลองเอามาผสานกันดูครับ

เวลาเขียนผมจะใช้วิธีวางโครงเรื่องไว้คร่าวๆ แล้วก็คิดตอนจบไว้ตั้งแต่แรกครับ เพื่อไม่ให้เนื้อเรื่องออกทะเล แต่ในระหว่างที่เขียนก็อาจจะมีด้นสดบ้าง แล้วถ้าคิดพล็อตที่ดีกว่าได้ก็อาจจะมีการเปลี่ยนโครงเรื่องบางนิดหน่อยครับ แต่จะไม่ให้กระทบภาพรวมส่วนใหญ่ไปทั้งหมด ส่วนไอเดียก็มาจากการใช้ชีวิตประจำวันครับ อย่างเช่นนั่งดูสารคดีอยู่ก็นึกพล็อตเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดได้ในหัวก็จดไว้ แล้วค่อยเลือกเอามาปรับใช้ทีหลังครับ

มีบางครั้งที่กดดันเพราะหัวตันหรือไม่ค่อยพอใจในงานเขียนตัวเอง ก็เลยต้องพยายามเผื่อเวลาในการเขียนไว้หน่อยเพื่อที่เราจะได้มีเวลาหาทางออกเวลาการเขียนมีปัญหา ซึ่งวิธีแก้ปัญหาของผมก็คือพักสมองไปทำอย่างอื่น หรือไม่ก็ไปเขียนเนื้อเรื่องช่วงอื่นที่คิดออกก่อนแทนครับ

ส่วนการอัพนิยายของผม ถ้าเกิดว่าไม่มีเหตุการณ์พิเศษอย่างงานประจำที่ทำติดปัญหาหรือต้องเดินทางไปต่างจังหวัด อัตราการเขียนผมจะอยู่ที่ราวๆ 2 วัน/ตอนอยู่แล้วครับ ซึ่งฟีดแบ็กที่กลับมา นักอ่านบางท่านก็อยากจะให้ลงเยอะกว่านี้ก็เลยจะพยายามเขียนตุนไว้เยอะๆ ในช่วงวันหยุดแล้วลงให้เป็นกรณีพิเศษในบางครั้งครับ

ผลงานนิยายทั้งสองเรื่องที่เขียนไปแล้วกว่า 500 ตอน!
ผลงานนิยายทั้งสองเรื่องที่เขียนไปแล้วกว่า 500 ตอน!

ปัญหานักเขียน
ที่ใครๆ ก็เจอ และแก้เองได้!
__________

ปัญหาเรื่องความเบื่อ ความเหนื่อย ความขี้เกียจ ผมว่ามันเกิดได้กับทุกคนครับต่อให้ไม่ใช่พนักงานออฟฟิศก็ตาม และวิธีที่ผมใช้ในการเอาชนะความรู้สึกพวกนี้ก็คือ การเข้าไปอ่านคอมเมนต์ของนักอ่านที่รอคอยตอนต่อไปของเราอยู่ เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ต้องมาเขียนนิยายต่อ ไม่ให้ผู้สนับสนุนของเราต้องผิดหวังครับ ส่วนการแบ่งเวลา ผมจะใช้ 2 วิธี 

1.กำหนดตายตัวอยู่แล้วว่าช่วงเวลานี้ต้องเขียนนิยาย ห้ามไปทำอย่างอื่น ต่อให้หัวตันเขียนไม่ออก อย่างน้อยพิมพ์เนื้อหาไว้สักหน่อยก็ยังดี 

2.ใช้ช่วงเวลาว่างๆ อย่างตอนพักกลางวัน จินตนาการในหัวว่าตอนต่อไปจะเขียนยังไงดี แล้วก็จดไว้คร่าวๆ พอทำอย่างนี้เวลาเรามาเริ่มเขียน เราจะเหมือนมีไอเดียเก็บไว้ในลิ้นชักให้เลือกเอามาใช้ได้มากมายครับ และจะช่วยลดเวลาในการเขียนไปได้มาก

อีกเคล็ดลับที่เอาไว้ใช้ฝึกฝนสำหรับการเขียนนิยายก็คือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ครับ เพราะผมคิดว่าต่อให้มีพรสวรรค์มากแค่ไหน แต่ถ้าหากขาดประสบการณ์ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ก็ก็มีน้อยครับ ซึ่งการเขียนนิยายก็เหมือนกันครับ

สำหรับผมเป็นธรรมดามากที่นิยายเรื่องแรกๆ ของเราจะมีจุดบกพร่องมากมาย แต่ผมเชื่อว่าถ้าเราเก็บชั่วโมงบินการเขียนนิยายต่อไป สักวันงานเขียนของเราก็จะดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งวิธีเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ผมอยากจะแนะนำสำหรับผู้เขียนนิยายเรื่องแรกๆ ก็คือ อย่าไปคิดเยอะ ให้เขียนไปก่อน ในระหว่างที่เขียนไปเราจะได้ประสบการณ์มาระหว่างทาง ได้รับคำติชมว่ามันผิดพลาดตรงไหน ซึ่งผมมองว่าการลงมือทำแล้วเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย มันให้ผลดีกว่าการไปนั่งวางแผนมากๆ แล้วไม่ได้ลงมือทำเสียทีครับ

ผลงานนิยายเรื่องล่าสุดที่กำลังติดท็อปหมวดแฟนตาซีอยู่ (ข้อมูลวันที่ 28 มิถุนายน 2565)
ผลงานนิยายเรื่องล่าสุดที่กำลังติดท็อปหมวดแฟนตาซีอยู่ (ข้อมูลวันที่ 28 มิถุนายน 2565)

เมื่อมีผลงานแล้ว
ลองขายเป็นรายได้เสริมได้ง่ายๆ
__________

ผมลองเปิดขายก็เพราะอยากหารายได้เสริมครับ ก่อนหน้านี้เดือนหนึ่งผมจะเสียเงินไปกับค่าซื้อหนังสือเยอะมาก เยอะถึงขนาดที่บางเดือนค่าหนังสือพอๆ กับค่ากินค่าอยู่เลยครับ ก็เลยอยากใช้เงินจากงานเขียนของตัวเองเพื่อไปซื้องานเขียนของคนอื่นบ้างครับ

ก่อนหน้านี้ผมเคยลองเปิดขายแบบรายตอนในนิยายเรื่อง “King of world ราชันแห่งพิภพ” ไปแล้ว เรื่องที่สองก็เลยอยากลองขายแบบตอนอ่านล่วงหน้าดูบ้างครับว่าผลจะเป็นยังไง จริงๆ ผมก็คาดหวังไว้ค่อนข้างน้อยนะครับ เพราะเว็บ Dek-D การแข่งขันค่อนข้างสูงมาก ก็เลยมีความกังวลว่าจะมีคนยอมเสียเงินซื้ออ่านหรือเปล่า แต่ผลที่ออกมาก็ผิดคาดพอสมควรครับ เพราะมีนักอ่านซื้อผลงานเราเยอะกว่าที่คิดมาก

การสนับสนุนจากนักอ่านสำหรับผมเป็นปัจจัยสำคัญเลยครับที่ทำให้ผมยังสามารถเขียนนิยายต่อไปได้ เพราะลำพังแค่การทำงานประจำแต่ละวันก็ค่อนข้างเหนื่อยมากแล้ว การจะใช้เวลาอีกเป็นชั่วโมงเพื่อจะมาเขียนนิยายต่อก็เลยไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ แต่พอนึกถึงผู้สนับสนุนที่ยอมเสียเงินคอยน์ตามผลงานเรามาตลอดก็เลยไม่สามารถขี้เกียจได้ครับ มันเป็นเหมือนความรับผิดชอบที่เราจะต้องทำให้เสร็จให้ได้ เพราะถ้าหากเปลี่ยนเราเป็นคนอ่านที่ยอมเสียเงินซื้อนิยายที่ชอบ เราก็คงไม่อยากให้นิยายที่ตามมาตลอด หยุดอัพไปกลางคันหรือหายไปดื้อๆ เหมือนกัน

รายได้ตรงนี้ถือว่าเกินค่าขนมไปเยอะเลยครับ จากที่คิดจะใช้เงินจากการเขียนนิยายไปซื้อหนังสือมาอ่านเล่น ตอนนี้เหลืออีกส่วนไปใช้ลงทุนได้ด้วยครับ

รูปโปรไฟล์ของนักเขียนนามปากกา “Black Goblin”
รูปโปรไฟล์ของนักเขียนนามปากกา “Black Goblin” 

ทำงานไป เขียนนิยายไป 
ก็เพื่อเป้าหมายนี้!
__________

ตั้งแต่มาเขียนนิยาย การเขียนนิยายเปลี่ยนชีวิตผมหลายอย่างเลยครับ อย่างแรกคือกังวลเรื่องรายได้น้อยลงครับ เพราะมีอาชีพนักเขียนนิยายเป็นอาชีพที่สอง อย่างที่สองก็คงเป็นเรื่องการใช้เวลาได้คุ้มค่ามากขึ้นครับ เพราะทุกวินาทีที่เสียไปกับการเขียนนิยาย มันก็เหมือนเป็นการที่เราใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสร้างคุณค่าให้กับตัวเองครับ

งานอดิเรกของผมตั้งแต่เด็กก็คือการอ่านหนังสือครับ ช่วงเด็กๆ หนังสือที่อ่านก็จะเป็นการ์ตูนและนิยาย แต่พอโตมาได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนก็เลยชอบ ความฝันที่เป็นเป้าหมายในตอนนี้ก็คือการลงทุนให้ประสบความสำเร็จจนมีอิสรภาพทางการเงินครับ ผมอยากจะใช้ชีวิตตามใจชอบโดยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินอีก ซึ่งการเขียนนิยายก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมอยากจะทุ่มเทให้ ถ้าหากมีอิสรภาพทางการเงินแล้วครับ

สุดท้ายนี้ ผมก็ต้องขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานของผมเสมอมานะครับ แม้เนื้อเรื่องบางช่วงอาจจะไม่ถูกใจใคร แต่ผมก็รับปากว่าจะพยายามเขียนให้ได้อย่างเต็มที่ และสำหรับใครที่สนใจจะติดตามผลงานของผมก็สามารถตามอ่านนิยายเรื่อง “King of world ราชันแห่งพิภพ” และ “Legend of the Magician เปิดตำนานจอมมนตราสะท้านภพ” ได้ที่เว็บ Dek-D และติดตามผู้เขียนได้ที่แฟนเพจ “Goblin's Diary” ครับ

 

อ่านจบแล้วไม่แปลกใจเลยที่นักเขียนหนุ่มคนนี้จะเขียนนิยายได้กว่า 500 ตอน แถมยังเขียนจบไปแล้วเรื่องหนึ่งอีกด้วย! ก็ดูสิ่งที่เขาทำสิ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเวลามาเขียนนิยายด้วยการกำหนดช่วงเวลาเขียนนิยาย การใช้เวลาว่างคิดพล็อตคิดไอเดียต่างๆ ตลอดจนการอัปนิยายอย่างสม่ำเสมอ   สิ่งที่เขาทำนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ แต่ต้องอาศัยความมีวินัยและใจที่รักในการเขียนนิยายมากๆ  เชื่อว่าถ้าใครมุ่งมั่นตั้งใจทำแบบนี้บ้าง หนทางการเขียนนิยายให้จบและปัง ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด!

นอกจากนี้ ฮาวทูฉบับพนักงานออฟฟิศที่นักเขียนหนุ่มคนนี้แนะนำมา ทั้งการ “จดไอเดียเก็บไว้ในลิ้นชัก” และการ “เขียนไปเลยอย่าคิดเยอะ” ก็ถือเป็นไอเดียที่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากเขียนนิยายมากๆ อีกด้วย เพราะถ้าเรามีไอเดียเก็บไว้เยอะๆ เวลาจะเขียนนิยายเราก็ไม่ต้องเสียเวลาไปหาไอเดียที่ไหน ลองๆ ค้นอ่านจากที่เราเคยจดไว้ ก็น่าจะทำให้เรามีแรงบันดาลใจเอามาเขียนต่อยอดได้ง่ายขึ้น ส่วนข้อที่บอกว่าเขียนไปเลยอย่าคิดเยอะ ก็ตรงตัวเลยค่ะ ได้ไอเดียแล้วอยากเขียนอะไรก็เหลาไปเลยค่ะ ถ้าเราสนุกกับการเขียน เชื่อว่านักอ่านก็น่าจะสนุกตามเราไปด้วย

หวังว่าเรื่องราวดีๆ ที่นักเขียนหนุ่มนามปากกา “Black Goblin” นำมาแบ่งปันกันในวันนี้ จะเป็นกำลังใจดีๆ ให้นักอยากเขียนทุกคนได้นะคะ ^^

เริ่มเขียนนิยาย

พี่แนนนี่เพน

อ่านผลงานของ  Black Goblin

 

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น