แจกคู่มือ 7 วิธีดูแลตัวเองให้ดีในฐานะนักเขียน

แจกคู่มือ 7 วิธีดูแลตัวเองให้ดีในฐานะนักเขียน

 

เคยเป็นมั้ยคะ? บางครั้งเมื่อเขียนนิยาย อยู่ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยล้า หมดไฟ ตันได้ง่ายๆ ปัญหาที่เจอบ่อยตลอดชีวิตการเป็นนักเขียน เพื่อจบปัญหาเหล่านี้ ขอแนะนำให้รู้จักกับ 7 วิธีดูแลตัวเองในแบบฉบับนักเขียน เพราะเราทุกคนต้องดูแลตัวเองให้ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ จะได้มีแรงในการเขียนนิยายต่อไป

การดูแลตัวเอง คือการหาเวลาให้ตัวเอง เติมเต็มความคิดสร้างสรรค์ และทำสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข หากเราจัดสรรเวลาให้ตัวเองทุกวันและฝึกฝนการดูแลตนเอง รับประกันเลยว่าเราจะเป็นนักเขียนที่ดีขึ้น!

หากไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นดูแลตัวเองจากตรงไหน ให้ทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อเริ่มกิจวัตรการดูแลตัวเอง

 

01 บอกตัวเองว่าคุณคือ ‘นักเขียน’

ตราบใดที่เรากำลังเขียน แปลว่าเราเป็นนักเขียน ง่ายๆ ก็แค่นั้น

การเป็นนักเขียนไม่ได้หมายความว่าเราต้องเขียนเก่งมาแต่เกิด ความจริงที่ว่าเรากำลังสร้างเรื่องใหม่อย่างแข็งขันและสม่ำเสมอ เป็นข้อพิสูจน์ที่บอกว่าเราเป็น ‘นักเขียน’ ต่างหาก เพราะงั้นเขียนไปเรื่อยๆ แล้วเราก็จะเขียนเก่งเอง เขียนต่อไปเพื่อประกาศความเป็นนักเขียนของเราให้โลกรู้ อย่าท้อนะ!!

 

02 ยอมรับว่าเรามีที่ว่างให้เติบโตเสมอ

“ฉันไม่คิดว่าฉันจะเป็นนักเขียนได้ดีหรอก”

“ฉันเขียนนิยายไม่ได้ ฉันยังไม่เก่งพอ”

หลายคนอาจจะเคยมีความคิดประมาณนี้อยู่ในหัว มันเรียกว่า ‘ความสงสัยในตัวเอง’ ฟังดูชิลๆ ไม่น่าใช่ปัญหาอะไร แต่จริงๆ มันเป็นปัญหาอย่างมาก! มันคือการที่เราสร้างชุดความคิดในหัวว่า มีระดับทักษะบางอย่างที่เราต้องไปให้ถึงก่อนที่เราจะเรียกตัวเองว่านักเขียนได้ ซึ่งอย่างที่เราพูดถึงในข้อข้างต้นว่า มันไม่เป็นความจริง รวมถึงความเชื่อที่ว่าการเขียนนั้นเป็นพรสวรรค์ล้วนๆ ก็เป็นความเชื่อที่ผิดด้วยเช่นกัน

เพราะเราทุกคนมีพื้นที่สำหรับการเติบโต และต่อให้เราไม่มีพรสวรรค์ในการเขียน เราก็สามารถฝึกฝนๆๆๆ จนเราเขียนเก่งขึ้นได้ อย่าลืมว่าไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด การเขียนก็เหมือนมีด ยิ่งลับยิ่งคม ยิ่งเขียนก็ยิ่งเชี่ยวชาญ

 

Photo by Alysha Rosly on Unsplash
Photo by Alysha Rosly on Unsplash

 

03 ให้เวลาตัวเองในการเขียน

หากเรามีปัญหากับสองข้อแรกที่กล่าวมา อาจทำให้เราพบกับอาการ ‘รู้สึกผิด’ และความรู้สึกผิดนี้มักมาจากความสงสัย มันจะมีฟิลลิ่งแนวว่า จะเขียนทำไมในเมื่อเราไม่ได้เก่งขนาดนั้น หรือเมื่อเราสามารถใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูง ทำงานล่วงเวลา  ทำอย่างอื่นที่คิดว่าคุ้มค่ามากกว่าเขียนนิยาย

นักเขียนไม่ควรรู้สึกผิดในการทำสิ่งที่รัก หากการสร้างเรื่องราวคือสิ่งที่เราหลงใหล ให้ใช้เวลาเขียนมันโดยไม่รู้สึกผิด 

การหล่อเลี้ยงความหลงใหล เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขในชีวิตและเป็นโบนัส มันเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการพัฒนาทักษะการเขียน ดังนั้นให้เวลาตัวเองเขียนอย่างอิสระและเต็มใจ แล้วเราจะไม่เสียใจ

 

04 หยุดสนใจว่าใครจะคิดยังไง

ในช่วงแรกๆ ที่เราเลือกเดินบนเส้นทางนักเขียน มักจะมีคนรอบตัวบางคนที่คิดว่า การเขียนนั้นเสียเวลา มันไม่ใช่อาชีพที่ทำกำไร มันเป็นงานอดิเรกที่ใช้เวลามากเกินไป การเขียนนิยายนั้นไร้สาระ! เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินคำพูดพวกนี้มาหมดแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้อความเหล่านั้นเป็นความจริง ไม่เลยสักนิด

กุญแจสำคัญในการผ่านพ้นเรื่องนี้ได้ คือหยุดสนใจว่าคนเหล่านั้นคิดอย่างไร 

ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงๆ ก็แอบทำยากนะ ถึงอย่างนั้น เราก็ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ และนั่นก็รวมไปถึงนักอ่านและนักวิจารณ์ด้วย

ให้โฟกัสไปที่การสร้างเรื่องราวให้น่าสนใจ เพื่อดึงดูดใจผู้ที่มีความสนใจเหมือนเรา มันต้องมีใครสักคนที่รักนิยายแนวเดียวกับที่เราเขียน และพวกเขากำลังรอที่จะสัมผัสทุกสิ่งที่เราแบ่งปันผ่านเรื่องราวของเรา

 

Photo by Kaitlyn Baker on Unsplash
Photo by Kaitlyn Baker on Unsplash

 

05 เข้าร่วมกลุ่มนักเขียน

นักเขียนเป็นอาชีพที่เหงา 

ไม่แปลกใจเลยที่ความสงสัยมักคลืบคลานเข้ามาในความคิดเรา นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราควรพบปะเพื่อนร่วมอาชีพคนอื่นๆ บ้าง การได้พูดคุยกับนักเขียนคนอื่นจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน คอยเป็นแรงผลักดันและให้กำลังใจกัน ซึ่งกลุ่มนักเขียนอาจหมายถึงชุมนุมในโรงเรียน หรืออาจจะเป็นกลุ่มบนโลกออนไลน์ก็ได้

เมื่อเราได้คุยกับคนที่มีความฝันเดียวกัน และมีความหลงใหลแบบเดียวกัน จะช่วยเติมไฟในใจของเราให้ลุกโชน และทำให้เรามีกำลังใจในการเขียนอย่างต่อเนื่อง ลองอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ที่บทความ รู้หรือไม่ การเป็น 'นักเขียน' คือการรับมือกับ 'ความเหงา' หนักมาก! 

 

06 พักจากการเขียนบ้าง

สิ่งที่พวกเราชาวนักเขียนมักเจอบ่อยคือ ‘การเหนื่อยล้า (burnout)’ อย่าทุ่มเทให้กับการเขียนมากเกินไปจนทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า เพราะมันจะทำให้เราหมดแรงและหมดไฟในการเขียน! 

พักบ้างก็ได้ พักสัก 1-2 ชั่วโมง ออกไปเดินเล่น ชมธรรมชาติ สูดอากาศดีๆ เข้าปอด เติมความคิดสร้างสรรค์ให้ตัวเอง แล้วค่อยกลับมาเขียนต่อก็ยังไม่สาย ถือเป็นการชาร์จแบตให้ตัวเอง แต่ถ้าเราเอาแต่ฝืนเขียน ก็จะยิ่งทำให้เหนื่อยและหมดแรง เพราะงั้นลองแบ่งเวลาพักบ้างนะ!

 

07 ให้ความสำคัญกับสุขภาพ

เป็นนักเขียนก็ควรรู้จักการใส่ใจกับร่างกายของตัวเอง เพราะถ้าสุขภาพกายดี สุขภาพจิตก็จะดีด้วย สุขภาพดีไม่ได้หมายถึงการดื่มสมูทตี้ผักผลไม้วันเว้นวัน แต่เป็นการแบ่งเวลามาออกกำลังกายบ้าง 

การออกกำลังกายสามารถลดความเครียด เพิ่มเอ็นโดรฟิน และทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง

อย่าบอกกับตัวเองว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทุกคนมีเวลาเท่ากัน เพียงแค่แบ่งเวลามาวันละ 15-30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว! และนี่คือการออกกำลังกายที่น่าสนใจ

  • โยคะ
  • เปิดคลิปออกกำลังกายในยูทูป จะเบเบ้, Chloe Ting ได้หมดเลย
  • ออกไปวิ่ง เดินเล่นบ้าง
  • ลงคลาสเต้น
  • ไปฟิตเนส
  • การยืดเหยียด

บางวันอาจออกกำลังกายน้อย บางวันออกกำลังกายหนัก ไม่เป็นไรเลย สิ่งสำคัญคือเราต้องออกกำลังกายและเคลื่อนไหวในทุกๆ วัน ลองทำสิ่งนี้กับการนอนหลับให้ครบแปดชั่วโมง ดื่มน้ำปริมาณมาก และรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เราก็จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย และพร้อมรับมือกับวันของเรามากขึ้น

 

……………

 

การหาเวลาดูแลตัวเองในฐานะนักเขียนอาจเป็นเรื่องยาก เราจะต้องสร้างสมดุลให้ตัวเอง ด้วยกลยุทธ์การดูแลตนเองสำหรับนักเขียนที่พี่นำมาฝาก จะช่วยให้เรารักษาสุขภาพร่างกาย อารมณ์ และจิตใจของเราให้ดีขึ้น ทีนี้เราจะได้มีแรงกาย แรงใจในการสร้างสรรค์เรื่องราวให้นักอ่านได้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ

 หากสนใจเคล็ดลับการเขียนหรืออยากเป็นนักเขียนที่เก่งขึ้น สามารถกดติดตามรวมบทความเด็ดได้ที่ "เปิดคัมภีร์! ส่งต่อเคล็ดลับที่จะทำให้การเขียนนิยายของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย!" เชื่อว่าน่าจะมีเคล็ดลับการเขียนที่ตรงใจทุกคนอยู่แน่ๆ ค่ะ

  

พี่น้ำผึ้ง :)

 

ขอบคุณรูปภาพจาก  freepik / unsplash

 

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น