นักเขียนออนไลน์ในตำนาน : จาก รักต้องปล้ำ และ สาวป่วนก๊วนรด. สู่ กาหลมหรทึก, 21 ปีบนเส้นทางนักเขียนของ ‘ปราปต์’ เขาเขียนนิยายมาแล้วเกือบทุกแนว! 

นักเขียนออนไลน์ในตำนาน 
จาก รักต้องปล้ำ และ สาวป่วนก๊วนรด. สู่ กาหลมหรทึก,
21 ปีบนเส้นทางนักเขียนของ ‘ปราปต์’ 
เขาเขียนนิยายมาแล้วเกือบทุกแนว!  

 

*****

 

เมื่อความล้มเหลวกลายเป็นเชื้อเพลิงของความสำเร็จ มีบุคคลผู้หนึ่งต้องเผชิญกับความผิดหวังบนเส้นทางนักเขียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเกือบตัดใจจากความฝัน แต่ในวินาทีสุดท้าย “ปราปต์” เลือกที่จะก้าวข้ามขีดจำกัด ท้าทายตัวเองด้วยการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เหมือนใคร เขาได้ชุบชีวิต “กลโคลง” ให้กลายเป็นศิลปะการสืบสวน จนเกิดเป็น “กาหลมหรทึก” นิยายที่คว้ารางวัลนายอินทร์อะวอร์ดในปี 2557 จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ บนเว็บไซต์ Dek-D สู่การเป็นนักเขียนที่สร้างปรากฏการณ์ในวงการวรรณกรรมไทย ปราปต์ได้ฝากผลงานระดับมาสเตอร์พีซไว้ตรึงใจนักอ่านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และนี่คือเรื่องราวของเขา #เกิดมากับเด็กดี #โตมากับเด็กดี #เป็นนักเขียนเด็กดี #ปราปต์ก็เริ่มจากที่นี่

 

 

ตั้งแต่วัยเด็ก “ปราปต์” หรือ “ชัยรัตน์ พิพิธพัฒนปราปต์” หลงรักการอ่านอย่างมาก ความหลงใหลนี้จุดประกายความฝันในการเป็นนักเขียน กระทั่งเข้าสู่วัยมัธยมต้น เขาได้สัมผัสกับผลงานของมาลา คำจันทร์, ทมยันตี และ โบตั๋น ทำให้เขาเริ่มเขียนเรื่องสั้นและซีร็อกซ์ส่งไปยังสำนักพิมพ์ แม้จะไม่เคยได้รับการตอบรับ แต่ความฝันของเขาไม่เคยดับลง

จุดเปลี่ยนของปราปต์มาถึงเมื่อโลกออนไลน์เริ่มมีบทบาทมากขึ้น ปราปต์ในวัย 16 ปี ขณะที่เรียนมัธยมปลาย ได้อ่านวรรณกรรมญี่ปุ่นและนิยายแนว Chick Lit จากสำนักพิมพ์ Bliss จนเกิดความคิดกับตัวเองว่า “ทำไมคนไทยไม่เขียนเรื่องตลกแบบนี้บ้าง” เขาจึงตัดสินใจเขียนนิยายแนวตลกและเรื่องวัยรุ่นอย่าง “รักต้องปล้ำ” และอัปลงบนเว็บไซต์ Dek-D เป็นครั้งแรก ผลงานนี้กลายเป็นประตูสู่การตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ชื่อดัง และนำมาสู่ผลงานอื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น สาวป่วนก๊วนรด., หัวใจวิปครีม และ สาวป่วนก๊วนเฟรชชี่

แต่เส้นทางนักเขียนของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อกระแสนิยายวัยรุ่นเริ่มซบเซา ปราปต์ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เป็นเวลานาน 7-8 ปี ที่เขาพยายามเปลี่ยนแนวการเขียน ทดลองสิ่งใหม่ๆ แต่กลับไม่มีสำนักพิมพ์ไหนตอบรับผลงานของเขา จากที่เคยบอกตัวเองว่า “ยังไหว ทำเพราะใจรัก” กลายเป็นความเหนื่อยล้าเริ่มกัดกร่อนจิตใจ เพราะการเขียนหนังสือไม่ได้ใช้แค่ไอเดีย แต่มันต้องแลกมาด้วยต้นทุนชีวิตที่สูงมาก ปราปต์มองดูเพื่อนๆ รอบตัวที่เริ่มเติบโตไปข้างหน้า ขณะที่ตัวเองเหมือนถูกหยุดไว้กับที่ ในที่สุดเขาก็ต้องยอมรับว่าตัวเองมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ... หากผลงานชิ้นต่อไปไม่ประสบความสำเร็จ เขาอาจจะต้องยุติเส้นทางนี้ไปโดยปริยาย

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้เอง เขาตัดสินใจส่งผลงานเข้าประกวดในเวทีนายอินทร์อะวอร์ดปี 2557 ซึ่งปีนั้นมีการประกวดนิยายแนวสืบสวนสอบสวนที่เขาชื่นชอบพอดี ปราปต์ได้แรงบันดาลใจพล็อต “ฆาตกรรมกลโคลง” จากจารึกที่สลักอยู่ตามเสาระเบียงวัดโพธิ์ และนำกลอักษรเก่าแก่ที่มีอายุร่วมร้อยปีมาปลุกให้มีชีวิตในนิยายสืบสวนของเขาอย่างน่าทึ่ง เขาทุ่มเทเวลา 3 เดือนเต็มในการเขียนต้นฉบับ“กาหลมหรทึก” ราวๆ 120 หน้า A4 ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายและความหวังเดียวของเขา

ผลลัพธ์คือความสำเร็จที่เกินความคาดหมาย “กาหลมหรทึก” ไม่เพียงแค่คว้ารางวัลชนะเลิศจาก “นายอินทร์อะวอร์ดปี 2557” แต่ยังทำให้วงการวรรณกรรมไทยต้องหันมามองนิยายที่ชุบชีวิต “กลโคลง” ให้กลายเป็นศิลปะการสืบสวนที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ สร้างตำนานนิยายสืบสวนในไทย ผลงานเรื่องนี้ถูกซื้อไปทำละคร และล่าสุดเมื่องานหนังสือเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เพิ่งจะได้รับการตีพิมพ์ครั้งที่ 22 จากวันนั้น เขากลายเป็น “ปราปต์” นักเขียนผู้สร้างความทรงจำให้นักอ่านในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน 

 

 

แต่ความสำเร็จก็มาพร้อมกับแรงกดดันมหาศาล “คำว่า ‘นักเขียนรางวัล’ เป็นเหมือนหัวโขนที่เราใส่อยู่” ปราปต์เผยความรู้สึกถึงการแบกรับความคาดหวัง และความกลัวว่าจะทำให้นักอ่านผิดหวัง แต่แทนที่จะยอมให้สิ่งเหล่านั้นผูกมัดเขาไว้ ปราปต์เลือกก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง “เราอยากจะวิ่งหนีตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้คนอ่านรู้สึกว่างานเราอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเดิม อยากให้เขาเห็นอะไรใหม่ๆ ในตัวเรา” ความคิดนี้ทำให้ปราปต์ลงมือเขียนนิยายวายเรื่องแรก “คุณหมีปาฏิหาริย์” และมันประสบความสำเร็จเกินคาด! ไม่เพียงสร้างปรากฏการณ์ในไทย แต่ยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครโด่งดังในต่างประเทศ รวมถึงได้รับการแปลหลายภาษาด้วย

ตลอดเวลากว่า 21 ปีในวงการวรรณกรรม ปราปต์มีผลงานถึง 33 เล่ม ครอบคลุมหลากหลายแนว ตั้งแต่สืบสวนสอบสวนอย่าง “นิราศมหรรณพ” ไปจนถึงดิสโทเปียเสียดสีสังคมไทยอย่าง “สุสานสยาม” (นิยายเรื่องนี้คว้าหลายรางวัล แถมยังเข้ารอบสุดท้ายของรางวัลซีไรต์ปี 2564 ด้วยนะ) นอกจากนี้ยังมีแนวรักสะท้อนสังคม “ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” ที่ถูกสร้างเป็นละคร และเรื่องล่าสุด “ฝนล้านฤดู” ที่ครบรสทั้งสืบสวน ชิงไหวชิงพริบและรักดราม่า เรียกได้ว่าปราปต์เป็นนักเขียนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เขาเรียนรู้และทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ สมกับเป็นนักเขียนที่เขียนได้ทุกแนวจริงๆ

สำหรับปราปต์ ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องเงินทองหรือชื่อเสียง แต่คือความสุขที่ได้ให้เกียรติคนอ่านด้วยการสร้างสรรค์งานที่หล่อหลอมจากประสบการณ์และความตั้งใจ เขากล่าวว่า “เราใช้ความสำเร็จเพื่อเปิดโอกาสให้ทำสิ่งที่ไม่เคยได้ทำ​ ไม่ใช่ให้ความสำเร็จเป็นโซ่ล่ามให้ตัวเองต้องทำในสิ่งเดิมตลอดไป​” นั่นทำให้เขาเดินหน้าเซอร์ไพรส์นักอ่านด้วยนิยายที่มีคุณภาพหลากหลายแนวอย่างต่อเนื่อง และยังคงอัปผลงานลงเว็บเด็กดี โดยเคล็ดลับความสำเร็จของปราปต์ คือมีวินัยและมีความมุ่งมั่น เขาตั้งเป้าเขียนให้ได้อย่างน้อยวันละ 3 หน้า เพื่อให้มีความก้าวหน้าอยู่เสมอ ปราปต์เชื่อว่าการเป็นนักเขียนมืออาชีพไม่ใช่แค่มีพรสวรรค์ แต่ต้องมีใจรักการสื่อสาร และมีความอดทนต่อคำวิจารณ์และการถูกปฏิเสธด้วย ความมุ่งมั่นบนเส้นทางการเขียนของเขาช่างยิ่งใหญ่ สมกับฉายาที่ใครๆ ว่าไว้ “ปราปต์คือนักเขียนที่คุณเชื่อใจได้” ทางเด็กดีขอยกนิ้วชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ปราปต์เสมอนะ เพราะปราปต์ #โตมากับเด็กดี

 

รู้หรือไม่?

  • “รักต้องปล้ำ” นิยายรักเรื่องแรกของ “ปราปต์” ลงให้อ่านที่เว็บเด็กดีที่แรกในปี 2546!
     
  • “กาหลมหรทึก” นิยายสืบสวนที่ชนะเลิศรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ลงให้อ่านที่เว็บเด็กดีที่แรกในปี 2557! 
     
  • ปราปต์ฉลองครบรอบ 10 ปี “กาหลมหรทึก” ด้วยตอนพิเศษถึงกว่า 40 หน้าในปี 2567!

 

วันนี้ปราปต์พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ความสำเร็จไม่ได้มาจากโชค แต่มาจากการยืนหยัดและความมุ่งมั่น คุณเองก็สามารถเป็น “ปราปต์” คนต่อไปได้ เพียงแค่กล้าฝันและลงมือทำ มาเริ่มต้นเส้นทางนักเขียนของคุณกับเว็บไซต์ Dek-D แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ปล่อยของอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนิยายแนวไหน ผลงานของคุณอาจมีนักอ่านรอคอยในอนาคต!

Dek-D พื้นที่สำหรับนักเขียนทุกคน เริ่มต้นเขียนนิยาย และศึกษาการขายได้ง่ายๆ ที่นี่เลย : bit.ly/writer-howto

 

#เกิดมากับเด็กดี #โตมากับเด็กดี #เป็นนักเขียนเด็กดี #ปราปต์ก็เริ่มจากที่นี่ #เขียนไม่ออกก็แวะมา #DekDWriter

 

เริ่มเขียนนิยาย

พี่น้ำผึ้ง : )

 

อ่านบทสัมภาษณ์ของปราปต์

อ่านนิยายของปราปต์

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น