กลับมาอีกครั้งกับโครงการที่เปิดโอกาสให้ครูทั่วประเทศสร้างเว็บไซต์ของตนเอง มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ยังคงสานต่อโครงการ “เว็บครู.ไทย” อย่างต่อเนื่อง จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การสร้างเว็บไซต์ด้วยชื่อโดเมน .th และ .ไทย ปี พ.ศ. 2567” ขึ้นเป็นปีที่ 2 โครงการนี้เปิดโอกาสให้ครูทั่วประเทศในทุกสาขาวิชาสร้างเว็บไซต์ของตนเอง เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ ช่วยให้นักเรียนและผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อการศึกษาได้ง่ายและปลอดภัย ส่งเสริมให้ครูมีผลงานด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการเรียนรู้ เพื่อประโยชน์ต่อนักเรียน ชุมชนและสังคมได้อย่างเหมาะสมกับยุคดิจิทัล
ในปีนี้มีการจัดอบรมต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีครูเข้าอบรมกว่า 700 คน และได้มีการตัดสินผลงานเว็บไซต์ของครูผู้เข้าอบรมเพื่อรับรางวัลในระดับประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ผู้ชนะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และโอกาสนี้ คอลัมน์ The Success การเรียนรู้สู่ความสำเร็จ ของ Dek-D ได้สัมภาษณ์ “ครูโส - โสภา โคตรสมบัติ” ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ถึงแนวคิดการทำงาน และแรงบันดาลใจในการจัดทำเว็บไซต์ มาทำความรู้จักครูท่านนี้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ
19 ปีแห่งประสบการณ์ จากห้องเรียนสู่เว็บไซต์การเรียนรู้
ปัจจุบันครูโสเป็นครูผู้สอนรายวิชาศิลปะ ระดับชั้น ป.4-6 และวิชาเทคโนโลยี ระดับชั้น ป. 3-6 ที่โรงเรียนบ้านละหาน (อภิรักษ์วิทยา) จังหวัดชัยภูมิ สำหรับประสบการณ์การทำงานตั้งแต่บรรจุเข้ารับราชการจนถึงปัจจุบัน ทำการสอนเข้าสู่ปีที่ 19 แล้ว โดยผ่านประสบการณ์การทำงานมาทั้งหมด 3 โรงเรียน
โรงเรียนแรก คือ โรงเรียนวันครู 2502 จังหวัดนครราชสีมา ได้รับมอบหมายให้สอนวิชาคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ระดับชั้น ป.1 - ม.3 เน้นสอนเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้โปรแกรม Microsoft ต่าง ๆ ทักษะการพิมพ์ คอมพิวเตอร์กราฟิก ฯลฯ สั่งสมประสบการณ์ 10 ปี ก่อนจะย้ายมาที่ โรงเรียนดอนเปล้าศึกษา ตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างจังหวัดชัยภูมิและนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างทุรกันดาร มีนักเรียนไม่ถึง 40 คน การทำงานที่โรงเรียนนี้ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตของครูโส เนื่องจากตอนที่ย้ายเข้าไปเป็นช่วงที่ผู้อำนวยการคนเก่าย้ายออก ครูโสจึงต้องรับหน้าที่เป็นรักษาการผู้อำนวยการแทน เพราะเป็นข้าราชการเพียงคนเดียว นักเรียนของที่นี่จะได้เรียนผ่าน DLTV เป็นส่วนใหญ่ และมีครูคอยดูแลอยู่ 3-4 คน ในช่วงระยะเวลา 3 ปีนั้น แม้จะไม่ได้สอนนักเรียนเลย เนื่องจากต้องดูแลเรื่องเอกสารต่าง ๆ หากมีประชุมก็ต้องไป แต่ครูโสก็ช่วยพัฒนาโรงเรียนโดยไปขอความช่วยเหลือตามหน่วยงานต่าง ๆ หาทุนมาสร้างรั้ว และป้ายโรงเรียนให้ พัฒนาโรงเรียนให้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ปัจจุบันครูโสย้ายมาสอนอยู่ที่ โรงเรียนบ้านละหาน (อภิรักษ์วิทยา) โรงเรียนคุณภาพประจำอำเภอ มาเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว แม้จะได้รับผิดชอบการสอนถึง 2 วิชา แต่ครูโสก็ไม่หยุดพัฒนาสื่อการสอนที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ให้กับนักเรียนอยู่เสมอ จุดเริ่มต้นการทำเว็บไซต์เป็นสื่อการสอนของครูโส เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งตรงกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ช่วงนั้นครูโสต้องส่งสื่อการเรียน เช่น คลิปใน YouTube, ใบความรู้ ให้กับนักเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook, Line ซึ่งนักเรียนแต่ละคนมีช่องทางการติดต่อต่างกัน อีกทั้งบางคนก็ไม่มีเลย ทำให้ครูต้องส่งข้อมูลให้กับนักเรียนหลายช่องทาง จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ครูอยากทำเว็บไซต์ขึ้นมา เพื่อเป็นสื่อกลางในการทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียน
โดเมน .ไทย จดจำง่าย ปลอดภัย เข้าถึงการเรียนรู้ได้ดีกว่า
ก่อนหน้านี้การเข้าใช้งานเว็บไซต์มีหลากหลายวิธี จนมาจบที่ให้นักเรียนเข้าผ่านลิงก์ใต้คลิป YouTube ช่อง Kruso On-Learn แต่ครูโสยังมองว่าเป็นการเข้าใช้งานที่ค่อนข้างซับซ้อน และใช้เวลานาน เนื่องจากครูโสติดตามโครงการ “เว็บครู.ไทย” มาตั้งแต่ปีแรก และในปีนี้มีการจัดอบรมอีกครั้ง จึงตัดสินใจเข้าร่วมอย่างไม่ลังเล เพราะต้องการนำความรู้มาพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากขึ้น หลังจากครูโสได้เข้าอบรมกับโครงการฯ ก็ได้รับโดเมนที่เป็นทั้งชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทั้งยังเป็นชื่อโดเมนสั้น ๆ จำได้ง่าย ทำให้นักเรียนสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกมากขึ้น และมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ปลอดภัย ไม่ใช่เว็บไซต์ปลอม พร้อมกับได้สื่อการสอนที่ทันสมัย เหมาะกับวัยของนักเรียน
โดยเว็บไซต์ www.krusoonlearn.in.th หรือ www.ครูโสออนเลิร์น.ไทย เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสื่อการเรียนการสอนในรายวิชาศิลปะ และวิชาเทคโนโลยี โดยจะเน้นที่วิชาเทคโนโลยี ป. 3-6 เป็นหลัก เว็บไซต์จะเน้นความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานของนักเรียน เน้นออกแบบให้เหมาะสมกับผู้เรียนในระดับประถมศึกษา จัดวางเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน เพื่อลดความสับสนในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีความรู้เรื่อง การใช้สื่อออนไลน์ความปลอดภัย เพื่อส่งเสริมการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดีให้นักเรียน รวมทั้งคู่มือการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาการใช้งานเว็บไซต์ย้อนหลังได้ด้วยตนเอง
แม้ว่าครูโสจะมีพื้นฐานด้านการสร้างเว็บไซต์มาบ้าง แต่การเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ทำให้ครูโสได้รับความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งการจัดวางเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้เป็นระบบ การเลือกใช้กราฟิกให้เหมาะกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทำให้เข้าใจเรื่องการออกแบบเว็บไซต์มากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังขวนขวายความรู้เพิ่มเติมจาก YouTube จนสามารถนำมาปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ออกมาตอบโจทย์การใช้งานที่เหมาะกับนักเรียนได้สำเร็จ
ความรู้ที่ได้จากโครงการฯ นอกจากจะนำมาพัฒนาเว็บไซต์การสอนแล้ว ครูโสยังนำความรู้ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการสร้างเว็บไซต์จาก Google site ให้กับนักเรียนชั้น ป.5 ให้นักเรียนฝึกออกแบบเว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในไทย เด็ก ๆ ให้ผลตอบรับที่ดีมาก ตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้ อีกทั้งภูมิใจที่สามารถสร้างเว็บไซต์เองได้แม้ยังอยู่ในวัยประถมก็ตาม
ทำได้ คิดเป็น ส่งเสริมผู้เรียนเป็นนวัตกร
การจัดการเรียนการสอนวิชาเทคโนโลยีของครูโส เป็นการจัดกิจกรรมที่มีการผสมผสานระหว่างการเรียนแบบออนไลน์ควบคู่กับการเรียนแบบออฟไลน์ และเน้นการบูรณาการ โดยมีเว็บไซต์ครูโสออนเลิร์นเป็นสื่อหลักในการเรียนรู้ เพื่อปูพื้นฐานการเป็นนวัตกรให้กับนักเรียนในอนาคต
สำหรับแนวทางการส่งเสริมผู้เรียนให้เป็นนวัตกร ครูโสกล่าวว่า เด็กจะทำได้และคิดเป็นก็ต่อเมื่อเขาลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยจะเน้นจัดการเรียนการสอนที่ให้นักเรียนทุกคนได้ลงมือปฏิบัติจริงผ่านการทำกิจกรรม ซึ่งแต่ละกิจกรรมนักเรียนจะได้ค้นคว้าหาข้อมูล และทำใบงานผ่าน Google slide, Google doc โดยแบ่งเป็นภารกิจย่อยๆ ให้นักเรียนฝึกคิดวิเคราะห์ และลงมือทำจนเสร็จสิ้นครบทุกภารกิจ ในระหว่างนี้เขาก็จะได้เรียนรู้การใช้งานโปรแกรมต่างๆ รวมถึงรู้จักประเภทของไฟล์แต่ละรูปแบบไปด้วย เพราะแต่ละภารกิจจะมีการกำหนดให้ส่งชิ้นงานผ่านโปรแกรม หรือไฟล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งถือว่าเป็นการบูรณาการความรู้เข้าด้วยกัน
เนื่องจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของโรงเรียนมีเพียง 10 เครื่อง จึงต้องอาศัยการเรียนเป็นคู่ ต้นเทอมครูโสจะทำการวิเคราะห์ผู้เรียนก่อนเป็นอันดับแรก จับคู่ให้เด็กเก่งกับเด็กอ่อน ซึ่งเด็กที่อยู่ด้วยกันจะต้องมีส่วนร่วม และช่วยเหลือกันในกิจกรรมทุกครั้ง การจับคู่เรียนแบบนี้จะกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างทั่วถึง ได้เกิดการคิดหาคำตอบด้วยตนเอง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันและกัน อีกทั้งเป็นการฝึกให้เขาได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุคปัจจุบันที่ทุกคนควรมี
โอกาสในการสร้างสื่อการสอนยุคดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ที่ไม่หยุดยั้ง
ครูโสเองก็เป็นครูท่านหนึ่งที่ได้รับโอกาสดี ๆ ในการอบรมครั้งนี้ ซึ่งได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากในการทำงาน นั่นคือ ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่มีชื่อโดเมนเป็นของตนเอง และมีสื่อการสอนที่ทันสมัยเหมาะสมกับการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ส่วนนักเรียนก็สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีชื่อเว็บไซต์ที่จดจำง่าย มีทั้งชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือกค้นหาตามความถนัด ทั้งยังมีแหล่งเรียนรู้ที่เขาสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา
สำหรับครูท่านใดที่มีความตั้งใจ และสนใจที่อยากมีเว็บไซต์เพื่อเป็นสื่อการสอนของตนเอง ครูโสขอเชิญชวนทุกท่านให้เข้าร่วมโครงการฯ นี้ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นครูคอมพิวเตอร์เท่านั้น ครูทุกสาขาวิชาสามารถเข้าร่วมโครงการได้ แม้ว่าจะยังไม่มีประสบการณ์ก็ตาม เพราะทางโครงการจะส่งเสริมและสนับสนุน จนกว่าครูทุกท่านจะมีเว็บไซต์ของตนเองที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ครูสามารถทำไปสอนไป ปรับปรุงไปเรื่อย ๆ ในทุกวัน สะสมวันละเล็กวันละน้อย ต่อยอดไปจนในที่สุดก็จะมีคลังความรู้ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัดให้กับนักเรียนในอนาคต
นอกจากครูโสภา โคตรสมบัติ ที่เป็นผู้ชนะเลิศของโครงการฯ ทีมงานคอลัมน์ The Success การเรียนรู้สู่ความสำเร็จ ยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ครูอีก 2 ท่าน ถึงความตั้งใจในการทำเว็บไซต์จนได้รับรางวัลระดับประเทศในครั้งนี้
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 - ครูวรวรรณ พุทธิพัฒน์ โรงเรียนอยุธยานุสรณ์
ปัจจุบัน ครูวรวรรณ พุทธิพัฒน์ เป็นครูผู้สอนวิชาการนำเสนอแบบสื่อผสมและการออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่โรงเรียนอยุธยานุสรณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีประสบการณ์การทำงานมากว่า 16 ปี
โดยเว็บไซต์ www.kroooil.in.th หรือ www.ครูออย.ไทย เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสื่อการสอนในรายวิชาการนำเสนอแบบสื่อผสมและการออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ โดยแยกรายวิชาเป็นสัดส่วนชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีความรู้เรื่อง Internet Safety เพื่อปูพื้นฐานสำคัญของการเป็นพลเมืองยุคดิจิทัลและความปลอดภัยให้กับนักเรียนอีกด้วย
จุดเด่นของเว็บไซต์มีการใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่เป็นทางการ เพื่อสร้างบรรยากาศความเป็นกันเองให้กับนักเรียน ภาพรวมของเว็บไซต์จะเน้นสีสันสดใส สบายตา ใช้สีโทนพาสเทล พร้อมทั้งมีภาพกราฟิก ภาพการ์ตูนเคลื่อนไหวประกอบ เพื่อให้เว็บไซต์ดูมีชีวิตชีวาเหมาะกับวัยของนักเรียน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และทำให้นักเรียนอยากเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของครู
โดยครูวรวรรณได้นำความรู้จากการอบรมในโครงการฯ ไปต่อยอดด้วยการนำไปสอนนักเรียนให้ทำ E-Portfolio ของตนเอง เพื่อเตรียมไปยื่นสมัครสอบในระดับมหาวิทยาลัยในอนาคต ทั้งประยุกต์ใช้ความรู้กับรายวิชาการออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ รวมถึงขยายผลไปสู่เพื่อนครูท่านอื่นๆ ผ่านการเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการสร้างเว็บไซต์ แก่เพื่อนครูในโรงเรียน และต่างโรงเรียนอีกด้วย
ทั้งนี้ ครูวรวรรณเชื่อว่าครูทุกท่านสามารถทำเว็บไซต์เป็นสื่อการสอนได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นครูคอมพิวเตอร์เท่านั้น จึงอยากเชิญชวนให้เข้าร่วมอบรมกับโครงการฯ ในปีต่อไป เพราะโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งนักเรียนและครู เป็นการส่งเสริมให้ครูได้พัฒนาเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับการจัดชั้นเรียนในยุคดิจิทัล และช่วยดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเว็บไซต์ทำให้มีความยืดหยุ่นในการสอนมากขึ้น ขับเคลื่อนนโยบาย ส่งเสริมการเรียนรู้ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เรียนซ้ำได้ตามต้องการ และส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การเรียนที่ดีขึ้น
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 - ครูศศิธร เขียวกอ โรงเรียนพญาไท
ปัจจุบันครูศศิธร เขียวกอ เป็นครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนพญาไท จังหวัดกรุงเทพฯ และมีประสบการณ์การทำงานมากว่า 32 ปี
โดยเว็บไซต์ www.vitkrunok.in.th หรือ www.วิทย์ครูนก.ไทย เป็นเว็บไซต์สำหรับรวบรวมสื่อการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และคลังข้อสอบ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา และแผนการสอน แบบบันทึกกิจกรรมวิทยาศาสตร์ สำหรับคุณครู รวมถึงแหล่งความรู้และกิจกรรมที่น่าสนใจทั้งด้านวิทยาศาสตร์ และการใช้สื่อออนไลน์อย่างปลอดภัย
จุดเด่นของเว็บไซต์ เนื้อหาที่นำเสนอมีความหลากหลายสามารถตอบโจทย์ได้หลายบุคคล ทั้งนักเรียน คุณครู ผู้ปกครอง และผู้ที่สนใจจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ โดยการออกแบบเว็บไซต์มีการแบ่งเนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นหมวดหมู่ชัดเจน เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย และใช้สีน้อยเพื่อคุมโทนสีไม่ให้ฉูดฉาดหรือหลากหลายเกินไป เน้นการใช้ตัวอักษรที่อ่านง่าย ใช้คำให้ถูกหลักภาษาไทย เนื่องจากเป็นสื่อสำหรับสอนเด็กประถม จึงต้องคำนึงถึงความถูกต้อง เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้กับนักเรียน
หลังจากเข้าร่วมอบรมในโครงการฯ ครูศศิธรได้นำความรู้มาพัฒนาเว็บไซต์การเรียนการสอนสำหรับนักเรียนจนสำเร็จ ผลตอบรับที่ได้นักเรียนให้ความสนใจเป็นอย่างดี และอยากเป็นส่วนหนึ่งบนเว็บไซต์ ในอนาคตครูศศิธรจึงวางแผนไว้ว่าจะให้เด็ก ๆ มามีส่วนร่วมในการผลิตสื่อและเป็นเจ้าของสื่อด้วยตนเองมากขึ้น นอกจากนี้ ยังจัดการอบรมการทำเว็บไซต์ให้กับเพื่อนครูภายในโรงเรียน และต่างโรงเรียนที่สนใจอีกด้วย
ทั้งนี้ ครูศศิธรเชื่อว่าอายุ และวิชาไม่ใช่อุปสรรค เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องของคนรุ่นใหม่ การสร้างเว็บไซต์ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแค่ครูคอมเท่านั้น ครูศศิธรก็เป็นอีกหนึ่งท่านที่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ออกมาได้สำเร็จ เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ครูจึงต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง อยากให้ครูทุกคนที่สนใจลงมือทำเลย เพราะโครงการฯ เปิดโอกาสให้ครูทุกคนเป็นนักการศึกษา ไม่ใช่แค่ครูที่สอนนักเรียนเท่านั้น อย่างน้อยจะได้มีแหล่งรวบรวมผลงานสื่อการสอนของครู และทำให้เราได้แพลตฟอร์มการเรียนการสอนใหม่ที่เหมาะสมกับวัยของนักเรียนในยุคดิจิทัลอีกด้วย
งานประกาศผลการตัดสิน "การสร้างเว็บไซต์ด้วย .th และ .ไทย ปี พ.ศ.2567" ได้เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สามารถติดตามชมภาพบรรยากาศงาน และร่วมแสดงความยินดีกับคุณครูทั้ง 3 ท่านที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ รวมถึงคุณครูท่านอื่นๆ ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดระดับศูนย์การอบรมจากทั่วประเทศได้ “ที่นี่” และสำหรับครูที่สนใจเข้าอบรมในปีต่อไป สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.webkru.in.th หรือ www.เว็บครู.ไทย
สุดท้ายนี้ ต้องยอมรับว่าในยุคปัจจุบันทักษะด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญที่ครูทุกท่านต้องมี เพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กยุคใหม่ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีสูง การนำเทคโนโลยีมาบูรณาการในการเรียนการสอนจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อช่วยเพิ่มความหลากหลายในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และดึงดูดความสนใจของนักเรียน ทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ต้องขอบคุณมูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) สำหรับโครงการดี ๆ เช่นนี้ และขอบคุณครูทุกท่านที่มุ่งมั่นพัฒนาสื่อการสอนเพื่อการเรียนรู้ที่ดีของเด็กไทยในยุคดิจิทัล
1 ความคิดเห็น
ดีใจจังค่ะที่ประเทศมีครูที่มุ่งมั่นในการสอนเด็กแบบนี้ ชื่นชมมากๆ เลย