รู้จัก “คุณป้าค่ะ” โปรแกรมเมอร์ผู้ผันตัวมาเป็นนักเขียน มีเอกลักษณ์เป็นภาพปกนิยายสุดคิวท์ การันตีความสนุกด้วยคนอ่านหลักล้าน!

  • พี่เจี๊ยบ อดีตโปรแกรมเมอร์วัย 43 ปี คือ นักเขียนนามปากกา “คุณป้าค่ะ” ผู้เขียนนิยายสุดฮิตยอดวิวหลักล้านอย่าง พรของอันผิง และหลี่อี้เฟย
  • เธอผันตัวจากนักอ่านมาเป็นนักเขียน และอยากลองเขียนนิยายทุกหมวดทุกแนว เอกลักษณ์ของเธอคือ ภาพปกนิยายสุดคิวท์ที่เห็นเมื่อไหร่ก็รู้ได้ทันทีว่านี่แหละคือนิยายของ คุณป้าค่ะ
  • นิยายเรื่องล่าสุดที่เพิ่งเขียนจบไป คือ ปรมาจารย์เช่นข้าเกิดใหม่เป็นศิษย์สายนอก นิยายแนวกำลังภายในที่ฮิตจนติดท็อปหมวดแฟนตาซีตั้งแต่เปิดเรื่องจนจบเรื่อง
  • ปัจจุบัน พี่เจี๊ยบเป็นนักเขียนนิยายเต็มตัว ตั้งใจเขียนนิยายออนไลน์เป็นอาชีพ และขายนิยายออนไลน์เลี้ยงดูตัวเองและลูกเหมียวทั้งสี่ตัว

* * * * *

สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน พบปะพูดคุยวันนี้พามารู้จักกับ “คุณป้าค่ะ” นักเขียนผู้มีเอกลักษณ์เป็นภาพปกนิยายสุดคิวท์ ที่การันตีความสนุกด้วยคนอ่านหลักล้าน และมีเบื้องหลังเป็นอดีตโปรแกรมเมอร์!

นี่คือเรื่องราวของ พี่เจี๊ยบ นักเขียนเจ้าของนามปากกา “คุณป้าค่ะ” ที่โลดแล่นอยู่บนเส้นทางนักเขียนในช่วงหลายปีมานี้ พร้อมนิยายสุดปังที่ฮิตจนขึ้นไปติดท็อปอันดับหนึ่งมาแล้วนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เรื่อง พรของอันผิง หลี่อี้เฟย แม่หมอกมลเนตร และนิยายเรื่องล่าสุดที่เพิ่งจบไปอย่าง ปรมาจารย์เช่นข้าเกิดใหม่เป็นศิษย์สายนอก ซึ่งเป็นนิยายกำลังภายในเรื่องแรกของเธอก็ยังติดท็อปหมวดมาจนถึงตอนนี้ (ข้อมูลวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567)

นอกจากนิยายจะปังมากๆ ด้วยสไตล์การเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ เน้นสุขนิยม พาทุกคนไปวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์แล้ว ยังมีภาพปกนิยายสุดคิวท์ที่เห็นเมื่อไหร่ก็รู้ได้ทันทีว่านี่แหละคือนิยายของคุณป้าค่ะด้วย ไม่แปลกใจเลยที่แค่เห็นปกนิยาย นักอ่านก็พร้อมคลิกเข้าไปอ่านความสนุก แม้ว่านิยายเรื่องนั้นจะเปลี่ยนแนวอีกแล้ว ใช่ค่ะ คุณป้าค่ะ มีเป้าหมายว่า อยากให้นิยายของตัวเองอยู่ทุกหมวด นิยายทั้ง 7 เรื่องของเธอจึงมีทั้งหมวดนิยายรัก ระทึกขวัญ แฟนตาซี ไปจนถึงกำลังภายใน 

นอกจากนี้ เธอยังตั้งเป้าว่า อยากเขียนนิยายออนไลน์เป็นอาชีพ เพื่อเลี้ยงดูเหล่าลูกๆ เหมียวทั้งสี่ตัวของเธออีกด้วย เชื่อว่าคุณป้าค่ะจะต้องทำได้แน่นอน เพราะเธอได้แสดงความมุ่งมั่นบนเส้นทางนักเขียนในช่วงหลายปีมานี้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการเขียนนิยายจนจบทุกเรื่อง ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากนักอ่านจนนิยายขึ้นไปติดท็อปเป็นดาวค้างฟ้าทั้งที่เปิดขายนิยายอยู่ด้วย 

พบปะพูดคุยวันนี้ เรามาทำความรู้จักตัวตนของ ‘คุณป้าค่ะ’ และมาหาคำตอบกันว่าทำไมนักเขียนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเขียนนิยายได้ไม่นาน ถึงเขียนนิยายเรื่องแรกจนมียอดวิวหลักล้านได้ มาตามดูเรื่องราวและแรงบันดาลใจดีๆ จากเธอกัน

จากโปรแกรมเมอร์สู่นักเขียนออนไลน์

สวัสดีค่ะ ชื่อเจี๊ยบค่ะ อายุ 43 ปี นามปากกา คุณป้าค่ะ นิยายที่เป็นที่รู้จักก็คือ เรื่องพรของอันผิงค่ะ และก็มีอีกหลายๆ เรื่องตามมาอย่าง หลี่อี้เฟย ฉันคือสายรุ้ง แม่หมอกมลเนตร เรื่องล่าสุดที่เพิ่งจบไปคือ ปรมาจารย์เช่นข้าเกิดใหม่เป็นศิษย์สายนอกค่ะ ชีวิตตอนนี้ ก็กำลังสนุกกับการแต่งนิยายค่ะ

ตอนนี้ก็เป็นนักเขียนนิยายเต็มตัวแล้วค่ะ เลี้ยงเด็กๆ น่ารัก อีก 4 ตัว ที่น้องมักร้องเหมียวๆ คอยขัดขวางการแต่งนิยายตลอดค่ะ ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ค่ะ ตอนที่เขียนครั้งแรกยังทำงานอยู่ค่ะ แต่มีช่วงที่พี่ลาออกแล้วเป็นจังหวะกลับบ้านนอกพอดี ระหว่างนั้นเลยมาเริ่มเขียนจริงจัง 

จริงๆ การเขียนนิยายก็เคยเป็นความฝันนะ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง พี่ก็ไม่ได้ตั้งใจเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็กลับมาแต่งจนได้ ต้องขอบคุณนิยายในเด็กดีเลยค่ะ เพราะนิยายที่ลงในเด็กดี ที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้ เพราะพี่มาเขียนนิยายก็เพราะว่าอ่านนิยายเยอะ โดยเฉพาะแนวเกิดใหม่ ปลูกผัก เลยเกิดความอิน อยากแต่งบ้าง ก็เลยลองเขียนบ้าง เขียนได้ตั้ง 20 ตอนเลยนะ ก็เลยเอามาแบ่งปัน ทำไปทำมาก็เลยกลายมาเป็น ‘คุณป้าค่ะ’ จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็เขียนมาแล้ว 3-4 ปีได้

ส่วนนามปากกา ‘คุณป้าค่ะ’ ก็คิดแบบเก๋ๆ ไม่ออก ด้วยวัยที่คนมักเรียกว่าป้า ก็เลยตั้งว่า ‘คุณป้าค่ะ’ ก็น่าจะให้อารมณ์แบบว่า เป็นป้าข้างบ้านให้กับนักอ่านได้สนุกกับนิยายของตัวเอง และนักอ่านก็จะได้ปรานีป้าบ้างค่ะ ^^

นิยายเรื่องแรกของคุณป้าค่ะ เรื่อง พรของอันผิง การันตีความสนุกด้วยยอดคนอ่านหลักล้าน
นิยายเรื่องแรกของคุณป้าค่ะ เรื่อง พรของอันผิง การันตีความสนุกด้วยยอดคนอ่านหลักล้าน

นิยายเรื่องแรกปังติดท็อป 
การันตีความสนุกด้วยยอดคนอ่านหลักล้าน

‘พรของอันผิง’ คือนิยายเรื่องแรกค่ะ ยังจำความรู้สึกได้ดี ลงเสร็จรีเฟรชดูอยู่ซ้ำๆ ว่า มีคนอ่านไหม แค่เห็นหลักหน่วยหลักสิบ ตอนนั้นคือดีใจมาก

อย่างที่เล่าไปว่า พอเขียนได้ 20 ตอนก็เอามาลงว่า จะมีคนอ่านไหม พอมีคนอ่าน ก็เลยเป็นแรงขับเคลื่อน ก็เลยเกิดนิยาย ‘พรของอันผิง’ ที่จำนวนตอนเยอะมาก ที่ไม่ใช่แค่ 100 ตอน แต่มากกว่านั้นอีก ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะแต่งได้ 

ตอนนั้นพี่ก็ทำงานแล้ว วิชาภาษาไทยอย่างการเขียนเรียงความก็ห่างหาย การจดไดอารี่ก็ไม่ค่อยได้ทำแล้ว การเรียบเรียงคำให้อ่านเข้าใจจึงยากมาก แต่ว่า ในหัวก็มีเรื่องราวเยอะไปหมด ก็แต่งๆ ไปก่อน แล้วก็มาเกลาอีกที จำได้ว่าบทที่หนึ่งเกลาหลายรอบมาก ใช้เวลาหลายวัน แต่พอผ่าน 20 ตอนมาได้ ก็เหมือนจะดีขึ้น (คิดว่านะ) และคนอ่านก็บอกว่า สไตล์นิยายของพี่ เหมือนเรื่องเล่า เหมือนอ่านไดอารี่ พี่ก็เลยอาจจะยึดติดมาจนถึงตอนนี้ ที่เน้นการเล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย 

ตอนที่เริ่มเขียนตอนนั้นถือว่ายากมาก แต่ใจอยากแต่งมากกว่า เพราะเนื้อเรื่องในหัวมันเยอะมาก พี่ก็เลยพิมพ์ไปตามใจคิด ถ้าถามพี่ว่างานโปรแกรมเมอร์ กับการเขียนนิยาย ทำงานต่างกันเยอะไหม ถ้าจะว่าต่างก็ต่าง จะว่าเหมือนก็เหมือน เพราะนิยายเขียนโครงเรื่อง และเริ่มแต่งตามขั้นตอนให้อยู่ในโครง ส่วนการเขียนโปรแกรมก็คล้ายๆ กัน แต่ว่าการเขียนโค้ดจะค่อนข้างตายตัวมากกว่า อย่างที่บอกบทหนึ่งเลยนั่งแก้หลายรอบมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด เพราะมีคนอ่าน ก็เลยอยู่ยาวมาจนถึงตอนนี้ 

ภาพปกนิยายสุดน่ารัก จากนิยายเรื่อง ฉันคือสายรุ้่ง
ภาพปกนิยายสุดน่ารัก จากนิยายเรื่อง ฉันคือสายรุ้่ง 

มีภาพปกนิยายสุดคิวท์เป็นเอกลักษณ์
และเขียนได้หลายแนว 

ภาพปกนิยายส่วนใหญ่ ก็มาจากพี่ในที่ทำงานเป็นนักวาดค่ะ เห็นแล้วน่ารักดี ก็เลยขอนำมาใช้ ตอนนั้นพี่กำลังจะเริ่มขายนิยาย และยังไม่มีเงินที่จะไปจ้างทำปก จะใช้รูปทั่วไปก็ไม่ได้ กลัวว่าจะติดลิขสิทธิ์ และพี่นักวาดเขาก็มีรูปการ์ตูนน่ารักๆ อีกเพียบ และพี่เขาก็อนุญาตก็เลยเอามาใช้เรื่อยๆ ค่ะ แม้จะไม่สื่อกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ แต่ก็พอทำให้อมยิ้มแก้มป่องกันได้ และกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นักอ่านรู้ว่านี่คือ คุณป้าค่ะ

ส่วนที่เขียนหลายแนว ก็เพราะอยากให้นิยายตัวเองอยู่ทุกหมวดเลยค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ แนวที่พี่ถนัดเลยก็น่าจะการดำเนินชีวิตประจำวัน slice of life หรือไม่ก็ออกแนวเป็นเรื่องเล่ามากกว่า ที่จะแทรกข่าวสาร สาระเข้ามาด้วย แนวนี้รู้สึกแต่งได้ดีกว่า ถ้าเทียบกับเรื่องใหม่ที่ไปแนวกำลังภายใน หลังจากนี้ก็มีแนวที่อยากจะลองอย่าง ดราม่าๆ ดาร์กๆ บ้าง เพราะเปิดตัวมาด้วยนิยายใสๆ สะอาดๆ และวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ ที่เน้นสุขนิยม และคนแต่งก็สุขใจด้วยมาแล้ว

พี่ก็มีแรงบันดาลใจหลายอย่าง ไอเดีย ความอินจากการอ่านนิยาย ที่เราอยากให้ตัวละครเราเป็นแบบนี้บ้าง การดูหนัง ฟังเพลง ฟังข่าวสารบ้านเมือง เรื่องซุบซิบ พร้อมกับอะไรที่ชีวิตจริงทำไม่ได้ ก็มาแต่งในนิยายนี่แหละ ล่าสุดก็หมีเนย หมูเด้ง แล้วก็มีการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดูเหมือนชีวิตประจำวันดี ถ้ากลับมาอ่านอีก ก็คงจะทำให้นึกถึงช่วงต่างๆ ได้ว่า ครั้งหนึ่งเคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น

แหวกแนวมาเขียนกำลังภายในเรื่อง ‘ปรมาจารย์เช่นข้าเกิดใหม่เป็นศิษย์สายนอก’  ก็ยังพุ่งแรงติดท็อปหมวดอันดับ 1
แหวกแนวมาเขียนกำลังภายในเรื่อง ‘ปรมาจารย์เช่นข้าเกิดใหม่เป็นศิษย์สายนอก’  ก็ยังพุ่งแรงติดท็อปหมวดอันดับ 1 

แหวกแนวมาเขียนกำลังภายใน 
ก็ยังพุ่งแรงติดท็อปหมวดอันดับ 1 

พี่เป็นคนอ่านนิยายกำลังภายใน (ที่จริงอ่านทุุกแนว) และดูแอนิเมชั่นด้วย ดูไปดูมา ก็อยากได้นิยายกำลังภายในแบบฉบับของเรา ที่ตัวเอกไม่ควรถูกกลั่นแกล้งมากเกินไป จะดีแค่ไหน ถ้ามีขาทองคำมาให้ตัวละครเหล่านี้เกาะบ้าง และคอยช่วยเหลือ จัดการตัวละครไม่ดีตั้งแต่เริ่มต้น ก็เลยเกิดเป็นนิยายเรื่อง ‘ปรมาจารย์เช่นข้าเกิดใหม่เป็นศิษย์สายนอก’ ขึ้นมาค่ะ

ในฐานะคนอ่านนิยายกำลังภายใน และคนดูแอนิเมชั่น มันสนุก มันตื่นเต้น ลุ้น เอาใจช่วยตัวเอก แต่พอต้องมาแต่งเอง แค่ฉากต่อสู้ปล่อยพลัง ก็เขียนค่อนข้างยากแล้ว ยังต้องคิดฉากต่างๆ ขึ้นมาอีก ซึ่งเราอาจมีพื้นฐานจากการอ่านและการดูมาบ้าง แต่พอต้องบรรยายแล้ว ก็ถือว่ายากพอสมควร แต่งไปก็คิดว่าคนอ่านจะจินตนาการได้ตามเราไหมนะ  และก็รู้สึกว่านักเขียนนิยายกำลังภายในท่านอื่นเก่งมากค่ะ ข้าน้อยขอคารวะ

แต่ในเมื่อแต่งแล้ว ก็ต้องสู้ต่อไป ถือว่าเป็นการท้าทายตัวเอง จำนวนคนอ่านก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ถือว่า เป็นแรงขับเคลื่อนแล้วค่ะ แม้ว่าฟีดแบ็กอาจจะไม่เท่ากับเรื่องที่ผ่านมา (ดูจากยอดจำนวนคนอ่าน) แต่ว่าก็ถือว่า คนอ่านบางส่วนของเราก็ยังตามอ่าน และได้นักอ่านหน้าใหม่มาบ้าง ซึ่งแรกเริ่มเราก็ไม่คาดหวังไว้แต่แรกแล้ว เพราะมันแนวเฉพาะมากๆ และไม่ใช่กำลังภายในจ๋า เป็นการยำรวมของกำลังภายในเข้าด้วยกัน

จากที่เขียนมา เรื่องแรกลุ้นเหมือนให้พลัง เรื่องที่สองกดดันมาก เรื่องต่อไป ความกดดันน้อยลงค่ะ และอาจเพราะผ่านมาหลายเรื่อง และคนเขียนเองก็แต่งหลายแนว จึงเห็นว่า ยอดอ่านของแต่ละเรื่องขี้นๆ ลงๆ ค่ะ เวลาจะทำให้เราเข้าใจเอง และนำไปพัฒนาต่อไป อาจเพราะเป็นคนอ่านมาก่อน จึงค่อนข้างเข้าใจ ถูกใจก็อ่านต่อ ไม่ใช่อย่างที่คิดเราก็ไป แต่ว่าถ้าเป็นนามปากกาที่ชอบ ก็จะแวะเวียนมาดูเรื่องใหม่เรื่อยๆ ค่ะ

เขียนนิยายสไตล์คุณป้าค่ะ 
= วางพล็อตไว้ เน้นแต่งสต็อก อัปได้ทุกวัน 

นิยายทุกเรื่องพี่มีการวางพล็อต ต้น กลาง และจบไว้ และทำการเชื่อมเข้าหากัน ระหว่างทางมีด้นสด มีนำเรื่องราวรอบตัว จากการอ่าน ดู ฟัง มาเสริมไปด้วย แต่จะไม่ให้หลุดจากที่วางไว้ ส่วนที่เขียนเรื่องหนึ่งยาวมาก อาจได้รับอิทธิพลมาจากนิยายจีนค่ะ และเป็นแนวการดำเนินชีวิต เรื่องเล่าประจำวันด้วยส่วนหนึ่ง

เรื่องการอัปนิยายก็ที่จริงแต่งสต็อกเอาไว้ค่ะ เลยอัปทุกวันได้ เพื่อดูทิศทางว่า ถูกใจคนอ่านไหม และเป็นการกระตุ้นคนเขียนอย่างเราด้วย เคล็ดลับก็จะแต่งไปก่อนเมื่อมีเวลาว่าง ค่อยมาเกลาอีกที เพราะก็ไม่ใช่ทุกวันที่แต่งได้ ถ้าแต่งไม่ออก ก็แค่ไปหาอย่างอื่นทำ พอหาแรงบันดาลใจได้ ก็จำเอาไว้ ว่างแล้วก็มาเขียนใหม่ ทีนี้มันก็จะลื่น

พี่ไม่ได้กำหนดอะไรตายตัวเลย พอกำหนดทีไร มักมีเหตุให้ไม่ได้ทำ บางทีก็แล้วแต่อินเนอร์วันนั้นๆ ถ้าหัวแล่น มันก็ไม่สะดุด ก็มีตันๆ บ้างค่ะ แก้ปัญหา ก็หาอะไรอย่างอื่นทำ เล่นกับแมว พาหมาเดินเล่น ดูซีรีส์ รายการบันเทิง พูดคุยกับคนในบ้าน เดี๋ยวไอเดียมันก็มา ส่วนตัวพี่เน้นแต่งสะสมไว้นะ ให้ได้จำนวนตอนเยอะๆ  ถึงลง เพื่อไม่ให้กดดันตัวเองค่ะ

ผลงานนิยายของ คุณป้าค่ะ
ผลงานนิยายของ คุณป้าค่ะ 

ขายนิยายออนไลน์ หวังเป็นอาชีพ
เลี้ยงดูตัวเอง (และลูกๆ เหมียว) ได้

ย้อนไปตอนที่พี่เริ่มเขียนนิยายอยู่ ก็มีนักอ่านมาคอมเมนต์บอกว่า ลงขายเลย พี่ก็เลยลองดูบ้าง พี่ชอบขายแบบตอนล่วงหน้าค่ะ แบบว่า สายฟรีก็รออ่านได้ สายเปย์ก็จัดเต็ม และยิ่งเด็กดีปรับให้ซื้อครั้งเดียวได้ก็ชอบมากเลยค่ะ ตอนขายก็บอกนักอ่านนะ บอกว่ามีเปิดฟรีวันละตอนควบคู่ไปด้วย ตอนนั้นก็ลุ้นค่ะ ว่าจะเป็นยังไงนะ จะมีคนซื้อไหม แล้วก็มีนักอ่านอุดหนุนจริงๆ เป็นปลื้มมากค่ะ และดีใจมากที่มีคนกดซื้ออ่านค่ะ มีไฟแรงสูงเลยค่ะ

แต่เนื่องจากว่าพี่แต่งนิยายมาหลายเรื่อง จึงมีทั้งเรื่องที่รายได้สูงมาก และพอใช้ได้ เดือนไหนได้เยอะ ก็อย่าใช้เยอะ ให้คิดเผื่อไปถึงเดือนที่ยอดขายอาจตก พี่ถือคติที่ว่า ได้หมื่นห้าก็โล่งใจ ถ้าได้มากถึงสองหมื่นก็กำไรแล้ว

ซึ่งงานอดิเรกของพี่ตอนนี้ก็อ่านนิยายนะ ส่วนความฝัน ก็ถือว่า ได้เป็นนักเขียนแล้ว เป้าหมาย ต่อจากนี้ก็อยากให้สามารถเป็นอาชีพที่เลี้ยงเราได้ค่ะ ตอนนี้ครอบครัวพี่ก็รู้นะว่าพี่เขียนนิยาย เขาไม่ได้ว่าอะไร อาจเพราะว่าเราก็เลี้ยงตัวเองได้ และเลี้ยงแมวอีกสี่ตัวค่ะ ส่วนเพื่อนรู้ส่วนน้อยค่ะ ยังเขินๆ อยู่ ถ้าจะบอกว่าเป็นนักเขียนนะ แต่ถ้าบังเอิญรู้ ก็ยืดอกยืดคอยิ้มกว้างรับ ฉันแต่งนิยายขายแหละ

การเขียนนิยายทำให้พี่มีวินัยค่ะ เพราะลงทุกวัน แต่วันละตอน รับผิดชอบต่อนักอ่าน ที่บางคนจ่ายเงินเพื่ออ่านนิยายของเรา แล้วสำหรับพี่นักเขียนคือคนให้ความบันเทิงกับนักอ่าน ทำให้ได้รู้ว่า งานเขียนของเรา ก็มีคนชื่นชอบเหมือนกันนะ และต่อยอดเป็นอาชีพได้ค่ะ

Writer to Writer : อยากบอกอะไรถึงนักเขียน?

คนที่อยากเขียนนิยายต้องเริ่มจากการอ่านสิ่งที่ชอบก่อนเลยค่ะ แล้วเราจะได้แรงบันดาลใจจากเรื่องที่เราชอบ จนอยากสร้างตัวละครของเราขึ้นมา แล้วเพื่อนๆ ในตัวละครก็จะตามมา

ส่วนเคล็ดลับไม่มีอะไร อินเนอร์ล้วนๆ แต่ว่าถ้าอ่านมาเยอะหน่อยก็น่าจะได้เปรียบ ซึ่งขออัญเชิญการให้กำลังใจจากนักเขียนหลายๆ คนที่อยู่ในบอร์ดนักเขียนของเด็กดี ที่มักให้กำลังใจนักเขียนที่ท้อๆ กัน

  • หนึ่ง ต้องถามตัวเองว่า แต่งเพราะอะไร ถ้าเพราะชอบ หากเผยแพร่แล้ว คนก็ยังตามอ่านน้อย ก็ให้จำความรู้สึกแรกที่อยากแต่ง และเขียนมันให้จบ ให้เป็นความภาคภูมิใจ
     
  • สอง ถ้าต้องการรายได้ ให้ดูทิศทางที่นักอ่านชอบ ซึ่งศึกษาได้จากท็อปทุกหมวด 100 เรื่องของเด็กดีได้ ลองเข้าไปอ่าน จะทำให้เราเห็นว่า เนื้อหาประมาณนี้จะสร้างรายได้ เพราะอยู่ในความสนใจของนักอ่าน หรือเข้าไปดูของแต่ละหมวดก็ได้ อันนี้จะแยกย่อยอีกที

ส่วนตัวคิดว่าแนวทะลุมิติ แนวระบบ แนวเกิดใหม่ แนวอาหาร ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ และโดยส่วนตัวก็ชอบแนวนี้ ให้ความรู้สึกถึงความสบายใจเวลาอ่าน ให้ความรู้ไปด้วย และลุ้นว่าตัวเอกของเรื่องจะนำพาครอบครัวไปสู่ความมั่งคั่งอย่างไรค่ะ

Writer to Reader : อยากบอกอะไรถึงนักอ่าน?

ก็อยากจะบอกว่า ขอบคุณค่ะที่ทำให้มี ‘คุณป้าค่ะ’ จนถึงตอนนี้ ช่องทางที่ติดต่อได้ก็ช่องคอมเมนต์ของนิยาย และข้อความลับของเว็บเด็กดีเลยค่ะ 

ส่วนนักอ่านใหม่ ใครอยากจะเริ่มอ่านงานของคุณป้าค่ะ ก็ขอแนะนำเรื่องหลี่อี้เฟยค่ะ ยาวกำลังดี อบอุ่นใจ จากนั้นก็มาเลี้ยงพรของอันผิง แวะเอ็นดูฉันคือสายรุ้ง เติมความกลัวผีๆ นิดๆ กับแม่หมอกมลเนตรค่ะ ผ่อนคลายกับเกิดใหม่เป็นคุณหนูสกุลจางผู้ตกอับที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก และไปยืดเส้นยืดสายออกกำลังกับปรมาจารย์เช่นข้าเกิดใหม่เป็นศิษย์สายนอกกันค่ะ ^^

อ่านเรื่องราวของเธอจบแล้ว อยากลุกขึ้นยืนปรบมือให้เลยค่ะ ‘คุณป้าค่ะ’ ถือเป็นนักเขียนคนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นมาก รู้สึกชื่นชมและยินดีจากใจที่เธอสามารถเขียนนิยายได้หลากหลายแนว และเขียนจบทุกเรื่อง บอกเลยว่ายากมากๆ สำหรับมือใหม่ แต่ไม่ยากเกินไปแน่นอน หากเรามีใจรัก และให้ความสำคัญกับวินัย อย่างน้อยถ้ามีสองข้อนี้ ก็น่าจะช่วยให้เราเขียนนิยายจนจบเรื่องได้ ส่วนผลลัพธ์สุดท้ายก็ให้นักอ่านเป็นคนตัดสินกัน 

หวังว่าเรื่องราวดีๆ ในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้นักเขียนทุกคนมีกำลังใจในการเขียนนิยายของเราต่อไปนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ ^^

พี่แนนนี่เพน

เริ่มเขียนนิยาย

อ่านผลงานนิยายของ คุณป้าค่ะ

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

POPPYJANK Member 17 ธ.ค. 67 09:59 น. 1

ตอนหลี่อี้เฟยตามอ่านตลอด นักเขียนขยันอัพมาก ๆ

หลังจากจบเรื่องนี้คือไม่ค่อยได้ตาม เพราะกระโดดเข้ามาเขียนเองบ้าง55

อยากตอบสัมอีกรอบ แรงบัลดาลใจในการเขียนมาจากคุณป้าค่ะด้วย

แต่ฉันไม่ขยันเหมือนพี่สาว "คุณป้าค่ะ" เลย

0
กำลังโหลด

1 ความคิดเห็น

POPPYJANK Member 17 ธ.ค. 67 09:59 น. 1

ตอนหลี่อี้เฟยตามอ่านตลอด นักเขียนขยันอัพมาก ๆ

หลังจากจบเรื่องนี้คือไม่ค่อยได้ตาม เพราะกระโดดเข้ามาเขียนเองบ้าง55

อยากตอบสัมอีกรอบ แรงบัลดาลใจในการเขียนมาจากคุณป้าค่ะด้วย

แต่ฉันไม่ขยันเหมือนพี่สาว "คุณป้าค่ะ" เลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด