เมื่อพูดถึงความฝันในชีวิต ฝันของคุณคืออะไร บางคนฝันว่าสักวันหนึ่งฉันจะรวยให้ได้ หลายคนฝันที่จะเติบโตในหน้าที่การงาน บ้างก็ฝันที่จะใช้ชีวิตเงียบ ๆ อย่างมีความสุข ส่วน ‘พี่เสือ พิชย’ ฝันที่จะทําหนังฉายในโรงภาพยนตร์
จากผู้กำกับร่วม Hormones Season 2 สู่ผู้กำกับหนังสั้น และกำกับเอ็มวีเพลงอีกมากมายในฐานะ ‘ลาดปลาเค้าบอยส์’ เส้นทางของผู้กำกับคนนี้ล้วนผ่านอะไรมามากมาย อะไรที่ยังทำให้เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งฝันจะเป็นจริง อะไรเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้พี่เสือทำตามความฝันนั้นต่อไปได้แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก มารู้จัก ‘พี่เสือ พิชย’ ให้มากกว่าที่เคย
“เมื่อการเป็น ‘ผู้กำกับหนัง’ เป็นฝันที่คุณต้องค่อย ๆ ฝัน”
พี่เสือ: การทําหนังหนึ่งเรื่องมันไม่ได้ทําได้ด้วยด้วยระยะเวลาอันสั้น หรือด้วยตัวเราคนเดียว มันต้องผ่านประสบการณ์ หรือการเสริมสร้างความรู้ของตัวเองก่อนด้วย สําหรับเรา เราไม่ได้รู้สึกว่ามันนาน แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องเดินทางมาเรื่อย ๆ แม้ปลายทางจะอยากทําหนังที่เป็นตัวตนของเรา แต่เราไม่ได้คิดว่าระหว่างทางที่ทําเอ็มวีหรือซีรีส์มันคือการซ้อม ทุกอย่างคือของจริงหมด ต่างกันแค่วิธีการเล่าเรื่อง เพราะฉะนั้นต่อให้เราเล่าเรื่องในวงเหล้า หรือเล่าเรื่องเป็นซีรีส์ เล่าเป็นเอ็มวี มันก็คือการเล่าเรื่องเหมือนกัน และทุกอย่างที่ทำคือการเรียนรู้ มีบทเรียนใหม่ ๆ ให้เราท้าทายความสามารถของตัวเองตลอด
เหมือนการเป็นผู้กํากับหนังคือภาพรูปธรรมในการทําอาชีพนี้ของเรา แต่ว่าจริง ๆ แล้วเรานิยามตัวเองว่าเราเป็นเป็นคนชอบเล่าเรื่อง อยากเห็นคนดูสนุกกับเรื่องราวที่เราเล่า สิ่งนั้นน่าจะเป็นภาพที่เราอยากเห็นที่สุด
“ตั้งแต่วันแรกของการเป็นผู้กำกับจนมาถึงวันนี้ สิ่งที่ยากที่สุดคือการต้องรักษาแพชชันของตัวเอง”
พี่เสือ: แม้จะมีแพชชันแต่ทุกคนก็มีภาระหน้าที่ มันไม่ได้หมายความว่าถ้าเราอยากเป็นสิ่งนี้ เราต้องมุ่งทำแต่สิ่งนี้ ไม่เลี้ยงชีพ ไม่ทำอย่างอื่นเลย เราแค่ต้องรักษาแพชชันไว้ แล้วทำอย่างอื่นไปด้วย มีช่วงนึงที่เรารู้สึกว่า ไม่อยากทำแล้ว เพราะมันเหนื่อยจังเลย แต่เราต้องทำเพราะเราต้องยังชีพตัวเอง สิ่งที่เราทำเพื่อรักษาแพชชันไว้คือการหาอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทางที่จะทำให้เราจะรู้สึกอินไปกับมันแล้วทำให้เราอยากไปทำงาน เช่น ไปออกกองแล้วข้าวกองอร่อย แค่นี้มันก็อยากไปทำงานแล้วนะ เพราะฉะนั้นก็รักษาสิ่งเหล่านี้ไว้
เราเชื่อว่าความฝันมันก็เป็นเรื่องของจังหวะ แต่จังหวะที่มันจะมาเราก็ต้องพร้อม ดังนั้นพยายามตื่นตัวไว้ตลอดว่าจังหวะมันมาได้ตลอด รักษาแพชชันของเราไว้ หรือถ้าจะหวะนั้นมันยังไม่มาจริง ๆ ก็ไปหาอย่างอื่นทำรอ เพราะความฝันมันเจอใหม่ได้เรื่อย ๆ พอเราโตขึ้นเราจะรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องมีฝันเรื่องเดียว อาจจะมีฝันใหม่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทิ้งฝันเก่า แค่ต้องบาลานซ์ชีวิตกับความฝันให้เป็น ก็เท่านั้นเอง
“บางทีความฝันของเรามันก็ไม่ใช่ฝันของเราคนเดียว แต่มันคือฝันของคนอื่นด้วย”
พี่เสือ: ภาพปลายทางความฝันการเป็นผู้กำกับของเรา คือเราอยากเห็นคนหัวเราะกับสิ่งที่เราเล่า สิ่งที่เราทำ แต่บนความเป็นจริงมันก็ต้องทำให้หนังประสบความสำเร็จในมุมใดมุมนึง เราต้องเข้าใจและยอมรับก่อนว่าการทำหนังหนึ่งเรื่อง มันไม่ได้เกิดจากเราคนเดียว เราต้องให้ความเคารพทุกคน หนังหนึ่งเรื่องใช้ตั้งแต่คนเขียนบท ไปจนถึงคนโปรโมท ใช้คนตั้งไม่รู้เท่าไหร่ในกระบวนการนี้ เราต้องอย่าคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นของเราคนเดียว อย่าคิดว่าความฝันเรา เราจะคุมทุกอย่างได้ทั้งหมด เพราะเราคุมไม่ได้
ดังนั้นมันก็ต้องมาอยู่บนความจริงที่ว่า ความฝันนี้ เราทำอะไรกับมันได้บ้าง เราทำได้ดีแค่ไหน แล้วก็ต้องยอมรับว่ามันจะเกิดอะไรได้บ้าง
“404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN คือความฝันของทีมงานทุกคน ที่อยากเห็นคนดูมีความสุขเวลาที่ได้ดูหนังเรื่องนี้”
พี่เสือ: หนังเรื่องเป็นครั้งแรกของใคร ๆ หลายคน ไม่ว่าจะเป็นกำกับหนังเรื่องแรก ทำงานร่วมกันครั้งแรก หรือแม้กระทั่งการรวมตัวครั้งแรก เพราะนี่คือการรวมตัวครั้งแรกระหว่าง GDH กับรฤก โปรดั๊กชั่น โดยพี่ยอร์ช ฤกษ์ชัย และตัวพี่เอง มันเลยกลายเป็นความน่าสนใจตั้งแต่แรกแล้วมั้ง รวมไปถึงทีมงาน นักแสดงอะไรเอย ถ้าไปดูตัวอย่างหนังมันเดาทางไม่ได้เหมือนกันนะ คือมีทั้งไทยบ้าน มีทั้งพี่เต๋อ มีคาเฟ่ มีหลายอย่าง มันคือการอยากลองของเราและทีมงานที่ทุกคนอยากทำให้คนดูสนุก ซึ่งการที่จะไปทำหนังให้คนดูสนุกได้เนี่ย เราต้องสนุกก่อน ถ้าเราสนุกแล้ว เราเชื่อว่าอย่างน้อยมันจะมีกลิ่นบางอย่างที่ส่งไปถึงคนดูได้
“หนังเรื่องนี้เรามองว่าเป็นหนังของทุกคน เป็นหนังของเรา ของทีมงาน ของนักแสดง ของดนดู เพราะเราตั้งใจทำมาให้ทุกคนดูได้จริง ๆ”
พี่เสือ: ในมุมของเรา หนังเรื่องนี้สะท้อนตัวตนที่เติบโตของเรา เราโตมากับกำกับหนังที่พูดถึงผู้ชายที่กำลังพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อความฝัน อย่างตอน Hormones ก็เป็นเรื่องของประธานนักเรียนที่พยายามทำให้กีฬาสีมันเกิดขึ้นได้ อยากได้รับการยอมรับ หรือ Project S ก็พูดถึงชัยชนะในการแข่งขันเพื่อจะพิสูจน์ว่ามิตรภาพมันคืออะไร เรื่องนี้ก็พูดถึงตัวละครที่ทำอะไรสักอย่างเพื่อถูกยอมรับจากคนที่รักเหมือนกัน
ในมุมของทีมงานหรือนักแสดง เรามองว่าหนังเรื่องนี้ก็คือหนังของพวกเขาเช่นกัน เราชอบทุกโมเมนต์ในกองเลย เรื่องนี้เป็นแก๊ง 4 คน เต๋อ ต้าเหนิง ต้าห์อู๋ อาไท ทุกคนสนิทกันเร็วมาก ทำการบ้านมาดี เหมือนเปิดต่อมการเรียนรู้ตลอด ทุกคนเก่งหมดเลย ทั้งนักแสดง ทีมงาน และรู้สึกได้ว่าทุกคนรักหนังเรื่องนี้ รักตัวละครที่ตัวเองแสดงจริง ๆ
ในส่วนของคนดู เราพยายามที่จะทำให้มันอยู่ในมาตรฐานที่มันดูได้ทั้งครอบครัว เพราะเราเคยเห็นภาพตอนเด็ก ๆ ที่ทุกคนน่าจะมีโมเมนต์ดูหนังกันที่บ้าน แล้วพ่อแม่ต้องเอามือปิดตาลูก หรืออุดหูลูก เราไม่อยากให้หนังเราเป็นแบบนั้น เราอยากให้หนังเรามันเอนเตอร์เทนกับทั้งครอบครัว
. . . . . . .
พี่เสือ พิชย คือผู้กำกับที่เชื่อว่าความฝันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงลำพัง แต่เป็นผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกันของคนจำนวนมาก เขาเรียนรู้จากทุกประสบการณ์ ทั้งการทำเอ็มวี ซีรีส์ และหนังสั้น เพื่อนำไปสู่ความฝันที่ยิ่งใหญ่ในการกำกับหนังเต็มรูปแบบ
404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN คือผลลัพธ์ของความพยายามและการเรียนรู้ที่ยาวนาน หนังเรื่องนี้สะท้อนตัวตนและการเติบโตของพี่เสือ ในขณะเดียวกันยังเป็นความฝันร่วมกันของทีมงานและนักแสดงทุกคน เพราะความตั้งใจของพวกเขาคือการสร้างหนังที่คนดูทุกเพศทุกวัยสามารถเอนจอยได้เพลิน ๆ
สำหรับพี่เสือ ความสำเร็จของความฝันไม่ได้วัดจากปลายทางเพียงอย่างเดียว แต่คือการรักษาแพชชันและพลังในการสร้างสรรค์ตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะการสร้างเรื่องราวที่ทำให้ผู้ชมมีความสุข ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่แท้จริงในฐานะนักเล่าเรื่อง
404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN มาเช็กอินความสนุกได้เลยวันนี้ในโรงภาพยนตร์
. . . . . . .
เขียนโดย พี่เพียงฟ้า Dek-D Podcast
บรรณาธิการ พี่ฟิวส์ Dek-D Podcast
1 ความคิดเห็น