เจ้าของร้านชำพลิกชีวิต เขียนนิยายหาเงินรักษาแม่ จนกลายเป็นเสาหลักครอบครัว | The Chosen EP.51 SnailW

เจ้าของร้านชำพลิกชีวิต 
เขียนนิยายหาเงินรักษาแม่ 
จนกลายเป็นเสาหลักครอบครัว 

The Chosen EP.51 SnailW

 

ใครจะคิดว่าหญิงสาวจากเพชรบูรณ์คนนี้ จะมีชีวิตที่พลิกผันได้ขนาดนี้! 

“มิ้นท์” หรือนักเขียนนามปากกา SnailW เธอฝันอยากเป็นสัตวแพทย์ แต่ชีวิตกลับพลิกผันให้เธอได้มาเป็นเจ้าของร้านขายของชำเล็กๆ ในบ้านเกิด แต่ด้วยความรักในการอ่านนิยาย และความพยายามในการเขียน ทำให้เธอผันตัวมาเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์ และกลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัว

มิ้นท์ ผู้เขียนนิยายฮิตติดท็อปเรื่อง ท่านพ่อ… ข้าคือบุตรสาวของท่าน, ภาพวาดลิขิตรัก และเสี่ยวเหยา สัตวแพทย์สาวย้อนยุค เล่าว่า ก่อนหน้านี้เธอเป็นแค่นักอ่านนิยายธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น จนวันหนึ่งรายได้จากร้านขายของชำไม่พอใช้ เพื่อนสนิทของเธอจึงแนะนำให้ลองเขียนนิยายดู ด้วยความที่เพื่อนก็เป็นนักเขียนเหมือนกัน และชอบมาเล่าให้ฟังว่ามีรายได้จากการเขียนนิยายจริงๆ มิ้นท์จึงตัดสินใจลองเขียนนิยายเรื่องแรกในชีวิตขึ้นมา

ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้มิ้นท์ตัดสินใจมาเขียนนิยายเป็นอาชีพ เกิดขึ้นหลังจากที่เธอเขียนนิยายเรื่องที่สองเรื่อง ‘ภาพวาดลิขิตรัก’ นิยายเรื่องนี้เธอใช้เวลาหาข้อมูลกว่าหนึ่งเดือนและใช้เวลาเขียนเกือบสามเดือน จนได้รับฟีดแบ็กดีๆ จากนักอ่าน และยังได้ขึ้นไปติดท็อปสามของนิยายเด็กดีนานกว่าสองเดือน ทั้งรายได้จากนิยายเรื่องนี้ก็ได้ช่วยรักษาชีวิตแม่ของเธอในยามวิกฤติได้ทันเวลาอีกด้วย

วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับมิ้นท์ นักเขียนสาวจากเพชรบูรณ์ เราจึงอยากนำเรื่องราวของเธอมาแบ่งปันให้กับทุกคนที่อยากเป็นนักเขียน หวังว่าเรื่องราวของเธอจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังเดินทางตามความฝันของตัวเองนะคะ 

มิ้นท์ นักเขียนนามปากกา SnailW
มิ้นท์ นักเขียนนามปากกา SnailW

‘เจ้าของร้านชำ’ สู่ ‘นักเขียนนิยายออนไลน์’

“สวัสดีค่ะ ชื่อมิ้นท์นะคะ นามปากกา SnailW ปีนี้อายุ 30 ค่ะ ตอนนี้เขียนนิยายเรื่อง ‘ท่านพ่อ… ข้าคือบุตรสาวของท่าน’ ค่ะ”

“ก่อนหน้านี้ก็เรียนจบมัธยม 6 ค่ะ แล้วก็ไม่ได้ต่อมหาลัย ตอนแรกก็เข้ามาทำงานกรุงเทพฯ ปกติ แล้วก็เป็นภูมิแพ้ค่ะ ก็เลยกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเหมือนเดิม แล้วก็ไปเปิดร้านขายของชำเล็กๆ

“ก็เปิดร้านขายทุกอย่าง 20 บาทอยู่ที่ต่างจังหวัดค่ะ อยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา คือชนบทมากๆ ค่ะ เปิดมา 7-8 ปีแล้ว แต่ว่า ณ ตอนนั้น ที่บ้านทำสวนด้วย มีพวกสวนมะม่วง สวนมะขาม สวนผลไม้พวกนี้ค่ะ เราก็เลยได้รายได้จากหลายทาง ไม่ได้มีรายได้มาจากการขายของหน้าร้านทางเดียว”

“พอมีเวลาว่างก็ชอบอ่านนิยาย อ่านมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วค่ะ ชอบอ่านนิยายมากๆ ชนิดที่เรียกได้ว่าตื่นขึ้นมาต้องหยิบโทรศัพท์มาเปิดอ่านนิยาย อ่านนิยายตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเลยค่ะ คือว่างไม่ได้ ต้องเข้ามาอ่านนิยายที่เรากดติดตามไว้ หรือบางทีก็ซื้อเป็นเล่มมาเปิดอ่านรอลูกค้าเข้าร้านค่ะ พอมีวันหนึ่งเพื่อนแนะนำให้ลองแต่งนิยายดูไหม ก็เลยเริ่มจากเพื่อนชักชวนมาแต่งนิยายก่อน”

“เริ่มแรกเลยคือเพื่อนแต่งนิยายมาก่อนค่ะ แล้วเขาก็ติดเหรียญแล้วมีรายได้จริงๆ เพื่อนก็บอกว่า ‘เนี่ย เรามีรายได้จริงๆ นะ’ ด้วยความที่ช่วงนั้นก็บ่นกับเพื่อนด้วยว่า ‘เดือนๆ หนึ่ง แค่จะหาเงินจ่ายค่าไฟยังไม่มีเลย’ คือเราขายของที่ร้านยังไม่มีกำไรพอที่จะจ่ายค่าไฟรายเดือนเลยค่ะ เพื่อนก็เลยบอกว่า ‘ลองมาแต่งดูไหม’ ซึ่งตอนแรกเราก็ยังไม่ได้คิดว่าเราจะแต่งได้ เพราะเราไม่เคยมีความความคิดที่จะแต่งมาก่อน เราขอแค่อ่านไปวันๆ ก็มีความสุขแล้ว”

“จนเพื่อนแนะนำอยู่ 2 เดือนนะคะ กว่าจะมาเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก ตอนนี้แต่งนิยายมาได้ปีกว่าเกือบ 2 ปีแล้วค่ะ พอมาเป็นนักเขียนปุ๊บ จากที่เรานั่งรอลูกค้าเข้าร้านเนี่ย เราก็เลยใช้เวลาช่วงนั้นเปลี่ยนจากนั่งอ่านเป็นนั่งเขียนแทน ซึ่งถ้าบางครั้ง บางวัน เราแต่งนิยายไม่ได้ ก็จะเป็นการหาข้อมูลไว้ เพื่อที่จะเอามาใช้ในการแต่งนิยายอีกวันหนึ่ง”

นิยายเรื่องแรกของ SnailW เรื่อง เสี่ยวเหยา สัตวแพทย์สาวย้อนยุค
นิยายเรื่องแรกของ SnailW เรื่อง เสี่ยวเหยา สัตวแพทย์สาวย้อนยุค

เขียนนิยายเรื่องแรกไม่ง่ายอย่างที่คิด

เราเริ่มแต่งจากนิยายแนวจีนโบราณค่ะ เริ่มจากตอนนั้นเราชอบอ่านแนวนี้ด้วย เราก็เลยมีความรู้สึกว่ามันเป็นกระแสด้วย เราก็คิดว่ามันน่าจะแต่งง่ายหรือเปล่า เพราะเราชอบแนวนี้เราก็เริ่มจากการหยิบมันขึ้นมาแต่งเลย”

“นิยายเรื่องแรกเขียนเป็นแนวจีนย้อนยุคแฟนตาซีนิดๆ ค่ะ ชื่อเรื่องว่า เสี่ยวเหยา สัตวแพทย์สาวย้อนยุค แรงบันดาลใจในการแต่งนิยายเรื่องนี้ เกิดจากเป็นคนชอบเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวปกติเลยค่ะ เราก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากแต่งนิยายแนวสัตว์บ้าง ก็เลยเลือกตัวละครนางเอกเป็นสัตวแพทย์ ที่ไปเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณค่ะ”

“เราแต่งแนวจีนโบราณ ความยากแรกเลยก็คือ วัฒนธรรม เราแทบจะไม่รู้วัฒนธรรมอะไรของเขาเลย ส่วนมากก็จะเป็นการอ่านจากนักเขียนคนอื่นๆ หรือว่าเป็นนิยายแปลที่เราเคยอ่านมา เราก็จะไม่ได้รู้ขั้นตอนทั้งหมดค่ะ เราก็เลยต้องไปศึกษาว่าเขามีวัฒนธรรมอะไรบ้าง มีกฎข้อห้าม หรือว่ามีประเพณีอะไรที่เขาปฏิบัติกัน ความยากอีกอย่างหนึ่งก็คือ ชื่อของตัวละคร การตั้งชื่อตัวละครแต่ละตัวคือความยากมาก เพราะทุกอย่างต้องสอดคล้องกันหมด ชื่อคนในตระกูลเดียวกันก็ต้องมีเอกลักษณ์ของแต่ละครอบครัว”

“แต่งนิยายเรื่องแรก เราไม่มีคนแนะนำเลยว่า คุณจะต้องเริ่มแต่งพล็อตอย่างนี้นะ เราก็เลยแต่งมาจากความรู้สึกของตัวเองล้วนๆ ทำให้นิยายเรื่องแรกมีออกทะเลบ้าง แต่งด้นสดบ้าง พอเราแต่งเรื่องแรกจบ ระยะเวลาในการแต่งเรื่องที่ 2 เราเลยทิ้งเวลานานหลายเดือนอยู่เหมือนกัน”

“แต่ว่าเรื่องที่ 2 เรารู้แล้วว่าเราจะแต่งแบบไหน เพราะว่าเราเอาข้อผิดพลาดจากเรื่องแรก มาปรับใช้ในเรื่องที่ 2 อย่างเช่น เรื่องที่ 2 จะวางพล็อตไว้ว่า พล็อตเริ่มต้นจะต้องเป็นยังไง ตรงกลางเป็นแบบไหน หรือว่าจะจบประมาณไหน ก็เลยทำให้เรื่องที่ 2 มีคนอ่านเยอะขึ้น โดยที่เราไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะมีคนอ่านเยอะขึ้นขนาดนี้ค่ะ”

นิยายเรื่อง ภาพวาดลิขิตรัก เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ SnailW อยากเขียนนิยายเป็นอาชีพ
นิยายเรื่อง ภาพวาดลิขิตรัก เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ SnailW อยากเขียนนิยายเป็นอาชีพ

จุดเปลี่ยนชีวิต เมื่อนิยายเรื่องที่สองปังสุดๆ 

“จุดเปลี่ยนก็คงจะเป็นนิยายเรื่องที่ 2 ค่ะ เรื่อง ‘ภาพวาดลิขิตรัก’ ที่เปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลย ที่ทำให้คนรู้จักนามปากกาเรามากขึ้น เพราะว่าเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องที่ติดอันดับ 2 ของเด็กดีอยู่เกือบเดือนถึง 2 เดือนเลยค่ะ”

“เรื่องนี้แต่งยาก (หัวเราะ)  เรื่องภาพวาดลิขิตรัก เราต้องไปหาข้อมูลมาแทบทุกอย่าง เราแต่งให้นางเอกวาดภาพ เราก็ต้องไปหาว่าสมัยจีนโบราณเขาใช้พู่กันอะไรบ้าง ถึงขั้นไปหาว่าพู่กันด้ามหนึ่งมีวิธีการผลิตแบบไหนด้วย เพื่อที่จะเอามาแต่งนิยายเรื่องนี้ เผื่อว่าเราจะได้ใช้ในการลงดีเทลในการแต่งนิยาย กว่าจะแต่งได้แต่ละตอนคือเราต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะแต่งได้ เพราะเราต้องไปหาข้อมูลมาจริงๆ ค่ะ”

“แค่จะอธิบายประมาณว่านางเอกเข้าไปเลือกซื้อพู่กัน แล้วพระเอกจะหาพู่กันที่ดีที่สุด เพื่อมอบให้เป็นของขวัญนางเอกก็หาข้อมูลอยู่ 2 วัน เขียนอยู่ประมาณ 3 บรรทัดค่ะ”

“เรื่องที่สองหาข้อมูลประมาณ 1 เดือนก่อนแต่งนะคะ หาข้อมูลที่ว่าคือ เราวางพล็อตเรื่องว่าเราจะแต่งประมาณไหนก็ใช้เวลาประมาณเกือบเดือนเลยค่ะ แล้วก็พล็อตเรื่องที่เราวางไว้ ขั้นตอนที่ 1,2,3 จะแต่งประมาณไหน เราก็จะหาข้อมูลไว้ ซึ่งได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ เราก็ต้องหาไว้ก่อน เพื่อที่ว่าพอเราแต่งแล้วจะได้ไม่สะดุด” 

“อย่างเรื่องที่ 2 เรื่องภาพวาดลิขิตรักที่ทำให้นักอ่านรู้จักเรา ก็ใช้เวลาในการหาข้อมูลอยู่ 1 เดือน แล้วก็ใช้เวลาแต่งอยู่ประมาณ 2 เดือนกว่าค่ะ” 

“รายได้เกินความคาดหมายมากๆ ใช้คำว่ามากๆ เลยค่ะ เพราะว่ามันสามารถทำให้เราเปลี่ยนจากงานอดิเรกกลายเป็นงานหลักของเราเลย" มิ้นท์แอบกระซิบเรื่องรายได้ให้ฟังด้วยว่า "ประมาณแสนค่ะ ถ้าช่วงติดท็อปอยู่ก็หลายแสนเลย” 

ผลงานนิยานของ SnailW
ผลงานนิยานของ SnailW

สู่จุดที่เขียนนิยายเป็นอาชีพ ขายของชำเป็นงานอดิเรก

“ตอนแรกคิดว่ารายได้ตรงนี้เอามาเป็นค่าน้ำค่าไฟของที่ร้านน่าจะช่วยครอบครัวได้มากขึ้นแล้ว แต่เราไม่คิดว่ารายได้ที่เราได้มันสามารถไปอุดรอยรั่วตรงนี้ ให้เราสามารถเปลี่ยนงานอดิเรกอย่างการเขียนนิยายให้กลายเป็นงานหลักของเราได้ เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เราเป็นนักเขียนแล้ว

“เรื่องแรกก็คิดว่ารายได้เกินความคาดหมายนะคะ เรื่องแรกเสี่ยวเหยา สัตวแพทย์สาวย้อนยุค เดือนแรกที่ติดเหรียญได้เงิน 3,000 บาท ซึ่งตอนนั้นดีใจมากวิ่งไปบอกแม่ว่า ‘แม่หนูได้เงิน 3,000 นะ หนูแต่งนิยายได้เงิน 3,000 บาท’ ก็วิ่งเข้าไปบอกแม่ แม่ก็แบบจริงเหรอ” 

“พอมาเดือนที่ 2 นิยายเริ่มเป็นที่รู้จัก จาก 3,000 บาทได้ 30,000 บาท ทุกคนที่บ้านคือตกใจมาก แต่ก็ยังมีญาติคนอื่นๆ เขาก็ยังบอกว่า ได้แค่นี้มันก็เป็นรายได้ที่ไม่ได้แน่นอน เพราะว่านักเขียนเป็นอาชีพที่ไม่แน่นอน คุณทำคุณก็มีรายได้ เราก็รู้สึกบั่นทอนจิตใจ แต่ ณ ตอนนั้นก็คือโชคดีที่แม่เขาพูดให้กำลังใจเรา เราก็เลยมีกำลังใจในการแต่งต่อ ซึ่งรายได้เราก็เพิ่มมากขึ้นจนเรามีความรู้สึกว่า เราประสบความสำเร็จในอาชีพนักเขียนหรือยังนะ”

“จนกระทั่งมา นิยายเรื่องที่ 2 เรื่องภาพวาดลิขิตรัก เราก็มีความรู้สึกว่า เราประสบความสำเร็จแล้วแหละ ณ ตอนนั้นแค่ติดท็อปเราก็ดีใจแล้ว ตอนนั้นคือแต่งนิยายชนิดที่ปิดห้องแต่งนิยายเลยนะคะ แบบไม่ออกไปไหนเลยอยู่ 2 เดือน แต่งนิยายอย่างเดียวแล้วก็อัพลงอย่างเดียว”

“ต้องขอบคุณนิยายเรื่องที่ 2 เลย เพราะว่าพอแต่งนิยายเรื่องที่ 2 จบ คุณแม่เข้าโรงพยาบาล แล้วก็ตรวจพบว่าเป็นไตวายระยะที่ 4 ซึ่งการฟอกไตต้องใช้เงินเยอะมาก เราก็เลยเอาเงินตรงนี้ไปช่วยรักษาคุณแม่ ก็พาคุณแม่ไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด เพื่อที่คุณแม่จะได้ไม่ต้องฟอกไต ตอนนี้อาการคุณแม่ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ทำงานหนักไม่ได้ ก็ต้องดูแลท่าน”

“เมื่อก่อนอายมาก ตอนเป็นนักเขียนครั้งแรกไม่กล้าบอกคนรอบข้างว่าตัวเองเป็นนักเขียน ทุกคนแบบไม่เข้าใจว่า ทำไมลูกบ้านนี้ตื่นสาย เพราะทุกคนไม่เข้าใจว่าเราทำอะไร เราไม่เคยออกไปป่าวประกาศว่าเราทำอะไร แต่ทุกวันนี้ด้วยความที่ความสำเร็จที่เรามีตอนนี้ เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าเราเป็นนักเขียน ทำงานอาชีพนักเขียนแต่งนิยาย

“เราก็เลยใช้อาชีพนี้เป็นอาชีพหลักในการเลี้ยงครอบครัว ดูแลคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองคนเลย ตอนนี้คุณแม่ก็เฝ้าหน้าร้านขายของ ส่วนคุณพ่อก็เข้าสวนบ้าง ไม่ได้ทำงานหนักแล้ว เราบอกเขาได้เต็มปากเลยว่า พ่อกับแม่ไม่ต้องทำงานแล้วนะ เดี๋ยวทำเอง เราก็เลยกลายเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว รายได้ครอบครัวก็คือมาจากตรงนี้เลยค่ะ”

จากนักเขียนมือใหม่ถึงคนที่อยากเขียนนิยาย

“อยากฝากบอกคนที่อยากมาเป็นนักเขียนนะคะ ก็คือลองเปิดใจ ลองกล้า ๆ หน่อย ตอนแรกๆ เราก็ไม่มีความกล้าค่ะ จนเพื่อนแนะนำอยู่ 2 เดือนนะคะ กว่าจะมาเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก เริ่มจากความกล้าก่อนเลย กล้าที่จะแต่งขึ้นมาก่อน”

เรื่องการอัพนิยายทุกวันก็สำคัญมาก เพราะว่าถ้าเราหยุดอัพปุ๊บ เราไม่อัปต่อเนื่องยอดคนเข้ามาอ่านเราจะน้อยลง นิยายเราจะตกอันดับลงไปเรื่อยๆ เคล็ดลับก็คือช่วงประมาณ 7 วันแรก เราต้องอัพถี่ๆ เลย อัพถี่ๆ ให้นิยายเรามีตอนมากขึ้น คนเขาก็จะเข้ามาอ่านมากขึ้น นิยายเราก็จะเห็นง่ายขึ้นค่ะ”

 

* * * * * *

จากเจ้าของร้านขายของชำที่ชอบอ่านนิยาย สู่นักเขียนนิยายที่กลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัว 

จุดเริ่มต้นการเป็นนักเขียนของมิ้นท์ หรือ SnailW นักเขียนมือใหม่จากหุบเขาเล็กๆ ในชนบทจังหวัดเพชรบูรณ์ อาจจะเริ่มต้นจากการที่เพื่อนชวนให้มาลองเขียนนิยายหารายได้ แต่หากมองลึกลงไปอีกนิด เราจะเห็นว่ามิ้นท์ เป็นนักอ่านนิยายตัวยงคนหนึ่งที่จับกระแสนิยายได้เก่ง และรู้จักตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร จากนั้นก็ลงมือเขียน เอาความชอบมาเขียนเป็นนิยายในแบบฉบับของตัวเอง

แม้ว่านิยายเรื่องแรก เธอจะเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่ได้วางแผนเขียนนิยาย และเขียนไปตามความรู้สึก จนทำให้นิยายออกนอกทะเลไปบ้าง แต่เธอก็พยายามเขียนนิยายต่อจนจบ และนำบทเรียนจากนิยายเรื่องแรกมาใช้กับนิยายเรื่องสอง ด้วยการวางแผน และศึกษาหาข้อมูลให้มากพอ จนทำให้นิยายเรื่องที่สองโดนใจนักอ่าน จนสามารถพลิกชีวิตเปลี่ยนจากงานอดิเรกกลายเป็นอาชีพหลักได้ 

หากใครที่กำลังหมดหวังหรือท้อแท้บนเส้นทางนักเขียนอยู่ ลองเอาเรื่องราวของมิ้นท์ไปเป็นกำลังใจ เอาความผิดพลาดที่เราเจอไปแก้ไขในนิยายเรื่องใหม่ของเราดูค่ะ อย่าเพิ่งยอมแพ้กันนะคะ เชื่อว่าความพยายามของทุกคนจะต้องประสบความสำเร็จในสักวันหนึ่ง หวังว่าเรื่องราวและแรงบันดาลใจดีๆ จากนักเขียนสาวที่นำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจดีๆ ให้นักเขียนเด็กดีได้นะคะ ^^

พี่แนนนี่เพน

 

อ่านผลงานนิยายของ SnailW 

 

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น