การแบ่งเวลา การเทียบศักราช ออกสอบบ่อย!

 สวัสดีค่ะ น้อง ๆ ชาว Dek-d สำหรับคอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ ในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปดู ‘การแบ่งช่วงเวลาและการเทียบศักราช’ ที่เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่น้อง ๆ ควรทำความรู้จักก่อนจะทำการศึกษาประวัติศาสตร์ เนื่องจากแต่พื้นที่มีการนับเวลาที่แตกต่างกัน การเทียบศักราชจะช่วยให้เรามองเห็นภาพของบริบทของสังคมมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยและยังช่วยให้ทำความเข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้นอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย!

การแบ่งเวลา การเทียบศักราช ออกสอบบ่อย!
การแบ่งเวลา การเทียบศักราช ออกสอบบ่อย!

การแบ่งช่วงเวลาและการเทียบศักราช

ศักราช หมายถึง การนับปีโดยเริ่มนับจากจุดใดจุดหนึ่งซึ่งได้กำหนดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ในแต่ละภูมิภาคของโลกมีวิธีการนับศักราชที่แตกต่างกัน การเทียบศักราชจึงมีความสำคัญเพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ในอดีตและช่วยให้เราวิเคราะห์และทำความเข้าใจบริบทของเหตุการณ์ได้ดีขึ้น ศักราชที่สามารถพบได้ มีดังนี้

การแบ่งช่วงเวลาตามประวัติศาสตร์ไทย

พุทธศักราช

เป็นการนับศักราชของศาสนาพุทธ อักษรย่อคือ พ.ศ. โดยในประเทศไทยจะเริ่มนับปีที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานเป็นปีที่ 0 และเมื่อครบรอบ 1 ปี จึงนับเป็น พ.ศ. 1 นั่นหมายความว่าพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก่อนพุทธศักราช 1 ปี ไทยใช้พุทธศักราชมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ในขณะเดียวกันก็มีการใช้ศักราชในรูปแบบอื่นด้วย เช่น ร.ศ. ภายหลังไทยได้เปลี่ยนมาใช้พุทธศักราชอย่างเป็นทางการในสมัยของรัชกาลที่ 6 โดยกำหนดวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 เมษายน และต่อมาได้เปลี่ยนมานับวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2484 เป็นต้นมา

มหาศักราช

เขียนย่อด้วย ม.ศ. เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กะนิษศักราช เป็นการนับศักราชของอินเดียที่เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในอินเดียตลอดจนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยมีการใช้มหาศักราชในสมัยสุโขทัยและอยุธยา มหาศักราชเริ่มนับจากปีที่พระเจ้ากนิษกะขึ้นครองราชย์เป็น ม.ศ. 1 ซึ่งตรงกับ ค.ศ. 78 และ พ.ศ. 621 ดังนั้น การเทียบมหาศักราชกับพุทธศักราชจะบวกหรือลบด้วย 621 ปี

จุลศักราช

เขียนย่อด้วย จ.ศ. เป็นศักราชของพม่าที่เริ่มใช้ในอาณาจักรพุกาม ถูกนำมาใช้ในไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยและนิยมใช้ในสมัยอยุธยาหลังจากเสียกรุงและตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าในสมัยพระมหาธรรมราชา พ.ศ. 2112 จนมาเลิกใช้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่ 5 จุลศักราชเริ่มนับเมื่อพุทธศักราชนับไปแล้ว 1181 ปี ดังนั้น การเทียบพุทธศักราชกับจุลศักราชจะใช้การบวกหรือลบด้วย 1181 ปี

รัตนโกสินทร์ศก

เขียนย่อด้วย ร.ศ. เป็นศักราชที่ตั้งขึ้นและประกาศใช้ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าตั้งแต่ พ.ศ. 2432 โดยให้เลิกใช้จุลศักราชตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่รัตนโกสินทร์ศกจะเริ่มนับ ร.ศ. 1 ตั้งแต่ พ.ศ. 2325 ซึ่งเป็นปีที่ได้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น ดังนั้น ในตอนที่รัตนโกสินทร์ศกจึงตรงกับ ร.ศ. 108 รัตนโกสินทร์ศกใช้วิธีนับปีและเดือนตามปฏิทินสุริยคติโดยเริ่มจากเดือนเมษายนถึงเดือนมีนาคม ทั้งสิ้น 12 เดือน หรือ 1 ปี การคำนวณรัตนโกสินทร์ศกเป็นพุทธศักราชจะบวกด้วย 2324 ปี

อย่างไรก็ดี รัตนโกสินทร์ศกถูกใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ จนถึงสมัยของรัชกาลที่ 6 ร.ศ. 131 ตรงกับ พ.ศ. 2455 ได้ยกเลิกการใช้รัตนโกสินทร์ศกและเปลี่ยนมาใช้พุทธศักราชแทน แต่ยังคงเริ่มต้นปีในเดือนเมษายนและสิ้นสุดปีในเดือนมีนาคม จนกระทั่งในสมัยของรัชกาลที่ 8 ได้เปลี่ยนเป็นเริ่มต้นปีในเดือนมกราคมและสิ้นสุดปีในเดือนธันวาคมตามหลักสากล

รู้หรือไม่ ?

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงมีพระราชดำริให้ใช้ ‘พุทธศักราช’ (พ.ศ.) เป็นศักราชประจำชาติ แทน ‘รัตนโกสินทร์ศก’ (ร.ศ.) เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองพุทธศาสนา และเพื่อให้สอดคล้องกับประเทศต่างๆ ที่นับถือพุทธศาสนา จึงได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทร์ศก 131 (พ.ศ. 2455) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ ‘พระพุทธศักราช’ ในราชการทั่วไป โดยถือเอาวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 เป็นวันเปลี่ยนมาใช้พุทธศักราชตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การแบ่งช่วงเวลาแบบสากล

คริสต์ศักราช

คริสต์ศักราชหรือ ค.ศ. เป็นศักราชที่เกิดในยุคของศาสนาคริสต์ ที่คนนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเริ่มนับปีที่พระเยซูเกิดเป็นปีแรก คือ ค.ศ. 1 หรือ A.D. 1 ย่อมาจาก Anno Domini ที่แปลว่า ปีแห่งพระเจ้า โดยช่วงเวลาก่อนที่พระเยซูประสูติจะเรียกว่า Before Christ หรือ B.C. เช่น 500 B.C. คือ 500 ปีก่อนคริสตกาล แต่ในปัจจุบันได้มีศักราชแบบใหม่ที่ไม่อิงกับศาสนาใดเพื่อให้ผู้ที่มีศาสนาแตกต่างกันสามารถใช้ร่วมกันได้ นั่นคือ ศักราชสากลหรือ Common Era (C.E.) มาใช้เรียกแทน ค.ศ. และใช้ Before Common Era (BCE) มาเรียกแทนปีก่อน ค.ศ.  

การเทียบคริสต์ศักราช (ค.ศ.) ให้เป็นพุทธศักราช (พ.ศ.) จะบวกจำนวนปีเพิ่มเท่ากับ 543 ปี ในทางกลับกันหากต้องการเทียบพุทธศักราช (พ.ศ.) เป็นคริสต์ศักราช (ค.ศ.) ให้ลบจำนวนปีออกไป 543 ปี เช่น พ.ศ. 2568 เทียบเป็น ค.ศ. จะได้ 2568 ลบด้วย 543 เท่ากับ ค.ศ. 2025 นั่นเอง

ฮิจเราะห์ศักราช

เป็นการนับศักราชของศาสนาอิสลาม อักษรย่อคือ ฮ.ศ. เริ่มนับจากปีที่ท่านนบีมูฮัมหมัดและสาวกทำการฮิจเราะห์หรืออพยพจากเมืองเมกกะไปยังเมืองเมดินาเป็น ฮ.ศ. 1 ตรงกับ พ.ศ. 1165 ทั้งนี้ ฮิจเราะห์ศักราชใช้ปฏิทินจันทรคติทำให้เวลาการนับที่แตกต่างไป คือ ปีปกติ 1 ปีมี 354 วัน และมีปีอธิกวารที่ 1 ปี มี 355 วัน ทำให้ปฏิทินอิสลามเร็วกว่าเมื่อเทียบกับปฏิทินสากลของไทย ในปัจจุบันการเทียบฮิจเราะห์ศักราชกับพุทธศักราชจะบวกหรือลบด้วย 1,122 ปี  

การนับศักราช ออกสอบบ่อย
การนับศักราช ออกสอบบ่อย

ตารางการเทียบศักราชอื่น ๆ กับพุทธศักราช

ตารางการเทียบศักราชอื่น ๆ กับพุทธศักราช
ตารางการเทียบศักราชอื่น ๆ กับพุทธศักราช

นอกจากการแบ่งเวลาเป็นศักราชแล้ว ยังมีการแบ่งเวลาออกเป็นช่วง ๆ ได้แก่ ทศวรรษ, ศตวรรษ และ สหัสวรรษ

ทศวรรษ หมายถึง ระยะเวลา 10 ปี เริ่มนับจากปีที่ลงท้ายด้วย 0 ไปจนถึงปีที่ลงท้ายด้วย 9 นิยมใช้กับคริสต์ศักราช  

 

ตัวอย่าง 

  • ทศวรรษที่ 2010 หมายถึง ค.ศ. 2010 - ค.ศ. 2019

ศตวรรษ หมายถึง ระยะเวลา 100 ปี ใช้ทั้งในคริสต์ศักราชและพุทธศักราช เริ่มนับจากปีที่ 1 ไปจนถึงปีที่ 100

 

ตัวอย่าง 

  • พุทธศตวรรษที่ 1 หมายถึง พ.ศ. 1 - พ.ศ. 100
  • พุทธศตวรรษที่ 2 หมายถึง พ.ศ. 101 - พ.ศ. 200
  • คริสต์ศตวรรษที่ 21 หมายถึง ค.ศ. 2001 - ค.ศ. 2100

สหัสวรรษ หมายถึง ระยะเวลา 1,000 ปี มีหลักการนับที่คล้ายคลึงกับศตวรรษ คือ เริ่มนับจากปีที่ 1 ไปจนถึงปีที่ 1,000

 

ตัวอย่าง 

  • คริสต์สหัสวรรษที่ 1 หมายถึง ค.ศ. 1 – ค.ศ. 1000
  • คริสต์สหัสวรรษที่ 2 หมายถึง ค.ศ. 1001 - ค.ศ. 2000
ภาพ Impression Sunrise โดย Claude Monet  ภาพวาดสีน้ำมันชิ้นสำคัญของศิลปะลัทธิประทับใจ (Impressionism) เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ภาพ Impression Sunrise โดย Claude Monet  ภาพวาดสีน้ำมันชิ้นสำคัญของศิลปะลัทธิประทับใจ (Impressionism) เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19  

 

มาทดสอบความรู้กัน!

วันนี้พี่กระแตมีแบบทดสอบง่ายๆ 3 ข้อเกี่ยวกับการแบ่งช่วงเวลาและการเทียบศักราช มาให้น้องๆ ฝึกทำกันค่ะ  
 

1. ศักราชแบบใดที่เป็นที่นิยมใช้มากที่สุด และเป็นศักราชสากล
ก. ฮิจเราะห์ศักราช
ข. พุทธศักราช
ค. มหาศักราช
ง. คริสต์ศักราช

_______________________________________

2.AD 1 ต่างจาก 1 BC อย่างไร?

ก. A.D. 1 เป็นปีแห่งพระเจ้า 1 B.C. เป็นช่วงเวลาก่อนพระเยซูประสูติ

ข. A.D. 1 เป็นปีก่อนพระเยซูประสูติ 1  B.C. เป็นปีแห่งพระเจ้า

ค. A.D. 1 เป็นปีพระเจ้าสูญสิ้น 1  B.C. เป็นปีแห่งพระเจ้า

ง. A.D. 1 เป็นปีแห่งพระเจ้า 1  B.C. เป็นปีแห่งพระเจ้าสูญสิ้น

_______________________________________

3. หากต้องการทราบว่า ม.ศ. 1893 ตรงกับ พ.ศ. ใดต้องทำตามวิธีในข้อใด

ก. นำ ม.ศ. 1893 + 621 = พ.ศ. 2514

ข. นำ ม.ศ. 1893 – 621 = พ.ศ. 1272

ค. นำ ม.ศ. 1893 + 78 = พ.ศ. 1917

ง. นำ ม.ศ. 1893 – 78 = พ.ศ. 1815
 

น้องๆ  คิดว่าแต่ละข้อตอบอะไรบ้าง? พิมพ์คำตอบที่คิดว่าถูกต้องมาในคอมเมนต์เลย!

 

 

สำหรับคอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ บทความถัดไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ฝากติดตามกันด้วยนะคะ และถ้าน้อง ๆ ชาว Dek-d มีความรู้ดี ๆ หรือทริคเด็ดที่อยากแชร์ต่อ สามารถคอมเมนต์แบ่งปันกันที่ด้านล่างได้เลยนะคะ :D

 

ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=o5oehoeu6C0https://so02.tci-thaijo.org/index.php/cultural_approach/article/download/153912/112054/http://www.satriwit3.ac.th/files/191010099155542_20072321215227.pdf 

 

 

พี่กระแต

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด