พิกัด! รอยเลื่อนมีพลัง 16 จุดในประเทศไทย ที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวในอนาคต

จากกรณีแผ่นดินไหว ขนาด 7.7 ความลึก 10 กิโลเมตร ที่ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 เวลา 13:20 น. ทำให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยได้รับความรู้สึกสั่นไหว เช่น กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากเกิดแผ่นดินไหวที่ “รอยเลื่อนสะกาย” ซึ่งหลายคนสงสัยว่าในประเทศไทย มีพื้นที่เสี่ยงที่จะมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวบ้างหรือไม่? วันนี้คอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ จะพาทุกคนไปทำความรู้กับ “16 รอยเลื่อนมีพลัง” ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยกันค่ะ

พิกัด! รอยเลื่อนมีพลัง 16 จุดในประเทศไทย ที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวในอนาคต
พิกัด! รอยเลื่อนมีพลัง 16 จุดในประเทศไทย ที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวในอนาคต

แผ่นดินไหว (Earthquake) เกิดจากอะไร?

แผ่นดินไหวเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานเพื่อลดความเครียดที่สะสมไว้ภายในโลก ออกมาเพื่อปรับสมดุลของเปลือกโลกให้คงที่ ทั้งนี้พื้นดินที่เราเหยียบอยู่ ประกอบด้วย แผ่นเปลือกโลกหลายแผ่นต่อกัน และมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัว บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นมีสิ่งที่เรียกว่า “รอยเลื่อน”

บริเวณรอยเลื่อนที่มีการเคลื่อนที่จะมีการสะสมแรงดันสะสมเอาไว้ ยิ่งเคลื่อนที่มากแรงดันก็ยิ่งมาก แรงดันที่ไม่มีที่ระบายก็จะกลายเป็นแรงเครียด และเมื่อถึงจุดที่ไม่สามารถสะสมแรงเครียดได้อีกก็จะเกิดการปลดปล่อยออกมานั่นเอง กลายเป็นแผ่นดินไหว จุดที่เกิดการระเบิดขึ้นนี้ เราเรียกว่า “จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว” ยิ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางเท่าไหร่แรงสั่นสะเทือนก็จะยิ่งมากขึ้น

แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว อยู่บริเวณไหนบ้าง?  

แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวหรือบริเวณตำแหน่งศูนย์กลางแผ่นดินไหวส่วนใหญ่จะอยู่ตรงบริเวณ…

  • แนวแผ่นดินไหวของโลกตรงบริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลก ในกรณีของประเทศไทย แนวแผ่นดินไหวโลกที่ใกล้ ๆ ได้แก่ แนวในมหาสมุทรอินเดียสุมาตรา และประเทศพม่า
  • แนวรอยเลื่อนต่าง ๆ ในกรณีประเทศไทย ได้แก่ แนวรอยเลื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน พม่า จีนตอนใต้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
  • บริเวณที่มนุษย์มีกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว เช่น เหมือง เขื่อน บ่อน้ำมัน เป็นต้น

รอยเลื่อน คืออะไร?  

รอยเลื่อน (fault) คือ รอยแยกหรือรอยแตกของหินที่มีการเคลื่อนตัว เนื่องจากแรงเค้นที่เข้ามากระทำ ซึ่งรอยเลื่อนโดยส่วนใหญ่จะมี ระนาบการเลื่อนตัว หรือระนาบรอยเลื่อน (fault plane) อยู่ในแนวเอียง เอียงเทไปด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้พื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งที่ถูกแบ่งโดยระนาบรอยเลื่อนนั้นมีรูปทรงไม่เหมือนกัน และถูกเรียกแตกต่างกัน โดยนักธรณีวิทยาจำแนกการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้

1. รอยเลื่อนตามแนวมุมเท (Dip-slip fault) คือเคลื่อนที่ในแนวขึ้น-ลง ในแนวดิ่ง แบ่งย่อยเป็น 2 ชนิด

  • รอยเลื่อนปกติ (Normal fault) เกิดจากการที่เปลือกโลกถูกดึงออกจากกัน ทำให้พนังด้านบนเลื่อนลงและผนังด้านล่างเลื่อนขึ้น
  • รอยเลื่อนย้อน (Reverse fault) เกิดจากที่เปลือกโลกถูกการอัดเข้าหากัน พนังด้านบนเลื่อนขึ้นและผนังด้านล่างเลื่อนลงและมีความหนามากขึ้น ในกรณีของรอยเลื่อนย้อนที่ระนาบการเลื่อนตัวเอียงเทเป็นมุมน้อยกว่า 45 องศา เรียกว่า รอยเลื่อนย้อนมุมต่ำ (thrust fault)

2. รอยเลื่อนตามแนวระดับ (Strike-slip fault) คือเคลื่อนที่ในแนวราบ แบ่งย่อยเป็น 2 ชนิด

  • รอยเลื่อนตามแนวระดับเหลื่อมขวา (dextral หรือ right-lateral fault) คือ เมื่อมองไปยังรอยเลื่อน พื้นที่ฝั่งขวาของรอยเลื่อน เลื่อนเข้าหาผู้สังเกต ซึ่ง ‘รอยเลื่อนสะกาย’ จัดอยู่ในรอยเลื่อนประเภทนี้
  • รอยเลื่อนตามแนวระดับเหลื่อมซ้าย (sinistral หรือ left-lateral fault) คือ เมื่อมองจากไปยังรอยเลื่อน พื้นที่ฝั่งซ้ายของรอยเลื่อน เลื่อนเข้าหาผู้สังเกต

3. รอยเลื่อนตามแนวเฉียง (Oblique-slip fault) คือมีการเคลื่อนผสมกัน ทั้งขึ้นลงและแนวราบ  

รูปแบบรอยเลื่อน 
รูปแบบรอยเลื่อน 
ภาพจากมิตรเอิร์ธ

รอยเลื่อนมีพลัง คืออะไร?

รอยเลื่อนมีพลัง (Active fault) เป็นรอยเลื่อนบนเปลือกโลก ที่พบหลักฐานว่าเคยเกิดการเลื่อน หรือขยับตัวมาแล้ว ในช่วง 10,000 ปี จึงถือว่าเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง มีโอกาสขยับตัวได้อีกในอนาคต ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ก็มักจะเกิดอยู่ในบริเวณของรอยเลื่อนเหล่านี้

รอยเลื่อนสะกาย ลักษณะเป็นอย่างไร?  

รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) ถือเป็นรอยเลื่อนมีพลังอันดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มีความยาวถึง 1,200 กิโลเมตร  และมีอัตราการเลื่อนเฉลี่ย 2 เซนติเมตรต่อปี ทอดตัวในแนวเหนือจรดใต้ผ่ากลางประเทศพม่า จากทางตอนเหนือของเมืองมิตจีนา (Myitkyina) และพาดผ่านเมืองสำคัญ เช่น เมืองมัณฑะเลย์, ตองยี, เนปยีดอ, พะโค, ย่างกุ้ง และทอดยาวลงไปในทะเลอันดามัน  

ตลอดแนวรอยเลื่อนสะกาย พบภูมิประเทศที่แสดงถึงการปริแตกของเปลือกโลกอยู่หลายแบบ เช่น ผารอยเลื่อน (fault scarp) เนินเขาขวาง (shutter ridge) หนองน้ำยุบตัว (sag pond) ทางน้ำหัวขาด (beheaded stream) และทางน้ำหักงอ (offset stream) ซึ่งภูมิประเทศเหล่านี้ช่วยยืนยันว่ารอยเลื่อนสะกายมีการเลื่อนตัวแบบ เหลื่อมข้างชนิดขวาเข้า (dextral strike-slip fault)  

ในทางธรณีแปรสัณฐาน นักธรณีวิทยาเชื่อว่ารอยเลื่อนสะกายเป็นขอบหรือรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกโบราณ 2 แผ่น คือ แผ่นซุนดาและแผ่นพม่า ซึ่งปัจจุบันถือเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นเปลือกโลก “ยูเรเซีย (Eurasian)” แล้ว โดยประเทศพม่าด้านตะวันออกจะอยู่​บนแผ่นยูเรเซีย ส่วนด้านตะวันตก​อจะยู่​บน​แผ่นเปลือกโลกอีกแผ่น คือ “อินเดีย (Indian)” ซึ่งมีส่วนใต้ของประเทศอินเดียรวมอย่​ูด้วย​

โดย ศาสตราจารย์ ดร.นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ได้อธิบายการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนสะกายไว้ว่า บางทีแผ่นเปลือกโลกอาจมีการลอยชนกัน หรือเบียดกันบ้าง ดังนั้น เวลาที่แผ่นอินเดียเบียดแผ่นยูเรเซีย ขอบแผ่นเปลือกโลกดังกล่าว (บริเวณรอยเลื่อนสะกาย) ที่ยังไม่เชื่อมกันสนิทจึงเกิดการเลื่อนตัวในแนวระนาบเหลื่อมขวา ซึ่งเวลาที่เบียดแล้วขยับหลุดพ้นกันก็จะเกิดแผ่นดินไหว ยิ่งถ้าเบียดกันเป็นเวลานานเวลาหลุดจากกัน แรงกระตุกก็จะมาก จนเกิดเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เหมือนที่เราพบเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อหลุดจากกันแล้วแผ่นเปลือกโลก​ก็จะเคลื่อนที่ต่อสะดวกขึ้น แต่ก็อาจมีจุดติดขัดเล็กๆ น้อยๆ เกิดเป็นแผ่นดิน​ไหว After​shock ตามมา

แผ่นดินไหวที่พม่า ทำไมสะเทือนไกลถึงกรุงเทพฯ?

แผ่นดินไหวสามารถเกิดได้ลึกจากใต้พื้นผิวโลกถึง 700 กิโลเมตร แต่แผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนสะกายที่ประเทศพม่าในครั้งนี้ มีความลึกเพียง 10 กิโลเมตรจากพื้นผิว ทำให้แผ่นดินไหวครั้งนี้ตื้นมาก และทำให้คลื่นกระแทกไม่สามารถสลายตัวได้ ดังนั้น การสั่นสะเทือนที่ผิวดินจึงมีความรุนแรงมากขึ้น

แม้ว่ากรุงเทพฯ จะไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวโดยตรง แต่โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมืองอาจทำให้ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมาก หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ “ชั้นดิน” ของกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีชั้นดินอ่อนและลึก ซึ่งสามารถขยายแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้มากกว่าพื้นที่ที่มีหินแข็งรองรับ หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง คลื่นไหวสะเทือนอาจถูกขยายความรุนแรงขึ้นเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ทำให้ตึกสูงและโครงสร้างพื้นฐานสั่นไหวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้นั่นเอง

(ก) แผนที่ประเทศพม่าแสดงแนวรอยเลื่อนสะกาย (เส้นสีน้ำเงิน)
(ก) แผนที่ประเทศพม่าแสดงแนวรอยเลื่อนสะกาย (เส้นสีน้ำเงิน)  
(ข-ค) ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงภูมิประเทศแบบผารอยเลื่อนและทางน้ำหักงอ ที่ตรวจพบทางตอนเหนือของเมืองมัณฑะเลย์และตอนใต้ของเมืองเนย์ปิดอว์ 
ภาพจาก มิตรเอิร์ธ

พิกัด! รอยเลื่อนมีพลัง 16 จุดในประเทศไทย ที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหว

สำหรับแนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยส่วนใหญ่ มักเกิดตามแนวรอยเลื่อนมีพลัง ซึ่งความจริงแล้วประเทศไทยมีแนวรอยเลื่อนส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคเหนือ และภาคตะวันตก โดยจากข้อมูลของศูนย์ปฎิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี แจ้งว่าประเทศไทย ยังมีรอยเลื่อนที่ยังมีพลัง 16 กลุ่มรอยเลื่อน ประกอบด้วย

1. รอยเลื่อนแม่จัน  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย มีการวางตัวในทิศตะวันตก-ตะวันออก
  • เป็นรอยเลื่อนที่มีพลังสูง
  • พาดผ่าน จ.เชียงใหม่ (อ.ฝาง/อ.แม่อาย), จ.เชียงราย (อ.แม่จัน/อ.เชียงแสน/อ.ดอยหลวง/อ.เชียงของ) และ สปป.ลาว
  • มีความยาวประมาณ 150 กิโลเมตร (เฉพาะประเทศไทย)
  • เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งสำคัญ เมื่อปี 2550 ขนาด 6.3 ในสปป.ลาว ส่งผลกระทบถึง จ.เชียงราย ผนังอาคารหลายหลังเสียหาย กรุงเทพมหานครสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในอาคารสูง

2. รอยเลื่อนแม่อิง  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย มีการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้
  • พาดผ่าน จ.เชียงราย (อ.เทิง/อ.ขุนตาล/อ.เชียงของ/อ.เวียงแก่น) และ สปป.ลาว
  • มีความยาวประมาณ 70 กิโลเมตร
  • ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา เกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว 5 ครั้ง
  • เกิดแผ่นดินไหวล่าสุด ปี 2554 ขนาด 4.1 ที่ จ.เชียงราย หลายอำเภอรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน

3 .รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนปกติ มีการวางตัวในทิศเหนือ-ใต้
  • พาดผ่าน จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน/อ.ขุนยวม/อ.แม่ลาน้อย/อ.แม่สะเรียง) และ จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง)
  • มีความยาวประมาณ 200 กิโลเมตร
  • ในอดีตมีการเลื่อนตัวหลายครั้ง ทำให้ธรณีสัณฐานเด่นชัดในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง คือ ทางน้ำแบบหุบเขารูปแก้วไวน์ และทำให้แผ่นดินไหวขนาดเล็กและขนาดปานกลางบ่อยหลายครั้งในพื้นที่รอยต่อ
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งสำคัญ คือ เมื่อปี 2556 ขนาด 5.1 ที่พม่า ประชนชนหลายจังหวัดในภาคเหนือรับรู้ถึงแรงสั่น

4. รอยเลื่อนเมย  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมขวา มีการวางตัวในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้
  • พาดผ่าน พม่า, จ.ตาก (ลำน้ำเมย/อ.ท่าสองยาง/อ.แม่ระมาด/อ.แม่สอด/อ.พบพระ/อ.เมืองตาก/อ.วังเจ้า) และ จ.กำแพงเพชร (อ.โกสัมพีนคร/อ.คลองลาน)
  • มีความยาวประมาณ 260 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ปี 2518 ขนาด 5.6 ที่บ้านท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ประชาชนรู้สึกได้หลายจังหวัดในภาคเหนือ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร

5. รอยเลื่อนแม่ทา  

ประกอบด้วยรอยเลื่อนหลากหลายรูปแบบแยกเป็นเขตๆ ได้แก่  

  • ลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนปกติ วางตัวในทิศเหนือ-ใต้ พาดผ่าน จ.เชียงใหม่ (อ.พร้าว/อ.ดอยสะเก็ด)
  • ลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมขวา วางตัวในทิศตะวันตกเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ จ.เชียงใหม่ (อ.สันกำแพง)
  • ลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย วางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ จ.ลำพูน (อ.แม่ทา)
  • มีความยาวรวมประมาณ 100 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ปี 2562 ขนาด 4.1 ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ประชาชนรู้สึกได้ทั่วจังหวัดเชียงใหม่

6. รอยเลื่อนเถิน  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย มีการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้
  • พาดผ่าน จ.แพร่ (อ.เมือง/อ.สูงเม่น/อ.ลอง/อ.วังชิ้น) และ จ.ลำปาง (อ.แม่ทพ/อ.สอบปราบ/อ.เถิน)
  • มีความยาวประมาณ 180 กิโลเมตร
  • กลุ่มรอยเลื่อนนี้แสดงลักษณะธรณีวิทยาโครงสร้าง และธรณีสัณฐานที่แสดงถึงการเลื่อนตัวครั้งใหม่ๆ เป็นจำนวนมาก
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว ขนาด 6.6 ที่บ้านปางงุ้น ต.แม่สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่

7. รอยเลื่อนพะเยา  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนปกติ มีการวางตัวในทิศเหนือ-ใต้
  • พาดผ่าน จ.เชียงราย (อ.พาน), จ.พะเยา (อ.เมือง) และ จ.ลำปาง (อ.วังเหนือ)
  • มีความยาวประมาณ 120 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ปี 2562 ขนาด 4.9 ที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง

8. รอยเลื่อนปัว  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนปกติ มีการวางตัวเป็นแนวยาวในทิศเหนือ-ใต้
  • พาดผ่าน รอยต่อไทย-สปป.ลาว และ จ.น่าน (อ.ทุ่งช้าง/อ.เชียงกลาง/อ.ปัว/อ.สันติสุข)
  • มีความยาวประมาณ 110 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ปี 2478 ขนาด 6.5 บริเวณรอยต่อของประเทศไทย-สปป.ลาว

9. รอยเลื่อนอุตรดิตถ์  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย  มีการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้
  • พาดผ่าน จ.อุตรดิตถ์ (อ.ฟากท่า/อ.น้ำปาด/อ.ทองแสนขัน/อ.พิชัย)
  • มีความยาวประมาณ 130 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเมื่อปี 2541 ขนาด 3.2  บริเวณอ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

10. รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมขวา มีการวางตัวในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้
  • เป็นรอยเลื่อนที่อยู่ด้านทิศตะวันตกของประเทศไทย ที่มีความสำคัญมากต่อประชาชนในกรุงเทพมหานคร
  • พาดผ่าน พม่า และเข้าสู่ตะเข็บชายแดนประเทศไทยด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี/อ.ทองผาภูมิ/อ.ศรีสวัสดิ์/อ.มะขามเตี้ย)
  • มีความยาวประมาณ 200 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว ขนาด 6.4 บริเวณบ้านแก่งแคบ ต.ชะแล อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

11. รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมขวา  มีการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้
  • พาดผ่าน พม่า, จ.ตาก (อ.อุ้มผาง), จ.กาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ/อ.ศรีสวัสดิ์/อ.หนองปรือ/อ.บา่อพลอย), จ.อุทัยธานี (เขตรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ.บ้านไร่) และ จ.สุพรรณบุรี (อ.ด่านช้าง)
  • มีความยาวประมาณ 220 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด เมื่อปี 2526 ขนาด 5.9 ที่ใกล้บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ

12. รอยเลื่อนระนอง  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย มีการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้
  • พาดผ่าน ทะเลอันดามัน, จ.พังงา (อ.ตะกั่วป่า/อ.คุระบุรี), จ. ระนอง (อ.สุขสำราญ/อ.กะเปอร์/อ.เมืองระนอง/อ.ละอุ่น/อ.กระบุรี), จ.ชุมพร (อ.พะโต๊ะ/อ.สวี/อ.เมืองชุมพร/อ.ท่าแซะ) และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.สะพานน้อย/อ.บางสะพาน/อ.ทับสะแก)
  • มีความยาวประมาณ 300 กิโลเมตร (เฉพาะส่วนที่ปรากฏบนพื้นดิน)
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ปี 2549 ขนาด 5.0 ที่อ่าวไทยด้สนทิศตะวันออก อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประชาชนในหลายท้องที่รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนพื้นดิน

13. รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย มีการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้
  • เริ่มปรากฎในทะเลอันดามันบริเวณทิศตะวันออกของ เกาะภูเก็ต  จ.ภูเก็ต พาดผ่าน จ.พังงา (เกาะยาว/คลองมะรุ่ย/อ.ทับปุด/อ.ตะกั่วทุ่ง/อ.ท้ายเหมือง) และ จ.สุราษฎร์ธานี (อ.พนม/อ.คีรีรัฐนิยม/อ.บ้านตาขุน/อ.วิภาวดี/อ.ท่าฉาง/อ.ไชยา)
  • มีความยาวเฉพาะส่วนบนแผ่นดิน ประมาณ 140 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด เมื่อปี 2558 ขนาด 4.5 ในทะเลใกล้กับเกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงา

14. รอยเลื่อนเพชรบูรณ์  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนปกติ มีการวางตัวในทิศเหนือ-ใต้ ขนาบสองข้างของแอ่งที่ราบเพชรบูรณ์ โดยเอียงเทเข้าหากลางแอ่งทั้งสองด้าน
  • พาดผ่าน จ.เพชรบูรณ์ (อ.หล่มเก่า/อ.หล่มสัก/อ.เมืองเพชรบูรณ์)
  • มีความยาวประมาณ 150 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ปี 2533 ขนาด 4.0 ที่ อ.หล่มสัก และอ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์

15. รอยเลื่อนแม่ลาว  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนตามแนวระนาบเหลื่อมซ้าย มีการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้
  • พาดผ่าน จ.เชียงราย (อ.แม่สรวย/อ.แม่ลาว/อ.เมืองเชียงราย)
  • มีความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ปี 2557 ขนาด 6.3 ที่ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย นับว่าเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในรอบกว่า 50 ปี ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก

16. รอยเลื่อนเวียงแหง  

  • มีลักษณะการเลื่อนแบบรอยเลื่อนปกติ มีการวางตัวในทิศเหนือ-ใต้
  • พาดผ่าน จ.เชียงใหม่ (อ.เวียงแหง/อ.สะเมิง)
  • มีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร
  • เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว ขนาด 6.8 ที่บ้านเปียงหลวง ต.เปียงหลวง และบ้านเวียงแหง ตำบาลเมืองแหง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่
แผนที่ชี้พิกัด 16 รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย
แผนที่ชี้พิกัด 16 รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย

เขตกำเนิดแผ่นดินไหว ที่อาจส่งผลต่อไทย

นอกเหนือจากรอยเลื่อนมีพลัง 16 จุด ในประเทศไทยแล้ว ยังมีเขตกำเนิดแผ่นดินไหวในบริเวณรอบๆ ครอบคลุมรัศมี 300 กิโลเมตร ที่อาจส่งผลต่อประเทศไทยในอนาคต โดยทางมิตรเอิร์ธ ได้สรุปข้อมูลเขตกำเนิดแผ่นดินไหว เมื่อปี พ.ศ. 2566 ไว้ดังนี้

เขตกำเนิดแผ่นดินไหว (Seismic Source Zone) หมายถึง พื้นที่ที่มีพฤติกรรมหรือกิจกรรมทางธรณีแปรสัณฐาน (tectonic activity) เหมือนๆ กัน มีนิสัยการเกิดแผ่นดินไหวทั้งเรื่องขนาดและความถี่คล้ายๆ กัน

1. เขตขอบการชนกัน  (Inter plate) ที่เด่นชัดที่สุดและอาจส่งผลต่อประเทศไทย คือ เขตมุดตัวของเปลือกโลกสุมาตรา-อันดามัน (Sumatra-Andaman Subduction Zone) ซึ่งมีความยาวประมาณ 4,145 กิโลเมตร วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ พาดผ่านทางตะวันตกของประเทศพม่า หมู่เกาะนิโคบาร์ในทะเลอันดามัน ต่อเนื่องลงไปถึงตอนใต้ของเกาะสุมาตรา

2. เขตส่วนการมุดตัว (Intra slab) Charusiri และ Pailoplee (2015a) ได้สร้างแบบจำลองการกระจายตัวของแผ่นดินไหวในรูปแบบของภาคตัดขวาง โดยพิจารณาตามแนวการวางตัว 6 แนว พาดผ่านเขตมุดตัวของเปลือกโลกต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน พบว่า  

  • เขตมุดตัวของเปลือกโลกสุมาตรา-อันดามัน บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ ลักษณะการมุดตัวของเปลือกโลกไปทางตะวันออก เริ่มมุดตัวช่วงกิโลเมตรที่ 300 ของภาคตัดขวาง ทำมุมการมุดตัวประมาณ 45 องศา และมุดลงไปถึงความลึก 180 กิโลเมตร ใต้พื้นโลกบริเวณกิโลเมตรที่ 500
  • เขตมุดตัวของเปลือกโลกสุมาตรา-อันดามัน บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา โดยแสดงการมุดตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงกิโลเมตรที่ 450 ของภาคตัดขวาง และมุดลงไปถึงความลึก 250 กิโลเมตร ใต้พื้นโลก โดยทำมุมการมุดตัวประมาณ 30 องศา ซึ่งมีความชันของการมุดตัวต่ำกว่าเขตมุดตัวของเปลือกโลกในพื้นที่ข้างเคียง

จากภาคตัดขวาง แสดงให้เห็นการมีอยู่จริงของแผ่นเปลือกโลกส่วนที่มุดลงไป และเป็นแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว  

3. เขตรอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) สาเหตุแผ่นดินไหวที่พม่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่าน ถือเป็นหนึ่งใน รอยเลื่อนมีพลัง (active fault) ที่สำคัญอันดับต้นๆ ในอาเซียนบ้านเรา  

4. เขตแอ่งตะกอนอันดามัน (Andaman basin) เกิดจากการเลื่อนตัวเหลื่อมกัน ด้วยอัตราการเลื่อนตัวที่ไม่เท่ากันของ รอยเลื่อนสะกายทางตอนเหนือ และรอยเลื่อนสุมาตราทางตอนใต้ ทำให้บริเวณตรงกลางรอยต่อของรอยเลื่อนทั้งสองนี้ เกิดแรงดึงภายในแผ่นเปลือกโลก ทำให้พื้นที่แยกตัวออกจากกัน กลายเป็นแอ่งตะกอนอันดามัน ซึ่งเป็นแอ่งตะกอนที่เกิดคล้ายกับกระบวนการเกิด ภูเขารอยเลื่อน (fault-block mountain) ซึ่งเป็นภูเขาที่เกิดจากแรงดึงทางธรณีแปรสัณฐาน ทำให้พื้นทวีปถูกยืดออกจากกันและแตกเป็นท่อนๆ และมีการยุบตัวลงอย่างเป็นระบบ เกิดภูมิลักษณ์ทางธรณีวิทยาแบบ ร่องขนาบรอยเลื่อน (graben) และ เขาขนาบรอยเลื่อน (horst) หรือในทางภูมิศาสตร์นั้น กลายเป็นแอ่งราบและเทือกเขาสลับกันไป

5. เขตรอยเลื่อนสุมาตรา (Sumatra fault) ด้วยภูมิประเทศบ่งชี้รอยเลื่อนที่คมชัด และมีความยาวมาก ทำให้รอยเลื่อนสุมาตราเป็นรอยเลื่อนที่น่ากลัว ในทางธรณีแปรสัณฐานรอยเลื่อนสุมาตรา วางตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเชียงใต้ ผ่ากลางเกาะสุมาตรา พฤติกรรมการเรื่องตัวเป็นแบบ รอยเลื่อนในแนวระดับ (strike-slip fault) ที่มีภูมิประเทศคมชัดบ่งชี้เป็นนัยว่ามีอัตราการเลื่อนตัวสูง จึงเป็นแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวที่สำคัญของอินโดนีเซีย และอาจส่งผลด้านแรงสั่นสะเทือนมาถึงภาคใต้ของไทย

6.เขตแสนหวี-นานติง (Hsenwi-Nanting) เป็นรอยเลื่อนในแนวระดับ (strike-slip fault) ที่วางตัวในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศพม่า ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลจากภาคเหนือของไทย แต่ด้วยความคมชัดของภูมิประเทศ และสถิติการเกิดแผ่นดินไหวที่ผ่านมา รอยเลื่อนแสนหวี-นานติง จึงควรนำมาพิจารณาเป็นเขตกำเนิดแผ่นดินไหว ที่อาจส่งผลกระทบต่อไทย  

7. เขตจิงหง-เม็งซิง (Jinghong-Mengxing) เป็นรอยเลื่อนในแนวระดับ (strike-slip fault) ที่วางตัวในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ทางตอนใต้ของเขตแสนหวี-นานติง (Hsenwi-Nanting) รอยเลื่อนกลุ่มนี้สามารถสร้างแผ่นดินไหวในระดับที่เป็นภัยพิบัติได้ ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้ภาคเหนือของไทย เขตกำเนิดแผ่นดินไหวนี้จึงน่ากลัว โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศไทย

8. เขตเดียนเบียนฟู (Dein Bein Fhu) ถือเป็นรอยเลื่อนหรือเขตกำเนิดแผ่นดินไหวที่สำคัญในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือของทั้งประเทศไทยและลาว การวางตัวของรอยเลื่อนเดียนเบียนฟูวางตัวอยู่ในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ พาดผ่านเวียดนามตอนเหนือ ลาวตอนเหนือ และเข้ามาในประเทศไทยในแถบจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งในประเทศไทยเรียกว่า รอยเลือดน้ำปาด หรือรอยเลือดอุตรดิตถ์ โดยมีพฤติกรรมการเลื่อนตัวเป็นแบบเลื่อนในแนวราบ (strike-slip fault) และมักก่อให้เกิดแผ่นดินไหวในระดับตื้น อีกความสำคัญของรอยเลื่อนนี้คือเป็นรอยเลื่อนที่พาดผ่านเขื่อนขนาดใหญ่จำนวนมากที่กั้นในแม่น้ำโขงในแถบประเทศลาว ดังนั้น ในการประเมินภัยพิบัติแผ่นดินไหวกับเขื่อนสำคัญๆ รอยเลื่อนตัวนี้จึงมีความเกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำ  

9. เขตแม่น้ำดา-แม่น้ำมา (Song Da-Song Ma) เป็นกลุ่มรอยเลื่อนทางตอนเหนือของเวียดนาม ติดกับชายแดนประเทศลาว มีแนวการวางตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรอยเลื่อนที่เลื่อนตัวในแนวราบ และด้วยที่ตั้งที่อยู่ในพื้นที่ราบเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้รอยเลื่อนนี้เป็นรอยเลื่อนที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวเวียดนาม อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในรัศมี 300 กิโลเมตร จากประเทศไทย พบว่ารอยเลื่อนแม่น้ำดาและแม่น้ำมาอยู่ในรัศมีทำการที่อาจส่งแรงสั่นสะเทือนตอนประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนเหนือของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย  

10. เขตรอยเลื่อนเซียนฉุย (Xianshuihe fault) เป็นหนึ่งในรอยเลื่อนมีพลังที่เกิดผลจากการชนกันของเปลือกโลกแผ่นอินเดียกับแผ่นยูเรเซีย ทำให้เกิดที่ราบสูงทิเบตและเกิดการบดขยี้ของพื้นที่ทำให้เกิดแนวรอยเลื่อนมากมาย โดยเฉพาะปลายทางตะวันออกของที่ราบสูงทิเบต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ รอยเลื่อนเซียนฉุย ที่ทอดตัวลงมาทางตอนใต้อยู่ในรัศมี 300 กิโลเมตรจากประเทศไทย จึงกำหนดให้เป็นหนึ่งในเขตแผ่นดินไหวที่อาจส่งผลต่อประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือ  

11. เขตรอยเลื่อนแม่น้ำแดง (Red River fault) ถือเป็นรอยเลื่อนที่มีขนาดยาวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเสียงใต้ และเป็นรอยเลื่อนที่มีภูมิประเทศบ่งชี้รอยเลื่อนคมชัดที่สุดในอันดับต้นๆ ในแถบนี้ ในทางภูมิศาสตร์รอยเลื่อนแม่น้ำแดงวางตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ พาดผ่านจากจีนตอนใต้ลงสู่ประเทศเวียดนาม โดยมีพฤติกรรมการเลื่อนตัวเป็นแบบเลื่อนในแนวราบ (strike-slip fault) ถึงแม้จะมีความยาวจนน่ากลัว แต่ด้วยความที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นเปลือกโลก ทำให้รอยเลื่อนแม่น้ำแดงมักไม่ค่อยก่อให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยนัก แต่จากสถิติที่บันทึกไว้พบว่า แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ คือแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ที่เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2513 จึงประเมินว่ารอยเลื่อนแม่น้ำแดง เป็นรอยเลื่อนที่เกิดแผ่นดินไหวไม่บ่อย แต่สามารถเกิดแผ่นดินไหวในระดับรุนแรงและเป็นภัยพิบัติต่อพื้นที่โดยรอบได้เช่นกัน

 

มาทดสอบความรู้กัน

น้องๆ ได้ทำความเข้าใจเรื่องการเกิดแผ่นดินไหว ลักษณะรอยเลื่อนรูปแบบต่างๆ รวมถึงรอยเลื่อนมีพลังในไทยกันไปแล้ว วันนี้พี่แป้งมีแบบทดสอบมาให้ทุกคนทดลองฝีมือกันด้วยค่ะ 

 

1.ข้อใดคือสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว 

ก. คลื่นสึนามิ 

ข. โลกหมุน 

ค. น้ำขึ้น-น้ำลง

ง. การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก

___________________________________________________

2. แผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ในประเทศไทย มักจะมีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ในประเทศใด

ก. พม่า 

ข. ลาว 

ค. กัมพูชา 

ง. มาเลเซีย 

__________________________________________

3. รอยเลื่อนใดในประเทศไทยที่มีรอยต่อกับรอยเลื่อนของพม่าและมักเกิดแผ่นดินไหวนับพันครั้ง 

ก. รอยเลื่อนเวียงเจดีย์ 

ข. รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน 

ค.  รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์

ง. รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์

__________________________________________

4. “รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย” จัดเป็นแนวรอยเลื่อนที่มีพลัง อยู่บริเวณใดของประเทศไทย 

ก. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

ข. ภาคตะวันตก 

ค. ภาคเหนือ 

ง. ภาคใต้

 

 

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ เราควรที่จะการศึกษาและทำความเข้าใจรอยเลื่อนที่พาดผ่านจังหวัดต่างๆ ของบ้านเรา และรอยเลื่อนอื่นๆ ที่พาดผ่านประเทศไทย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถทำนายได้ว่า แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นที่ไหนและเกิดขึ้นเมื่อไร รวมถึงควรศึกษาวิธีการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติรูปแบบต่างๆ เอาไว้ เพื่อที่เวลาเกิดเหตุจะได้สามารถหาทางป้องกันและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดภัย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  https://www.thairath.co.th/news/society/2705843https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02VxkW26QrL3c9fWNAEL5HbM8tHRGwvZSRZg3955FSamATgpnbPvbUqe7nD9Dyc2KFl&id=100048788293356https://tmd.go.th/info/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95-%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%99https://www.mitrearth.org/17-5-fracture-and-fault/https://www.mitrearth.org/4-89-sagaing-fault/ 

 

  

 

 

พี่แป้ง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น