เกือบ 20 ปีในวงการการศึกษา กว่าจะเรียนจบได้ใบปริญญา ใครว่าเด็กไทยต้องสอบแค่กลางภาค หรือปลายภาคเท่านั้น? ยังมีการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าเป็นสนามสอบสำคัญระดับชาติ นอกจากนี้ ยังมีการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นต่าง ๆ เช่น ม.1 และ ม.4 รวมถึงการสอบวัดระดับความรู้ด้านต่าง ๆ สอบแข่งขันวิชาการอีกมากมายที่เด็กไทยต้องเจอ
วันนี้คอลัมน์ ‘เรื่องนี้โรงเรียนไม่ได้สอน’ รวบรวมมาให้แล้วว่ากว่าจะเรียนจบเด็กไทยต้องสอบอะไรบ้าง? เพื่อให้น้องๆ รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองจะได้เตรียมตัวและวางแผนการศึกษากันได้อย่างเหมาะสม
กลุ่มที่ 1 สอบเข้าศึกษาต่อระดับชั้น ม.1 และ ม.4
ระบบการสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ของโรงเรียนต่าง ๆ ในประเทศไทยมีรูปแบบข้อสอบ และเกณฑ์การคัดเลือกที่แตกต่างกันไปตามประเภทของโรงเรียน เนื่องจากปัจจุบันมีโรงเรียนหลากหลายรูปแบบ เช่น
- โรงเรียนรัฐบาล ภายใต้ สพฐ.
- โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร
- โรงเรียนสาธิตต่าง ๆ เช่น สาธิต มศว. / สาธิต มธ. / สาธิต มก. ฯลฯ
- โรงเรียนเอกชน
- โรงเรียนทางเลือก เช่น รุ่งอรุณ / เพลินพัฒนา / อมาตยกุล
- โรงเรียนวิทยาศาสตร์ เช่น จุฬาภรณราชวิทยาลัย / มหิดลวิทยานุสรณ์ / กำเนิดวิทย์
ดังนั้น รูปแบบการสอบเข้าจึงมีความแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะครอบคลุมในรายวิชาหลักอย่าง วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
วิชาที่ต้องสอบ
ม.1 | ม.4 |
- บางโรงเรียนสอบครบทั้ง 5 วิชา - บางโรงเรียนอาจจัดสอบเพียงบางวิชาเท่านั้น
| - บางโรงเรียนสอบครบทั้ง 5 วิชา - บางโรงเรียนจัดสอบเพียงบางวิชา
|
เกณฑ์คะแนนที่ใช้คัดเลือก
เกณฑ์การคัดเลือกในการสอบเข้าจะอิงตามรูปแบบการคัดเลือกเป็นหลัก และจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียนด้วย เช่น คัดเลือกจากคะแนนสอบเพียงอย่างเดียว หรือมีการคัดเลือกโดยพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX), เกรดเฉลี่ยรายวิชา (GPA), กิจกรรมพิเศษ หรือความสามารถพิเศษ รวมถึงการสอบสัมภาษณ์เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในระดับชั้น ม.4 บางโรงเรียนอาจมีให้สอบวิชาอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์ จุฬาภรณราชวิทยาลัย, มหิดลวิทยานุสรณ์, กำเนิดวิทย์ การสอบเข้าข้อสอบจะเน้นไปที่วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ รวมถึงอาจมีเนื้อหาวิชาฟิสิกส์ เคมี หรือชีววิทยา ซึ่งจะเป็นความรู้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายรวมอยู่ด้วย
กลุ่มที่ 2 สอบเข้ามหาวิทยาลัย
กลุ่มนี้จัดเป็นการสอบระดับประเทศ โดยใช้ระบบ TCAS ซึ่งสามารถสมัครได้ทุกวุฒิ ทั้ง ม.6 / สายอาชีพ (ปวช.) / และเทียบวุฒิ GED และจะใช้ข้อสอบกลางในการสอบ คะแนนที่ได้จากการสอบสนามนี้จะถูกใช้เป็นคะแนนหลักในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งข้อสอบกลางที่ต้องสอบเพื่อสมัครในระบบ TCAS แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หลัก ได้แก่ TGAT TPAT และ A-Level ซึ่งน้องๆ ไม่จำเป็นต้องสมัครทุกวิชา เลือกสอบตามที่ทางคณะ หรือสาขากำหนดได้เลย
นอกจากนี้ ยังมี O-NET ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีการบังคับสอบแล้ว เนื่องจากไม่ได้เป็นคะแนนหลักในการยื่นสมัครสอบ TCAS โดยแต่ละวิชามีรายละเอียด ดังนี้
1. TGAT
TGAT คือ ข้อสอบวัดความถนัดทั่วไป แบ่งออกเป็น 3 พาร์ต
- TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ (60 ข้อ)
- TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล (80 ข้อ)
- TGAT3 สมรรถนะการทำงาน (60 ข้อ)
Note : TGAT ทั้ง 3 พาร์ต ถือเป็น 1 วิชา น้องๆ ไม่สามารถเลือกสอบแบบแยกพาร์ตได้ ทั้งนี้อาจมีบางมหาวิทยาลัยนำคะแนนแค่บางพาร์ตไปใช้ เวลาสอบน้องๆ จะสอบแค่พาร์ตที่ใช้คะแนนก็ได้ แต่พี่แป้งแนะนำว่าทำให้ครบทั้ง 3 พาร์ตไปเลยจะปลอดภัยที่สุดค่ะ
2. TPAT
TPAT คือ ข้อสอบความถนัดวิชาชีพ แบ่งออกเป็น 5 วิชาให้เลือกสอบ
- TPAT1 กสพท หรือ ความถนัดทางแพทย์
- TPAT2 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (150 ข้อ)
- TPAT3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ (70 ข้อ)
- TPAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ (80 ข้อ)
- TPAT5 ความถนัดทางครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ (100 ข้อ)
3. A-Level
A-Level คือ ข้อสอบวัดความรู้วิชาการ แบ่งออกเป็น 16 วิชาให้เลือกสอบ
- A-Level 61 คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน + เพิ่มเติม) (30 ข้อ)
- A-Level 62 คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 (พื้นฐาน) (30 ข้อ)
- A-Level 63 วิทยาศาสตร์ประยุกต์ (30 ข้อ)
- A-Level 64 ฟิสิกส์ (30 ข้อ)
- A-Level 65 เคมี (35 ข้อ)
- A-Level 66 ชีววิทยา (40 ข้อ)
- A-Level 70 สังคมศึกษา (50 ข้อ)
- A-Level 81 ภาษาไทย (50 ข้อ)
- A-Level 82 ภาษาอังกฤษ (80 ข้อ)
- A-Level 83 ภาษาฝรั่งเศส (50 ข้อ)
- A-Level 84 ภาษาเยอรมัน (50 ข้อ)
- A-Level 85 ภาษาญี่ปุ่น (50 ข้อ)
- A-Level 86 ภาษาเกาหลี (50 ข้อ)
- A-Level 87 ภาษาจีน (50 ข้อ)
- A-Level 88 ภาษาบาลี (50 ข้อ)
- A-Level 89 ภาษาสเปน (50 ข้อ)
โดยการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันจะใช้ระบบ TCAS แบ่งออกเป็น 4 รอบ ดังนี้
- รอบที่ 1 Portfolio เน้นคัดเลือกจากคุณสมบัติผู้สมัคร และพิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio), เกรดเฉลี่ย (GPAX) หรือคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับสาขานั้นๆ
- รอบที่ 2 Quota เน้นรับสมัครนักเรียนที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น นักเรียนในเขตพื้นที่, นักเรียนในโควตาโรงเรียน ฯลฯ โดยแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนดเกณฑ์คัดเลือกเอง
- รอบที่ 3 Admission เปิดรับสมัครพร้อมกันผ่านเว็บไซต์ myTCAS เกณฑ์ในรอบนี้มหาวิทยาลัยจะกำหนดเอง โดยจะเลือกใช้คะแนนจากข้อสอบกลาง TGAT/TPAT และ A-Level ตามสัดส่วนค่าน้ำหนักที่ต้องการ
- รอบที่ 4 Direct Admission เป็นรอบที่มหาวิทยาลัยเปิดรับเองหลังจากประกาศผลในรอบ 3 Admission เน้นรับกลุ่มนักเรียนที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกรอบต่างๆ หรือนักเรียนที่สละสิทธิ์เพื่อมารอรอบถัดไป
เกณฑ์ที่ใช้คัดเลือก
อ้างอิงข้อมูลล่าสุดจาก TCAS68- รอบที่ 1 Portfolio : แฟ้มสะสมผลงาน, GPAX (5 เทอม) คะแนน TGAT/TPAT หรือคะแนนอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะกำหนด เช่น CU-TEP, SAT, BMAT เป็นต้น
- รอบที่ 2 Quota : GPAX (5 หรือ 6 เทอม), คะแนนสอบ A-Level, TGAT/TPAT หรือคะแนนอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะกำหนด เช่น NETSAT
- รอบที่ 3 Admission
- คณะทั่วไป : GPAX (6 เทอม), คะแนนสอบ A-Level, TGAT/TPAT หรืออื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะกำหนด
- คณะ กสพท : TPAT1 30% และ A-Level 70% (ฟิสิกส์ + เคมี + ชีวะ 28% , คณิต 1 14% , ภาษาอังกฤษ 14% , ภาษาไทย 7% , สังคม 7%)
- รอบที่ 4 Direct Admission : GPAX (6 เทอม), คะแนนสอบ A-Level / TGAT/TPAT หรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะกำหนด
หมายเหตุ : ในแต่ละปีวิชาที่ใช้สอบ และสัดส่วนคะแนนอาจมีการปรับเปลี่ยน ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การคัดเลือกของแต่ละมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บางรอบอาจมีการสอบวิชาเฉพาะของทางมหาวิทยาลัยด้วย แนะนำว่าให้น้อง ๆ รอติดตามข่าวสาร ทั้งจากเว็บไซต์มหาวิทยาลัย, เว็บไซต์ mytcas.com หรือดาวน์โหลด App “เด็กดี TCAS” ติดเครื่องไว้ ทันทีที่มีข่าวเปิดรับสมัครจะมีแจ้งเตือนบอกทันที โหลดฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
4. O-NET
O-NET คือ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้และความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
วิชาที่ต้องสอบ
| ป.6 | ม.3 | ม.6 |
| - ภาษาไทย - ภาษาอังกฤษ - คณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์ | - ภาษาไทย - ภาษาอังกฤษ - คณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์ | - ภาษาไทย - ภาษาอังกฤษ - คณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์ - สังคมศึกษา |
ทำไมการสอบ O-NET มีความสำคัญต่อนักเรียน?
- สอบได้ครั้งเดียวแต่คะแนนจะติดตัวตลอดชีวิต
- บางโรงเรียนใช้คะแนน O-NET ในการสมัครเข้าเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ 4
- ทดสอบความรู้ของนักเรียน และประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียน
- ประเมินคุณภาพโรงเรียนระดับชาติ
เดิมทีการสอบ O-NET ต้องสอบทุกคน แต่ปัจจุบันมีการอนุโลมให้ว่าจะสอบหรือไม่สอบก็ได้ สำหรับเด็ก ม.6 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้มีการใช้คะแนนส่วนนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม บางอาจโรงเรียนก็อาจขอความร่วมมือให้นักเรียนสอบ เพื่อเป็นการทดสอบความรู้ของนักเรียน และประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียน
รวมถึงบางโรงเรียนอาจใช้คะแนน O-NET ในการสมัครเข้าเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ 4 ด้วย ดังนั้น น้องๆ และผู้ปกครอง ควรอ่านรายละเอียดเกณฑ์การรับสมัครกันอย่างรอบคอบด้วยนะคะ
กลุ่มที่ 3 สอบเฉพาะทาง
สำหรับการสอบในกลุ่มนี้เป็นการสอบเฉพาะบุคคลเท่านั้น โดยจะเป็นข้อสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีการใช้คะแนนสอบด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ภาษาอังกฤษ แพทย์ วิศวกรรม ฯลฯ ส่วนใหญ่แล้วคะแนนเหล่านี้มักจะถูกนำมาเป็นเกณฑ์การคัดเลือกในรอบ 1 Portfolio
TBAT - Thai Biomedical Admissions Test
เป็นข้อสอบความถนัดทางวิทยาศาสตร์ รูปแบบภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาหลักสูตรนานาชาติ ที่ทาง CU-ATC (Chulalongkorn University Academic Testing Center) พัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้ทดแทนข้อสอบ BMAT เหมาะสำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ คณะแพทยศาสตร์/คณะทันตแพทยศาสตร์/คณะเภสัชศาสตร์/คณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะสหเวชศาสตร์
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TBAT
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์/ทันตแพทย์ศาสตร์ ต้องยื่นคะแนน TBAT ควบคู่ไปกับคะแนนสอบ CU-AAT ด้วย
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2567) ต้องยื่นคะแนน TBAT ควบคู่ไปกับคะแนนสอบ CU-AAT หรือ MCAT ด้วย
______________________________
UCAT - University Clinical Aptitude Test
เป็นข้อสอบวัดระดับความถนัดทางคลินิกสำหรับการศึกษาต่อในคณะวิชาสายการแพทย์ และทันตกรรม ที่นิยมใช้งานกันในประเทศอังกฤษและมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั่วโลก เหมาะสำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TBAT
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ CICM (วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์) ได้แก่
- คณะแพทยศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ)
- คณะแพทยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ/หลักสูตรใหม่ 2567)
- คณะทันตแพทยศาสตร์ (หลักสูตรทวิภาษา)
______________________________
MCAT - The Medical College Admission Test
เป็นข้อสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในคณะทางการแพทย์ที่จัดสอบโดยสมาคมวิทยาลัยการแพทย์อเมริกัน (AAMC – Association of American Medical Colleges) เพื่อวัดความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนแพทย์ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา โดยปกติแล้วการเข้าศึกษาต่อคณะแพทย์ในสหรัฐอเมริกาจะต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว (และต้องผ่านการเรียนวิชา Pre-Med Coursework เช่น เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ มาก่อน) ดังนั้น ข้อสอบ MCAT จึงออกแบบมาวัดความรู้และทักษะที่อยู่ในระดับมหาวิทยาลัยและมีความยากกว่าเนื้อหาระดับม.ปลาย
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน MCAT
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ (โครงการ MDX)
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2567)
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) หรือ CU-MEDi รับเฉพาะผู้จบปริญญาตรี
______________________________
AKAT - Aptitude Knowledge Admission Test
เป็นข้อสอบวัดความถนัดทางการเรียนที่ทางสำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ (มศว) เป็นผู้พัฒนาขึ้นมาใช้งานทดแทนข้อสอบ BMAT เริ่มสอบครั้งแรกในปี 2567
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน AKAT
- มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ เช่น
- คณะแพทยศาสตร์ โครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม (SWU-NOTT)
- คณะทันตแพทยศาสตร์ หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต (ภาษาไทย ปกติ)
______________________________
NETSAT - North Eastern Thailand Scholastic Aptitude Test Center
เป็นศูนย์ทดสอบความฉลาดในการเรียนรู้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อประเมินความพร้อมของผู้เรียนก่อนเข้าสู่การเรียนในระดับอุดมศึกษา สำหรับนักเรียนในระดับ ม.ปลาย (ม.5 -6) รวมถึงระดับ ปวช. ชั้นปีที่ 2-3 ซึ่งเรียนกับโรงเรียนในสังกัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (แต่ไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านอยู่ในภาคอีสาน) เพื่อใช้คะแนนในการยื่นสอบรอบ 2 โควตาเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน NETSAT
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยื่นคะแนนในระบบ TCAS รอบ 2 โควตา
______________________________
CU-AAT
ย่อมาจาก Chulalongkorn University Academic Aptitude Test เป็นข้อสอบวัดความสามารถทางคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ หรือภาคอินเตอร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน CU-AAT
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่น
- The Bachelor of Business Administration or BBA International Program หลักสูตรบริหารธุรกิจ
- Aerospace Engineering (AERO) หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิศวกรรมอากาศยาน
- Applied Chemistry (BSAC) หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมีประยุกต์
- Architectural Design (INDA) หลักสูตรการออกแบบสถาปัตยกรรม
- Communication Management (COMMARTS) หลักสูตรการจัดการการสื่อสาร
______________________________
CU-ATS
ย่อมาจาก Chulalongkorn University Aptitude Test for Science เป็นข้อสอบวัดความถนัดในด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับผู้มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน CU-ATS
- หลักสูตรนานาชาติของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ (BSAC)
- หลักสูตรนานาชาติของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ (ISE และ ChPE)
______________________________
CU-TAD
ย่อมาจาก Chulalongkorn University Test of Aptitude in Design เป็นข้อสอบวัดความถนัดด้านการออกแบบ สำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการออกแบบสถาปัตยกรรม (INDA) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากเปรียบเทียบกับข้อสอบออกแบบหลักสูตรไทยเทียบได้กับ TPAT4
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน CU-TAD
- หลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการออกแบบสถาปัตยกรรม จุฬาฯ (INDA) ______________________________
SAT
ย่อมาจาก Scholastic Aptitude Test เป็นการทดสอบการใช้เหตุผล เป็นข้อสอบมาตรฐานสำหรับการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถานบันอุดมศึกษา หลักสูตรนานาชาติ ทั้งนี้ข้อสอบได้รับการพัฒนาโดย College Board ซึ่งเป็นองค์การองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร SAT เป็นข้อสอบระดับ High School หรือ International Student ต้องสอบสำหรับใช้ยื่นเข้ามหาลัย โดยข้อสอบจะอบ่งเป็น 2 พาร์ตหลัก ได้แก่ Evidence-Based Reading & Writing และ Mathematics
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน SAT
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ เช่น
- หลักสูตรบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (BBA CU)
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือ ISE (International School of Engineering)
- วิศวกรรมเคมี หรือ ChPE (Chemical and Process Engineering)
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ เช่น
- คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน (BJM)
- คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ (BEC)
- คณะเศรษฐศาสตร์ สาขา Monetary and Financial Economics (เศรษฐศาสตร์การเงินและสกุลเงิน)
______________________________
SAT SUBJECT TESTS
หรือ SAT II เป็นการสอบวิชาเฉพาะทางที่จำเป็น สำหรับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่ง SAT Subject Tests ได้มีการเปิดสอบด้วยกันหลายวิชา ดังนี้
Mathematics (ยากกว่า SAT I) - Mathematics Level 1 - Mathematics Level 2 | Science - Chemistry - Physics - Biology E/M | History & Social Studies - U.S. History - World History |
English - Literature | Reading ONLY - French - German - Modern Hebrew - Spanish - Italian - Latin | Reading & Listening - French with Listening - German with Listening - Spanish with Listening - Chinese with Listening - Korean with Listening -Japanese with Listening |
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน SAT SUBJECT TESTS
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเคมีและกระบวนการ (หลักสูตรนานาชาติ)
กลุ่มที่ 4 สอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ
สำหรับการสอบในกลุ่มนี้เป็นการสอบเฉพาะบุคคล เช่นเดียวกับกลุ่มที่ 2 โดยจะเป็นข้อสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีการใช้คะแนนสอบด้านภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่แล้วคะแนนเหล่านี้มักจะถูกนำมาเป็นเกณฑ์การคัดเลือกในรอบ 1 Portfolio
IELTS
ย่อมาจาก International English Language Testing System เป็นการทดสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง พูด อ่าน และเขียน สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อ หรือทำงานในต่างประเทศ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก โดย IELTS สามารถใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยทั้งภาคไทย และภาคอินเตอร์ในระดับปริญญาตรี หรือระดับปริญญาโทในประเทศไทยได้อีกด้วย
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน IELTS
- สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตร : วิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และการเป็นผู้ประกอบการ (หลักสูตรนานาชาติ) (หลักสูตรร่วม สจล. และ ม.กรุงเทพ)
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การประกอบการ (นานาชาติ)
______________________________
TOEFL
ย่อมาจาก Test of English as a Foreign Language เป็นแบบทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษ ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะคือการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยยึดตามภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (American English) เพื่อวัดระดับทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติหรือภาษาหลักในการสื่อสาร
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TOEFL
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมีบูรณาการ (หลักสูตรนานาชาติ)
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาลัยนวัตกรรม สาขาวิชานวัตกรรมการบริการ (หลักสูตรนานาชาติ)
______________________________
TOEIC
โดยปกติแล้วการสอบ TOEIC จะนิยมใช้เพื่อนำคะแนนที่ได้ไปยื่นสมัครงาน ไม่ว่าจะเป็น องค์กรในประเทศ หรือต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในบางมหาวิทยาลัยก็มีการเปิดให้ใช้คะแนน TOEIC เพื่อสมัครเรียนได้ด้วย ซึ่งข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ทักษะที่นิยมกัน ได้แก่ Reading (การอ่าน) และ Writing (การเขียน)
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TOEIC
- มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ คณะสหเวชศาสตร์ สาขาเทคนิคการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ)
- มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะศิลปะศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
______________________________
CU-TEP
ข้อสอบทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา ซึ่งใช้ยื่นทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษา จัดสอบโดยศูนย์ทดสอบทางวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย CU-TEP ข้อสอบจะประกอบไปด้วยการวัดทักษะ 3 ด้าน ได้แก่ การฟัง การอ่าน และการเขียน
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน CU-TEP
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ หลักสูตรวิศวกรรมการบินและนักบินพาณิชย์
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเคมีและกระบวนการ (หลักสูตรนานาชาติ)
______________________________
TU – GET
ข้อสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษของผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งภาคไทยและอินเตอร์ จัดสอบโดยสถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ข้อสอบมีทั้งหมด 3 พาร์ท คือ Grammar , Vocabulary และ Reading Comprehension
ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนน TU-GET
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาลัยนวัตกรรม สาขาวิชานวัตกรรมการบริการ (หลักสูตรนานาชาติ)
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะเภสัชศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ
กลุ่มที่ 5 สอบเทียบ
สอบเทียบ คือ การสอบในหลักสูตรการเรียนอื่น ๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับระบบการศึกษาหลัก เช่น สอบเทียบ ม.6 ด้วยหลักสูตรอื่น ๆ แล้วได้วุฒิเทียบเท่า ม.6 เป็นต้น โดยการสอบเทียบนั้นส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นส่วนใหญ่ หลายคนจึงเรียกว่าเป็นการสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยนั่นเอง ซึ่งในประเทศไทยจะมีหลักสูตรสำหรับการสอบเทียบให้เลือกทั้งภาคไทยปกติ และนานาชาติ ได้แก่
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)
เป็นการศึกษาที่เปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่ไม่สะดวกเรียนในระบบ สามารถเรียนให้ครบตามหลักสูตรที่กำหนด ซึ่งหลักสูตรและระยะเวลาการเรียนการสอนจะคล้ายกับระบบโรงเรียนปกติทั่วไป มีตั้งแต่หลักสูตรระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โดยมีเวลาการเรียนที่ยืดหยุ่น รูปแบบการเรียนที่หลากหลาย ทั้งการเรียนในห้องเรียน การเรียนรู้ด้วยตัวเองหรือการเรียน กศน. ออนไลน์ผ่านระบบของสำนักงาน กศน. ที่ชื่อว่า EDU Online ทั้งนี้ผู้เรียนจำเป็นต้องเก็บหน่วยกิตและสอบให้ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด ถึงจะได้รับวุฒิเทียบเท่า ม.6 ซึ่งสามารถใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้ โดยโครงสร้างหลักสูตร กศน. จะเน้นให้ครอบคลุมในหลาย ๆ ทักษะ เช่น ทักษะทางด้านวิชาการ ทักษะการดำเนินชีวิต ทักษะทางด้านการประกอบอาชีพ เป็นต้น
General Educational Development (GED)
การสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายในระบบอเมริกัน หรือ US High School Equivalency Diploma จัดการสอบโดย GED Testing Service, USA โดยผู้สอบจะต้องมีอายุอย่างน้อย 16 ปีขึ้นไป และต้องได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครอง หลังจากสอบผ่านแล้วจะได้รับประกาศนียบัตรหรือวุฒิการศึกษาที่เทียบเท่า ม.6 ซึ่งสามารนำไปใช้สมัครเรียนในมหาวิทยาลัยได้หลากหลาย ทั้งมหาวิทยาลัยภาครัฐและเอกชน ยื่นได้ทั้งในและต่างประเทศ GED จะต้องสอบทั้งหมด 4 รายวิชา ได้แก่ Mathematical Reasoning, Reasoning Through Language Arts, Social Studies และ Science
IGCSE / A-Level
การสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายในระบบอังกฤษ หากเทียบ IGCSE กับระบบการศึกษาของประเทศไทย จะเทียบเท่าได้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ดังนั้น เพื่อให้เพียงพอสำหรับการเทียบเท่าในระดับ ม.ปลาย น้อง ๆ จะต้องสอบ A Level ให้ผ่านด้วย
โดยน้อง ๆ ที่เลือกเรียนหลักสูตร IGCSE จะต้องเรียนและสอบให้ผ่านอย่างน้อย 5 รายวิชา และสำหรับ A Level ต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 3 รายวิชา การสอบเทียบด้วยระบบนี้สามารถเลือกวิชาการเรียนและสอบได้ตามความสนใจของน้องๆ ได้ เช่น สนใจด้านธุรกิจ ก็สามารถเลือกวิชา Business ได้
ทั้งนี้จะมีเพียงแค่ 2 วิชาเท่านั้นที่การสอบเทียบ IGCSE ขอบังคับให้ทุกคนสอบ นั่นคือ Math และ ESL (English as a second language) เพราะถือว่าเป็นวิชาหลักที่สำคัญ นอกนั้นเราสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ โดย IGCSE นั้นมีรายวิชาให้เราเลือกเรียนมากกว่า 70 รายวิชา แบ่งเป็นกลุ่มวิชา Creative and professional, English language and literature, Humanities and social sciences, Languages, Mathematics และSciences
กลุ่มที่ 6 สอบแข่งขันทางวิชาการ
1. โอลิมปิกวิชาการ (สอวน.)
- เป็นโครงการสอบเเข่งวิทยาศาสตร์ใน 7 สาขาวิชา ได้เเก่ ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, คณิตศาสตร์, ภูมิศาสตร์, ดาราศาสตร์ เเละคอมพิวเตอร์ เพื่อหาตัวเเทนประเทศไปเเข่งขันในระดับนานาชาติ
- ต้องผ่านการสอบเเละการเข้าค่ายจาก สอวน. 2 ค่าย เเละ สสวท. 2 ค่าย ซึ่งทั้ง 4 ค่ายนี้น้องๆ จะได้ความรู้ทั้งวิชาการเเละการลงมือปฎิบัติจริง
- เป็นการสอบที่เหมาะกับน้องๆ ม.ต้น เเละ ม.ปลาย สายวิทย์ โดยวิชา ภูมิศาสตร์, ดาราศาสตร์ เเละคอมพิวเตอร์ น้องๆ สายศิลป์ก็สามารถสอบได้
สอบเเข่งขัน โอลิมปิกวิชาการ (สอวน.) เเล้วได้อะไร?
- ได้โควตาเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงได้รับทุนเรียนต่อต่างประเทศอีกด้วยค่ะ
2. International Junior Science OlympiadIJSO (IJSO)
- การแข่งวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศสำหรับเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี รายวิชาที่เปิดสอบมี 4 วิชา ได้เเก่ คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมีเเละชีววิทยา
- มีจัดการแข่งขันขึ้นทุกปีในแต่ละประเทศ โดยแต่ละประเทศจะต้องส่งนักเรียนเป็นทีม 6 คนและมีผู้นำทีม (อาจารย์ผู้ควบคุมทีม) 3 คน
- ลักษณะคล้ายการสอบสอวน. เเต่จัดสอบสำหรับเด็ก ป.6 – ม.3
- เมื่อผ่านการสอบคัดเลือกรอบเเรกจะได้เข้าค่ายอบรมภาคปฎิบัติ เปิดประสบการณ์ความรู้ที่ไม่ได้อยู่เเค่การเรียนหรือทำข้อสอบ เเต่เป็นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ
- ต้องมีผลการเรียนคะเเนนเฉลี่ยวิชาพื้นฐานในกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ ไม่ต่ำกว่า 3.5 หรือมีผลการเรียนดีและมีผลงานทางวิทยาศาสตร์ดีเด่น (ต้องมีใบรับรองจากสถาบันศึกษา)
สอบเเข่งขัน IJSO เเล้วได้อะไร?
- โอกาสได้เข้าค่ายอบรมภาคปฏิบัติสำหรับผู้สอบผ่านการสอบคัดเลือกรอบเเรก
- มีโอกาสได้เป็นตัวเเทนไปเเข่งโอลิมปิกวิชาการ
- ได้ประสบการณ์เเละได้เรียนกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆโดยตรง
3. MOS Olympic Thailand Competition (MOS)
- การเเข่งขันโปรแกรม Microsoft โดยบริษัท เออาร์ไอที จำกัด เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือกตัวเเทนเยาวชนไทย เพื่อส่งเข้าร่วมแข่งขันบนเวทีระดับโลก MOS Olympic World Championship ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
- เเข่งขันการใช้โปรเเกรม Microsoft พื้นฐาน คือ Microsoft Word, Microsoft Excel เเละ Microsoft PowerPoint
- เหมาะกับน้องๆ ม.ปลาย, ปวช. ปวส. จนถึงระดับมหาวิทยาลัย ไม่จำกัดสาขา หรือชั้นปี โดยมีอายุระหว่าง 16 – 21 ปี
สอบเเข่งขัน MOS เเล้วได้อะไร?
- ได้เข้าค่ายอบรมการใช้งานโปรแกรมชุด Microsoft Office โดยวิทยากรผู้มีความชำนาญจาก บริษัท ARIT เป็นเวลา 3 วัน
- ทุนการศึกษาจากการเป็นผู้ชนะการเเข่งขันประดับประเทศ
- ได้เข้าร่วมการเเข่งขันระดับนานาชาติ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งค่าเดินทางเเละค่าที่พัก
4. โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.)
- เป็นโครงการของรัฐบาลไทยโดยความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้ทุนการศึกษาเเละจัดค่ายวิทยาศาสตร์
- ทุนนี้เหมาะกับคนรักคณิตศาสตร์เเละวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นการให้ทุนการศึกษาตั้งเเต่มัธยมปลาย จนถึงปริญญาเอก เเละยังเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้การทดลอง, การทำงานวิจัย ผ่านค่ายย่อยต่างๆ ภายในโครงการ
- เหมาะกับน้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.3 เเละ ม.6
สอบเเข่งขัน พสวท. เเล้วได้อะไร?
- ทุนการศึกษาตั้งเเต่มัธยมปลาย ถึง ปริญญาเอก
- โควต้าเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศที่ร่วมโครงการ 10 มหาวิทยาลัย
- โอกาสฝึกทำงานวิจัยโดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยคอยให้การดูแลแนะนำอยู่เสมอ
- การหาตำแหน่งงานให้แก่บัณฑิตใหม่ โดย สสวท
- โอกาสไปทำวิจัยหรือเป็นนักเรียนเเลกเปลี่ยนในต่างประเทศ
5. เพชรยอดมงกุฎ
- โครงการเฟ้นหานักเรียนที่มีความสามารถใน 13 สาขาวิชาทั้ง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาศาสตร์ เป็นต้น ดำเนินการภายใต้มูลนิธิร่มฉัตร
- การสอบมีสาขาวิชาให้เลือกสอบหลากหลาย ข้อสอบที่มีทั้งสอบวัดความรู้พื้นฐานเเละความถนัดในสาขาวิชาต่างๆ เช่น การพูดสุนทรพจน์ภาษาจีน
- เหมาะกับน้องๆ ม.1 – ม.6 เเละในบางสาขาวิชา เช่น ภาษาญี่ปุ่น เปิดรับสมัครถึงระดับมหาวิทยาลัย
สอบเเข่งขัน เพชรยอดมงกุฎ เเล้วได้อะไร?
- โอกาสในการได้ไปเเข่งค่ายวิชาการต่างๆ
- ทุนการศึกษาเเละโล่เกียรติบัตร
6. การเเข่งขันคณิตศาสตร์ โดย สมาคมคณิตศาสตร์
- สมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จัดสอบเเข่งขันคณิตศาสตร์เป็นประจำทุกปีเพื่อเฟ้นหานักเรียนที่มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์จากทั่วประเทศ
- จัดสอบเเข่งขันทั้งเเบบประเภททีมเเละบุคคล โดยการเเข่งขันเเบ่งเป็น 3 ระดับ ประถมศึกษา, มัธยมศึกษาตอนต้น เเละมัธยมศึกษาตอนปลาย
สอบการเเข่งขันคณิตศาสตร์ โดย สมาคมคณิตศาสตร์ เเล้วได้อะไร?
- ทุนการศึกษาเเละโล่รางวัล
- โอกาสในการเเข่งขันค่ายวิชาการต่างๆ
สำหรับน้องๆ ม.6-5-4 ที่อยากลองสอบ A-Level / TGAT/ TPAT เตรียมความพร้อม ก่อนลงสนามจริง สามารถทดลองสอบกับโครงการ Dek-D's Pre-Admission ได้ ข้อสอบออกใหม่ เก็งตาม Blueprint ล่าสุด สอบเสร็จได้เล่มข้อสอบ มีเฉลยละเอียดให้ ที่สำคัญได้ผลวิเคราะห์จุดอ่อนแบบละเอียดรายบท-รายข้อ พร้อมจัดอันดับให้ด้วย สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้! สามารถปรึกษาพี่ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Line @DekDPreAD ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook Dek-D's Pre-Admission TCAS สนามสอบเสมือนจริง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสนามสอบรูปแบบต่างๆ ที่พี่แป้งรวบรวมมาให้ ต้องบอกก่อนว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมดจากที่กล่าวมานะคะ เลือกเฉพาะที่วิชาที่จำเป็นต้องใช้คะแนนเท่านั้น เนื่องจากการสอบในบางรายการเองก็มีค่าใช้จ่ายตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนจะสมัครสอบไม่ว่าจะสอบเข้า ม. 1 ม.4 หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัย สิ่งสำคัญคือควรอ่านรายละเอียดของการรับสมัครให้ดี เนื่องจากเกณฑ์ของแต่ละแห่งแตกต่างกัน จะได้ไม่ตกหล่นข้อมูลสำคัญ หรือมีข้อผิดพลาดในการสมัครกันนะคะ
ข้อมูลจากhttps://aims.co.th/what-is-ucat/https://www.ucat.ac.uk/about-ucat/ucat-2025/https://atc.chula.ac.th/Main/https://www.chulatutor.com/blog/%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A/ https://www.chulatutor.com/blog/%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%99/
0 ความคิดเห็น