เรื่องนี้โรงเรียนไม่ได้สอน : เรียนเก่งขึ้นได้! ถ้ารู้จัก VARK สไตล์การเรียนรู้ที่เหมาะกับตัวเอง

รู้จัก VARK จะได้รู้จักรูปแบบการเรียน การอ่านหนังสือ ที่เหมาะกับตัวเรา!

น้องๆ ชาว Dek-D สงสัยไหมคะว่า ทำไมตอนเรียน เราก็เรียนพร้อมๆ กับเพื่อน อาจารย์ก็สอนเหมือนๆ กัน แต่ทำไมเพื่อนในห้องเรียนรู้ได้ไม่เหมือนกัน หรือสมมติว่าให้เพื่อน 2 คน มานั่งอ่านหนังสือเหมือนกัน อ่านพร้อมกัน ใช้เวลาเท่ากัน แต่เชื่อไหมว่าทั้ง 2 คนก็จะได้รับความรู้ไม่เท่ากัน 

จริงๆ แล้วคนเรามี ‘สไตล์การเรียนรู้’ ไม่เหมือนกัน และแต่ละคนจะมีสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง มาดูกันว่าสไตล์ของเราเป็นแบบไหน? และถ้าเจอวิธีที่ใช่ รับรองว่าเรียนรู้ได้ดี จดจำได้ไว และเอ็นจอยมากขึ้นแน่นอน!

สไตล์การเรียนรู้แบบ VARK

VARK เป็นโมเดลการเรียนรู้ ที่พยายามช่วยให้นักเรียน และคุณครูสามารถปรับการเรียนการสอนให้เหมาะกับแต่ละคน ซึ่งเป็นไอเดียของผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา “Neil Fleming” เมื่อปี 1987

“VARK” หมายถึงรูปแบบการเรียนรู้ต่างๆ ที่มนุษย์ใช้ในการรับรู้ และเข้าใจข้อมูลใหม่ๆ 

ย่อมาจาก 

Visual = การมองเห็น

Aural = การฟัง

Read&Write = การอ่านและเขียน

Kinaesthetic = การลงมือปฏิบัติ 

V...Visual = เรียนรู้จากภาพ

คือ คนที่เข้าใจและจดจำได้ดีที่สุดเมื่อ “มองเห็นภาพ” ไม่ว่าจะเป็นรูป วิดีโอ กราฟ แผนภูมิ แผนผัง  รูปร่าง ลวดลาย หรือกราฟิคต่างๆ มากกว่าตัวอักษร

เราเป็นแบบนี้ไหม?

  • ชอบศิลปะ ความสวยงาม
  • เหม่อเวลาครูสอน แต่ตั้งใจเวลามีคลิป/ภาพ
  • ชอบจินตนาการ นึกภาพในหัว
  • ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตา จะจำไม่ค่อยได้

เทคนิคการเรียนแบบ Visual

  • ดูเป็นภาพ อินโฟกราฟิก กราฟ แผนผัง
  • จดโน้ต เขียนสรุปเป็นรูปภาพ / มายแมพปิ้ง
  • ใช้สีสันช่วยไฮไลต์ / จดโน้ต
  • ตกแต่งหนังสือ / บทเรียน  ด้วยลวดลายและสีสันต่างๆ
  • ดูวิดีโอหรือเห็นของจริงจะจำได้ดีขึ้น

A...Aural = เรียนรู้จากเสียง

คือ คนที่เข้าใจและจดจำได้ดีจากการ “ฟัง หรือ ได้ยิน”  ชอบรับข้อมูลใหม่ๆ จากการฟัง ไม่ว่าจะเป็นคนพูด คนสอน ฟังเพลง หรือมีคนเล่าให้ฟัง รวมถึงพูดออกเสียงออกมาให้ตัวเองได้ยิน  

เราเป็นแบบนี้ไหม?

  • ฟังครูสอนเข้าใจกว่าอ่านหนังสือเอง
  • เก็บข้อมูลเวลาเพื่อนเม้าท์ได้ดี
  • ชอบอ่านออกเสียงมากกว่าอ่านในใจ
  • ชอบฟังเพลง ฟังพอดแคสต์  ฟังคนเล่าเรื่องต่างๆ

เทคนิคการเรียนแบบ Aural

  • อัดเสียงเวลาครูสอน
  • อ่านออกเสียงให้ตัวเองได้ยิน
  • คุยกับเพื่อนเพื่อทบทวนบทเรียน
  • อัดเสียงตัวเองเป็นสรุปเนื้อหาหรือโน้ตข้อมูลสำคัญที่ทำไว้
  • จำเป็นเพลง กลอนหรือคำคล้องจอง

R...Read&Write = เรียนรู้จากการอ่านและเขียน

คือ คนที่เข้าใจและจดจำได้ดีจาก “ตัวหนังสือ” ผ่านการได้อ่าน หรือเขียนออกมาเป็นตัวอักษร

เราเป็นแบบนี้ไหม?

  • ถนัดและชอบอ่านหนังสือ ชอบเขียน จดสรุปหรือจดโน้ตเพิ่มเติม
  • อ่านหนังสือแล้วทำความเข้าใจได้เอง ก่อนที่จะมีใครมาสอน
  • เวลามีภาพประกอบกับคำบรรยาย จะชอบอ่านคำบรรยายมากกว่า
  • ชอบเล่าเรื่องด้วยการเขียน โพสต์โซเชียล

เทคนิคการเรียนแบบ Read&Write

  • อ่านและจดโน้ตสรุปด้วยตัวเอง
  • จดเล็คเชอร์เพิ่มเวลาครูสอน
  • อ่านคนเดียวเงียบๆ จะได้มีสมาธิจดจ่อ
  • ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้อ่านซ้ำ และจำได้

K...Kinesthetic = เรียนรู้จากการทำ

คือ คนที่เข้าใจและจดจำได้ดีจาก “การลงมือทำ”  ทดลอง สาธิต การเคลื่อนไหวร่างกาย ออกไปทัศนศึกษา หรือเรียนรู้จากประสบการณ์จริง

เราเป็นแบบนี้ไหม?

  • ชอบวิชาปฏิบัติ ศิลปะ วิทย์ กีฬา
  • ชอบลองผิดลองถูก
  • อยู่นิ่งๆ นานๆ ไม่ค่อยได้
  • ชอบเรียนรู้นอกห้องเรียน

เทคนิคการเรียนแบบ Kinesthetic 

  • อ่าน เขียน และฟัง ยังไม่พอ จะต้องลองทำ
  • ทำสรุปเนื้อหาเป็นแฟลช์การ์ด หรือเกม เพื่อใช้ในการช่วยจำ
  • เวลาอ่านหนังสือ อาจจะเดินไปอ่านไป หรือขยับร่างกายเวลาฟังสรุป ฟังครูสอน
  • ทบทวนบทเรียนด้วยการฝึกทำโจทย์

ลองสำรวจตัวเองดูซิว่า ใน 4 รูปแบบ VARK นี้ เราเหมาะกับรูปแบบการเรียนรู้สไตล์ไหนมากที่สุด? แล้วนำเทคนิคมาปรับใช้กับตัวเราเอง รับรองว่าทำแล้วจะเรียนรู้ได้ไว และจดจำได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน!

 

ข้อมูลจากhttps://www.melioeducation.com/blog/vark-different-learning-styles/https://www.verywellmind.com/vark-learning-styles-2795156
พี่แพม
พี่แพม - Columnist คอลัมนิสต์สายติ่งเกาหลี นอนน้อยเพราะดูซีรีส์ สาระไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น