สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D ถ้าพูดถึง "ห้องเรียนพิเศษ" น้องๆ อาจจะนึกถึงห้องเรียนที่รวมเด็กหัวกะทิไว้ด้วยกัน มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เข้มข้น ใช่ไหมคะ? ซึ่งปัจจุบันการจัดรูปแบบการศึกษาระดับมัธยมมีความหลากหลายมากขึ้น โรงเรียนหลายแห่งมีการจัดห้องเรียนพิเศษเพื่อให้ตรงกับความถนัดและเฉพาะทางมากขึ้น ซึ่งแต่ละโรงเรียนก็มีชื่อเรียกต่างกันออกไป คอลัมน์ ‘เรื่องนี้โรงเรียนไม่ได้สอน’ จะพาทุกคนไปส่องว่าแต่ละห้องเรียนอะไรกันบ้าง? ตามไปดูกัน
ห้องเรียนพิเศษ คืออะไร?
จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของ "ห้องเรียนพิเศษ" ไม่ได้สร้างมาเพื่อคัดเด็กหัวกะทิเข้าไปเรียนค่ะ แต่เป็นห้องเรียนที่จัดการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมศักยภาพให้แก่นักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิชาการ และด้านอื่นๆ โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ ศิลปะ ดนตรี กีฬา ฯลฯ
เมื่อนักเรียนที่มีความสามารถเฉพาะทางเหมือนกัน มาเกาะกลุ่มเรียนร่วมกันจึงทำให้พัฒนาศักยภาพได้เต็มที่ ด้วยรูปแบบการเรียนที่เหมาะสมกับความสามารถของเด็กเหล่านั้นนั่นเอง ซึ่งโครงการห้องเรียนพิเศษมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามโครงสร้างหลักสูตรนั้นๆ มาดูไปพร้อมๆ กันว่าแต่ละห้องเรียนต่างกันยังไง? โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่มความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์
1. GIFTED
ห้อง “กิฟต์” หรือ “กิฟเต็ด” ทับศัพท์มาจาก GIFTED หมายถึง พรสวรรค์ ดังนั้น ห้องนี้จึงเป็นห้องเรียนสำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษ หรือความถนัดเฉพาะด้าน ส่วนใหญ่จะเน้นการเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ทำให้ชั่วโมงเรียนก็จะมากกว่าห้องปกติ เพราะเนื้อหาที่ห้อง GIFTED ได้เรียนจะลึกและเข้มข้นกว่าห้องเรียนปกติ บางครั้งก็อาจจะได้เรียนเนื้อหาที่สูงกว่าระดับชั้นด้วย ทำให้มีพื้นฐานทางวิชาการที่แน่น ซึ่งจะได้เปรียบด้านการสอบแข่งขันต่างๆ เช่น สอบแข่งขันวิชาการระดับชาติ/นานาชาติ, TCAS
*หมายเหตุ* ห้อง GIFTED แต่ละโรงเรียนอาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปอีก เช่น TEP, GATE, SMP, SMA, SME
2. GATE
ห้อง GATE (เก็ต) ย่อมาจาก GATE = Gifted and Talented Education Program โดยห้องเรียนนี้จะเรียนคล้ายกับ GIFTED และ TEP คือเป็นห้องเรียนที่พัฒนาความเป็นเลิศด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ แต่จะต่างกันออกไปตรงที่ความเข้มข้นของเนื้อหาบางวิชา
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ GATE : โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
3. ESMTE
ห้อง ESMTE ย่อมาจาก Enrichment Program of Science Mathematics Technology and Environment ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ห้องเรียนนี้เป็นโครงการในความร่วมมือของหน่วยงาน สพฐ. สกอ. สวทช. และ สสวท. โดยการเรียนน้องๆ จะได้เข้าฟังบรรยายวิชาการอยู่บ่อยครั้ง มีนักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยงประจำตัวคอยดูแล ติดตามผลตั้งแต่หาหัวข้อวิจัย ลง Lab เขียนรายงานอย่างใกล้ชิด และจะได้รับการส่งเสริมศักยภาพและคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมนำเสนอโครงงานทั้งในระดับประเทศ ระดับภาค และระดับนานาชาติ ตามศักยภาพความสามารถของนักเรียน นั่นหมายความว่า ห้องเรียนพิเศษ ESMTE จะเพิ่มโอกาสให้น้องๆ ได้พัฒนาความสามารถได้อย่างลึกซึ้งกว่าหลักสูตรปกติทั่วไปนั่นเอง
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ ESMTE : โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
4. ESC
ห้อง ESC ย่อมาจาก Enrichment Science Classroom เป็นห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม จะมีการเรียนการสอนที่เน้นวิชาเหล่านี้ตามแนวทาง สสวท. และ สอวน. เพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี มีการจัดการเรียนการสอนเพิ่มเติมรายวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมและต่อยอดความรู้ให้กับผู้เรียนมากขึ้น
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ ESC : โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนชลกันยานุกูล ฯลฯ
5. SMTE
ห้อง SMTE ย่อมาจาก Science Math Technology and Environment เป็นห้องเรียนในโครงการวิจัย และพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ และห้องเรียนวิทยาศาสตร์ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ ใช้หลักสูตรการสอนพิเศษของ สสวท. ที่ทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาและส่งเสริมกิจกรรมทางวิชาการ เช่น การเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ ศึกษาดูงาน ทัศนศึกษา การฝึกงานกับนักวิจัย ทั้งภาครัฐและเอกชน และได้รับการส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งได้รับการส่งเสริม สนับสนุนให้ไปนำเสนอผลงานทางวิชาการในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ SMTE : โรงเรียนทวีธาภิเษก, โรงเรียนชลกันยานุกูล, โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ฯลฯ
6. TEP
ห้อง TEP ย่อมาจาก Talent Education Program เป็นห้องเรียนที่ส่งเสริมความเป็นเลิศด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ยังเน้นการเรียนคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เหมือน GIFTED แต่จะเน้นวิชาภาษาอังกฤษควบคู่กันไปด้วย ซึ่งบางครั้งอาจมีการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษด้วย
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ TEP : โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม
7. AP
ห้อง AP ย่อมาจาก Academic Proficiency Program ห้องนี้คือ ห้องศักยภาพ หรือโครงการเสริมสร้างศักยภาพความเป็นเลิศทางวิชาการขั้นสูง เป็นห้องเรียนที่เน้นบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีโดยเฉพาะ คล้ายๆ กับ ESMTE เลย เพียงแต่โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สพฐ. และ สสวท. โดยตัวหลักสูตร สสวท. จะเป็นผู้ออกแบบ น้องๆ จะมีส่วนที่เป็นวิชาเรียนตามปกติ และกลุ่มรายวิชาเพิ่มเติมพิเศษทางวิทย์-คณิตตามหลักสูตรของ สอวน. เข้ามาประกอบด้วยนั่นเอง
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ AP : โรงเรียนศึกษานารี, โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ฯลฯ
8. SMA
ห้อง SMA ย่อมาจาก Science Math Ability เป็นห้องที่มีวิชาพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้เหมือนห้องเรียนทั่วไป และมีวิชาเพิ่มเติมที่เน้นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และภาษาอังกฤษ จะเน้นการทำโครงงาน การทดลองทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงไปค่าย และการสอบแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ SMA : โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง, โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ฯลฯ
กลุ่มความเป็นเลิศด้านภาษาอังกฤษ
1. EP
ห้อง EP ย่อมาจาก English Program คิดว่าน้องๆ คงจะคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดีเลยค่ะ ห้องนี้เป็นห้องพิเศษที่เน้นภาษาอังกฤษ ซึ่งแผนการเรียนอาจจะจับผสมกัน เช่น EP-แผนวิทย์ / EP-แผนคณิต ลักษณะการเรียนของ EP หลักๆ คือเน้นการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีทั้งครูต่างชาติและครูไทยที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเป็นผู้สอน วิชาเกือบทั้งหมดสอนเป็นอังกฤษล้วน แต่บางวิชาก็จะสอนเป็นไทยค่ะ เช่น ภาษาไทย ประวัติศาสตร์ (บางโรงเรียนก็มีการสอนประวัติศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ ขึ้นอยู่กับการออกแบบหลักสูตรของแต่ละโรงเรียน)
2. MSEP
ห้อง MSEP (เอมเซป) ย่อมาจาก Mathematics and Science Enrichment Program เป็นห้องเรียนที่เน้นให้ผู้เรียนมีความเป็นเลิศในด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นนักคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และคิดอย่างมีวิจารณญาณ สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีการทำโครงงาน ทำวิจัย ซึ่งจริง ๆ แล้วห้องเรียน MSEP ก็จะมีความคล้ายคลึงกับห้อง GIETED ของโรงเรียนอื่น ๆ
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ MSEP : โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนศรียานุสรณ์
3. MEP
ห้อง MEP ย่อมาจาก Mini English Program ห้องนี้เหมือนเป็นซับยูนิตของห้องเรียน EP เลยค่ะ เพราะเน้นการเรียนการสอนเป็นอังกฤษเหมือนกัน แต่มีความเข้มข้นน้อยกว่า อาจจะมีหลายวิชาที่เรียนเป็นภาษาไทย เน้นให้นักเรียนค่อยๆ ซึมซับความรู้ไปในตัว สามารถสื่อสารรู้เรื่อง และคุ้นชินกับภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ MEP : โรงเรียนเทพศิรินทร์, โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย ฯลฯ
4. ISME
ห้อง ISME ย่อมาจาก Intensive Science Math English โครงการห้องเรียนพิเศษเสริมสร้างศักยภาพความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น ง่ายๆ คือเรียนเป็นภาษาอังกฤษในวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งเสริมปฏิบัติการในห้องวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ บางโรงเรียนยังมีเรียนเสริมในรายวิชาที่เปิดเฉพาะ ซึ่งสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ความถนัดแพทย์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เพื่อต่อยอดความรู้ให้แน่นมากขึ้น
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ ISME : โรงเรียนศึกษานารี, โรงเรียนกำแพงแสนวิทยา ฯลฯ
5. EPTS
ห้อง EPTS ย่อมาจาก The English Program for Talented Students เป็นห้องเรียนโครงการส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ โดยหลักสูตรจะมีเนื้อหาที่เรียนจะคล้ายกับห้องปกติ แต่ห้อง EPTS พิเศษตรงที่จะมีวิชาบังคับที่มีการเรียนการสอนเป็นอังกฤษ จากครูเจ้าของภาษาโดยตรง เช่น วิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ EPTS : โรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน
6. EIP
ห้อง EIP ย่อมาจาก English Immersion Program ห้องเรียนเน้นพัฒนาศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ คล้ายกับ EP อีกแล้ว หลักสูตรนี้มีการเรียนเป็นภาษาอังกฤษตลอดทุกคาบ แต่จะเว้นภาษาไทยไว้ ส่วนสังคมศึกษาจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือเนื้อหาภาษาไทย และเนื้อหาภาษาอังกฤษ กิจกรรมก็จะเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษล้วน เพราะตัวหลักสูตรต้องการให้น้องๆ ใกล้ชิดกับเจ้าของภาษามากที่สุด
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ EIP : โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
7. IEP
ห้อง IEP ย่อมาจาก Intensive English Program เป็นห้องเรียนพิเศษโครงการนานาชาติ จัดการเรียนการสอนแบบภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น เพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นสากล และส่งเสริมให้มีความรู้พื้นฐานในการศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา ตามสถาบันนานาชาติของรัฐและเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ หรือการประกอบอาชีพในอนาคต
หลักสูตรบางโรงเรียนจะคล้ายๆ กับการเรียนการสอนแบบปกติเลยค่ะ แต่พอถึงคาบวิชาภาษาอังกฤษจะมีการแยกไปเรียนกับครูชาวต่างชาติโดยตรง สัปดาห์ละ 5-7 ชั่วโมง ต่างจากห้องเรียนปกติที่อาจเรียนกับครูต่างชาติแค่สัปดาห์ละ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น หรือบางโรงเรียนเกือบทุกวิชาก็จะเรียนเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนกับ EP แต่ความยากอาจจะน้อยกว่าห้อง EP
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ IEP : โรงเรียนโพธิสารพิทยากร, โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์, โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ฯลฯ
8. EIS
ห้อง EIS ย่อมาจาก English for Integrated Studies โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษบูรณาการในรายวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ อธิบายง่ายๆ ก็คือ กลุ่มวิชาทั้ง 3 จะเป็นการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษนั่นเอง น้องๆ จะได้ใช้ Textbook ภาษาอังกฤษ และฝึกสื่อสารกับทั้งครูไทยและครูต่างชาติ ได้รู้ศัพท์เทคนิคมากขึ้น ทำให้ใช้ภาษาได้คล่องขึ้น
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ EIS : โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนระยองวิทยาคม ฯลฯ
9. SME
ห้อง SME ย่อมาจาก Science Math English ห้องเรียนนี้จะเน้น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ แต่จะเพิ่มวิชาภาษาอังกฤษด้วย การเรียนห้องเรียนนี้จะคล้ายกับห้อง Gifted แต่จะเพิ่มชั่วโมงเรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วย
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ SME : โรงเรียนแสงทองวิทยา, โรงเรียนตากพิทยาคม ฯลฯ
กลุ่มความเป็นเลิศด้านภาษาต่างประเทศ
สำหรับห้องเรียนที่เน้นความเป็นเลิศด้านภาษาต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทยจะมีอยู่ทั้งหมด 6 ห้องหลักๆ ด้วยกัน ซึ่งทั้ง 6 ภาษานี้ก็จะมีการสอบ A-Level เพื่อใช้เป็นคะแนนยื่นเข้ามหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน จะมีภาษาอะไรบ้างไปดูกัน!
1. CEP/CP/ภาษาจีน
ห้อง CEP (Chinese and English Program) หรือ CP (Chinese Program) เป็นห้องเรียนที่เน้นด้านภาษาอังกฤษ และภาษาจีน มุ่งเน้นการเรียนรู้ พัฒนา และฝึกฝนทักษะทางด้านภาษาจีน สอนตั้งแต่หลักภาษาไปจนถึงการใช้ประโยคเพื่อการสื่อสาร โดยมีกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะทางภาษาได้อย่างเต็มตามศักยภาพของตนเอง
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ CP : โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จันทบุรี, โรงเรียนศึกษานารี ฯลฯ
2. JIP/JP/ภาษาญี่ปุ่น
ห้อง JIP (Japanese Intensive Program) หรือ JP (Japanese Program) ห้องเรียนที่เน้นภาษาญี่ปุ่น น้องๆ จะได้เรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่พื้นฐาน ทั้งตัวอักษร คำศัพท์ ไวยากรณ์ และคันจิ มีการสอบคำศัพท์และสอบหลังจบบทเรียนทุกบท ในพาร์ตการฟัง–พูด จะเน้นการสนทนาในชีวิตจริง พร้อมฝึกพูดกับเพื่อน และสอบฟังจากเทปเสียง ซึ่งบางโรงเรียนจะได้เรียนทั้งกับเซนเซคนไทยและคนญี่ปุ่น เพื่อฝึกสำเนียงและเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยตรง
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ JP : โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ฯลฯ
3. KP/ภาษาเกาหลี
ห้อง KP ย่อมาจาก Korean Program เป็นห้องเรียนที่เน้นการเรียนทางด้านภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลี เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะทางด้านการสื่อสารภาษาเกาหลี มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก โดยเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ตัวอักษร วิธีการออกเสียง การสะกดคำ คำศัพท์ ไวยากรณ์ ไปจนถึงบทสนทนาในชีวิตประจำวัน ซึ่งผู้เรียนจะได้ฝึกฟังและฝึกพูดผ่านกิจกรรมกับเพื่อนในห้องเรียน โดยจะได้เรียนทั้งกับครูผู้สอนชาวไทยและครูเจ้าของภาษาผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่หลากหลาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบวัดระดับความรู้ตามมาตรฐานสากล
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ KP : โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ (เชียงใหม่), โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม, โรงเรียนสารวิทยา ฯลฯ
4. FP/ภาษาฝรั่งเศส
ห้อง FP ย่อมาจาก French Program ห้องนี้จะมีโครงสร้างวิชาพื้นฐานเช่นเดียวกับแผนการเรียนอื่น แต่เน้นภาษาต่างประเทศที่ 2 โดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศสเป็นวิชาเฉพาะ จะได้เรียนตั้งแต่พื้นฐานและเน้นไวยากรณ์ คำศัพท์ และการสร้างประโยค พาร์ตการพูด-ฟัง เน้นบทสนทนาและการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยจะได้เรียนทั้งกับครูผู้สอนชาวไทยและครูเจ้าของภาษา
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ FP : โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ (เชียงใหม่), โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, โรงเรียนโยธินบูรณะ ฯลฯ
5. GP/ภาษาเยอรมัน
ห้อง GP ย่อมาจาก German Program ห้องนี้จะมีโครงสร้างวิชาพื้นฐานเช่นเดียวกับแผนการเรียนอื่น แต่จะได้เรียนภาษาเยอรมันหลักและภาษาเยอรมันฟัง-พูด โดยเนื้อหาภาษาเยอรมันหลักจะเน้นการฝึกเขียนและอ่านออกเสียงตัวอักษร การสะกดคำ ไวยากรณ์ และบทสนทนาในชีวิตประจำวัน ส่วนวิชาฟัง-พูด เน้นฝึกออกเสียงให้ถูกต้อง สนทนาเบื้องต้น ฟังคำสั่ง คำขอร้อง และฝึกใช้ภาษาร่วมกับกริยาท่าทางให้เหมาะสมกับบริบททางสังคม คุณครูจะส่งเสริมให้ทำกิจกรรมคู่หรือกลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจำคำศัพท์และรูปประโยคได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำไปใช้ในการสื่อสารจริง.โรงเรียน
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ GP : โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์, โรงเรียนเทพศิรินทร์ ฯลฯ
6. SP/ภาษาสเปน
ห้อง SP ย่อมาจาก Spanish Program ห้องเรียนนี้จะเรียนวิชาภาษาสเปนเป็นหลัก โดยจะมีการเรียนการสอนทุกวัน จะเน้นการฝึกเขียนและอ่านออกเสียงตัวอักษร การสะกดคำ ไวยากรณ์ จำคำศัพท์ สำนวน และบทสนทนาในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะได้เรียนกับทั้งคุณครูคนไทยและคุณครูเจ้าของภาษา อีกทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมและเรื่องพื้นฐานน่ารู้ของประเทศสเปน รวมถึงประเทศที่ใช้ภาษาสเปน อย่างประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาอีกด้วย
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ SP : โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, โรงเรียนโพธิสารพิทยากร, โรงเรียนเทพศิรินทร์ ฯลฯ
กลุ่มความเป็นเลิศด้านอื่นๆ
1. IMP
ย่อมาจาก Intensive Mathematics Program เป็นห้องเรียนพิเศษทางคณิตศาสตร์เสริมคอมพิวเตอร์ จะเป็นห้องที่มีการเรียนการสอนปกติ แต่ว่าจะติดสปีดการเรียนวิชาคณิตศาสตร์แบบเร่งรัดสุดๆ เช่น ปกติใช้เวลาเรียนเลข 3 ปี สามารถยุบเหลือภายใน 2 ปีได้ เหมาะกับน้องๆ ที่เป็นเซียนคณิตศาสตร์มากๆ พอเรียนเนื้อหาจบก็จะได้ฝึกทำโจทย์ ฝึกทำข้อสอบเก่าต่างๆ เพื่อให้พร้อมสอบ ซึ่งแน่นอนว่าวิชาคอมพิวเตอร์ก็ไม่ได้หายไปไหน ยังได้เรียนอยู่แต่เป็นในส่วนที่เสริมเข้าไป
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ IMP : โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
2. INP
ย่อมาจาก Innovation Program เป็นห้องเรียนที่สอนเด็กให้กลายเป็น "นักนวัตกรรม" โดยแบ่งเวลาเรียนออกเป็น 80 : 20 เนื้อหาในห้องเรียน (80) ครูจะสอนให้เด็กรู้จักคิดตามสิ่งที่เรียนด้วยตนเอง สหวิทยาการ (20) เป็นการทำโครงงานอิสระจากสิ่งที่น้องสนใจจริงๆ เน้นจัดการเรียนรู้ผ่านการสำรวจ สืบค้น และผลิตผลงานทางด้านแอนิเมชัน การสร้างงานจากความสนใจ ทั้งนี้นักเรียนสามารถต่อยอดเป็นโครงงานนวัตกรรม งานด้านมัลติมีเดีย งาน Print 3D รวมทั้งงานและออกแบบโมเดล
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ INP : โรงเรียนแสงทองวิทยา
3. STaR
ย่อมาจาก Science, Technology and Robotics เป็นห้องเรียนที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมหุ่นยนต์ น้องๆ จะได้เรียนวิชาพื้นฐานเหมือนห้องปกติทั่วไป และต่อยอดหลักสูตรด้วยวิชาเพิ่มเติมที่กำหนดตามหลักสูตร เช่น การสร้างและพัฒนาหุ่นยนต์ การเขียน Coding การเขียนโปรแกรม การพัฒนาเกม/แอปพลิเคชัน รวมทั้งทำโครงงานคอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์ เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาศักยภาพนักเรียน ทั้งทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เพื่อเป็นนักประดิษฐ์
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ STaR : โรงเรียนตากพิทยาคม
4. ICTP
ย่อมาจาก Information & Communication Technology Program ห้องเรียนพิเศษในโครงการวิจัยและพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี และการสื่อสาร ห้องเรียนนี้จะคล้ายกับห้อง IMP เลยค่ะ แต่จะเน้นความรู้ด้านเทคโนโลยี และคอมพิวเตอร์มากกว่า รวมไปถึงด้านการสื่อสาร น้องๆ จะได้เรียนรู้หลักการจัดการฐานข้อมูล ได้ลองเขียนโปรแกรม ออกแบบ และพัฒนาเว็บไซต์ ทำแอนิเมชัน คอมพิวเตอร์กราฟิกก็ได้เรียน ที่สำคัญได้ไปออกค่ายคอมพิวเตอร์เป็นประจำอีกด้วย
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ ICTP : โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จันทรบุรี
5. LP
ย่อมาจาก Law and Political Program ห้องเรียนนี้เหมาะกับน้องๆ ที่มีใจรักด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และการเมืองการปกครองโดยเฉพาะเลยค่ะ การเรียนการสอนก็จะเน้นให้น้องๆ ฝึกประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยตนเอง ตั้งแต่ฝึกปฏิบัติการดำเนินการทางประชาธิปไตยทั้งในและนอกโรงเรียน น้องๆ จะได้เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมืองการการปกครอง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเรียนในคณะนิติศาสตร์และคณะรัฐศาสตร์
ตัวอย่างโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ LP : โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา, โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ฯลฯ
สำหรับน้องๆ ประถมปลาย และน้องๆ ม.ต้น ที่อยากวัดความรู้ก่อนสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ปีการศึกษา 69 สามารถทดลองสอบ กับโครงการ Dek-D's พรีเทส โดยโครงการ Dek-D's พรีเทส ม.1 อิงแนวข้อสอบเข้า ม.1 โรงเรียนอัตราแข่งขันสูง ส่วนโครงการ Dek-D's พรีเทส ม.4 อิงแนวข้อสอบเข้า ม.4 เตรียมอุดมศึกษา แผนวิทย์ฯ-คณิตฯ ทั้งสองโครงการจะได้สอบ 5 วิชา คณิตฯ-วิทย์ฯ-อังกฤษ-ไทย-สังคม สมัครโครงการนี้แล้วได้อะไร?
- ได้ข้อสอบกลับ มีเฉลยแบบละเอียดให้
- มีใบวิเคราะห์จุดอ่อน บทเรียนไหนที่ต้องฝึกเพิ่ม
- จัดอันดับละเอียดที่สุด ให้น้องๆ เห็นภาพรวมของตัวเอง
- มีเกียรติบัตรให้ ทุกคนที่เข้าสอบ
- สมัครได้แล้ววันนี้ - 30 กันยายน 2568
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE @DekDPreTest หรือ Facebook สอบพรี วัดความรู้เข้า ม.1 และ ม.4 โรงเรียนชั้นนำ By Dek-D
ต้องบอกก่อนว่า "ห้องเรียนพิเศษ" มีรายละเอียดที่ยิบย่อยมาก บางโรงเรียนตัวหลักสูตรคล้ายคลึงกัน ต่างกันเพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น วิชา ชั่วโมงเรียน หรือใช้ชื่อเรียกไม่เหมือนกัน ถ้าพี่แป้งตกหล่นรายชื่อหลักสูตรของโรงเรียนไหนไป หรือใครอยากจะโพรโมตห้องเรียนพิเศษของตัวเองให้ทุกคนรู้จักมากกว่านี้ คงต้องขอแรงน้องๆ มาช่วยกันบอกข้อมูลในคอมเมนต์ด้านล่างแล้วค่ะ
อ้างอิงข้อมูลจากhttps://openhouse.bj.ac.th/ https://www.chulatutor.com/blog/ https://www.tps.ac.th/th/grouppage/3/page/STaR https://www.facebook.com/photo?fbid=1423091507778879&set=pcb.1423091714445525 https://www.ps.ac.th/psth/?page_id=12495 https://openhouse.triamudom.ac.th/programs/arts-japanese?utm_source https://sites.google.com/bj.ac.th/openhouse/
0 ความคิดเห็น