เวลาอ่านวิชาสังคม น้องๆ หลายคนอาจจะเจอคำว่า "สถาบันสังคม" แล้วแอบงงว่าคืออะไร? เกี่ยวอะไรกับชีวิตประจำวันเราด้วยเหรอ? คำตอบคือ เกี่ยวค่ะ! เพราะตั้งแต่เราตื่นนอน กินข้าว ไปโรงเรียน ทำงาน จนถึงการไถมือถือก่อนนอน ล้วนเกี่ยวข้องกับสถาบันสังคมทั้งนั้น คอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ จะพาไปทำความรู้จักกับสถาบันสังคมที่สำคัญแบบเข้าใจง่าย พร้อมสรุปหน้าที่ของแต่ละสถาบันไว้ให้ครบ แบบที่อ่านจบแล้วพร้อมสอบทันที!
สถาบันสังคม คืออะไร?
สถาบันสังคม (Social Institution) คือ รูปแบบพฤติกรรมของสมาชิกในสังคม เพื่อสนองความต้องการร่วมกันในด้านต่างๆ และเพื่อการคงอยู่ของสังคมโดยรวม แบบแผนพฤติกรรมต่างๆ เป็นไปตามบรรทัดฐานทางสังคมที่มีความชัดเจน แน่นอน และเป็นไปตามวัฒนธรรมของสังคม
ประโยชน์ของสถาบันสังคม
- ใช้จัดการสังคมให้เป็นระเบียบ และสามารถดำรงอยู่ได้
- ช่วยตอบสนองความต้องการของสมาชิกในสังคม ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ
- เป็นเครื่องมือใช้จัดระเบียบสังคม
บทบาทของสถาบันสังคม
- กำหนดแบบอย่างการกระทำของสมาชิกในสังคม เพื่อให้เป็นระเบียบตามที่สังคมต้องการ
- ตอบสนองความต้องการของคน และสังคม
- ควบคุมให้สมาชิกปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม
- รักษาและถ่ายทอดวัฒนธรรมของสังคมจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง
- จัดการสังคมให้เกิดระเบียบ และเหมาะกับการเจริญเติบโตของสังคม
7 สถาบันสังคมที่สําคัญ
ในปัจจุบันยังมีความสับสนเกี่ยวกับความหมายของ “สถาบันสังคม” เนื่องจากคำนี้เป็นคำที่ใช้กันทั่วไปโดยแพร่หลาย เช่น สถาบันวิจัยสังคม สถาบันสิ่งแวดลอม สถาบันประชากรศาสตร์ สถาบันโรคมะเร็ง เป็นต้น และมักจะคิดกันว่าสถาบันสังคม คือ องค์การทางสังคม เช่น บริษัท ห้างร้าน โรงเรียน มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้วสถาบันสังคมที่สำคัญมี 7 สถาบัน ดังนี้
1. สถาบันครอบครัว
สถาบันครอบครัว เป็นสถาบันสังคมแรกเริ่มที่มีความสำคัญที่สุด เพราะเป็นสถาบันพื้นฐานที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับมนุษย์ทุกคนในสังคม เป็นสถาบันที่เกิดจากแนวคิดที่จะตอบสนองชีวิตด้านความรัก การสืบสายโลหิตและเผ่าพันธุ์ กระบวนการเลี้ยงดู อบรมขัดเกลาสมาชิกใหม่ของสังคม
สถาบันครอบครัวประกอบด้วย สมาชิกที่เกี่ยวข้องกันทางสายโลหิต การสมรส หรือการรับเป็นบุตรบุญธรรม มีแบบแผนพฤติกรรมซึ่งเป็นบรรทัดฐานทางสังคม ได้แก่ ขนบธรรมเนียมประเพณี และกฎหมาย
Note : โดยสามารถจำแนกประเภทครอบครัวตามโครงสร้าง ได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ครอบครัวเดี่ยว คือ ครอบครัวที่ประกอบด้วยบุคคลที่ใช้ชีวิตร่วมกัน อาจมี หรือไม่มีบุตร พ่อหรือแม่อยู่กับบุตร หรือพี่น้องหรือญาติไม่เกินสองรุ่นใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
- ครอบครัวขยาย คือ ครอบครัวที่ประกอบด้วยบุคคลตั้งแต่สามรุ่นขึ้นไป หรือครอบครัวเดี่ยวสองครอบครัวขึ้นไปที่มีความผูกพันทางสายโลหิต หรือเกี่ยวดองเป็นเครือญาติ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกัน และอาศัยอยู่ในบ้านหรือบริเวณเดียวกัน
หน้าที่ของสถาบันครอบครัว
- สร้างสมาชิกใหม่ให้สังคมทดแทนสมาชิกเก่า ด้วยการให้กําเนิดบุตร เพื่อให้สังคมดำรงอยู่ได้ เมื่อสมาชิกเก่าเสียชีวิตไป การสร้างสมาชิกใหม่มาทดแทน ก็จะทำให้สังคมนั้นไม่สูญสลายไป
- เลี้ยงดูให้เด็กเจริญเติบโตเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม เด็กแรกเกิดไม่สามารถดูแลตัวเองได้ สถาบันครอบครัวจึงต้องให้การเลี้ยงดูจนเติบโต ให้การศึกษา เพื่อให้ในอนาคตสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
- การอบรมสั่งสอน และปลูกฝังระเบียบของสังคมแก่สมาชิก เพื่อปลูกฝังให้สมาชิกรู้ และปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ และบรรทัดฐานอื่นๆ ของสังคมได้
- การให้ความรัก และความอบอุ่นแก่สมาชิก เนื่องจากสถาบันครอบครัวเป้นสถาบันที่สมาชิกมีความผูกพัน และรักใคร่แน่นแฟ้นมากกว่าสถาบันอื่น
- การกําหนดสถานภาพ และบทบาทของบุคคล ทำให้สมาชิกทราบว่ามรสถานะอะไร เช่น เพศ เชื้อชาติ ลําดับของสมาชิกในครอบครัว ชนชั้น ภูมิลําเนา ซึ่งบุคคลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามบรรทัดฐานของแต่ละสังคม
- การควบคุมความสัมพันธ์ทางเพศ การอยู่กันเป็นครอบครัวโดยการสมรส เป็นการควบคุมความสัมพันธ์ทางเพศของมนุษย์ให้ดำเนินไปตามระเบียบ และบรรทัดฐานของสังคม
2. สถาบันการศึกษา
สถาบันการศึกษา เป็นสถาบันที่เกิดจากการตอบสนองชีวิตด้านการเรียนรู้ของคนในสังคมแบบแผนพฤติกรรมจึงเป็นการแสวงหาความรู้และประสบการณ์ทางสังคม รวมทั้งการถ่ายทอดความรู้ความคิด การถ่ายทอดวัฒนธรรมจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ให้เป็นไปในทางที่สังคมต้องการ
สถาบันการศึกษา ประกอบด้วย กลุ่มสังคมต่างๆ เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย สมาคมทางการศึกษาที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งประกอบด้วยตำแหน่ง หรือสถานภาพทางสังคม เช่น ครู อาจารย์ นักวิจัย นักเรียน นักศึกษา ซึ่งต่างก็มีความสัมพันธ์ระหว่างกันตามสถานภาพที่ดำรงอยู่
หน้าที่ของสถาบันการศึกษา
- ถ่ายทอดความรู้ วัฒนธรรม และทักษะจำเป็นในการดำรงชีวิต เพื่อให้สมาชิกดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
- สร้างบุคลิกภาพทางสังคมแก่สมาชิก เพื่อให้สมาชิกมีความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบแบบแผนของสังคม เช่น ครูอบรมเรื่องมารยาทและการทักทายแก่นักเรียน
- ผลิตแรงงานทางเศรษฐกิจ โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านอาชีพ และเพิ่มความสามารถในการสร้างอาชีพ เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม
- กำหนดสถานภาพและชนชั้นทางสังคม สถาบันทางการศึกษาจะทำให้สมาชิกพัฒนาศักยภาพของตนเองไปสู่สังคมอีกสังคมหนึ่งได้ เช่น ในวัยเด็กครอบครัวรายได้น้อย>มีอาชีพที่ไม่มั่นคง>ได้รับการศึกษา>มีอาชีพมั่นคง สร้างรายได้ตลอด
3. สถาบันเศรษฐกิจ
สถาบันเศรษฐกิจ เป็นแบบพฤติกรรม หรือระบบความสัมพันธ์ทางสังคมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การผลิต การกระจายสินค้าและบริการไปสู่ผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์และความอยู่ดีกินดีของมนุษย์ สถาบันเศรษฐกิจ เป็นสถาบันทางสังคมที่ช่วยตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ หรือปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค
สถาบันเศรษฐกิจ ประกอบด้วย กลุ่มต่างๆ ได้แก่ บริษัท ร้านค้า โรงงาน หรือองค์กรทางเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งกลุ่มทางสังคมเหล่านี้ประกอบด้วย สถานภาพและบทบาทหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน
หน้าที่ของสถาบันเศรษฐกิจ
- การผลิต คือ การผลิตสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อสนองความต้องการแก่สมาชิกในสังคม ซึ่งมีกลุ่มบุคคลที่รับผิดชอบ เช่น เกษตรกร ผลิต อาหาร / กรรมกร ผลิต สินค้าในโรงงาน
- การกระจายสินค้าและบริการ โดยการนำสินค้าไปสู่สมาชิกอย่างทั่วถึง โดยมีตลาดเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน และมีกลุ่มสังคมช่วยสนับสนุน เช่น สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ พ่อค้นคนกลาง
- การบริโภค ถือเป็นหน้าที่ของสมาชิกในสังคมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่จะบริโภค หรือใช้สินค้าต่างๆ ที่ผลิตมาแล้วเพื่อการอยู่รอด
4. สถาบันศาสนา
สถาบันศานา เป็นสถาบันสังคมที่เกี่ยวข้องกับแบบแผนระบบความเชื่อ และความศรัทธาต่อสิ่งที่เคารพบูชาของสมาชิกในสังคม เป็นสถาบันที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ เนื่องจากศาสนาเป็นระบบความเชื่อ และพิธีกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการ และเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ทำให้มนุษย์เกิดความมั่นคงทางจิตใจ โดยแบบแผนพฤติกรรมในการประพฤติปฏิบัติของสมาชิกในสังคม ย่อมเป็นไปตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ
สถาบันศาสนา ประกอบด้วย กลุ่มสังคมต่างๆ ได้แก่ คณะสงฆ์ กลุ่มผู้ปฏิบัติธรรม โดยมีตำแหน่งหรือสถานภาพต่างๆ ที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องกันตามสถานภาพทางสังคม เช่น สมเด็จพระสังฆราช จุฬาราชมนตรี สันตะปาปา เจ้าอาวาส โต๊ะอิหม่าม ภิกษุ สามเณร ฆราวาส ฯลฯ
หน้าที่ของสถาบันศาสนา
- การสร้างความเป็นปึกแผ่นในสังคม ทำให้เกิดความสามัคคี และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
- การสร้างเสริม และถ่ายทอดวัฒนธรรมแก่สังคม ศาสนาเป็นบ่อเกิดของวัฒนธรรมมากมาย โดยเฉพาะวัฒนธรรมทางคติธรรม
- การควบคุมสมาชิกให้ปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม ศาสนาเป็นระบบความเชื่อของสังคม สมาชิกที่ฝ่าฝืนจะได้รับการต่อต้าน
- การสนองความต้องการทางจิตใจแก่สมาชิก เมื่อสมาชิกเกิดปัญหาทางจิตใจก็สามารถนำหลักคำสอนของศาสนามาช่วยแก้ไข
5. สถาบันการเมืองการปกครอง
สถาบันการเมืองการปกครอง เป็นรูปแบบพฤติกรรมของการกระทำในเรื่องที่เกี่ยวกับการรักษาระเบียบ ความสงบ การร่วมกันตัดสินใจ และการบรรลุเป้าหมายของสังคมร่วมกัน โดยสถาบันการเมืองการปกครองครอบคลุมเรื่องต่างๆ ดังนี้
- ผู้ปกครอง หรือผู้มีอำนาจในสังคม
- ผู้นำ
- การเลือกตั้ง
- ลัทธิการเมืองต่างๆ
- อุดมการณ์ทางการเมือง
- การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
สถาบันการเมืองการปกครองเป็นสถาบันที่ใช้ในการจัดระเบียบสังคมให้เกิดความสงบ เป็นระเบียบเรียบร้อย ด้วยการออกกฎระเบียบต่างๆ มาใช้บังคับกับสมาชิก กลุ่มสังคมที่อยู่ในสถาบันการเมืองการปกครองประกอบด้วยองค์กรต่างๆ เช่น รัฐสภา ศาล องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการเมืองการปกครองประกอบด้วยแบบแผนพฤติกรรมที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ให้บรรลุซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามกฎหมายของสังคม เช่น แบบแผนพฤติกรรมในการเลือกตั้ง แบบแผนพฤติกรรมในการประชุมรัฐสภา
หน้าที่ของสถาบันการเมืองการปกครอง
- สร้างระเบียบกฎเกณฑ์ให้สังคมสงบสุข โดยการออกกฎเกณฑ์ กฎหมาย กติกา ข้อบังคับ มาใช้บรรทัดฐานเพื่อควบคุมให้สมาชิกปฏิบัติตาม เพื่อให้สังคมเป็นระเบียบและสงบสุข
- การดำเนินการเพื่อสนองความต้องการของสังคม โดยการกำหนด ประสาน และปฏิบัติตามนโยบาย แผนงาน หรือโครงการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม ทั้งด้านเศรษฐกิจ การบริการสาธารณะ และสวัสดิการต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารรสุข การคมนาคม ไฟฟ้า
- การปกป้องคุ้มครองสังคม โดยการปกป้องคุ้มครอง และรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกสังคม เช่น ป้องกัาการเกิดอาชญากรรม หรือการก่อการร้ายข้ามชาติ
- การแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม โดยการเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือพิพากษา เพื่อตัดสินยุติข้อพิพาทนั้น เช่น ศาลเป็นองค์กรที่วินิจฉัยตัดสินข้อพิพาทของคนในสังคม
6. สถาบันนันทนาการ
สถาบันนันทนาการ เป็นแบบแผนพฤติกรรมของคนที่มีความสัมพันธ์การคิด การกระทำเกี่ยวกับการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งมีขึ้นในระหว่างเวลาว่าง ช่วยส่งเสริมสุขภาพทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ เป็นการกระทำที่เป็นไปอย่างเสรี ทำให้เกิดความชื่นชอบและพอใจ
สถาบันนันทนาการมีความสำคัญต่อมนุษย์ ทั้งต่อบุคคลกลุ่มสังคม และสังคมระดับประเทศ คือ เมื่อมนุษย์ทำงานย่อมเกิดความตึงเครียด จำเป็นต้องมีการพักผ่อนหย่อนใจ เช่น ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง เล่นกีฬา ชมรายการโทรทัศน์
หน้าที่ของสถาบันนันทนาการ
- ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดแก่สมาชิกของสังคม เช่น การชมภาพยนตร์ การฟังเพลง การเล่นกีฬา ฯลฯ
- ช่วยให้สังคมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดความสามัคคี และสมาชิกรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เช่น การเล่นกีฬาร่วมกัน ฯลฯ
- พัฒนาศักยภาพของบุคคล เยาวชน และผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น กิจกรรมกีฬาในร่ม ฯลฯ
7. สถาบันสื่อสารมวลชน
สถาบันสื่อสารมวลชน เป็นแบบแผนพฤติกรรม หรือระบบความสัมพันธ์ทางสังคมกับการสื่อสารข้อความ ข้อมูลข่าวสาร ติดตามความเป็นไปของสังคม สถาบันสื่อสารมวลชนมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของสมาชิกในสังคม เนื่องจากสมาชิกในสังคมต้องใช้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิต ประกอบด้วย กลุ่มสังคมต่างๆ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ สำนักพิมพ์ สมาคมผู้สื่อข่าว สมาคมหนังสือพิมพ์ องค์การสื่อสารมวลชน
สถาบันสื่อสารมวลชนมีแบบแผนในการประพฤติปฏิบัติของสมาชิก เช่น การทำตามจรรยาบรรณของสื่อมวลชน เช่น
- การให้ความรู้ ข่าวสาร ความบันเทิง
- การรายงานข้อเท็จจริง
- การใช้ภาษาอย่างถูกต้อง
- การวางตัวเป็นกลางในการเผยแพร่ข่าวสาร
- การทำตามจรรยาบรรณของสื่อมวลชน
หน้าที่ของสถาบันสื่อสารมวลชน
- เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร แจ้งข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เช่น ข่าวการเมือง อุบัติเหตุ สภาพอากาศ
- ให้ความรู้ ถ่ายทอดความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น รายการสารคดี รายการเพื่อการเรียนรู้ บทความวิชาการ
- การเป็นเวทีสาธารณะ เปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็น เช่น รายการสัมภาษณ์ รายการโทรทัศน์แบบโต้ตอบ หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย
- เสนอเนื้อหาที่ช่วยให้คนตระหนักถึงสิ่งที่ถูกหรือผิด เช่น ข่าวการทุจริต ความรุนแรง ปัญหาสังคม
- การให้ความบันเทิง เช่น สร้างความเพลิดเพลิน เช่น รายการเกมโชว์ ละคร ภาพยนตร์ ดนตรี กีฬา
- ส่งเสริมวัฒนธรรมและค่านิยม ถ่ายทอดและอนุรักษ์วัฒนธรรม เช่น รายการประเพณีไทย ละครย้อนยุค รายการเกี่ยวกับภาษาไทย
มาทดสอบความรู้กัน
หลังจากที่น้องๆ รู้จักสถาบันสังคมที่สำคัญกันไปแล้ว ถึงเวลาทดสอบความเข้าใจกันแล้วค่ะ โจทย์เรื่องสถาบันสังคมไม่ยากเลยค่ะอาจจะต้องใช้การวิเคราะห์สักนิดนึง แนะนำว่าค่อยๆ อ่านตัวเลือกแล้วสังเกตดีๆ ค่ะ วันนี้มีข้อสอบ 2 ข้อมาให้ฝึกทำ เป็นข้อสอบ A-Level วิชาสังคมศึกษา จากโครงการ Dek-D’s Pre-Admission รอบธันวาคม 2564 และรอบพฤศจิกายน 2566 ถ้าพร้อมแล้วลุยเลย!
1. ปัจจุบันนี้กรุงเทพมหานครมีโครงการก่อสร้างสวนสาธารณะหลายแห่ง เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง อยากทราบว่าสวนสาธารณะจัดเป็นสถาบันทางสังคมข้อใด (โครงการ Dek-D’s Pre-Admission รอบธันวาคม 2564)
ก.สถาบันเศรษฐกิจ
ข.สถาบันการศึกษา
ค. สถาบันนันทนาการ
ง.สถาบันสิ่งแวดล้อม
จ.สถาบันการท่่องเที่ยวและกีฬา
____________________________________________________
2. สถาบันทางสังคมในข้อใดที่มีความสําคัญมากที่สุดที่เป็นรากฐานให้กับสถาบันต่าง ๆ (โครงการ Dek-D’s Pre-Admission รอบพฤศจิกายน 2566)
ก. สถาบันการเมืองการปกครอง
ข. สถาบันศาสนา
ค. สถาบันการศึกษา
ง. สถาบันสื่อสารมวลชน
จ. สถาบันครอบครัว
น้องๆ คิดว่าแต่ละข้อคำตอบไหนถูกต้อง คอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!
สำหรับคอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ วิชาสังคม บทความต่อไปจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ฝากติดตามกันด้วยนะคะ หรือถ้าน้องๆ มีเรื่องราวน่าสนใจเรื่องไหน ที่อยากให้นำมาเล่า หรือแจกทริคการจำ ก็สามารถคอมเมนต์เอาไว้ด้านล่างได้เลย!
0 ความคิดเห็น