พร้อมแชร์ทริคเตรียมตัวก่อนยื่นกู้!!!
สวัสดีน้อง ๆ มัธยม และมหาลัยทุกคนค่ะ หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยมาบ้างเกี่ยวกับการกู้ กยศ. และการกู้ กรอ. ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาเหมือนกัน แต่มีลักษณะที่ต่างกันอย่างไร วันนี้พี่จะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ พร้อมแอบกระซิบบอกทริคเล็ก ๆ ในการเตรียมความพร้อมก่อนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เพื่อให้น้อง ๆ ชาว Dek-D ได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อนยื่นกู้กันค่ะ

กรอ. คืออะไร?
กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต หรือ กรอ. เป็นกองทุนการให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาเล่าเรียน โดยศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลนและเป็นความต้องการหลักของประเทศ ซึ่งผู้รับทุนต้องชำระเงินคืนแก่กองทุนเมื่อสำเร็จการศึกษา และมีเกณฑ์รายได้ 16,000 บาท/เดือน หรือ 192,000 บาท/ปี พร้อมทั้งชำระอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี
คุณสมบัติการกู้ กรอ.
- ผู้ยื่นกู้ต้องมีสัญชาติไทย
- อายุไม่เกิน 30 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 1 มกราคม ของปีที่ยื่นกู้
- ศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน และเป็นความต้องการหลักของประเทศ
รู้หรือไม่?
กรอ. เคยถูกยกเลิกโดยรัฐและกลับมาใหม่ในปี 2551 จากนั้นในปี 2560 ได้มีการปรับปรุงกฎหมายกองทุนให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เพื่อจัดการให้สองกองทุนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ซึ่งในปี 2568 กฎเกณฑ์การกู้ยืมของ กรอ. ไม่ได้ปรากฏในเอกสารทางการของ กยศ. แต่ยังคงมีการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในลักษณะที่ 2 ที่มีรูปแบบโครงสร้างคล้ายกับ กรอ.
กยศ. คืออะไร?
กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือที่น้อง ๆ ทุกคนมักได้ยินกันคุ้นหูว่า กยศ. เป็นกองทุนที่ให้นักเรียนนักศึกษากู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ในลักษณะของเงินหมุนเวียน โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา โดยมีเงื่อนไขการกู้ยืมว่าจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่กู้ยืมพร้อมกับดอกเบี้ยตามกำหนด ภายหลังการเรียนจบ 2 ปี
รูปแบบการให้กู้ยืม
- ค่าเล่าเรียน / ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา คือ ค่าเทอม, ค่าอุปกรณ์การเรียน หรือค่าเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
- ค่าครองชีพ คือ ค่าใช้จ่ายประจำวันระหว่างการศึกษา
** น้อง ๆ สามารถเลือกกู้ได้ทั้ง 2 รูปแบบ หรือแบบใดแบบหนึ่งได้เลยนะคะ
เช็คลิสต์คุณสมบัติก่อนกู้ กยศ.
- มีสัญชาติไทย
- ศึกษาในสถานศึกษาที่ร่วมดำเนินการ
- ผู้ยื่นกู้ต้องกู้เพื่อศึกษาในสถานศึกษาเพียงแห่งเดียวกัน
- มีผลการเรียนดีและผ่านเกณฑ์การประเมินผลของสถานศึกษา
- มีความประพฤติดีไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบขั้นร้ายแรงของสถานศึกษา เช่น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เป็นต้น
ข้อห้าม!!
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ยกเว้นจะได้กำหนดคุณสมบัติเฉพาะ
- เป็นผู้ที่ทำงาน และรับเงินเดือนค่าจ้างในหน่วยงานต่าง ๆ แบบเต็มเวลา
- เป็นบุคคลล้มละลาย
- เป็นผู้ได้รับโทษจำคุก
- ไม่เคยเป็นผู้ผิดชำระหนี้กับกองทุน
คุณสมบัติของผู้กู้ยืม แบ่งออกเป็น 5 ลักษณะ
ลักษณะที่ 1 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
- ครอบครัวรายได้ไม่เกิน 360,000 บาท/ปี
- ศึกษามัธยมปลาย, ปวช., ปวท./ปวส, อนุปริญญา/ปริญญาตรี
- ดอกเบี้ย 1%
ลักษณะที่ 2 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก ซึ่งมีความชัดเจนของการผลิต กำลังคนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
- ศึกษาสาขาที่เป็นความต้องการหลักมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
- ศึกษาปวช., ปวท./ปวส, อนุปริญญา/ปริญญาตรี
- ดอกเบี้ย 0.75% - 1% ต่อปี
ลักษณะที่ 3 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน หรือที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ
- ศึกษาปวช., ปวท./ปวส, อนุปริญญา/ปริญญาตรี
- ดอกเบี้ย 0.75% - 1% ต่อปี
ลักษณะที่ 4 นักเรียน หรือนักศึกษาที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ (ระงับการให้กู้ยืม)
ลักษณะที่ 5 เงินกู้ยืมในหลักสูตรอาชีพ หรือเพื่อยกระดับสมรรถนะ หรือการเรียนรู้
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป
- กู้ยืมเพื่อศึกษาหลักสูตรหรือสาขาวิชาด้านการแพทย์ สาธารณสุข และบริบาล
- ค่าเล่าเรียนไม่เกิน 50,000 บาท
- ก่อนยื่นกู้ต้องทำจิตอาสาไม่น้อยกว่า 18 ชม. ในระยะเวลา 2 ปี
- ดอกเบี้ย 1%
ซึ่งในปี 2568 กองทุนจะสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา ด้วยการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาใน 3 ลักษณะ ดังนี้
- เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
- เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก และมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
- เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน หรือสาขาวิชาที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ
วงเงินการกู้ยืม กยศ.
| ระดับการศึกษา | ค่าเล่าเรียน / ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา | ค่าครองชีพ |
| มัธยมศึกษาตอนปลาย | 14,000 บาท/ปี | 21,600 บาท/ปี |
| ประกาศนียบัตรวิชาชีพ | 21,000 บาท/ปี | 36,000 บาท/ปี |
| ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) | 25,000 – 36,000 บาท/ปี | 36,000 บาท/ปี |
| อนุปริญญา และปริญญาตรี | 50,000 – 200,000 บาท/ปี | 36,000 บาท/ปี |
หมายเหตุ : ระดับการศึกษา ปวท. ปวส. อนุปริญญา และปริญญาตรีวงเงินขึ้นอยู่กับสาขาที่เรียน ตรวจสอบรายละเอียดวงเงินการกู้ยืมได้ที่นี่
ขั้นตอนการกู้ยืม กยศ.
- ลงทะเบียนกู้ยืมที่เว็บไซต์ https://www.studentloan.or.th/th/home และทาง Mobile Application กยศ. Connect
- เตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำขอกู้ยืมเงิน ดังนี้ ข้อมูลบัตรประชนของผู้ยื่นกู้ และบิดา มารดาหรือผู้ปกครอง, ทะเบียนบ้าน, ใบรับรองรายได้ของผู้ปกครอง
- ระบบจะแจ้งยืนยันผลกลับทาง Gmail และ กยศ. Connect เพื่อทำการลงนามสัญญากู้ยืมในขั้นตอนต่อไป
- กำหนดการกู้ยืมในภาคเรียนที่ 1/2568 คือ 1 เม.ย. – 31 ส.ค. 2568
ทริคเตรียมตัวก่อนเริ่มกู้ กยศ.!!!
- เตรียมเอกสารของตนเอง และผู้ปกครองให้ครบตามที่กองทุน และสถานศึกษากำหนด พร้อมทั้งเซ็นเอกสารให้ถูกต้องเพื่อลดระยะเวลาที่จะต้องแก้ไขเอกสาร
- เตรียมเปิดบัญชีธนาคารธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- เริ่มกู้ตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย ก่อนขึ้นมหาวิทยาลัย จะทำให้การจัดการเอกสารต่าง ๆ รวดเร็วมากขึ้น
หมายเหตุ : ในทุก ๆ ปีการศึกษาผู้กู้ยืมจะต้องส่งแบบบันทึกการทำกิจกรรมจิตอาสาตลอดปีการศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 36 ชั่วโมง

ความแตกต่างของ กยศ. และ กรอ.
| เกณฑ์การกู้ยืม | กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) | กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) |
| ผู้ยื่นกู้ | มัธยมปลาย, ปวช., ปวส., ปริญญาตรี *อายุต่ำกว่า 20 ปีต้องมีผู้ปกครองเป็นผู้แทน* | ปริญญาตรี*อายุไม่เกิน 30 ปี* |
| รายได้ครอบครัว | ไม่เกิน 360,000 บาท/ปี | -สำหรับค่าเล่าเรียนไม่จำกัดรายได้ -สำหรับค่าครองชีพรายได้ไม่เกิน 200,000 บาท/ปี |
| การชำระหนี้ | ชำระหนี้ที่กู้ยืมเมื่อสำเร็จการศึกษา 2 ปี | ชำระหนี้ที่กู้ยืมเมื่อสำเร็จการศึกษา และมีรายได้ถึงตามที่กำหนด |
| คณะและสาขาที่สามารถกู้ได้ | สามารถกู้ยืมได้ทุกคณะ | กู้ได้เฉพาะบางสาขาที่เป็นความต้องการหลักของประเทศ |
| ประเภทค่าใช้จ่ายที่กู้ | ค่าเล่าเรียน/ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา, ค่าครองชีพ | ค่าเล่าเรียน/ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา, ค่าครองชีพ |
หากผิดนัดชำระหนี้ กยศ.
1. มีเบี้ยปรับในอัตราไม่เกิน 0.5% ต่อปี ของเงินต้นงวดที่ค้างชำระ
2. การถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและบังคับคดี หากปล่อยให้หนี้ค้างชำระเป็นเวลานาน กองทุนฯ มีสิทธิ์ดำเนินการทางกฎหมาย ดังนี้
- การฟ้องร้อง กองทุนฯ จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้ชำระหนี้คืน ซึ่งจะทำให้ผู้กู้และผู้ค้ำประกัน (ถ้ามี) ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในชั้นศาลเพิ่มเติ
- การบังคับคดี หากศาลมีคำพิพากษาแล้ว แต่ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา กองทุนฯ สามารถดำเนินการ "บังคับคดี" ได้ ซึ่งหมายถึง การอายัดเงินเดือน และการยึดทรัพย์สิน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กยศ. มีนโยบายเชิงรุกในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหา โดยเน้นไปที่ "การปรับโครงสร้างหนี้" ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ค้างชำระ โดย
- ขยายเวลาผ่อนชำระ
- ปลดภาระผู้ค้ำประกัน
- ลดภาระการชำระต่อเดือน
- ระงับการบังคับคดี
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นการกู้ กรอ. หรือการกู้ กยศ. พี่ ๆ ที่เรียนจบแล้วมีความจำเป็นต้องจ่ายเงินคืนให้กับกองทุนจนครบตามเงื่อนไข เพื่อให้กองทุนสามารถนำเงินมาหมุนเวียนเป็นการส่งเสริม และสนับสนุนให้กับน้อง ๆ รุ่นถัดไปได้มีโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา และในปีนี้ พี่ ๆ สามารถดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ให้เหมาะสมได้ด้วยตนเองผ่านทางออนไลน์
พี่ ๆ ทุกคนมาร่วมมือกันจ่ายเงินคืนให้กองทุนตามเงื่อนไขเพื่อส่งต่อโอกาสดี ๆ ทางการศึกษาให้น้อง ๆ ของเรากันค่ะ
อัปเดตข้อมูล 27 ก.พ 68
พี่ ๆ มีทริคการยื่นกู้ กยศ. อย่างไรกันบ้างคะ ลองมาแชร์ต่อให้น้อง ๆ กันในคอมเมนต์ได้เลย
ข้อมูลจากhttps://www.studentloan.or.th/th/system/files/files/news/2568_.pdfhttps://www.studentloan.or.th/th/aboutus/1539001051https://www.studentloan.or.th/th/system/files/files/news/1_5.pdfhttps://www.studentloan.or.th/th/highlight/1595218254https://www.studentloan.or.th/th/highlight/1742969968https://www.studentloan.or.th/en/node/2391https://www.studentloan.or.th/th/news/1740743671https://www.studentloan.or.th/th/knowledgemedia/1592883482
2 ความคิดเห็น
ติต่อ รึ สมัครกู้ยืม กยศ แบบใหน ต้องทำแบบใหนค่ะ