นักอ่านสายโหดเปลี่ยนโหมดเป็นนักเขียนดาวรุ่ง! ชวนรู้จัก Xiaolanlu690 กับเส้นทางนักเขียนสุดปังที่ผลงานได้ตีพิมพ์ทุกเรื่อง

นักอ่านสายโหดเปลี่ยนโหมดเป็นนักเขียนดาวรุ่ง! ชวนรู้จัก Xiaolanlu690 กับเส้นทางนักเขียนสุดปังที่ผลงานได้ตีพิมพ์ทุกเรื่อง

ฮัลโหล~ สวัสดีชาวเด็กดีทุกคนค่า พบปะพูดคุยวันนี้จะพาไปรู้จักกับ Xiaolanlu690 หรือ เสี่ยวลู่ นักเขียนรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งสำนักพิมพ์ดีต่อใจ ที่เริ่มต้นจากการเป็นนักอ่านสายโหด (เคยอ่านนิยาย 500 ตอนจบภายใน 3 วัน!) จนกลายเป็นเจ้าของผลงานตีพิมพ์อย่าง จักรพรรดินีการแสดงต้องการเกษียณ, ให้ท่านได้ทานของอร่อย และ กลับมาเป็นซูเปอร์สตาร์เพื่อคุณ 

เส้นทางของเธอเริ่มต้นจากความรักในการอ่านบวกกับจินตนาการที่โลดแล่นในใจ จนกลายมาเป็นเรื่องราวแนวย้อนเวลาและเกิดใหม่ที่มีหลายชั้น หลายปมจนนักอ่านต้องตีลังกาคิดตามกันหลายตลบ แต่ยังไม่ทิ้งความสมจริง ลงดีเทลจัดเต็มด้วยข้อมูลอ้างอิงแบบจุกๆ

อยากรู้ไหมว่าเธอเปลี่ยนจากนักอ่านตัวยงมาเป็นนักเขียนตัวจริงที่มีแฟนๆ รอติดตามผลงานขนาดนี้ได้ยังไง แล้วเบื้องหลังนิยายความสนุกก่อนถึงมือคนอ่านจะเต็มไปด้วยความท้าทายขนาดไหน ตามไปเปิดโลกของ Xiaolanlu690 พร้อมกันได้เลย!

อดีตฟรีแลนซ์อ่านโหดสู่โหมดนักเขียนรุ่นใหม่

สวัสดีค่ะ Xiaolanlu690 (เสี่ยวหลานลู่690) เรียกว่า ‘เสี่ยวลู่’ ได้เลยนะคะ ล่าสุดนามปากกาเพิ่งมีการเปลี่ยนไปทำให้นักอ่านสับสนนิดหน่อย จากเดิม Xiaolanlu69 ก็เพิ่ม 0 มาตัวหนึ่ง…เพื่อคำนวนตัวเลขมงคล (กระแอมไอ) ทำเอาหลังไมค์ของสำนักพิมพ์วุ่นอยู่พักหนึ่งเลยค่ะ (แหะๆ) ต้องขอโทษที่ทำให้สับสน แต่ยังไงก็ขอฝากตัวไว้ด้วยนะคะ!

เสี่ยวลู่ปกติแล้วก็ทำงานกับที่บ้านค่ะ ว่างๆ ก็รับบทฟรีแลนซ์ทำงานกราฟิกบ้างเช่นกัน ก่อนที่จะเริ่มมาอยู่ในบทบาทนักเขียนในเวลาต่อมา ซึ่งถ้าหากนับจากวันที่เปิดนิยายเรื่องแรก จักรพรรดินีการแสดงต้องการเกษียณ (ขอคลิกไปเปิดดูที่หน้านิยายในเด็กดีสักครู่) ตอนนี้…ก็ประมาณ 4 ปีแล้วค่ะที่เริ่มเขียนนิยาย

อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก เสี่ยวลู่มีงานฟรีแลนซ์กราฟิกใช่ไหมคะ ตอนนั้นก็ได้ทำงานให้กับทางสำนักพิมพ์ดีต่อใจค่ะ จนพี่ๆ ในสำนักพิมพ์เสนอให้ลองเขียนนิยายส่งมาดู เพราะทราบว่าเสี่ยวลู่เป็นนักอ่านตัวยงจริงๆ ที่สามารถอ่านนิยายแปล 500 ตอนจบได้ในภาย 3 วัน (เกือบลืมตาไม่ขึ้นเลยค่ะ ฮ่าๆ) พี่ๆ ก็เลยกระตุ้นให้ลองเขียนนิยายเรื่องของตนเองบ้าง

ตอนนั้นพอดีกำลังอินกับเรื่องที่อ่านแนววงการบันเทิง ฉาก ตัวละครต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวที่มีมาเป็นช่วงๆ เสี่ยวลู่เลยค่อยๆ ดึงมันลงมัดรวมกัน แก้ไข เรียบเรียง และหาข้อมูลประกอบเยอะมาก จนไม่รู้เมื่อไหร่ที่พี่บ.ก. (ตอนนั้นยังไม่เอาลงเว็บให้อ่านนะคะ) กลายเป็นนักอ่านคนแรกที่ติดตามผลงานของเสี่ยวลู่ค่ะ ซึ่งสำหรับเสี่ยวลู่แล้ว พี่บ.ก.ของดีต่อใจเป็นคนแรกเลยที่มีส่วนในเรื่องของการแนะนำในจุดที่เสี่ยวลู่ขาดสำหรับการเขียน การแก้ไขข้อผิดพลาดและข้อบกพร่อง ซึ่งเสี่ยวลู่มองว่าหาได้ยากค่ะที่จะมีมืออาชีพคอยให้คำแนะนำอยู่เนืองๆ แบบนี้

กวางน้อย สีฟ้า และศาสตร์แห่งตัวเลข:ส่วนผสมสำคัญในการเป็น Xiaolanlu690

ตอนที่จะต้องเริ่มเขียนนิยาย ก็ต้องมาคิดก่อนว่าเราจะใช้นามปากกาอะไรดี? ไม่อย่างนั้นก็คงสร้างแอคเคานต์ในเว็บไม่ได้  จากนั้นก็นึกถึงเรื่องที่เคยอ่านมาว่า “กวาง” เนี่ยเป็นสัตว์ตัวหนึ่งที่นักเขียนชาวจีนใช้แสดงถึงสัญลักษณ์บางอย่างในเชิงงานศิลป์ นอกเหนือจากความเป็นสัตว์มงคลเกี่ยวกับความมั่งคั่งอายุยืนที่ชาวไทยรู้จัก

พอมีความคิดนี้แวบขึ้นมาในหัว เสี่ยวลู่จึงมองหาความหมายของมันอย่างหมกมุ่น และพบโดยสรุปว่าในเชิงวรรณกรรมส่วนใหญ่ กวางมักจะสื่อถึง “ความสง่างาม ความบริสุทธิ์ สุภาพและมีเมตตา” คงเพราะแบบนี้มันเลยทำให้เมื่อเสี่ยวลู่อ่านเจอกวางในนิยายต่างๆ ของจีน ภาพลักษณ์นี้จึงสลักลงไปในใจจนสุดท้ายก็หยิบเอา “กวางน้อย(小鹿 / Xiaolu)” มาใช้ มารวมกับสีโปรดคือสีฟ้า และเติมตัวเลข 69 ที่แสดงถึงหยินหยางขึ้นมา….

แต่ตอนหลังก็ได้เพิ่มเลข 0 เพราะวันหนึ่ง หลังจากเพิ่งปิดเล่ม กลับมาเป็นซูเปอร์สตาร์เพื่อคุณ ไม่รู้อะไรดลใจให้เสี่ยวลู่เปิดเว็บคำนวณศาสตร์ตัวเลขของชื่อ ซึ่งความหมายมันตรงกับเสี่ยวลู่มากในเรื่องของความเอื่อยเฉื่อย เสี่ยวลู่เลยตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่นว่าจะขอเติมเลข 0 เพื่อให้มันลงความหมายที่ดีกว่าค่ะ ฮ่าๆๆ หลังจากนั้นก็วุ่นเลย เพราะทุกแพลตฟอร์มก็ต้องเปลี่ยนตาม ตอนนี้เลยกลายเป็น Xiaolanlu690 เรียบร้อยค่ะ อย่างน้อยที่หน้าปกเล่มใหม่ก็จะเป็นนามปากกาแก้ไขอันนี้

อะไรทำให้ “ย้อนเวลาและเกิดใหม่” เป็นแนวที่ชอบเขียน

ที่จริงอยากจะบอกว่า “แค่ตอนนี้เท่านั้น” ค่ะ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าที่ชอบเขียนแนวย้อนเวลาและเกิดใหม่ตลอด เพราะมันมีจุดให้สร้างสรรค์และพลิกแพลงพล็อตได้เยอะมาก

โดยเฉพาะกับการเขียนเบื้องหลังตัวละครที่เสี่ยวลู่มักจะให้ความสำคัญที่สุดกับ “ที่มาและที่ไป” ของพวกเขา ซึ่งแนวย้อนเวลาและเกิดใหม่ยังมีพื้นที่ให้สร้างสรรค์ตัวละครอยู่อีกมากเช่น ปมดราม่าปมความแค้นต่างๆ ทักษะที่ฝึกปรือมาต่างๆ แรงบันดาลใจที่ต้องการเริ่มต้นใหม่ต่างๆ

นอกจากนี้ ด้วยความที่เสี่ยวลู่ติดตามการอ่านรายตอนที่ยาวเกิน 200+ เสี่ยวลู่จึงติดเกี่ยวกับการบรรยายเยอะ และดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นเสี่ยวลู่จึงมักจะร่างให้ตัวละครมีทักษะบางอย่างที่สามารถนำเนื้อหาไปสู่ฉากต่างๆ ได้ไวขึ้น ต่างจากแนวสู้ชีวิตที่ต้องค่อยๆ นับใหม่เริ่มจากหนึ่งน่ะค่ะ

อีกอย่าง บางครั้งที่เขียนแนวย้อนเวลาก็คงมีสะท้อนความรู้สึกบางอย่างของผู้เขียน ว่าถ้าหากเราเองสามารถย้อนเวลาได้จริง เราจะเดินต่อยังไงไม่ให้ซ้ำรอยเดิมที่เราเคยพลาดไปบ้างบางทีไม่ว่าจะเป็นผู้เขียนหรือผู้อ่านทุกคน ก็คงมีบางช่วงเวลาที่เกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมาใช่ไหมคะ ดังนั้นเมื่อเสี่ยวลู่ร่างโลกใบใหม่ขึ้นมา เสี่ยวลู่ก็อยากให้โอกาสตัวละครได้ริเริ่มที่จะแก้ไขและได้ทำในสิ่งที่ตัวละคร หรือตัวผู้เขียนต้องการให้มันเกิดขึ้นมาน่ะค่ะ

เมื่อความอยากอ่านทำให้ต้องลงมือเขียน เลยต้องเตรียมรับมือความท้าทาย

“หลังจากที่เขียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งจบก็จะมองหา “สิ่งที่อยากอ่าน” น่ะค่ะ เสี่ยวลู่เป็นนักอ่านที่หมกมุ่นในการอ่านมาก” 

บางครั้งเมื่อชื่นชอบแนวใดแนวหนึ่งก็มักจะอ่านแนวนั้นซ้ำๆ จนมักจะมีหลายครั้งที่อ่านแล้วไม่ถูกใจบ้าง ไม่จุใจบ้าง จึงกลายเป็นสิ่งที่อยากเขียนเพราะอยากอ่านขึ้นมา พออ่านไปอ่านมาเสี่ยวลู่จะจินตนาการถึงฉากและเกิดพล็อตของตัวเอง แล้วก็จดเอาไว้จนเกือบจะเขียนได้เต็มเรื่อง ดังนั้นถ้าไม่เขียนจริงๆ คงจะน่าเสียดายมากเลยนะคะ

ให้ท่านได้ทานของอร่อย
ให้ท่านได้ทานของอร่อย

ให้ท่านได้ทานของอร่อย ไม่แน่ใจว่าอะไรเกิดก่อน ระหว่างเผลออ่านนิยายเกี่ยวกับการทำอาหารแล้วสนใจ หรือจะเป็นที่จู่ๆ ก็อยากกินอาหารจีนขึ้นมาจนอยากเขียนมันเกี่ยวกับมันน่ะค่ะแต่ที่แน่ๆ คือเล่มนี้ถือเป็นเล่มฝึกปรือการเขียนนิยายเล่มเดียวจบครั้งแรก เสี่ยวลู่เลยอยากเริ่มต้นจากอะไรที่เป็นชีวิตประจำวัน และดูสบายๆ (แม้ว่าพอเขียนพล็อตจนปิดเล่มแล้วมันจะเลยจากความตั้งใจแรกไปไกลหน่อยก็ตาม…) สุดท้ายก็มองไปที่อาหารก่อนค่ะ เพราะคิดว่าเขียนง่ายหน่อย(?)

สุดท้ายในตู้หนังสือที่บ้านก็เต็มไปด้วยหนังสือทำอาหารจีนค่ะ และความยากคือคนทำอาหารไม่เก่งต้องตระเวนกินอาหาร และมาพรรณารสชาติที่ถูกต้องเหมือนคัดเลือกมิชลินอะไรประมาณนั้นเลยค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ก็ได้ความรู้อะไรมาเยอะมากกว่าแต่ก่อนด้วย ซึ่งต่อไปก็จะช่วยให้เราสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการเขียนแนวใช้ชีวิตในเล่มใหม่ๆ เช่นกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นอะไรที่พิถีพิถันมากสำหรับเมนูอาหาร

และเรื่องนี้น่าจะยังเป็นเรื่องเดียวที่ตัวละครของเสี่ยวลู่เลี้ยงลูกด้วยนะคะ ก็อย่างที่แจ้งไปว่า เสี่ยวลู่ต้องการเริ่มทดลองเขียนแนวชีวิตและปรับการร่างพล็อตให้หดลงเหลือหนึ่งเล่มจบ สไตล์ของเล่มนี้จึงยังไม่มีปรากฏในเล่มอื่นๆ (ซึ่งล่าสุดที่นิยายออกคือเรื่อง กลับมาเป็นซูเปอร์สตาร์เพื่อคุณ) ทั้งเรื่องของการทำอาหาร การเลี้ยงดู ซึ่งก็คือการเล่าถึงวิถีการใช้ชีวิตในครอบครัวเป็นหลักค่ะ

“แต่ละเล่มก็จะมีเป้าหมายเล็กๆ ในการเขียนเหมือนฝึกฝนไปทีละขั้น ต่อไปใน กลับมาเป็นซูเปอร์สตาร์เพื่อคุณ ก็จะพยายามสร้างเพลงและเขียนบิวท์อารมณ์โดยการที่นักเขียนฟังเพลงสไตล์ที่คล้ายกันจริงๆ ขึ้นมา รวมถึงการสัมผัสถึงอารมณ์ของตัวละครหลักให้มีความลึกซึ้งขึ้น”

กลับมาเป็นซูเปอร์สตาร์เพื่อคุณ
กลับมาเป็นซูเปอร์สตาร์เพื่อคุณ

ส่วนความยากในเรื่องนี้ก็คือนางเอกของเสี่ยวลู่เป็นนักแต่งเพลงใช่ไหมคะ ดังนั้นมันก็จะมีการรังสรรค์เพลงขึ้นมาใส่ในเนื้อหาด้วย ซึ่งเสี่ยวลู่ไม่ต้องการใช้เพลงที่มีอยู่แล้วในโลกแห่งความเป็นจริงไปเขียน เพราะมันขัดแย้งกับความสามารถของตัวละครและพล็อตของเรื่อง

รวมถึงเสี่ยวลู่ยังต้องการเคารพในเรื่องของลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของนักสร้างสรรค์ในทุกแขนง เสี่ยวลู่จึงจำต้องเขียนเพลงขึ้นมาเองจริงๆ และยังต้องพยายามบรรยาย “เสียงเพลง” และแสดง “อรรถรส” ของตัวละคนอื่นๆ ที่ดื่มด่ำในเพลงออกมา บอกตรงๆ ว่าการบรรยายเพลงให้เห็นภาพแทนการ “ฟัง” อยากกว่าการบรรยายรสชาติของอาหารหลายเท่าเลยล่ะค่ะ

แต่เสี่ยวลู่มักจะชอบความซับซ้อนของพล็อตและเรื่องราวที่คาดเดาได้ยาก จากอาชีพ “นักเขียนเพลง” เสี่ยวลู่จึงอยากปรับปรุงเพื่อสร้างพื้นที่ให้ตัวละครได้แสดงความสามารถเพิ่ม เพราะการแสดงผลงานเพลง ก็ต้องใช้ความสามารถของนักร้องในการ “นำเสนอ” ออกมา พอเริ่มต้นคิดว่าที่มาที่ไปและจุดจบของเนื้อเรื่องควรจะเป็นอย่างไร รวมถึงจะทำให้มันน่าสนใจเพิ่มได้อีกมั้ย ทำให้นางเอกเรื่องนี้ของเสี่ยวลู่จึงเป็นมากกว่านักเขียนเพลง แต่ไปให้ไกลถึงการเป็นซูเปอร์สตาร์นักร้องที่ผลักดันผลงานเพลงของตนเองขึ้นมาค่ะ

และต่อมา ล่าสุดที่เสี่ยวลู่กำลังเริ่มเขียน 1970 : เมื่อนางร้าย Offline ด้วยการเป็นภรรยาทหาร เสี่ยวลู่ก็มีเป้าหมายที่ยกระดับเรื่องการใช้ชีวิต และสัมผัสอารมณ์ตัวละครลึกขึ้นค่ะ จะว่าเรื่องนี้เป็นไอเดียในการพัฒนางานเขียนไปพร้อมกับสร้างพล็อตให้สนุกยิ่งขึ้นไปด้วยก็ว่าได้นะคะ

1970:เมื่อนางร้าย Offline ด้วยการเป็นภรรยาทหาร
1970:เมื่อนางร้าย Offline ด้วยการเป็นภรรยาทหาร

จุดน่าสนใจคือพื้นหลังของนางเอกที่เสี่ยวลู่ถูมือรอเขียน ก็คือนางเอกคนนี้วิศวกรเทคโนโลยีที่จบเกี่ยวกับเมคาทรอนิกส์ค่ะ ซึ่งความสามารถนี้จะทำให้ตัวละครของเสี่ยวลู่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความเข้มแข็งของประเทศ และที่สำคัญคือการช่วยชีวิตเหล่าทหารรวมถึงสามีทหารเป็นพระเอกของนิยายเล่มใหม่นี้ด้วยค่ะ แพลนจะวางจำหน่ายเบื้องต้นในงานหนังสือเดือนตุลาคม 68 นี้ค่า

วางแผนก่อนเขียนแต่ไม่เครียดจนเกินไป ปล่อยใจไปตามจังหวะ

อุปสรรคระหว่างการเขียน ก็มักจะเป็นเรื่องปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ค่ะ ทำให้เสี่ยวลู่ใช้เวลานานในการเขียนนานมาก ทุกเล่มมีความเหมือนกันคือเสี่ยวลู่จะวางเอาไว้ก่อนว่าตัวละครของเสี่ยวลู่จะ “แสดงความสามารถ” อะไรออกมาบ้าง เพราะเสี่ยวลู่ก็ชอบเขียนบรรยายฉากเยอะเพื่อสร้างความลึกซึ้งของตัวละคร ในขณะเดียวกันก็ชอบยัดข้อมูลที่หามาเพื่อความสมจริงของเนื้อเรื่องด้วย

 ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เสี่ยวลู่แนะนำให้จัดวางพล็อตที่อยากเขียนเป็นลำดับเอาไว้ก่อนนะคะ เราจะได้ทราบล่วงหน้าว่าเราควรเตรียมเนื้อหาอะไรล่วงหน้า เราจะดึงจุดเด่นใดเพื่อกลบจุดด้อย และเรายังสามารถกำหนดเนื้อหาไม่ให้ลากยาวเกินไปด้วยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีอีกปัญหายอดฮิตของบรรดานักเขียน นั่นก็คือการประสบกับปัญหา “ด้านอารมณ์” ที่ไม่ว่าจะเกิดความรู้สึกหลงทางหรือความรู้สึกซึมเศร้าซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการเขียน 

แต่เราไม่ควรจมอยู่กับผลงานของตัวเองค่ะ

ขอเล่าหน่อยนะคะ เสี่ยวลู่เรียนเกี่ยวกับงานศิลป์มาก่อนค่ะ ในชั่วโมงเรียนคาบสีน้ำ เสี่ยวลู่เคยรู้สึกหลงทางและเกิดความย้ำคิดย้ำทำในตอนที่กำลังสร้างผลงาน ทำให้เสี่ยวลู่ทั้งลบทั้งเติมภาพเรื่อยๆ จนอาจารย์เข้ามาพบและบอกให้เราวางมันลงและออกไปเดินเล่นข้างนอกก่อน ปล่อยให้เราได้ผ่อนคลายไม่จมกับงาน เพราะสายตาของเราในตอนนี้เพ่งเล็งแต่จุดผิดพลาดอย่างเดียวไม่ได้โฟกัสภาพรวมทั้งหมด จนปัญหาที่เราย้ำลงไปมันยิ่งบานปลาย

ที่จริงขอแค่เราถอยออกมามองดูงานที่ไกลๆ เราจะเห็นความงามที่เรามองข้ามไปแล้ว

เหมือนกับงานเขียนนี่แหละค่ะ ไม่ต้องกังวลความผิดพลาด ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สนุก เราค่อยๆ ปล่อยไปตามจังหวะ เมื่อเหนื่อยหรือว่ารู้สึกหนักก็ลอยถอยออกมาดูผลงานจากที่ไกลๆหรือไม่ก็ดึงให้คนอื่นช่วยดู เหมือนที่เสี่ยวลู่ก็ได้ขอให้พี่ บ.ก. ช่วยดูให้บ่อยครั้งค่ะ ไม่ก็มองหานิยายสนุกๆ มาอ่าน ให้เรากลับมามีความสุขก่อน ขอให้เราเริ่มจากความมั่นใจ และรักษาความสนุกในการเขียนเอาไว้นะคะ เราจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนเมื่อเรายังไม่ยอมหยุดเขียน

ฝากถึงนัก(อยาก)เขียน

ลุยเลยค่ะ! เริ่มเขียนเลยตั้งแต่ตอนนี้ 

เพราะเสี่ยวลู่มั่นใจว่าเมื่อเหล่านัก(อยาก)เขียนมีความคิดที่จะเขียนนิยาย นั้นก็แสดงว่าพวกคุณมีเรื่องราวของตัวเองที่อยากจะเขียนแล้วใช่ไหมคะ

ไม่ว่าจะเป็นพล็อตหรือการบรรยาย ทุกคนน่าจะมีพื้นฐานจาก “การอ่าน” ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเขียนครั้งแรกมาก จากนั้นมันก็เริ่มไปสู่การสร้างสำนวนหรือสไตล์การเขียนของตัวเองค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะกลายเป็นผลงานของตัวเอง ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการเปิดหน้ากระดาษแรก และเริ่มด้วย “บทที่ 1” ก่อนนะคะ

เสี่ยวลู่มั่นใจ ไม่ว่ามันจะมีจุดจบ “บริบูรณ์” หรือไม่ แต่สิ่งที่ทุกคนจะได้ คือสกิลและการพัฒนาค่ะ เพราะเสี่ยวลู่เองก็มีเรื่องราวที่เขียนไม่จบหรือไอเดียที่ไม่ได้ใช้เหมือนกัน ทว่าก็ไม่ใช่ว่าอนาคตเราจะไม่หยิบมันขึ้นมาเขียนต่อใช่ไหมล่ะค่ะ ตราบใดที่ทุกคนยังคงเขียนนิยายต่อไป

พบปะพูดคุยกับ Xiaolanlu690 วันนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเป็นนักอ่านตัวยงคือบันไดขั้นสำคัญในการเป็นนักเขียนตัวจริง ขอแค่รัก ชอบ และอ่านให้มากพอก็สามารถเขียนเรื่องราวของตัวเองได้

หลังได้อ่านเรื่องราวของเสี่ยวลู่แล้วบอกเลยว่ารู้สึกได้ถึงแพสชั่นผ่านตัวอักษรจริงๆ เพราะนอกจากจะเขียนสิ่งที่ชอบอ่านแล้ว เธอยังมีเป้าหมายในการอัปสกิลการเขียนอยู่เสมอ แถมยังมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ พร้อมพุ่งชนทุกความท้าทาย จนสุดท้ายก็ได้ผลงานดีๆ ที่มัดใจนักอ่านเก่าได้อยู่หมัดและตกนักอ่านใหม่อยู่เสมอนั่นเอง

พี่นจาหวังว่าเส้นทางของ Xiaolanlu690 จะเป็นทั้งกำลังใจและแรงบันดาลใจให้นัก(อยาก)เขียนทุกคนได้เล่าเรื่องราวของตัวเองกันมากขึ้นนะคะ :) 

อ่านนิยายของ Xiaolanlu690

ติดตามผลงานใหม่ล่าสุด!

 

พี่นจา
พี่นจา - Columnist หนอนหนังจื๋อ เขียนได้นิดหน่อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น