การอ่านหนังสือสอบเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน และสมาธิเยอะมาก น้องๆ ชาว Dek-D เคยสงสัยไหมว่าช่วงเวลาไหนที่สมองของเราทำงานได้ดีที่สุด? บางคนชอบอ่านตอนเช้าเพราะสมองปลอดโปร่ง บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนเพราะเงียบสงบมากกว่า
แต่รู้กันหรือเปล่าว่าการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสือสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และจดจำได้! วันนี้คอลัมน์ “เรื่องนี้โรงเรียนไม่ได้สอน” มีทริคจัดตารางอ่านหนังสือแบบรู้ใจสมอง ทริคอ่านหนังสือให้จำเก่งขึ้น และตารางอ่านหนังสือฉบับเปิดเทอมและปิดเทอมมาฝากทุกคน มาดูกันเลยว่ามีทริคอะไรบ้าง!
อ่านหนังสือเวลาไหนดีที่สุด?
ก่อนอื่นต้องบอกน้องๆ ก่อนว่าการอ่านหนังสือสอบเวลาไหนถึงจะดีนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และจุดประสงค์ในการอ่านด้วยค่ะ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป โดยแบ่งเวลา 1 วัน ออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
ช่วงเช้า เวลา 05.00 - 10.00 น.
ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่สมองของเรามีประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราได้ตื่นมาจากการพักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลากลางคืน สมองในช่วงนี้ก็จะปลอดโปร่ง พร้อมรับข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในการเรียนรู้และจดจำด้วย นอกจากนี้แสงแดดยามเช้ายังช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกตื่นตัว และมีพลังงาน ช่วยให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าพร้อมอ่านหนังสือตลอดทั้งวัน
ช่วงเช้าอ่านวิชาไหนดี?
ช่วงเช้าเหมาะกับการอ่านวิชาที่ต้องใช้ความคิด หรือใช้การคำนวณ เช่น
- คณิตศาสตร์
- ฟิสิกส์
- เคมีคำนวณ
- ตะลุยโจทย์ข้อสอบ
ช่วงบ่าย เวลา 12.00 - 16.00 น.
ตอนบ่ายเป็นช่วงเวลาที่หลายคนมักจะรู้สึกเหนื่อยล้า และอยากพักผ่อนหลังพักกินข้าวกลางวันเสร็จ เวลานี้เลยไม่ค่อยมีใครอยากอ่านหนังสือเท่าไหร่ แต่ช่วงเวลาบ่ายก็เหมาะกับการอ่านหนังสือเหมือนกัน โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่มีการลงลึกในข้อมูลที่เราเคยรู้ หรือเคยอ่านมาก่อน สมองเราจะสามารถทำความเข้าใจ และเชื่อมโยงความรู้เพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลานี้
ช่วงบ่ายอ่านวิชาไหนดี?
ช่วงบ่ายเหมาะกับการอ่านวิชาที่ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ เน้นการทวนความจำ เช่น
- ภาษาอังกฤษ
- ภาษาไทย
- ภาษาต่างประเทศ
- ช่วงบ่ายเป็นอีกช่วงที่เหมาะกับการท่องคำศัพท์
ช่วงเย็น-ดึก เวลา 18.00 - 00.00 น.
ตอนกลางคืนเป็นช่วงเวลาที่หลายคนเลือกอ่านหนังสือ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ ไม่ถูกรบกวนจากสิ่งเร้าต่าง ๆ ทำให้สามารถจดจ่อกับเนื้อหาได้มากขึ้น เพราะเมื่ออ่านเสร็จแล้วนอนเลย จะทำให้สิ่งที่อ่านเป็นความจำระยะยาว ทำให้เราสามารถจดจำเนื้อหา และข้อมูลได้ดีขึ้น
ช่วงกลางคืนอ่านวิชาไหนดี?
ช่วงกลางคืนเหมาะกับการอ่านวิชาที่มีเนื้อหาต้องจำเยอะ เช่น
- สังคม
- ประวัติศาสตร์
- ชีววิทยา
รวม 4 ทริค อ่านหนังสือสอบให้จำแม่น คะแนนพุ่ง
1. เลือกเวลาที่เหมาะสม
จากตัวอย่างการอ่านหนังสือทั้ง 3 ช่วงเวลาที่พี่แป้งสรุปให้น้องๆ ไปด้านบน ไม่ว่าจะเช้า บ่าย กลางคืน น้องๆ ไม่จำเป็นอ่านครบทุกช่วงเวลานะคะ แนะนำให้เลือกเวลาที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพราะแต่ละคนมีเวลา Golden Hour ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เลือกช่วงที่ความคิดนิ่งๆ ไม่ฟุ้งซ่าน หรือไม่มีเรื่องกวนใจ นั่นคือช่วงเวลาที่ควรหยิบหนังสือมาอ่าน เพราะจะจดจำเนื้อหาได้ดีที่สุดค่ะ
2. จัดลำดับความสำคัญวิชาที่จะอ่าน
ก่อนอื่นลิสต์วิชา หรือเนื้อหาที่ต้องสอบมาจัดลงตารางอ่านหนังสือของตัวเอง เพื่อที่น้อง ๆ จะได้รู้ว่าควรอ่านอะไรก่อนหรือหลัง หรือควรโฟกัสที่วิชาไหนก่อน อาจจะเริ่มอ่านจากวิชาที่ถนัดก่อน หรือวิชาที่ยากก่อน พี่แป้งแนะนำว่าให้อ่านไปทีละบท ไม่ควรอ่านข้ามบทไปมา เพราะบางวิชาเนื้อหาแต่ละบทมีความเชื่อมโยงกัน เช่น ชีววิทยา เคมี ทั้งนี้เนื้อหาแต่ละวิชาที่ต้องอ่านมีเยอะมาก แน่นอนว่าจะอ่านให้ครบทุกบทก็คงไม่ไหว น้องๆ อาจจะเน้นอ่านบทที่ออกสสอบบ่อย บทที่คุ้มกับการเก็บคะแนน หรือบทที่สามารถทำคะแนนได้ง่ายก็ได้เช่นกัน
3. ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ
ข้อนี้สำคัญค่ะเพราะการลงมือทำอย่างจริงจังจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาปังสมใจหวังแน่นอน ซึ่งวิธีอ่านหนังสือสอบให้เข้าสมองก็คงหนีไม่พ้น การทบทวนเนื้อหาบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ วิธีคลาสสิกที่ใครก็ทำได้ เพราะการที่น้องๆ ทบทวนบทเรียนวันละเล็กวันละน้อยแต่ทำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การอ่านหนังสือไม่หนักจนเกินไปจนสมองรับไม่ไหว และการทบทวนแบบนี้ซ้ำๆ จะเรียกว่า “Overlearning” ซึ่งช่วยให้ความรู้ติดตัวติดหัวเราไปได้ยาวนาน ถึงแม้จะเรียนเรื่องใหม่ๆ แต่ความรู้เดิมที่เคยเรียนรู้ก็จะไม่หายไปด้วย
4. เช็กผลลัพธ์ด้วยการทดสอบตัวเอง
สิ่งสำคัญจากการอ่านคือการทดสอบความรู้ความเข้าใจหลังอ่าน เพื่อเช็กให้ชัวร์ว่าการอ่านหนังสือที่ผ่านมา เราจดจำและเข้าใจมากน้อยแค่ไหน โดยวิธีที่สามารถทดสอบตัวเองได้ดีที่สุดก็คือ การฝึกทำโจทย์ วิธีนี้จะช่วยให้น้องๆ เอาสิ่งที่เรียนรู้มามาลงมือปฏิบัติจริง โดยสามารถหาแบบทดสอบจากหนังสือ ข้อสอบเก่า มาลองฝึกทำดู หรืออาจจะลองสร้างโจทย์ขึ้นมาเอง แล้วตอบคำถาม วิธีนี้นอกจากจะช่วยทดสอบความรู้แล้ว ยังถือเป็นการทบทวนบทเรียนด้วย
อีกทริคคือลองปิดหนังสือแล้วเขียนหรือพูดอธิบายสิ่งที่อ่านมาให้ตัวเอง หรือเพื่อนฟังก็ได้ เป็นการทำทบทวนและเช็กว่าตัวเองและเพื่อนเข้าใจเนื้อหาตรงกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการเช็กผลลัพธ์ด้วยการทดสอบตัวเองจากทั้งสองวิธีที่พี่แป้งบอกไปจะช่วยให้น้องๆ สามารถวิเคราะห์ตัวเองได้ว่ายังมีเรื่องไหนที่เรายังไม่แม่นจะได้ปิดรอยรั่วตรงนั้นให้ทันก่อนสอบนั่นเอง
แจกตารางอ่านหนังสือ DEK69 ฉบับเปิดเทอมและปิดเทอม
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับทริคการอ่านหนังสือที่พี่แป้งนำมาฝากน้องๆ ทั้งนี้ต้องบอกทุกคนว่าวิธีที่เหมาะสมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การสังเกตตัวเอง และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อให้รู้ว่าเราเหมาะกับการอ่านหนังสือตอนไหน จะได้เลือกเทคนิคการอ่านหนังสือที่ใช่ที่สุด แต่รับรองได้เลยว่าวิธีที่นำมาเสนอในบทความนี้เป็นวิธีที่ได้ผลแน่นอนค่ะ
ข้อมูลจากhttps://basmo.app/best-time-to-read-books/
0 ความคิดเห็น